ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

อ่านแล้ว อยากให้รัฐบาลไทย
เตรียมสร้างเมืองใต้ดิน ไว้หลบภัยจากสงครามเหมือนกันเลยครับ

 

หลบภัยจากม้อบมากกว่ามั้งคะ
รอพวกเราไปเป็นรัฐบาลก่อน คงจะได้สร้างละค่ะ ๒๐ ปี รอไหวมั้ยเอ่ย

 

อ.ไก่ครับ รออีก 20 ปีก็คงเกิดภัยพิบัติไปเรียบร้อยแล้วครับ รัฐบาลหลังภัยพิบัติก็อาจจะไม่ใช่รูปแบบที่เห็นในปัจจุบันที่เน้นทำงานให้....คนเก่า ซึ่งในรัฐบาลชุดนั้นอาจจะมีอ.ไก่เป็นรัฐมนตรีด้วยก็ได้ครับใครจะไปรู้..แฮ่ะๆแซวเล่น

 

ไม่รู้ว่าการทดลองของพวกคลั่งวิทยาศาสตร์สติเฟื่องจะส่งผลให้เกิดภัยพิบัติอะไรรึเปล่า นะครับ...เอามาให้อ่านเล่นๆ

ชิ้นส่วนสุดท้ายต่อเสร็จ! "เซิร์น" พร้อมเดินเครื่องสู่ "ทฤษฎีสรรพสิ่ง" กลางปี

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 มีนาคม 2551 15:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>



เซิร์น/ไซน์เดลี/เดอะรีจิสเตอร์ - ในที่สุดการติดตั้งเครื่องมือชิ้นสุดท้ายซึ่งเปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ยักษ์ของ "เซิร์น" ก็ลุล่วงไปแล้ว จากนี้ไปคือการทดสอบการทำงานของเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ชายแดนสวิส-ฝรั่งเศสว่าทำงานเรียบร้อยดีหรือไม่ ก่อนเดินเครื่องไขปริศนาเข้าใกล้ "ทฤษฎีสรรพสิ่ง" กลางปีนี้

อุปกรณ์ที่เรียกว่า "กังหันเล็ก" (small wheel) ซึ่งไม่เล็กดั่งชื่อนั้นเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของเครื่องตรวจจับอนุภาคของกลุ่ม "แอตลาส" (ATLAS) ที่เกิดจากความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรกว่า 2,100 คนจาก 167 องค์กรใน 37 ประเทศนั้นได้ถูกลำเลียงสู่อุโมงค์ใต้ดินที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อันเป็นห้องปฏิบัติการทางด้านฟิสิกส์อนุภาคขนาดใหญ่ของ "เซิร์น" (CERN) หรือองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปเพื่อวิจัยและพัฒนาทางด้านนิวเคลียร์ (European Center for Nuclear Research) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

เครื่องตรวจจับอนุภาคของกลุ่มแอตลาสนี้เป็นเครื่องตรวจจับอนุภาคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยวัดเป็นความยาวได้ 46 เมตร สูงและกว้าง 25 เมตร มีน้ำหนัก 7,000 ตันและเต้มไปด้วยเซนเซอร์กว่า 100 ล้านตัว ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นมีหน้าที่ในการตรวจวัดอนุภาคที่คาดว่าเป็น "มิวออน" (muon) ซึ่งเกิดจากการชนกันของอนุภาคโปรตอนในเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่แอลเอชซี (Large Hadron Collider: LHC)

ทั้งนี้ ชิ้นส่วนแรกของแอตลาสสำหรับการทดลองเริ่มติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2546 จากนั้นก็มีอุปกรณ์สำหรับตรวจวัดอีกมากมายถูกลำเลียงลงใต้ดินที่อยู่ลึกลงไป 100 เมตร

"นับเป็นวันที่น่าตื่นเต้นสำหรับเรา กระบวนการติดตั้งได้เดินมาบทสรุปแล้วและเราก็กำลังใส่เกียร์เพื่อเริ่มต้นโครงการใหม่สำหรับการวิจัยฟิสิกส์" มาร์ซิโอ เนสซี (Marzio Nessi) ผู้ประสานงานทางเทคนิคของกลุ่มแอตลาสกล่าว

แอตลาสมีกังหันเล็กอยู่ 2 ตัวซึ่งเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องตรวจวัดอนุภาคอื่นๆ โดยทั้งสองเครื่องนั้นต่างมีความเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 9.3 เมตรและหนักถึง 100 ตันเมื่อรวมกับวัสดุซึ่งใช้เป็นฉนวนที่มีมวลมากด้วย และยังมีเครื่องตรวจจับที่มีความไวสูงเพื่อจำแนกโมเมนตัมของอนุภาคที่จะเกิดขึ้นจากเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซีด้วย

รวมพื้นที่ทั้งหมดสำหรับระบบตรวจวัดสเปกตรัมของมิวออนนั้นเท่ากับสนามฟุตบอล 3 แห่งและรวม 1.2 ล้านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ขึ้นต่อกันด้วย เมื่ออนุภาคผ่านสนามแม่เหล็กที่สร้างขึ้นจากแม่เหล็กที่เป็นตัวนำยิ่งยวดแล้ว อุปกรณ์ตรวจวัดต่างๆ จะสามารถติดตามอนุภาคได้อย่างแม่นยำถึงระดับความกว้างเท่าเส้นผมเลยทีเดียว

"เครื่องตรวจวัดที่แตกหักง่ายนี้ประกอบขึ้นเป็นอุปกรณ์ตรวจวัดขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยก่อสร้างเพื่อฟิสิกส์พลังงานสูง" เกออร์ก ไมเกนเบิร์ก (George Mikenberg) หัวหน้าโครงการตรวจจับมิวออนของแอตลาสกล่าว

ด้านอารีลลา แคททาอิ (Ariella Cattai) หัวหน้าทีมกังหันเล็กกล่าวว่า หนึ่งในความท้าทายสำคัญคือการลำเลียงกังหันเล็กลงสู่ใต้ดินด้วยรูปแบบการเคลื่อนที่แบบซิกแซกไปตามเส้นทาง และการจัดเรียงเครื่องตรวจวัดในระยะห่างระดับมิลลิเมตรจากเครื่องตรวจวัดอื่นๆ ที่ติดตั้งเรียบร้อยแล้วภายในอุโมงค์

ทั้งนี้ทีมพัฒนาเครื่องตรวจวัดสเปกตรัมมิวออนซึ่งประกอบด้วยนักฟิสิกส์กว่า 450 คนจาก 48 องค์กรนั้นใช้เวลามากกว่าทศวรรษเพื่อการพัฒนาเครื่องมือตั้งแต่วางแผนไปจนถึงก่อสร้างเครื่องมือสำหรับระบบที่ซับซ้อน หลังการติดตั้งชิ้นส่วนสุดท้ายแล้ว อีกหลายสัปดาห์หลังจากนี้ก็คือการทดสอบเครื่องไม้เครื่องมือ และการทดลองจริงจะเริ่มขึ้นในฤดูร้อนภายในปีนี้ของโลกในเขตอบอุ่นนั้นคือตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป

การทดลองเดินเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซีจะนำนักฟิสิกส์ไปสู่การก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่เริ่มต้นด้วยคำอธิบายเรื่องแรงโน้มถ่วงของนิวตัน โดยแรงโน้มถ่วงนั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเนื่องจากเป็นแรงที่กระทำต่อมวล แต่จนถึงทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมอนุภาคจึงมีมวลอย่างที่เป็น ซึ่งเชื่อว่าการทดลองของเซิร์นนั้นจะให้คำตอบได้

ไม่เพียงเท่านั้นการเดินเครื่องแอลเอชซียังจะพิสูจน์สสารมืดและพลังงานมืดที่ลึกลับของเอกภพด้วย ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์จะได้สืบเสาะหาความจริงถึงเหตุผลในสิทธิพิเศษของธรรมชาติที่ให้สสารมีเหนือกว่าปฏิสสาร และพิสูจน์สสารขณะที่มีอยู่ใกล้เคียงกับการเริ่มต้นของเวลา รวมทั้งมองหามิติพิเศษของกาล-อวกาศ (space-time)

"เราเชื่อว่ามิวออนเป็นสัญลักษณ์ของเหตุการณ์ที่น่าสนใจ หากมีเหตุการ์ณที่สัมพัทธ์กับมิวออนอย่างเพียงพอ นั่นหมายถึงศาสตร์แห่งฟิสิกส์อนุภาคพลังงานสูงได้ก้าวข้ามประตูสู่ยุคแห่งความเข้าใจใหม่ และเป็นไปได้ว่าอาจจะเข้าใกล้ "ทฤษฎีสรรพสิ่ง" (Theory of everything) ที่ยังคงคลุมเครือ" คำกล่าวของ เจมส์ เบนซิงเกอร์ (James Bensinger) นักฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยบรานเดส (Brandeis University) ในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดีย้อนกลับไปเมื่อเดือน มี.ค.ปีที่ผ่านมา แม่เหล็กซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของเครื่องเครื่องเร่งอนุภาคโปรตอนนั้นเกิดเสียหายระหว่างการทดสอบที่เป็นภารกิจประจำ ซึ่งเป็นความเสียหายที่ใกล้ระดับ "เกือบหายนะ" ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเดินเครื่องตามกำหนด.

ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000027178

 

ความจริงประเทศไทยมีเมืองใต้ดินแล้วนะครับ ก็สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินไงครับ แต่ละสถานีกว้างขวางมาก สามารถจุคนได้นับแสนคนเลยทีเดียว(หมายถึงรวมทุกสถานี) แต่ดันมาสร้างเฉพาะในกรุงเทพฯ หลบภัยจากลูกระเบิดได้ แต่หลบภัยจากน้ำท่วมไม่ได้ครับ

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

 

อ้า.....งั้นขอเป็น 7 คน แล้วกัน (ครบสัปดาห์พอดี ไม่ซ้ำกัน น่ะ)

เพราะตอนนี้ไม่ใช่เลข 6 แล้ว แต่เป็นเลข 7 เลขมงคล น่ะ
คงไม่ผิดกติการ....แต่ประการใด (f)

 

เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ โปรดเตรียมตัวรัดเข็มขัดให้แน่น กินน้อย ประหยัดและพอเพียง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
โอเปกไม่เพิ่มกำลังผลิต น้ำมันทำสถิติใหม่พุ่งทะลุ 104 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล


เวียนนา 6 มี.ค.-ราคาน้ำมันพุ่งทะยานทำสถิติปิดเหนือระดับ 104 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลเป็นครั้งแรก หลังกลุ่มโอเปกประกาศไม่เพิ่มกำลังการผลิต





ราคาน้ำมันยังคงทะยานขึ้น ใกล้แตะ 106 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

สิงคโปร์ 7 มี.ค. - ราคาน้ำมันยังคงทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องใกล้แตะ 106 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก ตัดสินใจคงการผลิตน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบงวดส่งมอบเดือนเมษายน ที่ตลาดสิงคโปร์ วันนี้ ใกล้ทำสถิติแตะ106 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เข้าไปทุกขณะ ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ 105.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15 เซนต์ จากราคาที่นครนิวยอร์ก
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก ตัดสินใจคงการผลิตน้ำมันไว้ที่วันละ 29.67 ล้านบาร์เรล แม้ชาติตะวันตกจะเรียกร้องให้โอเปก เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันหวังแก้วิกฤตน้ำมันแพงที่เริ่มส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก.- สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-03-07 11:11:23

ดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุด เหตุผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจ-น้ำมันพุ่ง
นิวยอร์ก 7 มี.ค.-ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงจนเกือบหลุดลงไปต่ำกว่า 12,000 จุด หลังข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง และราคาน้ำมันดิบที่พุ่งไม่หยุดจ่อที่ 106 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดการซื้อขาย นักลงทุนผิดหวังกับข้อมูลของสมาคมสินเชื่อบ้านที่ระบุว่า คำสั่งยึดทรัพย์บ้านและอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับยอดจำหน่ายบ้านในเดือนที่แล้วที่อยู่ในระดับน่าผิดหวัง สะท้อนว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังซบเซาอย่างหนัก ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐช่วงขาลง ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้นต่อเนื่องอีก 95 เซนต์ ไปอยู่ที่ระดับ 105.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นไปถึง 105.97 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 214.60 จุด ไปปิดที่ 12,040.39 จุด หรือ 1.75% เกือบจะหลุดจาก 12,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 ดัชนีแนสแดคปิดที่ 2,220.50 จุด ลดลง 52.31 จุด หรือ 2.30% และดัชนีเอสแอนด์พีปิดที่ 1,304.34 จุด ลดลง 29.36 จุด หรือ 2.20%
ด้านตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป ก็ต่างปิดในแดนลบ ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 5,766.40 จุด ลดลง 87.10 จุด หรือ 1.49% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 6,591.31 จุด ลดลง 92.40 จุด หรือ 1.38% และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 4,678.05 จุด ลดลง 78.37 จุด หรือ 1.65% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 102.61 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับขึ้น 97 เซนต์
ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 975 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 11.20 ดอลลาร์สหรัฐ และตลาดลอนดอนปิดที่ 976.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง 12.15 ดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-03-07 06:08:08

 

เหนว่าปลายเดือนนี้กลุ่มพันธมิตรจะประท้วงใหญ่

อีก ปีนึง ไม่นานหรอกครับ วันๆผ่านไปเรวมาก

 

จริงหรอครับที่ว่า ปลายเดือนนี้กลุ่มพันธมิตจะประท้วงอ่ะ

 

<O</O
เวลาที่ถูกเลื่อน<O</O
ถ้าเวลาถูกเลื่อนออกไป จะเลื่อนออกไปกี่ปี? ท่านที่เคยอ่านบทความที่ผมได้ถอดรหัสและส่งมาให้อ่าน ท่านก็พอจะทราบว่าไม่น่าเกินปี 2561 ผมจะคำนวณให้ดูอีกครั้ง<O</O
15 ก.พ. 2551 2 ยางล้อกับ พ.ศ. 2537 ถ้าเอาเลข 2537 มาบวกกัน ก็จะได้ 17 เลข 1-7-11และ 17 คือเลขของภัยพิบัติ ยางล้อสื่อถึง การเคลื่อนที่หรือการเลื่อนซึ่งมีจำนวน 2 วงด้วยกัน ความหมายก็คือ เลื่อนออกไป 2 รอบ ทีนี้ผมจะคำนวณให้ดูต่อไปว่าจะตกที่ พ.ศ. ใด 2537+12+12=2561 เพราะฉะนั้นเวลาที่ถูกเลื่อนก็คือปี พ.ศ. 2561 ณ.เวลานี้คือ วันที่ 7 มีนาคม 2551 ถ้าเอา พ.ศ. 2561-2551 ก็จะเหลือเวลาประมาณ 9 ปีกับอีก 9 เดือน 24 วัน ถ้าหักปีที่จะเกิดภัยกับปีเปลี่ยนยุคเผื่อออกอีก 2ปี ก็จะเหลือเวลาเตรียมตัวจริง ประมาณ 7 ปีเศษ ตัวเลขที่ผมคิดออกมานี้เป็นแค่ตัวเลขประมาณการ มิใช่เวลาจริง ซึ่งเวลาที่เหลือผมว่าเพียงพอต่อการเตรียมตัว ที่จะสร้างที่อยู่อาศัย อ่างเก็บน้ำ และการแยกผู้คนของทางเทวโลก<O</O
ถ้าเวลาไม่ถูกเลื่อน ผมก็ให้สังเกตเหตุการณ์นี้คือ ถ้าทางใต้ถูกกวาดเมื่อใดก็ให้เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อที่จะหนีขึ้นที่สูง แล้วผมจะส่งข้อความมาแจ้งแต่เนิ่นๆ<O</O
รหัสที่ผมได้รับมามีความน่าเชื่อถือหรือไม่? ผมขอให้ท่านทั้งหลายโปรดพิจารณาให้รอบครอบ เพราะถ้าถูกเลื่อนจริง ท่านทั้งหลายก็ยังมีเวลาทำมาหากิน มีเวลาเก็บเงินในการซื้อของจำเป็นไว้ใช้ในยามปกติหรือยามผิดปกติ แต่ถ้าไม่เลื่อน ท่านทั้งหลายก็ต้องพร้อมที่จะหนี เพราะการตั้งอยู่ในความไม่ประมาทจะทำให้ท่านทั้งหลายปลอดภัย มีของกิน ของใช้ ไม่ว่าจะอยู่ในที่ตั้งหรืออยู่ในที่ที่จะต้องหนีไปอยู่<O</O
<O</O

 

อยากจะพูดอยากจะบอกถึงเวลาที่จะเกิดภัยพิบัติมากๆ แต่มันเป็นอะไรที่พูดไม่ได้จริงๆ เขาห้ามไม่ให้พูด

เอาเป็นว่า ถ้าน้ำท่วม นครโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม เกิน 5 เมตร เมื่อไร เมื่อนั้นให้รีบขนข้าวของที่จำเป็น หนีไปอยู่บนเขาได้เลย

นับแต่นี้อีก 10 ปี ยังไม่มีเกิดขึ้นล้าน % แต่ภัยทางทะเล (ซึนามิ) มีเกิดขึ้นในปีนี้แน่นอน บอกได้แค่นี้จริงๆ ...สาธุ

 

คำทำนายก็เป็นเพียงคำทำนาย
ใยสหายถึงได้ฮึด เข้ายึดถือ
เอาเป็นจริงเป็นจังดังล่ำลือ
ตามหนังสือบันทึกทันกันนานมา
คำทำนายก็เป็นเพียงการคาดการณ์
ที่เล่าขานสืบสานตามประสา
ความแม่นยำมีเคลื่อนได้เป็นธรรมดา
ใยเพื่อนยาต้องหาญกล้าท้าพนัน(เอาตัวเองเป็นเดิมพัน)
ทั้งเทพพรหม ยังไม่กล้า มาฟันธง
เราผู้หลงอยู่ในโลกฤาอาจหาญ
บอกเมื่อนั่น เมื่อนี่ ระบุวัน
ความแม่นมั่น คงไม่ถาม ให้ตามเอง

ผมยังเชื่อว่าเกิดภายในไม่เกิน 2 - 3 ปีนี้แน่นอนครับไม่ต้องไปรออีกอีก 10 - 12 ปีหรอกครับ เพราะความผิดปกติทางธรรมชาติมันฟ้องชัดขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ

รีบทำความดีเตรียมตัวพร้อมรับความตายกันดีกว่าครับ เราจะได้ทำบุญถือศีลทำสมาธิปฏิบัติธรรมกันให้มากๆ อย่าคิดว่าเวลาเหลือเยอะนะครับนั่นจะทำให้เราใช้ชีวิตแบบประมาท การสะสมทรัพย์สมบัติไม่ใช่ทางรอดครับการปฏิบัติธรรมสร้างปัญญาญานคือทางรอดที่แท้จริงครับ<!-- / message -->

 

....คนรู้ไม่พูด...คนพูดไม่รู้.....
ผมว่าเวลาที่คุณบอกมันผิดพลาดเยอะมากนะครับ..อาจจะทำให้คนที่อ่านตั้งอยู่ในความประมาทจะเป็นบาปได้...ถ้าไม่รู้จริงน่าจะวางตัวเป็นกลางอย่าฟันธงขนาดนี้เดี๋ยวจะเสียคนขอเตือนครับ...เพราะเห็นมาแล้วหมดความนับถือกันไปเลยเพราะฟันธงเกินไปสุดท้ายไม่เกิด...เตือนด้วยความเป็นห่วงและหวังดีครับ...

 

ผมว่า10ปีมันนานไปคับ ดูจากสงครามอ่ะครับมันน่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นเร็วๆนี้
เเล้วอ่ะครับ มันคงยืดเยื้อไปได้ไม่นานเเล้ว

 

เท่าที่พอทราบมาบ้าง ถ้าเริ่มเกิดเหตุที่ 2 เชียงเมื่อไร ภัยหนักกว่าจะตามมา

 

ผมว่าผมรู้เยอะกว่าที่ผมพูดอีก
ที่ผมพูดว่าอีก 10 ปียังไม่เกิดน่ะ ภัยพิบัติ นะไม่ใช่ภัยธรรมชาติ สำหรับภัยธรรมชาติพวกเรายังต้องเจอเหตุการณ์ไม่เคยพบไม่เคยเห็นอีกนับไม่ถ้วนกว่าจะเกิดภัยพิบัติ คนชั่วต้องทรมาณอีกนานกว่าจะตาย ถ้าเกิดพิบัติแล้วตายเลยมันไม่ทรมาณ
ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินแยก โลกมืด น้ำท่วมทั้งโลก ภายใน 10 ปี ตามที่ผมรู้ยังไม่เกิดแน่ ผมไม่ได้พูดให้คนที่อ่านประมาท แต่ผมพูดให้รู้ระยะเวลาที่จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจ เพราะ 10 ปีไม่นานอย่างที่คิด

ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ท่าน 10 ปี ไม่นานอย่างที่คิดจำไว้นะครับ...สาธุ

 

อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ ไอ้เครื่องนี้ มันสร้างมาเพื่ออะไร แล้วไอ้เจ้าทฤษฎีสรรพสิ่ง มันคืออะไรหว่า

 

ทฤษฏีสรรพสิ่ง คือ ทฤษฏีที่มีทฤษฏีเดียวที่สามารถอธิบายทุกสรรพสิ่งในเอกภพนี้

โดยปกติ ทฤษฏีที่เราได้เคยเรียนๆมา มักใช้อธิบายเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งโดยเฉพาะเช่น กฏแรงโน้มถ่วงของนิวตัน ก็อธิบายเรื่องของแรงโน้มถ่วง แต่ก็ไม่ได้อธิบายแรงทางไฟฟ้า หรือ ทฤษฏีสัมพัทธภาพก็อธิบายได้สำหรับสิ่งที่มีมวลแต่กับอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากกลับใช้อธิบายไม่ได้ ต้องใช้ทฤษฏีกลศาสตร์ควอนตัมมาแทน

แรงในธรรมชาติมีอยู่ 4 ชนิดคือ
1 แรงโน้มถ่วง
2 แรงแม่เหล็กไฟฟ้า
3 แรงนิวเคลียร์แบบอ่อน
4 แรงนิวเคลียร์แบบเข้ม

ซึ่งแรงต่างๆในที่นี้ มีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย การสร้างทฤษฎีที่จะอธิบายแรงต่างๆใน 1 ทฤษฎีนั้นคึอหัวใจของทฤษฎีสรรพสิ่งนั่นละ

ในปัจจุบันเราสามารถรวมแรงได้ 3 แรงแล้ว คือ 2-4 ยังขาดก็แต่แรงโน้มถ่วง ซึ่งเมื่อไรที่เรารวมแรงโน้มถ่วงเข้าไปได้ก็จะเกิดทฤษฎีสรรพสิ่งได้สำเร็จนั้นเอง

ณ ตอนนี้ เรารู้แค่ว่าแรงโน้มถ่วงขึ้นกับมวล ถ้ามวลมากแรงโน้มถ่วงก็มาก มวลน้อยแรงโน้มถ่วงก็น้อย แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าแรงโน้มถ่วงเกิดขึ้นได้อย่างไร

ส่วนเจ้าเครื่องนี้มันก็คือเครื่องเร่งอนุภาค

เครื่องเร่งอนุภาค ก็คือท่อที่มีความยาวมากพอสมควร ที่จะใช้เป็นลู่วิ่งของอนุภาค และเร่งความเร็วของอนุภาคให้เข้าใกล้ความเร็วแสงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่ออนุภาคที่วิ่งด้วยความเร็วแสงวิ่งมาชนกัน ก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่(อาจจะ)ทำให้เรารู้ได้ว่า จักรวาลนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
และเราอาจจะได้เห็นการเกิด Big-Bang หรือไม่ก็ หลุมดำ

การที่เรามี DVD ใช้อยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะความรู้ควอนตัมและแม่เหล็กไฟฟ้า
การที่เรามีอุปกรณ์ GPS ไว้ใช้ ส่วนหนึ่งก็เพราะทฤษฎีสัมพัทธภาพ

การที่เรามี DVD ใช้อยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะความรู้ควอนตัมและแม่เหล็กไฟฟ้า
การที่เรามีอุปกรณ์ GPS ไว้ใช้ ส่วนหนึ่งก็เพราะทฤษฎีสัมพัทธภาพ

 

ส่วนปฏิสสาร เป็นสสารที่ประกอบด้วยคู่ของอนุภาค (particles) กับปฏิอนุภาค (antiparticles) ซึ่งมีมวลเท่ากันแต่มีคุณสมบัติอย่างอื่นของอะตอมตรงข้ามกัน ได้แก่ การหมุน (spin) และประจุ (charge) เมื่อวัตถุตรงกันข้ามทั้งสองชนิดนี้มารวมกัน จะเกิดการทำลายกัน (annihilation) พร้อมทั้งให้พลังงานปริมาณมากออกมาตามสมการของไอน์สไตน์ E = mc²

ตัวอย่างเช่น อิเล็กตรอน กับ โพสิตรอน
โปรตอน กับ antiproton เป็นต้น

แต่ปฏิสสาร ไม่เสถียรในโลกที่เต็มไปด้วย สสาร เพราะเมื่อใดที่ปฏิสสารพบกับสสารที่เป็นคู่ของมัน จะเกิดการรวมตัวกันและกลายเป็นพลังงานไปทั้งหมดในเกือบจะทันทีทันใด