ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

แนวโน้มใหญ่ การไปสุคติ-ทคติภูมิ ของมวลมนุษยชาติ
จากตำนานพระพุทธเจ้า 5 พระองค์
1 ยุคสมัยพระกุกกุสันโธ มนุษย์ยุคนั้น ทุกคนไปสวรรค์ 100% ไปนรก 0%
2 ยุคสมัยพระโกนาคมโน มนุษย์ยุคนั้น 3ใน4ส่วนไปสวรรค์ 75% ไปนรก 25%
3 ยุคสมัยพระกัสสโป มนุษย์ยุคนั้น 2ใน3ส่วนไปสวรรค์ 67% ไปนรก 33%
4 ยุคสมัยพระสมณโคตโม มนุษย์ยุคนั้น 1ใน4ส่วนไปสวรรค์ 25% ไปนรก 75%
5 ยุคสมัยพระเมตเตยโย มนุษย์ยุคนั้น ทุกคนไปสวรรค์ 100% ไปนรก 0%

หากนำไปพล็อตกราฟ 5 จุด โดยให้จำนวนมนุษย์ไปสวรรค์เป็นแกนตั้ง y จำนวนมนุษย์ไปนรกเป็นแกนนอน x ลากเส้นจะได้รูปถ้วยหงาย จาก 1-4 จะค่อยๆลดความชันลง แต่จาก 4-5 ชันขึ้นมากที่สุด

จากกราฟในขณะนี้ โลกแห่งมวลมนุษยชาติเรา กำลังเปลี่ยนผ่าน ยุค4 ไปยุค5 จากก้นถ้วย แล้ววิ่งชันขึ้นสู่ขอบถ้วย ในอัตราเร่งที่มากขึ้นอย่างรวดเร็ว คงเป็นเพราะ นี่คือ ยุค IT ที่สื่อสารกันง่ายและรวดเร็ว

สังเกตุได้จาก โลกเราตอนนี้ถึงแม้จะอยู่ในกระแสทุนนิยมอันเชี่ยวกราก อันยังผลให้คุณธรรมเสื่อมลงทั่วโลกก็ตาม โดยเฉพาะผู้นำทางการเมือง ดารา พ่อค้าประชาชน เป็นต้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง กระแสค่านิยม CSR Corporate social response องค์กรธุรกิจเพื่อสังคม การกุศล การเสียสละบริจาคเพื่อสังคม และคนด้อยโอกาส เริ่มมีมากขึ้น ทั้งในองค์กรธุรกิจและปัจเจกชน หมู่คนรวยของโลก เช่น บิลล์ เกตส์, วอร์เรน บัฟเฟต์ ,ดาราฮอลลีวูด ,เศรษฐีไทย ฯลฯ อันเป็นตัวอย่างที่ดียิ่งต่อมหาชน และเผยแพร่ได้ง่ายรวดเร็วในยุคการสื่อสารเช่นนี้

จากสภาพปัจจุบันปัญหา ในสังคมทุนนิยมโลกานุวัฒน์เช่นนี้ อันเป็นยุคที่มนุษย์นับถือทรัพย์วัตถุธาตุ เงินตรา สูงค่ากว่า จิตใจอันดีงาม แก่งแย่งแข่งขันทำลายกันได้ เพื่อทรัพย์วัตถุ เงินตรา มากกว่า การแข่งขันกันทำความดีงาม ประกอบกับความง่ายและเสรีของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ยิ่งเป็นการกระตุ้นภาวะกิเลสตัณหามนุษย์ ให้มากยิ่งขึ้น และแพร่หลายได้อย่างรวดเร็ว

เพราะเนื้อแท้ของแนวคิดระบบทุนนิยมเสรีนี้ คือ มิจฉาทิฐิ ที่เห็น ทรัพย์วัตถุ รูปกายเป็นนาย จิตใจเป็นบ่าว

กล่าวคือ ผู้ผลิตและผู้ขายทั้งหลาย ต่างก็ต้องแข่งขันกันใช้สื่อทุกชนิด เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ(โกหก) เพื่อกระตุ้นและสร้าง ความอยาก กิเลส ความต้องการ ตัณหาของมวลมนุษย์ ไม่ให้สิ้นสุด นั่นเอง ซึ่งพ่อค้าแทบทุกๆคน ต่างก็ต้องโฆษณาชวนเชื่อ(โกหก) ต่อกันเป็นทอดๆ ตามจำนวนพ่อค้าคนกลางในระบบ เพื่อกำไร เงินตรา เป็นทอดๆ และคนสุดท้ายที่ถูกชวนเชื่อ(โกหก) ในระบบตลาด คือ ผู้บริโภค นั่นเอง
(eek) (eek) (eek)
แบบทดสอบ มนุษยชาติ ว่าจะสามารถ ผ่านกลียุค สู่ศิวิไลซ์ ได้หรือไม่??? ถึงจุดเปลี่ยนแล้ว "เงินทอง เป็นของมายา ข้าวปลาคือของจริง"
คงจะต้อง U-Turn ความคิดหลักๆของมนุษย์ จาก มิจฉาทิฐิ ทุนนิยมสุดโต่ง สู่ สัมมาทิฐิ คือ"ทางสายกลาง"อย่างสมดุล ด้วยวิถี พอเพียง รู้ประมาณตน รู้จักพอ<!-- / message --><!-- sig -->

 

มา update ข่าวของสส.ดัชท์ ครับ
ยูเอ็นตำหนิหนังดัตช์ โลกมุสลิมวุ่นรอบใหม่



โพสต์ทูเดย์

 

ไม่ถูก ไม่ผิด<O</O
ในเรื่องภัยพิบัติ มีแต่เรื่องถูกเพียงแต่ผิดเวลา ทั้งนี้น่าจะเกิดจาก ผู้ส่งสัญญาณลงมาไม่สามารถบอกเวลาที่แน่นอนได้ เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย ทางเทวโลกมีกฎสวรรค์เช่นเดียวกัน<O</O
เวลาที่คลาดเคลื่อนบ่อยๆ จะเป็นผลดีต่อคนดีที่มีความเชื่อครึ่งๆกลาง ท่านจะใช้สถานการณ์รุนแรงค่อยๆบีบให้เชื่อ จะได้มีผู้ที่รอดจากภัยพิบัติเพิ่มขึ้น<O</O

 

24 มี.ค. 51 <O</O
ร.ฟ.ท. ดอนเมือง-บางเขน ราคา 37 บาท<O</O
ความหมายก็คือ ค่าโดยสารจะขึ้นราคา<O</O
28 มี.ค. 51<O</O
ฟังเขาเล่า<O</O
เขาเล่ามาว่า ให้ระวังน้ำกลางเดือน เมษายน เท็จจริงอย่างไรไม่ขอยืนยัน ขอให้เตรียมพร้อม อย่าประมาท<O</O

 

ชาวรัสเซียที่เป็นสาวกลัทธิที่เชื่อเรื่องวันสิ้นโลกยอมออกจากถ้ำน้ำแข็งแล้วจำนวนหนึ่ง

ภาพภัยพิบัติ 7 ประการในวันพิพากษาโลก​

รัสเซีย 30 มี.ค. - กลุ่มชาวรัสเซียที่เป็นสมาชิกลัทธิที่เชื่อเรื่องวันสิ้นโลกจำนวนหนึ่งยอมออกจากถ้ำน้ำแข็งที่เข้าไปซ่อนตัวเมื่อหลายเดือนก่อน หลังถ้ำบางส่วนเริ่มพังทลายลง

นายมาเลก เมลนิเนโก รองผู้ว่าการเขตเพนซ่าในรัสเซีย เปิดเผยว่า สตรี 7 คน ที่เป็นสาวกของลัทธิที่เชื่อเรื่องวันสิ้นโลก ยอมออกมาจากถ้ำน้ำแข็งแล้ว หลังเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 400 กิโลเมตร สตรีทั้ง 7 คน ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย 6 คน และชาวยูเครนอีก 1 คน ยอมออกจากถ้ำที่บางส่วนเริ่มพังทลายลงมาหลังถูกเกลี้ยกล่อม แต่คาดว่ายังมีสมาชิกอีกเกือบ 30 คน ที่ยังไม่ยอมออกมา

ซึ่งมีรายงานว่าในจำนวนนี้มีเด็กอายุไม่ถึง 2 ปีรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ดี ทางการได้ส่งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปประจำการเพื่อเตรียมรับมือกับเหตุฉุกเฉินหากถ้ำเกิดถล่มลงมา แต่นายเมลนิเชนโก คาดว่าทั้งหมดน่าจะยอมออกจากถ้ำในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งตรงกับวันที่ 27 เมษายนนี้. -สำนักข่าวไทย

2008-03-30 15:08:43

ที่มา http://news.mcot.net/international/index.php?page=2

 

" วันสิ้นโลก "
เป็นเีพียงแค่การเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
โดยคุณ bkgolf1999 ​

​

ราชาโยคะ กล่าวถึงประวัติศาสตร์ของโลกที่ผ่านมา 5,000 ปี คือ​

1. ยุคทอง เป็นยุคที่มนุษย์มีแต่ความสงบสุขและสันติ สัมผัสกับพระเจ้าและพลังของจักรวาลได้โดยตรง
2. ยุคเงิน เป็นยุคของนักรบ เริ่มหลงกับอีโก้ของตัวเอง แต่ยังมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าอยู่
3. ยุคทองแดง เป็นยุคของกษัตริย์และศาสดา ในสมัยของอับราฮัม (ของชาวยิว) พระพุทธเจ้า พระเยซู พระโมฮัมหมัด
4. ยุคเหล็ก เป็นยุคปัจจุบัน ที่มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์ โลกเข้าสู่สงครามโลก และสงครามนิวเคลียร์​

แต่ละยุคกินเวลา 1,250 ปี นับถึงปัจจุบันคือ 5,000 ปีแล้ว ​

เรากำลังเข้าสู่ยุคทอง คือตอนนี้อยู่ในยุคสุดท้ายของยุคเหล็ก หากเราไม่ทำลายกันและกันเสียก่อน ความรัก ความเข้าใจ จะนำเราไปสู่ยุคทอง ยุคที่เราพบกับพระเจ้า และมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวกับพลังของธรรมชาติ​

ในขณะนี้เราได้ยินกันหนาหูว่า โลกจะแตก น้ำจะท่วมโลก โลกนี้จะจบสิ้น...
แล้วจริงๆ มันเป็นยังไงน๊า???​

ผมได้ศึกษาความรู้ทางจิตจาก บราห์มา กุมารี มหาวิทยาลัยทางจิตของโลก
สถาบันที่สอนความรู้ทางจิต ที่เรียกว่า "ราชาโยคะ"
ซึ่งทุกคนสามารถเข้าเรียนรู้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ​

ได้มีการอธิบายเกี่ยวกับวันสิ้นโลกไว้ว่า...​

โลกเดินเป็นวงจร วงจรละ 5,000 ปีขณะนี้ วงจรนี้กำลังจะจบสิ้นลง

และวงจรใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นนั่นคือ ​

โลกแห่งความทุกข์นี้กำลังจะจบสิ้น และโลกแห่งความสุขกำลังจะกลับมาอีกครั้ง​

เหมือนที่หลายคนเชื่อว่า ยุคพระศรีอาริย์กำลังจะมา

เหมือนที่ ดร.อาจอง บอกว่า โลกจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
มันจะเป็นโลกที่เป็นสวนสวรรค์
เป็นสิ่งที่จดจำกันมาในตำนานว่าเป็นแอตแลนติส ยูโทเปีย (โลกในอุดมคติ)
สวนเอเดน สวนดอกไม้ของอัลหล่า...ฯลฯ​

ภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ และมีแนวโน้มที่จะหนักมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงกับคำทำนายของศาสนาต่างๆ และตรงกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับภัยพิบัติ มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่สิ่งเหล่านี้ล้วนออกมาตรงกัน ว่าภัยพิบัติจะหนักขึ้นๆ และวันโลกาวินาศอาจจะมาถึงจริงๆ เหตุผลก็เพราะว่า วงจรมันกำลังจะหมดนั่นเอง​

ฉะนั้นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เท่านั้น...​

เพื่อให้โลกกลับเข้าสู่สภาวะสมดุลอีกครั้ง
เพื่อให้โลกกลับมาสงบสุขและสวยงามอีกครั้ง...​

โลกนี้เดินเป็นวงจร แต่ละวงจรนั้นเหมือนกันทุกประการ
เหมือนเทปม้วนนึงที่ถูกบันทึกไว้แล้ว แล้วก็นำมาเปิดซ้ำๆ
และด้วยเหตุนี้เอง ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยมีประสบการณ์ในสิ่งที่เรียกว่า
เดอจาวูที่เรารู้สึกว่า เราเคยทำอย่างนี้มาแล้ว เราเคยเห็นมาแล้วนั่นหละ
ก็เป็นเพราะ โลกเดินเป็นวงจรนั่นเอง และเราก็เคยทำเคยเห็นสิ่งเหล่านั้นมาแล้วเมื่อวงจรที่แล้วนั่นเอง​

ฉะนั้น... เมื่อมันเป็นการล้างเพื่อทำความสะอาด ดังนั้น ใครจะเหลือหละ...แต่... ถ้าหากเราเข้าใจว่าเราเป็นใคร และความตายคืออะไร เราก็จะไม่กลัวมันอีกต่อไป <!--test-->​

ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=807100

 

เหอๆ... กำลังจิตตกพอดี ทำไมชีวิตมันทุกข์อย่างนี้หน้อ T T

 

ไม่ได้เข้าเวปนานเกือบเดือนทักทายค่ะ

เรียน คุณ kanalove ขอ โมทนากับความรู้สึกที่รู้สึกทุกข์ด้วยค่ะ เพราะเห็นทุกข์ย่อมเห็นธรรมได้

ขอบารมีแห่งพระไตรรัตน์นำทุกท่านทุกรูปนามให้เข้าถึงธรรมที่พระสุคตพ่อเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว


------------------------------------------------------------------
จิตสร้างโลก จิตนำโลกไป จิตเป็นจุดเด่นในทุกสิ่ง(จิตตสูตร ของพุทธะ)

 

การทำงานของสมองซีกซ้ายและซีกขวา
โดยคุณ mead<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1067848", true); </SCRIPT> สมาชิก ยอดนิยม​

​

เท่าที่ได้ศึกษามานะครับ สมองซีกขวาจะมีพัฒนาการสูงมากในวัยเด็ก จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์นอกกรอบล้นเหลือครับ..แต่พอเราเริ่มโตขึ้นมาเริ่มมีตรรกะ มีเหตุ-ผล ตัวตน เข้ามาเกี่ยวข้อง สมองซีกซ้ายจะชำนาญกว่าและเข้ามาทำงานแทน ทำให้การพัฒนาการของสมองซีกขวาแทบหยุดไปตรงนั้น...เช่น ถ้าเกิดความกลัวขึ้นมา คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ความกล้าคิด-กล้าทำก็จะหดหายไป ทำแต่ในสิ่งที่เป็นไปได้เพราะง่ายกว่า เพราะสมองทั้งสองซีกมีความชำนาญไปคนละด้าน เค้าออกแบบมาให้ก้าวหน้าและเชื่อมโยงกันครับ มนุษย์ต่างดาวบางกลุ่มมีสมองก้อนเดียวไม่เหมือนเราด้วยกลไกการทำงานก็ต่างกันออกไปอีกครับ กลไกสมองทำงานร่วมกับจิตวิญญาณเสมอ เรื่องนี้หลายท่านคงจะรู้แล้วว่า..

สมองซีกซ้าย จะวิเคราะห์ตรรกะ เหตุผล ภาษา การคำนวน หรือสิ่งที่จับต้องได้

สมองซีกขวา เป็นเรื่องของนามธรรม จินตนาการ สังเคราห์จิตใจ-ความรู้สึก ไม่มองหาตัวตน..

เชื่อว่าหากว่าเรา ฝึกฝนการใช้สมองซีกขวานำซ้าย ได้จะเกิดผลดีอย่างมาก..เช่น..คือจะไม่มองหาว่าใครเป็นคนทำ? แต่จะมองไปที่คุณสมบัติหรือเหตุการณ์นั้นๆก่อน สังเคราะห์เอาเนื้อหาแก่นแท้มาพิจารณาก่อน หรือคิดค้นบางสิ่งบางอย่างที่มนุษย์มักไม่เข้าใจ พวกมิติที่ซับซ้อนหรือผลึกความรู้ อะไรทำนองนี้ครับ

จิตวิญญาณที่ไม่มีกายสังขารไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ในมิติโลก จำเป็นต้องกลับมาเกิดในมิติของมนุษย์หรือบนโลกเพื่อการหลุดพ้นอย่างแท้จริง เราสามารถกดปุ่มเปิดสะพานให้เชื่อมกันเพื่อการใช้สมองซีกขวากันได้ทุกคนครับ เมื่อสมองซีกขวานำซ้ายได้แล้ว ในที่สุดก็มาใช้ สมองส่วนกลางทั้งระบบ ทำงานแบบ 100% ที่เรีกกว่าเป็นคนเหนือคนหรือคนเหนือโลกกันให้ได้ต่อไปครับ... เรื่องนี้ยาวไปหน่อย...แต่ก็เกี่ยวข้องกับเราหมดน่ะครับ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑​

แบบทดสอบสมองซีกขวา-ซ้าย​

​

- หากผู้ใดเห็นภาพ animation ผู้หญิงคนนี้หมุนตัว ตามเข็มนาฬิกา - แสดงว่ากำลังใช้ สมองซีกขวา​

- หากผู้ใดเห็นภาพผู้หญิงคนนี้หมุนตัว ทวนเข็มนาฬิกา - แสดงว่ากำลังใช้ สมองซีกซ้าย​

บางคนจะแลเห็น ผู้หญิงคนนี้หมุนตัวทั้งสองทาง คือตามเข็มนาฬิกาบ้าง ทวนเข็มนาฬิกาบ้าง สลับกันไป - แสดงว่าเราใช้สมองทั้งสองซีกสลับกันไป การทดสอบแสดงให้เห็นความแตกต่างของสมองทั้งสองซีก ซึ่งรับผิดชอบการใช้ความคิดในทิศทางที่แตกต่างกัน​

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=79471&page=67​

แบบทดสอบสมองซีกขวา-ซ้าย ​

​

ที่มา http://demono37.proboards31.com/index.cgi?board=102&action=display&thread=1123859950​

 

แบบทดสอบสมองซีกขวา...
​

อย่าพึ่งดูรูป อ่านให้จบก่อนนะ หาหัวคนใน ภาพนี้ ในเวลาเท่าที่คุณสามารถจะทำได้ ( แต่ให้เร็วที่สุด) ห้ามโกงเด็ดขาด เพราะนี่คือ การทดสอบว่าสมองข้างขวาของคุณ ผิดปกติ หรือไม่ ที่สำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ ถูกต้อง คุณจะต้องค้นหาได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ​

จนกว่าจะเจอ คุณเจอเมื่อไหร่ การทดสอบเป็นอันจบเมื่อนั้น เราจะเริ่มโดยการจับเวลาตามการทดลองทางการแพทย์ เพื่อทายผลดังนี้ ​

1. หากคุณสามารถค้นหาได้ภาย ในเวลา 25 วินาที
นั่นแสดงว่า คุณเป็นคนที่มีสมองข้างขวาดีกว่าคนปกติ ​

2. หากคุณสามารถค้นหาได้ภาย ในเวลา 1 นาที
นั่นแสดงว่าสมองของคุณพัฒนาตามปกติ ​

3. หากคุณสามารถค้นหาได้ ในเวลา 1-3 นาที
นั่นแสดงว่าสมองข้างขวาของคุณมีปฏิกิริยาช้า
คุณควรกินโปรตีนให้มากขึ้นกว่าเดิม ​

4. แต่ถ้าหากคุณค้นหาเจอเกินกว่า 3 นาที
นั่นแสดงว่า สมองของคุณแย่มากๆๆๆ
และมีปฏิกิริยาตอบ สนองช้ามากๆๆๆ
ทางที่ดีคุณควรหัดดูการ์ตูนเสียบ้าง
เผื่อจะได้พัฒนาสมอง ข้างขวาขึ้นบ้างนะ ​

อันนี้เป็นเรื่องจริงจากการทดสอบของวงการแพทย์
เตรียมจับเวลา แล้วขึ้นไปดูรูป ได้เลย​

จากคุณ : น้องเหมียวเขี้ยวเพชร - [ 08-10-2007 17.16.01 IP:203.170.231.232 10.104.6.35 ] ​

ที่มา http://www.lesla.com/board/gen.php?mode_id=3&id=252465​

 

อาจารย์ปริญญา แจ้งข่าวสารการชำระโลกให้รู้กันทำไม?

อ.ปริญญา ตันสกุล​

หากจะเอ่ยชื่อของบุรุษท่านนี้ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล หลายคนอาจจะนึกถึงหนึ่งในอดีตผู้นำนักศึกษายุค 14 ตุลา แต่วันนี้ อาจารย์เป็นที่รู้จักในนาม นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรม มีความเชี่ยวชาญในการพูดบรรยาย และเขียนหนังสือเกี่ยวกับการแก้ไขพฤติกรรมที่บกพร่องของบุคลากร อาจารย์ปริญญาเป็นวิทยากรอำนวยการ ของสถาบันพัฒนาพฤติกรรมมนุษย์ HMDC

รับเชิญจากองค์กร ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศ ไปบรรยาย ฝึกอบรม สัมมนา ฝึกอบรมปฏิบัติการเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์ ผ่านจิตสำนึก ด้วยวิธีที่ท่านคิดค้นขึ้นมาเรียกว่า "ไซโคโชว์" แต่แรงจูงใจที่พาเราไปพบ และสัมภาษณ์อาจารย์ปริญญาในครั้งนี้ มิใช่เรื่องที่กล่าวมาข้างต้น หากเป็นเรื่องของการเตือนภัยไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับคลื่นยักษ์สึนามิ โดยการเขียนหนังสือชื่อ "11:11 วันเวลาที่สิบเอ็ด รหัสแห่งหายนะโลก"

พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 และในปีเดียวกันนั้น อาจารย์ปริญญาก็ได้จัดคณะทัวร์ลงไปภาคใต้ ทั้งเกาะภูเก็ต พังงา ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า สุราษฎร์ธานี เพื่อบอกข่าวร้ายนี้ให้ชาวใต้ได้ทราบและเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมัน แต่กลับไม่มีใครเชื่อหรือให้ความสนใจ จนสองปีผ่านไป เหตุการณ์นั้นก็ได้เกิดขึ้นจริงตามที่เป็นข่าวไปทั่วโลก มีคำถามว่า อาจารย์ปริญญาทราบได้อย่างไรว่าจะเกิดสึนามิในอนาคตข้างหน้า?... คำตอบที่อาจารย์ปริญญาสละเวลามานั่งอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอนให้เราทราบ อยู่ในบรรทัดต่อไปนี้...

การทำนายแบบหมอดู หรือการพยากรณ์แบบโหรทั่วไป เป็นการใช้ศาสตร์และศิลป์อันเป็น ความสามารถส่วนตัว และอาจมีบางคนก็ใช้ความรู้สึกนึกคิดตนเองคาดเดาหรือคาดหมายเหตุการณ์ หรือสถานการณ์นั้นๆไว้ล่วงหน้า ก่อนที่เหตุการณ์นั้นๆหรือสถานการณ์ดังว่านั้นมันจะมาถึง

แต่สำหรับกรณีการแจ้งข่าวสารการชำระโลกของอาจารย์ปริญญา จะมีที่มาที่แตกต่างกันกับหมอดูหรือโหรพยากรณ์เหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง! เพราะเรื่องราว เหตุการณ์ และสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น เพื่อการชำระโลก ที่อาจารย์ปริญญาเป็นผู้เอ่ยปากบอกหรือเขียนบันทึกไว้ในคัมภีร์จิตจักรวาลให้มนุษย์ทั้งหลายได้รู้กันล่วงหน้าอยู่เป็นระยะๆ สืบมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 หรือ ค.ศ.2000 นั้น มิใช่การทำนาย มิใช่การพยากรณ์ มิใช่การคาดเดาด้วยความรู้สึกนึกคิดส่วนตัว และมิใช่การคิดวิเคราะห์ตามหลักวิชาการใดๆ แต่....มันคือ

 

ผมมา update ข่าวกรณีสส.ชาวดัตช์กับการแผยแพร่ภาพยนต์สั้นเกี่ยวกับอิสลาม จากคม ชัด ลึก<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>

มหาธีร์ร้องชาวมุสลิมทั่วโลกคว่ำบาตรสินค้าดัตช์



</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>กัวลาลัมเปอร์-อดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด แห่งมาเลเซียแถลงเรียกร้องทางหนังสือพิมพ์อูตูซัน มาเลเซียเมื่อวันอาทิตย์ (30 มี.ค.) ให้ชาวมุสลิม 1,300 ล้านคนทั่วโลก
ร่วมมือกันคว่ำบาตรสินค้าของเนเธอร์แลนด์ หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพยนตร์ต่อต้านศาสนาอิสลามความยาว 15 นาที เรื่อง "ฟิตน่า" ของนายกรีเออร์ ไวเดอร์ส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเนเธอร์แลนด์ ผู้มีนโยบายต่อต้านผู้อพยพ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

​

เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เก็บมาฝากจากการฝึกพลังเอกภพยูเรอัส ระดับ 4..ครับ..​

เรื่องราวของพระแม่นูท (Nout) เป็นเรื่องที่น่าสนใจแต่หาข้อมูลยากครับ เพิ่งทราบว่าที่แท้ท่านก็คือผู้มี่หน้าที่สูงสุดในการพิพากษาโลกและดวงดาวต่างๆในเอกภพนั่นเอง มีที่บันทึกไว้เป็นรหัสลับที่สลักบนหินในปิรามิด เกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดใหม่ ของเจ้าหญิงนูท (Nout) หรือเจ้าหญิงสฟิงค์ เพื่อช่วยชาวโลก ในศตวรรษที่ 21 มีบันทึกไว้ในหนังสือของอาจารย์สุวินัย ภรณวลัยนิดเดียว (ครรลองโยคะ) แต่มารู้ความเชื่อมโยงกันในเรื่องนี้จากอาจารย์จิตรา (พลังเอกภพยูเรอัส) อีกมากทีเดียวครับ.. ท่านเป็นแหล่งความรู้ ไขปริศนาความลับมากมาย (ถ้ารู้จักถาม-และอาจารย์ยอมเฉลยให้ฟัง)...ท่านช่วยปะติดปะต่อเบื้องลึกหรือจิกซอร์ต่างๆได้ชัดเจนอีกท่านหนึ่งครับ

หลังจากที่อาจารย์จิตราท่านเล่าให้ฟัง พระแม่นูท (Nout) (ซึ่งผมเข้าใจเลยว่าท่านก็คือพระแม่องค์ธรรมชาติ ต้นกำเนิดจิตของวิญญาณ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดที่อยู่กับอาจารย์ตลอดเวลา) พระแม่นูทท่านคือหนึ่งเดียวกับ สุริยเทพรา (Ra) หรือ God พระผู้สร้าง (มีสองขั้วพลังคล้ายหยิน*หยาง*) พระแม่นูทท่านก็มีหน้าที่เกื้อกูลทางด้านพลังความรักความเมตตา ดูแลกฎธรรมชาติความเป็นไปในจักรวาลทั้งระบบ รวมถึงการตัดสินพิพากษาดาวเคราะห์ทุกดวง รวมถึงอาณาจักรบนโลกและสิ่งมีชีวิตทั้งมวล..

​

ภัยพิบัติ ในยุคนี้จะไม่เกิดขึ้นหากมวลมนุษย์เข้าใจในกฎธรรมชาติ ประพฤติอย่างรู้หน้าที่เป็นภรรยาที่ดี เป็นสามีที่ดี เป็นชาวนา เป็นผู้ปกครองที่ดีทำหน้าที่อย่างสุจริต มีความรักอันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง..มนุษย์เราเลือกมาเกิดในโลกแห่งนี้ ซึ่งเป็นโลกที่จิตวิญญาณทั้งหลายปรารถนาที่จะมาเกิดมากที่สุด มาเป็นต้นไม้ใบหญ้า เป็นนก หรือสัตว์ก็เอา เพราะเป็นโลกที่สดสวยงดงาม เป็นห้องเรียนธรรมชาติ อันมีบทเรียนข้อทดสอบใหญ่ต่างๆให้ทำมากมาย มนุษย์มีหน้าที่สำคัญคือการเรียนรู้เพื่อขยายความรู้ออกไปและเข้าถึงให้รู้จริง-รู้แจ้งให้มากที่สุด..แต่ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ..คนดีหนีเข้าป่า คน...ออกมาเดินในเมือง..คงไม่ต้องพูดมากเพราะพวกเรารู้กันอยู่ ภัยพิบัตินี้ท่านไม่ได้ทำร้ายมนุษย์ แต่ปล่อยให้จิตวิญญาณที่เป็นฝ่ายมืด เป็นผู้กระทำตามคำขอเนื่องจากติดค้างในระบบโลกกันมานานแสนนาน ถึงเวลาต้องสะสางพลังงานด้านลบให้สลายมวลลงซะที

และที่บอกว่า"เจ้าหญิงนูท"ท่านจะมาจุตินั้น..การจุติคือการแบ่งภาค หรือแบ่งคลื่นความถี่ส่วนหนึ่งเพื่อการมาสัมผัสเรียนรู้อย่างใกล้ชิดที่สุดของท่าน เพื่อเข้าใจในความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริงในแต่ละยุคสมัย..อาจารย์เผยว่าเจ้าหญิงนูทท่านก็คือภาคหนึ่งของพระเยซู..และพระศรีอาริยเมตตรัยนั่นเอง ที่จะมาโปรดเหล่ามวลมนุษย์..ด้วยความรู้ใหม่ที่เหมาะสมยิ่งขึ้นในยุคสุดท้ายข้างหน้าเพื่อการเก็บงานและเก็บจิตญาณให้สมบูรณ์นั่นเอง....

ส่วนการช่วยเหลือตนเองและคนอื่นๆนั้น อาจารย์เน้นให้ฝึกจิตตนเองก่อน ให้เข้าใจแก่นแท้แห่งธรรมชาติ เรียนรู้สภาวะที่แท้จริง..ในยุคต่อไปจะเป็นยุคของฆราวาสที่จะบำเพ็ญธรรมเพื่อหลุดพ้นโดยตรง ไม่ถึงกับต้องใช้คำว่า "บรรลุธรรม" ใช้คำง่ายๆว่า"เข้าใจ"กฎธรรมชาติ (ง่ายกว่าและไม่ไกลเกินเอื้อม) มีความรักเป็นฐานพลัง เป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่งทั้งปวง ไม่แบ่งแยกใดๆด้วยความอารมณ์รู้สึกหรืออัตตาของความเป็นมนุษย์ ไม่คิดด้วยสมองซีกช้ายที่มองหาแต่ตัวตน ขอให้มองไปที่คุณสมบัติหรือแก่นแท้ของสรรพสิ่งนั้น อย่างเช่นข้อมูลดีๆจากพี่เกษมข้างบนครับ..

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ไอย
[FONT=&quot]เรื่อง พระแม่นูท อาจารย์ไม่ได้เฉลยตรง ๆ ว่าเป็นใครในปัจจุบันนี้ ท่านบอกว่า[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อเราเข้าถึงพลังแห่งความรักโดยไม่มีเงื่อนไข เราก็จะรู้ได้ด้วยตัวของเราเอง[/FONT]
[FONT=&quot]อ. จิตราเพียงแค่ย้อนถามว่า เธอรู้ไหมว่าพระศรีอารย์มาเกิดหรือยัง อย่าเชื่อใน[/FONT]
[FONT=&quot]สิ่งที่เขียน อย่าเชื่อในสิ่งที่เล่า แต่ให้ใช้สติพิจารณาเสมอ ถ้าเธอยังหาตัวตน[/FONT]
[FONT=&quot]ของตัวเองไม่พบ ยังไม่พัฒนาจิตวิญญาณของตน แล้วเธอจะพบใครได้[/FONT]
[FONT=&quot]พระผู้สูงสุด [/FONT]God [FONT=&quot]พระแม่นูท หรือพระพุทธเจ้า ท่านอยู่กับพวกเราเสมอ เพียง[/FONT]
[FONT=&quot]แต่เธอเปิดประตูเข้าไปหาท่าน ประตูอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เพียงแต่เธอจะบิดลูกบิดประตูเข้าไปหาท่านเมื่อไหร่นั่นเอง[/FONT]
[FONT=&quot]ท่านไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าเธอไม่ให้ท่านเข้าไป ท่านให้เราเกิดมา[/FONT]
[FONT=&quot]ด้วยความอิสระเสรี และเคารพสิทธิส่วนตัวของเธอ[/FONT]
[FONT=&quot]ขึ้นอยู่กับเธอว่าเธอจะเลือกเดินทางไปไหน เลือกที่จะเป็นอะไร[/FONT]
God [FONT=&quot]หรือ [/FONT]Satan [FONT=&quot]หรืออะไรก็แล้วแต่จะเรียกนั้น ท่านเป็นครูของเราทั้งคู่[/FONT]
[FONT=&quot]ต่างคนต่างทำหน้าที่กัน อย่าไปคิดว่า [/FONT]Satan [FONT=&quot]หรือมารนั้นจะชั่วร้าย[/FONT] [FONT=&quot]ท่านเป็นครูต่างหาก อย่าลืมถ้ามีแต่ความดี และไม่มีความชั่ว[/FONT] [FONT=&quot]เราจะรู้ได้หรือ[/FONT]
[FONT=&quot]เราจะมีอะไรมาเปรียบเทียบล่ะ ว่าทำดีได้ดี[/FONT] [FONT=&quot]ทำชั่วได้ชั่ว[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าเราไม่มีบทเรียน[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่มีความเจ็บปวด ไม่ตกระกำลำบาก แล้วเราจะรับรู้ได้หรือว่าเราจะต้องจัดการ[/FONT]
[FONT=&quot]อย่างไรกับชีวิตเราดี สิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ที่เราเจอ ก็คือบททดสอบบทหนึ่ง[/FONT]
[FONT=&quot]ที่เราต้องผ่านให้ได้ ค้นพบให้ได้ อันที่จริงเราต้องขอบใจมารท่านน่ะ[/FONT]
[FONT=&quot]ถ้าเราผ่านด่านทดสอบจิตมารได้ เราก็จะดำรงอยู่ได้ด้วยความบริสุทธิ์อย่างถาวร[/FONT]
[FONT=&quot]และกลับคืนสู่คุณงามความดี และความบริสุทธิ์อย่างแท้จริงได้อีกครั้งหนึ่ง[/FONT]
[FONT=&quot]อย่าลืม อาจารย์ท่านย้ำหนักย้ำหน้า ว่าไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาอะไรมากมาย[/FONT]
[FONT=&quot]ที่ไหน ของดีอยู่ตรงหน้าเรานี่แหละ ค้นหาตัวเองให้เจอ "พระพุทธเจ้ายังสอนไว้[/FONT]
[FONT=&quot]มิใช่หรือ[/FONT] [FONT=&quot]ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน[/FONT]" [FONT=&quot]อย่าลืมซะล่ะ[/FONT]<O></O>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / message --><!-- sig -->

 

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตก​

​

โซล 28 มี.ค.- สำนักข่าวยนฮัพของเกาหลีใต้รายงานอ้างคำกล่าวของแหล่งข่าวไม่เปิดเผยนามว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้จากชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือเพิ่งเนรเทศเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ออกจากเขตอุตสาหกรรมร่วมบริเวณชายแดนเพื่อตอบโต้รัฐบาลใหม่ของเกาหลีใต้ ที่แสดงจุดยืนแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือ

แหล่งข่าวในรัฐบาล กล่าวว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูกในบริเวณทะเลเหลือง อย่างไรก็ตาม ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อรายงานข่าวดังกล่าว

ก่อนหน้าการยิงขีปนาวุธได้เพียงวันเดียว รัฐบาลเกาหลีใต้ของ ประธานาธิบดีลี มยอง บัก ยืนยันที่จะดำเนินนโยบายผลักดันให้เกาหลีเหนือแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน และส่งมอบพลเมืองของเกาหลีใต้ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเกาหลีเหนือ อีกทั้งให้แสดงความก้าวหน้าโครงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ทางด้านเกาหลีเหนือเตือนว่านโยบายใหม่ของรัฐบาลเกาหลีใต้กำลังบ่อนทำลายความสัมพันธ์ที่อบอุ่นบนคาบสมุทรเกาหลี.- สำนักข่าวไทย

2008-03-28 11:08:59

สหรัฐติงโสมแดงยิงขีปนาวุธ​

​

เกาหลี 28 มี.ค. - สหรัฐเตือนเกาหลีเหนือไม่ควรทดสอบการยิงขีปนาวุธ ในช่วงที่ประเด็นการยุติโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือยังไม่ได้ข้อสรุป

นายกอร์ดอน จอห์นโดร โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ แถลงว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุด เป็นเรื่องไม่สร้างสรรค์ เกาหลีเหนือไม่ควรทดสอบยิงขีปนาวุธในเวลานี้ แต่ควรจะให้ความสำคัญกับการเตรียมเปิดเผยรายละเอียดของโครงการนิวเคลียร์ตามที่สหรัฐและประเทศอื่นๆ ในที่ประชุมนิวเคลียร์ 6 ฝ่ายเรียกร้อง เพื่อนำไปสู่กระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือต่อไป

ทั้งนี้ สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ ยืนยันว่า เกาหลีเหนือได้ทดลองยิงขีปนาวุธสติ๊กซ์ ที่ออกแบบโดยรัสเซีย ไปยังเป้าหมายในทะเลเหลืองราว 3-4 ลูก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และว่า เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการซ้อมรบตามปกติ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์บนคาบสมุทรเกาหลี แต่นักวิเคราะห์คาดว่า การทดลองยิงขีปนาวุธจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ และสหรัฐเลวร้ายลง. - สำนักข่าวไทย

2008-03-28 22:05:05

กองทัพเกาหลีเหนือเป็นตัวการทำให้ข้อตกลงปลดนิวเคลียร์ไม่คืบหน้า​

​

วอชิงตัน 29 มี.ค.- ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐ คาดว่าน่าจะมีนายทหารระดับสูงในกองทัพเกาหลีเหนือ ที่ยังไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์ ส่งผลให้โครงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร

เจ้าหน้าที่อาวุโสประจำวุฒิสภาสหรัฐ ทำรายงานเสนอให้คณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภา มีใจความว่า แม้กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือต้องการให้เกาหลีเหนือร่วมมือกับประชาคมโลกในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่กองทัพเกาหลีเหนือยังคงไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าอาวุธนิวเคลียร์จะช่วยเสริมสร้างแสนยานุภาพให้กองทัพได้เป็นอย่างดี เมื่อมุมมองของทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันเช่นนี้ ทำให้เกาหลีเหนือยังลังเลที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ และยังไม่ยอมเปิดเผยโครงการนิวเคลียร์ออกมาทั้งหมดตามที่สหรัฐร้องขอ ทำให้โครงการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือไม่มีความคืบหน้ามากนัก

ขณะที่เมื่อวานนี้ เกาหลีเหนือได้ท้าทายประชาคมโลกด้วยการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูกออกนอกชายฝั่งทางตะวันตก ซึ่งสหรัฐมองว่า ที่เกาหลีเหนือทำเช่นนี้ เป็นเพราะต้องการเบี่ยงประเด็นความสนใจ กรณีที่สหรัฐต้องการให้เกาหลีเหนือเปิดเผยโครงการนิวเคลียร์ออกมาทั้งหมด . - สำนักข่าวไทย

2008-03-29 10:44:43

ญี่ปุ่นติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธถล่มกรุงโตเกียวเสร็จสมบูรณ์แล้ว​

​

โตเกียว 29 มี.ค. - กองทัพญี่ปุ่นติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธให้กับกรุงโตเกียวเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธเพียงวันเดียว ระบบดังกล่าวตั้งอยู่ที่ฐานทัพคาซูมิกาอุระ ในจังหวัดอิบารากิทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว

ระบบป้องกันขีปนาวุธให้แก่กรุงโตเกียวนี้ ประกอบด้วยขีปนาวุธแพทริออตอันทันสมัยล่าสุด PAC-3 ซึ่งจะวางไว้โดยรอบกรุงโตเกียว โดยแต่ละจุดจะมีฐานยิงขีปนาวุธแพทริออต 5 ฐาน เพื่อใช้ยิงสกัดขีปนาวุธที่จะพุ่งเข้าถล่มกรุงโตเกียว นอกจากนี้ ยังมียานยนต์เคลื่อนที่เร็วที่ติดตั้งเรดาร์และสถานีควบคุมพิเศษสำหรับสั่งการ

นอกจากที่จังหวัดอิบารากิแล้ว อีก 3 แห่งที่มีการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ PAC-3 คือ ฐานทัพเรือในจังหวัดโยโกซุกะ ซึ่งเป็นฐานทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่ตั้งของกองทัพเรือที่ 7 ของสหรัฐ ญี่ปุ่นมีแผนจะติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ PAC-3 ตามฐานทัพอีกหลายแห่งทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในปี 2554 .- สำนักข่าวไทย

2008-03-29 14:45:15

เกาหลีเหนือขู่ระงับเจรจากับเกาหลีใต้ ​

​

โซล 30 มี.ค.- สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า เกาหลีเหนือขู่จะระงับการเจรจาและพร้อมจะโจมตีเกาหลีใต้จากกรณีที่เกาหลีใต้กล่าวว่าจะบุกทำลายที่ตั้งนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือหากเกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์รุกรานเกาหลีใต้

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนืออ้างเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งว่า กองทัพประชาชนเกาหลีจะใช้การชิงโจมตีอย่างรุนแรงตามวิธีของตนเองตอบโต้การชิงโจมตีของเกาหลีใต้ที่แม้เป็นการเคลื่อนไหวน้อยที่สุดก็ตาม

ทั้งนี้ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เกาหลีเหนือแสดงความไม่พอใจเกาหลีใต้และสหรัฐอย่างรุนแรงด้วยการทดสอบยิงขีปนาวุธ ขับเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ออกจากนิคมอุตสาหกรรมร่วมและขู่จะถ่วงเวลาข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์ เป็นการแสดงท่าทีหลังจากประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมคนใหม่ของเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีใต้จะบุกที่ตั้งนิวเคลียร์เกาหลีเหนือหากเกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์รุกรานเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่ทหารเกาหลีเหนือเรียกร้องให้เกาหลีใต้ขอโทษ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นการแสดงจุดยืนของเกาหลีใต้ที่ต้องการยุติการเจรจาและการติดต่อทั้งหมดของ 2 เกาหลี.-สำนักข่าวไทย

2008-03-30 12:07:22

เกาหลีเหนือขู่ใช้กำลังทหารตอบโต้หากเกาหลีใต้โจมตี​

​

เกาหลีเหนือ 30 มี.ค. - เกาหลีเหนือขู่ใช้กำลังทหารตอบโต้เกาหลีใต้ หากเกาหลีใต้คิดโจมตีเกาหลีเหนือ เนื่องจากไม่พอใจเรื่องโครงการนิวเคลียร์

ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์เคอาร์ที ของเกาหลีเหนือ อ่านแถลงการณ์ของรัฐบาลกลางที่ระบุว่า กองทัพเกาหลีเหนือจะไม่นิ่งเฉย หากถูกเกาหลีใต้ใช้กำลังคุกคามก่อน และว่า การปะทะจะดุเดือดรุนแรงจนทะเลจะต้องลุกเป็นไฟ โดยก่อนหน้านี้ 2 วัน เกาหลีเหนือแสดงท่าทีตอบโต้มาตรการแข็งกร้าวของรัฐบาลใหม่เกาหลีใต้ของประธานาธิบดีลี มยอง-บัค ด้วยการทดสอบยิงขีปนาวุธเมื่อวันศุกร์ และขู่จะยุติการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายเมื่อวานนี้ หากผู้บัญชาการทหารระดับสูงของเกาหลีใต้ ไม่ออกมาขอโทษ หลังระบุว่า เกาหลีใต้จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ หากถูกโจมตีก่อนด้วยอาวุธนิวเคลียร์

อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า ยังไม่มีแผนตอบโต้คำขู่ระงับการเจรจาจากเกาหลีเหนือโดยทันที และจะวิเคราะห์เจตนาของเกาหลีเหนือ ผ่านการหารือร่วมกับกระทรวงรวมชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาว่าสมควรส่งสารชี้แจงหรือไม่. - สำนักข่าวไทย

2008-03-30 23:10:20

เกาหลีเหนือส่งเครื่องบินขับไล่เฉียดน่านฟ้าเกาหลีใต้​

​

โซล 31 มี.ค. - หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ ของเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ส่งเครื่องบินขับไล่เข้าใกล้น่านฟ้าเกาหลีใต้อย่างน้อย 10 ครั้งนับแต่ประธานาธิบดีลี มยอง-บัก ผู้นำเกาหลีใต้เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว

หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ รายงานคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้คนหนึ่งว่า เครื่องบินขับไล่ของเกาหลีเหนือได้บินเข้าใกล้เขตปลอดทหาร และเส้นแบ่งเขตทางทะเลระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในทะเลเหลือง ราว 10 ครั้ง นับแต่ประธานาธิบดีลี เข้ารับตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ได้เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นเจตนาของเกาหลีเหนือในการเพิ่มความตึงเครียดในทะเล น่านฟ้า และภาคพื้นดิน อย่างไรก็ดีกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ปฏิเสธจะแสดงความเห็นต่อข่าวที่เกิดขึ้น

การกระทำดังกล่าวเป็นหนึ่งในการแสดงท่าทียั่วยุของเกาหลีเหนือ นับแต่รัฐบาลเกาหลีใต้ภายใต้การนำของประธานาธิบดีลี กล่าวเตือนรัฐบาลเกาหลีเหนือว่าหากยังต้องการความช่วยเหลือก็จะต้องปรับปรุงปัญหาสิทธิมนุษยชน ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ ตลอดจนปล่อยตัวชาวเกาหลีใต้กว่า 1,000 คน ที่ถูกลักพาตัวหรือถูกจับกุมไปในช่วงสงครามเกาหลีระหว่างปี 2493 ถึง 2496. -สำนักข่าวไทย

2008-03-31 10:28:27

ที่มา http://news.mcot.net/international/inside.php?value=bmlkPTI3NjUwJm50eXBlPXRleHQ=

 

ทำยังไงยังไงก็หมุนตามเข็มท่าเดียว ว้าไม่ได้เรื่องเลยเรา...

 

แผ่นดินไหวในประเทศและใกล้เคียง

<TABLE cellSpacing=0 align=center border=1><TBODY><TR><TH width=85>วันที่</TH><TH width=45>เวลา</TH><TH width=55>latitude</TH><TH width=55>longitude</TH><TH width=45>ขนาด</TH><TH width=125>บริเวณที่เกิด</TH><TH width=175>ข้อมูลอื่น ๆ</TH></TR><TR><TD align=middle>29-03-2551</TD><TD align=middle>23:14:41</TD><TD align=middle>20.311</TD><TD align=middle>98.799</TD><TD align=middle>3.8</TD><TD align=left>ประเทศพม่า</TD><TD align=left>- ห่างจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 60 กม.</TD></TR><TR><TD align=middle>21-03-2551</TD><TD align=middle>19:37:10</TD><TD align=middle>27.47</TD><TD align=middle>97.68</TD><TD align=middle>4.8</TD><TD align=left>ตอนเหนือของประเทศพม่า</TD><TD align=left>- ห่างจาก จ.เชียงราย ประมาณ 865 กม.</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ลองมองจุดที่เท้าของแบบกระทบกับเงาดูครับ มองสักพักจะเห็นหมุนทวนเข็ม

ใครๆก็ทำได้ครับ ไม่ต้องเป็นผู้วิเศษอะไร