พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

2156. พระพุทธพิมพ์ขี่ไก่หางพวง หลังรูปเหมือนหลวงพ่อปาน ออกวัดเขาสะพานนาค จังหวัดสระบุรี เนื้อผงน้ำมัน ปี พ.ศ.2502 ให้บูชา 1450 บาท

​

เนื่องในโอกาสการบูรณะวัดเขาสะพานนาค พระเครื่องรุ่นนี้จัดสร้างวาระเดียวกันกับ เหรียญหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ออกวัดเขาสะพานนาค
ประวัติการสร้างวัดเขาสะพานนาค
หลวงพ่อปาน ท่านเห็นว่าแต่ละปีจะมีผู้คนมากราบนมัสการรอยพระพุทธบาทวัดเขาวงพระจันทร์และพักที่ศาลาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่พื้นที่ดังกล่าวแห้งแล้งไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอ จึงมีความคิดที่จะสร้างวัดเขาสะพานนาคที่บริเวณนั้น โดยให้ใต้ล่างอุโบสถและศาลาการเปรียญเป็นถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากแต่ประชาชนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นส่วนใหญ่เป็นพวกลาว(คนไทยพูดภาษาอิสาน) มีอาชีพทำไร่ทำนาเป็นหลัก ฐานะกำลังเงินคงไม่เพียงพอ หลวงพ่อปานก็ให้นายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิต เจ้าของห้างขายยาตราใบโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งที่ศรัทธาหลวงพ่อ ออกเงินสร้างวัดเขาสะพานนาค นายห้างประยงค์ถามว่า " จะเอาเงินเท่าไหร่จึงจะพอครับ " ท่านบอก " ทำไปเรื่อย ๆ มีเงินเป็นทุนสำรองไว้ประมาณ 2 หมื่นบาท " หลวงพ่อปานสั่งว่า " ถ้าเอ็งจะเอาเงินไหนไปเป็นทุนสำรอง เอ็งเอาเงินนั้นมาให้หลวงพ่อก่อนนะ " แล้วนายห้างประยงค์ ก็เอาเงินมาให้หลวงพ่อปาน แทนที่หลวงพ่อปานท่านจะเอาไว้ ท่านก็เอาเงินจำนวนนี้ มาเสกด้วยคาถาวิระทะโย 7 คืน แล้วท่านก็ให้เงินนั้นกลับไป ท่านสั่งว่า " ถ้าเวลาที่หลวงพ่อบอกเอาเงินมาให้ เอ็งเอาเงินกองนี้นะห้ามเอากองอื่น" เวลาที่ท่านบอกให้เอาเงินมา นายประยงค์ก็เอาเงินกองนั้นแหละมาโดยหยิบเข้าหยิบออกอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งสร้างวัดเขาสะพานนาคเสร็จ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2479 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี จึงเสร็จเรียบร้อย เงินก็ยังเหลือ 2 หมื่นคงเดิม

 

2157.พระปิดตามหาลาภ รุ่นสร้างโรงเจ หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม เสกนาน 3 ปี ให้บูชา 699 บาท

​

พระปิดตาจัมโบ้ มหาลาภ หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม กรุงเทพฯ พระปิดตารุ่นสร้างโรงเจ องค์นี้ ปลุกเสกนานถึง 3 ปีครับ ตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2539-2542 มวลสารที่นำมาจัดสร้าง เยอะมากว่าน ผงเก่า มีเกศาหลวงพ่อผสมอยู่ด้วย
หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม ในช่วงที่เรียนวิชาจากหลวงพ่อครื้นที่วัดสังโฆ ครั้งหนึ่งหลวงพ่อครื้นให้หลวงพ่อหล่ำเสกตุ๊กแก โดยท่านนั่งสมาธิคุมอยู่ทางด้านหลัง ในพิธีกรรมครั้งนั้น ตุ๊กแกทั้งฝูงเดินได้บ้าง กระโดดบ้าง ร้องบ้าง ดุจมีชีวิต......จน หลวงพ่อครื้นกลั้นไม่อยู่ หลุดปากชมว่า ..." หล่ำทำได้เหมือนพ่อเลยนะ " จากนั้นหลวงพ่อหล่ำก็ได้รับความไว้วางใจ...เสกตุ๊กแกแทนหลวงพ่อครื้นตลอดมา จนกระทั่งหลวงพ่อครื้นมรณภาพ

ช่วงที่ หลวงพ่อครื้นใกล้มรณภาพ ได้อยู่ในอ้อมกอดของหลวงพ่อหล่ำ ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ ทั้งหลาย ท่านได้บอกว่า "... หล่ำเอ๋ย...พ่อจะไปแล้วนะ วิชาของพ่อมอบให้หล่ำไปหมดแล้ว ต่อไปต้องสงเคราะห์ชาวบ้าน แทนพ่อด้วยนะ..."

เมื่อสิ้น หลวงพ่อครื้น หลวงพ่อหล่ำ ก็เดิน ตามรอยเท้ามาเรื่อยๆ แต่ ปฏิบัติแบบเรียบง่าย ไม่โอ้อวด

 

2158. ของดีนอกวัดหลวงพ่อกวย พระสมเด็จฐานสิงห์ หลังรูปเหมือนหลวงพ่อวอน วัดโพธิ์แก้วนพคุณ จังหวัดสิงห์บุรี ปี 2518 พีธีใหญ่ หลวงพ่อกวย ร่วมเสก ให้บูชา 999 บาท

​

พระสมเด็จฐานสิงห์ หลังรูปเหมือนหลวงพ่อวอน วัดโพธิ์แก้วนพคุณ จังหวัดสิงห์บุรี ปี 2518 พีธีใหญ่ โดยมีเกจิอาจารย์ดังร่วมปลุกเสก
คือหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน ลพบุรี
หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค จังหวัดชัยนาท ฯ

 

2159.ของดีของหลวงปู่ ชานหมากศักดิ์สิทธิ์ พร้อมรูปถ่ายหลังปั้นยันต์ ปลาตะเพียน เทพเจ้าแห่งบางบาล หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา ปิดรายการครับ

​

 

.........

 

2160. พระดีแดนใต้ เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ปี ๒๕๑๑ อ.นำ และเกจิสายใต้ปลุกเสก ให้บูชา 599 บาท

​

เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล อ.นำปลุกเสก ปี 2511
เหรียญพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล วัดเขากง เนื้อทองแดง ปี 2511 จ.นราธิวาส สวยๆ เหรียญนี้จัดสร้างโดยนำชนวนมวลสารจากเกจิอาจารย์ดัง-สายใต้มากมายหลายท่าน อาทิเช่น หลวงปู่นาค วัดระฆัง อาจารย์นอง วัดทรายขาว หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฯลฯ และยังได้ทำการปลุกเสกอีกหลายวาระ
รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
1.พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา
2.พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง
3.พ่อท่านเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
4.หลวงปู่นาค วัดระฆัง กทม.
5.พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง
6.พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
7.หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี
8.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
9.พ่อท่านเขียว วัดหลงบล
10.ฆราวาสสายเขาอ้อ ท่านขุนพันธุ์ฯ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฯลฯ

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

2161. พระเกจิเถราจารย์ ผู้สำเร็จวิชายันต์เกราะเพชรและพระพุทธทรงสัตว์ จากหลวงปู่ปาน ชุดวัตถุมงคลหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง ทันท่านทุกองค์ ให้บูชา ชุดละ 650 บาท

​

 

2162. พระปิดตามหาลาภรุ่นแรกพิมพ์ใหญ่ ผสมเกษา พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ปลุกเสก 2 ไตรมาส ปิดรายการครับ

​

พระจัดสร้างปี 2541 แล้วเก็บใว้ในห้องพระของพระอาจารย์เปลี่ยน ซึ่งพระอาจารย์เปลี่ยนต้องทำวัตร สวดมนต์ทุกวัน
พระมีสองสี คือขาวกับเหลือง และเมื่อปี 2542 ท่านจึงยกให้ลูกศิษย์ เพื่อแจกจ่ายเป็นที่ระลึก พระรุ่นนี้พระอาจารย์บอกว่าเสกจนลืม
พระปิดตารุ่นนี้ มีเกษา จีวร ของพระอาจาย์ผสมอยู่ในเนื้อพระด้วยครับ จัดสร้างเพียง 5,000 องค์ ทั้งพิมพ์เล็กและใหญ่

 

2163.ค้ำหนุนดวงชะตา พระราหูเนื้อกะลาตาเดียวของหลวงปู่หยุดวัดปรางค์หลวง"ราหูเจ้าทรัพย์เนื้อกะลาตาเดียวด้านหลังอุดผง มงคลจักรวาลใหญ่และตะกรุด3ดอกสร้างปี55 ให้บูชา 699 บาท

​

ราหูกะลาตาเดียวสามเหลี่ยม "เจ้าทรัพย์" ด้านหลังอุด ตะกรุดสาริกาป่า(ดอกยาวตรงกลาง)และตะกรุดสาริกาดง (ดอกเล็ก)พร้อมทั้งผงมงคลจักรวาลใหญ่เป็นผงก้นกรุทุ่งเศรษฐี (มีกูแล้วไม่จน) ลูกสวาทตายพราย (มหาเสน่ห์) ก้านธูปเทวดาจุด ใบลานลงยันต์ "พุทธผูกจิต" ดอกไม้ ถั่ว งา โปรย พิธีขอฝนหลวง (มีลาภร่มเย็นเป็นสุข) ผงอุดครบสูตรจึงเรียกว่า"มงคลจักรวาลใหญ่ได้"
ส่วนกะลาตาเดียวนั้นเป็นวัตถุอาถรรพ์มีฤทธิ์ในตัวสมัยโบราณใช้กะลาตาเดียวตักข้าวสารใส่หม้อจะสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินข้าวกล้าในนาออกผลงอกงามเจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์หรือใช้กะลาตาเดียวติดตัวป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจล้างอาถรรพ์ได้และยังป้องกันอุบัติเหตุไล้โรคาพาทเจ็บไข้ได้ป่วยมีโชคลาภเสมอ ทำมาค้าขายดี กะลาตาเดียวมีดีขนาดหมอสมัยโบราณใช้ตัดต้อที่ตาหรือใช้ทำยาแก้อัมพาตด้วยเทพพระราหูสร้างจากกะลาตาเดียวจึงแรงมากพุทธคุณดีเด่นทุกๆด้านทั้งเมตตามหานิยมมหาเสน่ห์เสริมดวงชะตาราศีแก่ผู้บูชากันแก้ปีรวมถึงลมเพลมพัดแคล้วคลาดดีมากๆสภาพเดิมๆพร้อมใบฝอยจากวัด

 

2164. ชุดวัตถุมงคล หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม (พระหมอแห่งสายกรรมฐาน) ปี17 ปิดรายการครับ

เหรียญรุ่นแรก (อนุสรณ์ไฟฟ้าเข้าวัด) หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย ปี2517




เหรียญหลวงปู่จันทร์ ออกวัดสารนาถธรรมาราม ปี17



​

หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต เป็นศิษย์อาวุโสองค์หนึ่งของท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ที่น่ากราบไหว้ได้สนิทใจอีกองค์ ธรรมะปฏิบัติ ปฏิปทา และ พลังจิตของท่านเข้มขลังไม่ธรรมดา ถ้าในวงศ์พระกรรมฐานท่านก็ คือ พระหมอชื่อดังมาก ทั้งน้ำมนต์ และ การรักษาโรคที่แพทย์ปัจจุบันรักษาไม่หายนั้น ท่านช่วยรักษาได้หมด

หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต มีนามเดิมว่า จันทร์ ไชยคุตร เกิดเมื่อวันจันทร์ แรม 12 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง จุลศักราช 1266 ตรงกับวันที่ 8 สิงหาคม พุทธศักราช 2447 ณ บ้านคูเมือง ต.คูเมือง อ.มหาชนะชัย จ.อุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 6 หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต ท่านบวชตั้งแต่เป็นสามเณร อายุได้ 16 ปี ณ วัดบูรพาวิทยาราม ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2463 และ ท่านมาบวชเป็นพระภิกษุอีกครั้ง เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม พ.ศ. 2471 ณ วัดบางขวาง ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้รับนามฉายาว่า “เขมปตฺโต” ต่อมาท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และ เป็นครูสอนนักธรรม ยามว่างจากการสอนท่านก็หมั่นฝึกกรรมฐานเป็นประจำ
จากนั้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2474 ท่านก็ได้พิจารณาดูแล้วว่า อันวัดบางขวาง จ.นนทบุรี นั้น ถ้าจะอยู่ทำความเพียรต่อไป ย่อมหาความสงบยาก ประกอบกับในสมัยนั้นชื่อเสียงของ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และ ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม โด่งดังมากเป็นที่รู้จักในวงพระกรรมฐานเป็นอย่างมาก ท่านจึงกลับสู่ภาคอีสาน เดินทางไปพบ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ที่โคราช เพื่อรับข้อธรรมะ และ ช่วยงานพระอาจารย์สิงห์ จากนั้นท่านก็เดินทางไปรับธรรมะปฏิบัติจากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังจากที่ได้รับอุบายธรรม จากพระอาจารย์มั่นแล้ว ท่านก็ออกวิเวกธุดงค์ไปทั่ว อยู่ตามป่าเขาเพียงลำพังองค์เดียวเพื่อเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ทั้งฝั่งไทย และ ฝั่งลาว จนสุดท้ายท่านก็มาอยู่จำพรรษา ณ วัดจันทาราม บ้านร่องเม็ก ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย

เพ่งกระแสจิตรักษาโรค คือ เมื่อเอ่ยถึง หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต แล้วน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักท่าน เหตุว่าท่านเคยมีข่าวเกรียวกราวลงทางหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งสร้างความน่าทึ่งมหัศจรรย์ให้แก่วงการแพทย์ของเมืองไทยมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า ลูกชายของนายพลท่านหนึ่งจากฝั่งลาวเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เศษกระจกทิ่มเข้าที่ดวงตา รักษาหมอแผนปัจจุบันก็ไม่ดีขึ้น และในช่วงนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่จันทร์ และ น้ำมนต์ของท่านดังมาก นายพลท่านนั้นจึงพาลูกชายมาให้หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต เมตตารักษาให้ ท่านจึงเพ่งกระแสจิตรักษาให้ หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต เพ่งกระแสจิตให้ไม่ถึงครึ่งนาที เศษกระจกละลายกลายเป็นน้ำตาไหลออกมา ตกที่พื้นจับตัวเป็นก้อนกลม โดยไม่ต้องผ่าตัด ดวงตามองเห็นได้ตามปรกติ และบารมีท่านสมัยนั้นก็ไม่ธรรมดา นี่คือ พลังศรัทธาที่ทำให้วัดจันทรารามที่เคยเป็นวัดเล็กๆ เกือบจะเรียกว่า วัดร้าง ได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เล่าขานกันของชาวจังหวัดหนองคาย ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2516 สายธารแห่งศรัทธาหลั่งไหลเข้าสู่วัดท่าน ทั้งต้องนิมนต์ท่านไปช่วยสร้างวัดสารนารถธรรมาราม ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง อีกด้วย บอกได้เลยว่า ไม่สามารถจะหาคำพูดใดมาบรรยายได้ ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่น่ากราบไหว้อีกองค์หนึ่ง

หลวงปู่จันทร์ เหล็กไหล ถ้าเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ร่วมสมัยจะเรียกหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต นี้ว่า หลวงปู่จันทร์ เหล็กไหล เพราะลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ชื่อจันทร์ มีหลายรูป เช่นเดียวกันกับหลวงปู่พวง มีหลวงปู่พวง เหล็กไหล (บ้านปูลู-บ้านเชียง หนองหาน) เพราะสองท่านนี้ชอบแสวงหาเหล็กไหล ไพลดำ เป็นประจำเวลาเดินธุดงค์

 

2165. ครูบาศักดิ์สิทธิ์ พระสมเด็จครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง หลังยันต์ฟ้าฟีก หัวใจไจยะเบงชร เนื้อพิเศษโรยผงตะไบพระกริ่งไจยะเบง,แบงค์เสก ,พลอยเสก เกศา หายาก ปิดรายการครับ

​

สมเด็จไจยะเบงชรเนื้อผงพุทธคุณ
วัตถุมงคลอันทรงคุณค่าที่จัดสร้างมาในช่วงปลายๆก่อนหลวงปู่ครูบาอิน อินโท หรือ "ครูบาฟ้าหลั่ง" จะละสังขารไปไม่กี่ปี วัตถุมงคลรุ่นท้ายๆถึงแม้จะจัดสร้างมาในช่วงหลังๆจึงเสมือนเป็นมรดกทางวัตถุ ธรรมที่หลวงปู่ครูบาอินท่านได้ฝากไว้ให้ศิษย์ได้ระลึกนึกถึงท่าน สร้างพร้อมกับพระกริ่งไจยะเบงชรอันโด่งดัง ฟ้า ฟีก ยันต์หัวใจแห่งไชยเบงชร(ไจยะเบงจร) หรือ ชินบัญชร พระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งยวด ใช้ป้องกันและเสริมความเป็นมงคลได้ทุกด้าน ยันต์ฟ้าฟีกหรือคาถาหัวใจไชยเบงชรที่ว่า "ระตะนังปุระโตอาสิ"
ในวัฒนธรรมความเชื่อล้านนาเป็นคาถาที่ใช้อย่างแพร่หลาย แม้แต่ ครูบาเจ้าศรีวิไชย สิริวิชโย ต๋นบุญแห่งล้านนายังใช้เป็นยันต์ประจำตัวองค์ท่าน มีคุณด้านกันและปัดเป่าสรรพอันตรายเภทภัยต่างๆให้ออกไปจากตัวตน บ้านเรือน เมืองนคร เวลายามจะเกิดลมหลวงหรือพายุชาวบ้านชาวเมืองผู้มีวิชาจะใช้คาถานี้ในการไล่ ลมฝนฟ้าให้ห่างไปจากบ้านของตน ยันต์นี้ยังทำเป็นแผ่นติดเสาเรือนเพื่อกันไฟไหม้และกันฟ้าผ่าได้ฉมังยิ่งนัก ฟ้า ฟีก ตาลหิ้น

#ยันต์ฟ้าฟีก หรือคาถาตาลหิ้น เป็นการดึงเอาหัวใจของพระคาถาไจยะเบงชร ออกมา 8 อักขระ ว่าดังนี้ "ระตะนัง ปุระ โต อาสิ" มาเขียนย่อเป็นยันต์ลงในแผ่นกระดาษหรือแผ่นผ้าขนาดสี่เหลี่ยมสำหรับติดที่ ปลายเสาดั้งของบ้านเรือน โบสถ์ วิหาร เพื่อป้องกันฟ้าผ่า ไฟไหม้ เรียกว่า ?ยันต์หัวเสา? บ้าง ?ยันต์เสาดั้ง? บ้าง ?ยันต์ฟ้าฟีก? บ้าง การลงอักขระมีหลากหลายรูปแบบ บางครั้งก็ลงเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยม 9 ช่อง เวลาลงอักขระให้ลงเป็นตารางแบบม้าย่อง ตรงกลาง บางตำราก็ลง "ติ" บางตำราก็ลงเป็นตัวเลขล้านนา บางตำราก็ลงเป็นองค์พระ ( โอม , อุนาโลม ) อันนี้ก็แล้วแต่ว่าครูบาอาจารย์สืบสายตำรามากันอย่างไร อีกแบบหนึ่งเป็นรูปวงกลม ซ้อนกันหลายวง ตัดแบ่งเป็นช่องๆ ลงอักขระที่แตกต่างกัน นิยมทำเป็นยันต์หัวเสา ยันต์ฟ้าฟีก เป็นยันต์ที่เชื่อว่า มีฤทธิ์ ป้องกันบรรเทาภัยจาก ฟ้า ฝน ลมพายุได้ ตามความเชื่อโบราณ ว่ากันว่า เวลาเกิด "ฝนตกใหญ่ลมหลวง" ฝนฟ้าคะนองและมีพายุพัดแรงจัด ต่างคนก็ต่างมีวิธีป้องกันบ้านเรือน บ้างก็นำเอาจวัก ช้อน ชามไปแขวนบริเวณหน้าบ้าน บ้างก็เอามีดไปขัดประตู หน้าต่างแทนกลอน หรือไม่ก็เอามีดไปแทงทะลุเสียบคารอยฝาแตกให้ปลายมีชี้ไปทางทิศที่ลมมาถือว่า เป็นการ "แทงลม" บ้างก็เอามีดไปเสียบขัดไว้ที่ข้างฝา บ้างใช้มีดขัดกลอนประตูหน้าต่างนัยว่าเป็นการขัดหรือฝืนลม บางแห่งให้ลูกหลานไปซื้อเหล้าโรงมาประกอบพิธีไล่ลมที่เรียกว่า "ม้าเหล็กไล่ม้าลม" โดยนำเขียงไปวางที่ชานเรือน พ่อเจ้าเรือนจะถือมีดด้วยมือซ้าย กลั้นลมหายใจสับมีดอย่างแรงให้มีดสับคาเขียงและปลายมีดชี้ไปทางทิศที่ลมมา แล้วเสกเหล้าด้วยมนต์ "คาถาฟ้าฟีก" (ฟีก = หลีก) ว่า "ระตะนัง ปุระโต อาสิ" อมแล้วพ่นไปที่มีดพร้อมให้ลูกหลานตบมือส่งเสียงโห่ร้องว่า "เอ้าๆ ม้าเหล็กไล่ม้าลม..เอ้า ๆ ?เฮ้!ๆๆๆ" ... (อ.สนั่น ธรรมธิ เขียนไว้ครับ) แล้ว เหตุใด จึงมีชื่อว่าคาถาตาลหิ้น...???...
มีเรื่องเล่าแบบมุขปาถะ เรื่องหนึ่งว่า... ในแคว้นล้านนาสมัยของเจ้าหนานติ๊บจ๊าง (ทิพย์ช้าง) ต้น ตะกูล ทิพย์ช้างเชื้อเจ้าเจ็ดตน หลักฐานยังอยู่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ท่านเป็นปู่ของ เจ้าชีวิตอ้าว เจ้าหลวงเชียงใหม่ ตามประวัติว่า ถ้าท่านอุทานว่า "อ้าว" เมื่อไหร่ต้องจับประหารเมื่อนั้น หนานติ๊บจ๊างมีอาจารย์อยู่ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านนับถือมากเป็นคนประสิทธิประสาทคาถาทั้งหลายทั้งมวลให้ (เข้าใจว่าเป็น พระมหาเถรวัดชมพู) วันหนึ่งท่านเรียกหนาน เข้าไปหาและบอกว่าจะให้ของดี มันเป็นคาถา แต่ไม่มีชื่อเรียก มี 8 คำ เมื่อเจ้าหนานท่องจนขึ้นใจแล้วก็จะทดสอบความขลัง จึงให้ทหารเอาปืนมาอยู่ใต้ต้นตาล ให้มากที่สุด จากนั้นเจ้าหนานก็ขึ้น ไปอยู่ยอดต้นตาล แล้วสั่งให้ทหารยิง ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ถูกเจ้าหนานจนต้นตาลปลายด้วนหมด เจ้าหนานเลยตั้งชื่อ คาถาบทนี้ ว่า ยอดตาลหิ้น นั่นเอง .... อย่างที่ออกตัวไว้ตั้งแต่ต้น นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าต่อๆ กันมา ไม่สามารถหาหลักฐานใดๆ ยืนยันได้ กล่าวโดยสรุปก็คือ ยันต์นี้ ถือเป็นยันต์ที่มีอานุภาพ มากเรื่องแคล้วคลาด ป้องกันภัย ภยันตรายต่างๆ และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ครูบาอาจารย์ทางเหนือใช้กันมากครับ

 

2166. พระสมเด็จ หลังยันต์สี่ทิศ วัดชิโนรส (นะ มะ อะ อุ) พิมพ์หายาก ปิดรายการครับ

​

ประวัติ พระชุดนี้ จัดสร้างโดย พระปลัดมานพ วัดชิโนรสาราม กรุงเทพฯ (มีพระฝากพิธีของ อาจารย์แก้ว และ พระมหาประดับด้วยครับ)ได้จัดสร้างเมื่อปี 2512 พิธีพุทธาภิเษก 22 - 31 ส.ค.2512 จัดเป็นชุดพระเครื่องที่มีรูปแบบสวยงาม พิธีใหญ่ มีพระเกจิดังๆ ร่วมงานเพียบ อาทิ...
หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง
อาจารย์นำ วัดดอนศาลา
หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ธนบุรี
หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อดี วัดพระรูป
เป็นต้น
โดยมีนิตยสารนิตยสารเกี่ยวกับพระเครื่องฉบับหนึ่งเป็น Sponsor ใหญ่
(ข่าวตามประวัติว่าหามวลสารดีๆมาเยอะเหมือนกัน)
ซึ่งพระชุดนี้ เกจิอาจารย์ที่ร่วมงานถึงกับออกปากว่าเป็นของดี ที่น่าใช้
ซึ่งกำลังหลักในการจัดสร้างพระเครื่องชุดนี้คือพระปลัดมานพเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสในขณะนั้น ท่านเป็นชาว จ.บุรีรัมย์ มีความนับถือหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จึงนิมนต์หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทองมาร่วมปลุกเสก นอกจากนี้ก่อนที่ท่านจะมาจำพรรษาที่วัดชิโนรส ท่านเคยอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระเลขาของหลวงปู่นาค วัดระฆังฯ มาก่อนจึงมีความรู้เกี่ยวกับการสร้างพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังเป็นอย่างดี
และอีกท่านหนึ่งคือ นอกจากพระปลัดมานพ แล้วยังมีของพระมหาประดับ แน่นหนา ซึ่งท่านเป็นชาวสรรคบุรี จ.ชัยนาท มีความนับถือหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามเป็นอย่างยิ่ง หลวงพ่อกวยได้รับนิมนต์มาปลุกเสกวัตถุมงคลชุดปี 12 -13 ของวัดชิโนรสเช่นเดียวกัน (พิธีนี้ หลวงพ่อกวยท่านได้เสกอัดพลังให้ถึงเช้า เมื่อเสร็จแล้ว ยังได้มีการลองของกันอีกด้วย มีลงในหนังสือของ อ.เฒ่าสุพรรณด้วยครับ)

 

จองพระปิดตาลป.เปลี่ยน/พระรุ่นแรกลป.จันทร์/พระสมเด็จชิโนรส/สทเด็จชินบัญชร

 

รับทราบการจองครับพี่ ขอบคุณมากครับ

 

2167.เหรียญพระพุทธชินราชและพระนเรศวรมหาจักรพรรดิ เนื้อรมดำมันปู ปี58 ให้บูชา 450 บาท

​

จังหวัดพิษณุโลก เป็นจังหวัดที่หลายคนต้องการมาเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะมากราบไหว้พระพุทะชินราช ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ อ.เมืองพิษณุโลก และจังหวัดพิษณุโลกก็เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บริเวณพระราชวังจันทน์ นอกจากนั้นจังหวัดพิษณุโลกยังเป็นที่ตั้งของ กองทัพภาคที่ 3
ทั้งนี้ทาง พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เล็งเห็นความสำคัญของการบูรณะพระราชวังจันทน์ ซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่ขาดการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว จึงได้จัดหารายได้เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่พระราชวังจันทน์ โดยได้จัดสร้างวัตถุมงคล รุ่นอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังจันทน์ ประกอบพิธีจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่
โดยเวลา 19.19 น. วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2558 ทางกองทัพภาคที่ 3 โดยพล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน ประกอบพิธีมหาจักรพรรดิพุทธาภิเษก เททองหล่อนำฤกษ์พระพุทธชินราชจำลอง และพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ บริเวณพระราชวังจันทน์ โดยมีพระธรรมเสนานุวัตร เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระเกจิอาจารย์ประกอบด้วย พระวรญาณมุนี(หลวงตาละมัย) วัดอรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก พระปัญญาภิมนฑ์มุนี (หลวงปู่บุญมี ปญฺญาวุโธ) วัดบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พระครูสุวิธานศาสนกิจ (พระอาจารย์ไพรินทร์) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองพิษณุโลก หลวงปู่แปลก โรจโน วัดบ้านใหม่ทรายมูล อ.วังทอง พิษณุโลก และพระมงคลสุธี(หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก นั่งปรกภาวนา อธิฐานจิต และในวันที่ 18-19 สิงหาคม 2558 ได้มีพิธีมหาจักรพรรดิพุทธาภิเษก ณ พระวิหารพุทธชินราช โดยมีอาจารย์เกจิ จำนวน 51 รูป นั่งปรกอธิฐานจิตภาวนา

 

2168.เมตตา โชคลาภ แม่นางกวักพ่อท่านเขียว วัดหรงบน เนื้อว่าน รุ่นแรก ปี 2511 ปิดรายการครับ

​

แม่นางกวักพ่อท่านเขียว วัดหรงบน เนื้อผงผสมว่าน รุ่นแรก สร้างขึ้นประมาณปี 2511 เป็นพระที่ทำขึ้นในสมัยที่พ่อท่านเขียวยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเหมือนปัจจุบัน
โดยผงที่พ่อท่านเขียวรวบรวมและว่านต่างๆที่มีสรรพคุณในทางเมตตามหานิยมจำนวนมากผสมกับผงที่หลวงพ่อลบและเก็บรักษาไว้ ดินที่ศักดิ์สิทธิ์ และมวลสารอีกมาก เพื่อสร้างแม่นางกวักให้ลูกศิษย์บูชาตัวติดใช้ในทางมาหากิน จนมีประสบการณ์มากมาย ด้านเมตตา โชคลาภค้าขาย เสี่ยงโชค หรือแม้แต่ด้านแคล้วคลาดกันภัย ก็เคยมีประสบการณ์มาไม่น้อยเช่นกัน จนเป็นที่แสวงหาในวงกว้างในหมู่ลูกศิษย์และผู้ที่ศรัทธาในพ่อท่าน
แม่นางกวักรุ่นนี้สร้างขึ้นก่อนเหรียญรุ่นแรกอันโด่งดังของท่าน ซึ่งเหรียญรุ่นแรกจะสร้างปี 2513 (เหรียญรุ่นแรก มีราคาสูงมาก สวยๆ ถึงหลักแสนเลยทีเดียว) และจำนวนการสร้างนางกวักก็ไม่มาก ลูกศิษย์ที่มีมักหวงแหน จึงทำให้นางกวักรุ่นนี้หมุนเวียนในตลาดน้อยมาก เพราะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก และราคาก็เบามากถ้าเทียบกับวัตถุมงคลอื่นๆของพ่อท่านเขียว
วัตถุมงคล และพระเครื่องของหลวงปู่เขียว ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ด้านปกป้องคุ้มครองสูงมาก พระเครื่องพ่อท่านเขียว วัดหรงบนเช่นผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าผู้ที่โดนโจรปล้นวัวเกิดต่อสู้กัน เจ้าของวัวพกผ้ายันต์ท่าน กระสุนก็ไม่อาจทำอะไรคนที่พกผ้ายันต์ท่านได้ ซึ่งพุทธคุณพระเครื่องที่ท่านปลุกเสกนั้น โด่งดังไปไกลทั่วประเทศเป็นที่เล่าขานสืบต่อมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าด้านคงกระพัน มหาอุด หรือเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ถือว่า พ่อท่านเขียว วัดหรงบล เป็นสุดยอดเกจิอันดับต้นๆของภาคใต้

 

2169. พระดีในตำนาน พระสมเด็จนาคปรก วัดมอญ ให้บูชา 899 บาท

​

ประวัติวัดมอญ และการสร้างพระวัดมอญคร่าวๆ วัดมอญชื่อคือวัดพิจารณ์โสภณ ตั้งที่ ม.8 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ติดกับแม่น้ำเจ่าพระยาฝั่งตะวันตก สันนิษฐานว่าชาวมอญสร้างสมัยพระเจ้าท้ายสระ ประมาณพ.ศ.2260 ส่วนการสร้างพระผงนั้นท่านว่าสมเด็จโตท่านล่องเรือตามแม่น้ำเจ้าพระยามาเพื่อไปสร้างพระนั่งที่วัดเกษไชโยได้เทียบเรือพักที่วัดมอญช่วงที่หลวงพ่อหว่างเป็นเจ้าอาวาสจึงปฏิสัณฐานคุ้นเคยกัน เมื่อหลวงพ่อหว่างสร้างพระเจดีย์ ท่านได้ขอเนื้อผงพุทธคุณจากสมเด็จโต เพื่อมาทำพระพิมพ์ต่างๆบรรจุในพระเจดีย์ดังกล่าว และมีพระเครื่องพิมพ์หนึ่งเรียกว่า"สมเด็จนาคปรก"ซึ่งโดยทั่งไปพระนาคปรกจะมีเจ็ดเศียรและไม่มีฐานแบบพระสมเด็จ แต่พิมพ์นี้มีนาคปรกห้าเศียร อาจหมายถึง ร.5 และได้ผงพุทธคุณมาจากสมเด็จโต ซึ่งประมาณการสร้างก่อนปี พ.ศ.2442 และกรุแตกเมื่อพ.ศ.25กว่าๆ
ลักษณะเป็นพระเนื้อผงผสมว่านแก่น้ำมัน การพิมพ์พระใช้แม่พิมพ์สองชิ้นประกบกัน จึงปรากฏรอยตะเข็บขึ้นที่ขอบด้านข้างขององค์พระโดนรอบ
แต่เดิมไม่มีใคร ทราบว่า ทำไมต้องกดพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ในลักษณะนี้ แต่ปริศนาทุกอย่างก็ปรากฏคำตอบ เมื่อพระแตกกรุออกมาจากเจดีย์ในวัดที่หลวงปู่หว่างสร้างไว้ พบพระพิมพ์บางองค์ชำรุดแตกหัก ใจกลางองค์พระระหว่างเนื้อพระด้านหน้าและด้านหลัง ปรากฏผงสีเหลืองนวลบรรจุอยู่เหมือนไส้ขนม สันนิษฐานกันว่าเป็นผงวิเศษ ที่หลวงปู่หว่างท่านได้รับมาจากเจ้าพระคุณสมเด็จฯ (โต)

 

2170. พระดีของพระอริยะ พระปิดตาพิมพ์ไม่มีหู ปี20 หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ให้บูชา 1850 บาท

​

 

สวัสดียามเช้าครับ