น่าเป็นห่วง หลักสูตรพุทธศาสนา จากบางอาจารย์ สอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ม.1- ม.6)

<TABLE class=tborder id=post1731688 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เตชปญฺโญ ภิกขุ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1731688", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Oct 2006
ข้อความ: 373
พลังการให้คะแนน: 69






</TD><TD class=alt1 id=td_post_1731688 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->"อย่าเชื่อใคร แต่ผมเชื่อพุทธองค์"

*************​

***แน่นอนว่าใครๆก็จะพูดเช่นนี้กันทั้งนั้น*** ​

***แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า "คำสอนใดเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์?"***​

--------------------- ​

***ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า ก็ต้องไม่เชื่อพระพุทธเจ้า*** ​

-----------------------------------​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

................................................................................................

องค์สมเด็จพระจอมไตร ตรัสอย่างไร ย่อมเป็นเช่นนั้น.. ไม่ต้องตีความ

หากคิดที่จะตีความคำตรัสสอน ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธองค์ นั้น
ย่อมแสดงว่า บุคคลนั้น ย่อมมีความรู้เสมอ ทัดเทียม หรือ ยิ่งกว่า พระพุทธองค์

ที่คุณบอกว่า....

***ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า ก็ต้องไม่เชื่อพระพุทธเจ้า***

คุณก็ย่อม อยู่ในข่าย นี้

...............................................................................................

ขนาดคำตรัสสอนของพระองค์ คุณยังสามารถ กล้าบังอาจ กล่าวได้ว่า....

***ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า ก็ต้องไม่เชื่อพระพุทธเจ้า***

ถามหน่อยเถอะ ขนาดพระพุทธเจ้า ทรงตรัสสอน คุณก็บอกว่าไม่ต้องเชื่อ
แล้วคุณออกมาพูดปาว ๆ นี้.. จะพูดเพื่อ.. ให้ใครเชื่อคุณ กันละครับ

หากคุณสามารถพูดให้ใคร เชื่อ คุณได้ นี่....

คุณก็ต้อง ยอดเยี่ยมกว่า พระพุทธเจ้า แล้วละครับ ท่าน

...............................................................................................

โทษการ "กล่าวตู่" พระพุทธองค์

บุคคล คณะบุคคล หรือ ผู้ใด อ้างอิง คำตรัสสอน ว่า..

พระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ เช่นนี้.... ทั้งที่ พระองค์ ไม่ได้ทรงตรัสไว้
พระพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงตรัสไว้ เช่นนี้.... ทั้งที่ พระองค์ ทรงตรัสไว้

อย่างนี้ โทษ คือ อเวจี

ก็ไม่เชื่อว่า มันมี นรก เสียอย่าง.. ขุมไหน มันก็ต้อง ไม่มี
แล้วจะไป เกรงกลัว ทำไม.. ใช่ไหม....

...............................................................................................

แล้วคุณ ก็บอก ว่า....

***แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า "คำสอนใด เป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์?"***

คุณไม่เชื่อ พระไตรปิฎก กล่าวจาบจ้วง ว่ามีการ ต่อเติม เสริมแต่ง

แต่ คุณ ก็อ้างพระไตรปิฎก (บางส่วน) มากล่าวคัดแย้งพระไตรปิฏก
แล้วคุณก็ตัดส่วนที่คุณไม่พอใจ ส่วนที่ไม่เข้าใจ ที่ทำไม่ได้ ทิ้งไปเสีย

ผมขอย้อน คำถาม ที่คุณ ถาม ไว้ว่า..
***แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า "คำสอนใด เป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์?"***

แล้วตัวคุณเอง รู้ได้อย่างไร ว่า....
คุณเอาอะไรเป็นเกณฑ์ ตัดสินใจ เชื่อพระไตรปิฎก (จึงนำมากล่าวอ้างตะแบง)
คุณเอาอะไรเป็นเกณฑ์ ตัดสินใจ ตัดทิ้งพระไตรปิฎก (เพราะคุณเข้าถึงไม่ได้)

คุณเป็นใครกันหนอ ถึงได้เก่งกาจ ปานนี้
เก่งกว่า พระไตรปิฎก.. ทั้งฉบับ
เพราะคุณมีเชี่ยวชาญ (พอใจ) มีความสามารถ ตัดพระไตรปิฎก ทิ้งออกไปเสียบ้าง ก็ได้

แถมอ้างอิง พระไตรปิฎก.. มาคัดแย้ง พระไตรปิฎก ก็ยังทำได้อีก

................................................................................

 

องค์หลวงพ่อฯ กล่าวถึงบุญอย่างยอด ในพระศาสนา
พระคำข้าว พระหางหมากสมบัติพ่อให้แบ่งปันกันไป
ปิดทอง ประดับเพชร สมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก 4 ศอก พร้อมบันลังก์แก้ว
ถวายโคมไฟระย้า บูชา สมเด็จองค์ปฐม อานิสงส์ แสงสว่าง ล้นจักรวาล
ถวายวิหารแก้ว แด่สมเด็จองค์ปฐม สุข สงบ ร่มเย็น
ถวายพระเครื่อง สมเด็จองค์ปฐมทันใจ พิมพ์พระรอด 99,999 องค์
พระคำข้าว พระหางหมาก สมบัติพ่อให้ เชิญร่วมบุญ เพื่อ Server พลังจิต
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา โดยตรงที่วัดฯ

...............................................................................................

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
ผม ก็ละอายใจ จริง ๆ ที่ ลายเซ็นของผม มี ทานบารมี เต็มพรึดดดด....

หิริ เป็นอย่างไร.. โอตัปปะ เป็นอย่างไร.. กลัวทำไม.. ละอายทำไม..
ก็ไม่รู้ว่า จะทำกันบุญไปทำไม นรก ก็ไม่มี.. ก็ไม่ต้องกลัวเกรงต่อบาป
ศีลก็ไม่ต้องรักษา.. จะไปกลัวบาป ทำไม.. นรก ไม่มี
พระนิพพาน กลั้นลมหายใจ ก็เข้าได้แล้ว.. ง่ายปานนี้

จะไปทำบุญทำทาน รักษาศีล บำเพ็ญภาวนา กันไปทำไม....

เชิญไปตามสบาย ๆ ของท่าน เหอะท่าน....

ผมขอยอมทนลำบาก ทำ ๆ ไปก่อน
ผมเชื่อคำตรัสสอนในพระไตรปิฎก ทั้งหมด ครับ.

...............................................................................................

 

แล้ว"กาลามสูตร"ที่ท่านมักยกมากล่าวอ้างเชื่อได้รึครับ แล้วที่พระพุทธเจ้าว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอนัตตา ผมไม่เห็นปฏิบัติได้ตามนั้น แสดงว่าก็ไม่จริงใช่มั้ยครับ ผมหลงตัวเอง ผมเชื่อว่าตัวเอง หลุดพ้นแล้ว มีความรู้สึกว่าไม่มีอะไรเป็นเราเลย เพราะผมอยากจะคิดอย่างนี้เมื่อไหร่ก็ได้ อย่างนี้ตรงกับคำสอน แสดงว่าคำสอนนี้ใช้ได้ใช่มั้ยครับ เพราะมันถูกกับกิเลสของผม เฮ้อออ เชื่อในกาลามสูตรแบบไม่ได้พิจารณาโดยละเอียด มันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับมีอาการสับสนและงุนงงกับชีวิต

 

กระทู้นี้3ปีแล้วนะเนี่ย!!!

 

ข้าพเจ้า เข้าใจในหลักการว่า การอ่านพระสูตร เป็นไปเพื่อ รู้ ธรรมตามจริง
ไม่ได้ให้อ่านแล้วตีความตามเข้าใจ จึงมีหลัก กาลามสูตร เพื่อเป็นหลักปฏิบัติ
เดินมรรค เพื่อรู้ธรรม ตามจริง เมื่อจิต เกิดสติปัญญา รู้ธรรม ชัดแจ้ง แล้ว
ย่อมเข้าใจ ธรรม ที่พระพุทธองค์ สอนไว้ ตามจริง ไม่บิดเบือน ด้วยความคิด
ความเห็น ของผู้อ่าน

การเอาความคิดนึก ปรุงแต่ง ตีความ เข้าตัว ตามความเข้าใจ ย่อมไม่มีทาง
ที่จะเห็นธรรม ตามจริง มีแต่เห็นตามความคิดของตัวเอง มันสร้างภาพ ตีความ
เพื่อตัวเอง เข้าตัวเอง ไปเรื่อยๆ หาได้มีความเข้าใจธรรม ตามพระพุทธองค์ไม่

คน 10 คน อ่านพระสูตร ก็ตีความไป 10 อย่าง เพราะปรุงคิดไปคนละอย่าง

พระอริยเจ้าที่ รู้ธรรม ตามจริง ย่อมเข้าใจตรงกับที่พระพุทธองค์ กล่าวไว้ และ
ย่อมเห็นความจริง ตรงกัน เพราะ มีจิต ที่ไม่ปรุงแต่ง ย่อมเห็นธรรม ตามจริง

พระเจ้าแผ่นดิน และ พระอริยสงฆ์ ที่พวกเราชาวไทย ทั้งหลาย เคารพรัก
ย่อมเป็นตัวอย่างของผู้มีปัญญา และศรัทธา คงมั่น เห็นถูก เห็นธรรม เป็น
ตัวอย่าง ให้เราเดินตาม ได้อย่าง ไม่สับสน จนกว่า เราจะรู้ธรรม ได้ด้วยตัวเอง
เมื่อนั้น เราย่อม รู้เห็น ธรรม ได้อย่าง ท่านบรมครูทั้งหลาย

ปุถุชน คนมีกิเลส จะไปรู้อย่าง ผู้มีธรรม คงไม่ใช่ ฐานะ จะมี จะเป็นได้

ถ้า จิตหลุดพ้นจาก กิเลส หมดความปรุงแต่ง ได้

ก็คงได้ รู้เห็นธรรม ตามความจริง

 

อย่าเป็นห่วงไปเลย

มาดูเด็ก ป.4 ส่งการบ้าน การทำสติปัฏฐาน4 แบบพ้นคิด พ้นการอ่านหนังสือ

พ้นการตีความ พ้นการยึดตำรา พ้นการยึดครูบาอาจารย์ แต่มั่นคงที่การปฏิบัติ

เอาความรู้จากการปฏิบัติเป็นเครื่องวัดจิตกัน

[MUSIC]http://203.130.131.118/sound/dekdekjeng.mp3[/MUSIC]

 

ผมคิดว่าการร่างหลักสูตรขึ้นมาแบบนี้ก็ไม่น่าจะถูกนักนะครับ
การที่จะเอาคำสอนจากท่านใดท่านหนึ่งมาเป็นแม่บทนั้นก็ไม่น่าจะเป็นการดี
และยิ่งหลักสูตรนี้จะเป็นหลักสูตรที่จะใช้สอนนักเรียนทั้งประเทศก็ยิ่งเป็นการไม่ควรใหญ่
ผมว่าน่าจะมีการอาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายที่พวกเราก็ทราบกันดีว่าท่านเป็นพระอรหันต์(ในประเทศไทยของเราก็มีอยู่เกือบจะเป็นร้อยรูป)มาช่วยกันระดมความคิดทำหลักสูตร ดีกว่าที่จะมาสอนของใครคนใดคนหนึ่งมาเป็นกฏนะครับ
ก็อย่างที่เราทราบกันว่า
พระอรหันต์มี 4 ประเภท
1.สุกขวิปัสสโก
2.เตวิชโช
3.ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิทัปปัตโต
4.ปฏิสัมภิทัปปัตโต
รายละเอียดก็อ่านดูได้ที่นี่ http://www.palungjit.org/smati/k40/index.htm
พระอรหันต์ประเภทหลังๆท่านก็จะมีคุณและมีความรู้ทางธรรมมากกว่าประเภทแรกๆ
เพราะฉะนั้นการที่เรานำคำสอนของคนใดคนหนึ่งมาเป็นแม่บท(ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์) และถ้าคนคนนั้นเป็นท่านเป็นพระอรหันต์ประเภทแรกๆหละก็จะเป็นการทำลายความรู้ทางธรรมของพระอรหันต์ที่เหลือ
ผมว่ามันจะเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยความรู้เท่าไม่ถึงการนะครับ

 

ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

ผมว่าน่าจะมีการอาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายที่พวกเราก็ทราบกันดีว่าท่านเป็นพระอรหันต์(ในประเทศไทยของเราก็มีอยู่เกือบจะเป็นร้อยรูป)มาช่วยกันระดมความคิดทำหลักสูตร ดีกว่าที่จะมาสอนของใครคนใดคนหนึ่งมาเป็นกฏนะครับ
--------------------------------------------

***แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า พระคุณเจ้าที่เราเชื่อว่าเป็นพระอรหันต์นั้น ท่านเป็นพระอรหันต์จริง? ไม่เก๊***

***ถ้าบังเอิญท่านเป็นพระอรหันต์เก๊ แล้วเราเชื่อท่าน อนาคตของเราก็มืดบอด***

***แต่ถ้าท่านเป็นพระอรหันต์จริง ท่านคงไม่สอนให้เราโง่อย่างที่เป็นกันอยู่นี้เป็นแน่*-*

(ฉันคืออะไร? = เวบไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com )

 

สวัสดี ปีใหม่ คุณเตช ยังไม่เลิกเหรอ คุณเตชที่น่าสงสาร แต่ก็ว่าคุณไม่ได้ทุกอย่างมันเป็นไปตามวิวัฒนาการของมัน ฉันบอกคุณแล้วว่า สิ่งที่คุณเข้าใจ มันยังแค่ผิว คุณคงต้องการเวลาเพื่อให้เมฆหมอกแห่งอกุศลวิบากที่คลุมจิตมันจางลงก่อน คุณถึงจะเห็นสภาวะในอีกระดับ น่าเสียดายที่คุณยึดความคิดความเห็นของตนว่าถูก(มานะและอัตตาสูง)จึงไม่ยอมรับฟังคนอื่น ถ้าคุณยอมอ่อนลงบ้างสภาวะที่คุณยึดอยู่มันจะจางหรือเปลี่ยนไปเร็วกว่านี้

คุณเตช คุณรู้บ้างไหมว่า ปรมัตถ์ธรรมไม่ได้มาจากความคิด แต่ต้องอาศัยความคิดที่เป็นสัมมาทิฏฐิเป็นเสมือนแพ

เตชเขียน
๑. ยอมรับหรือไม่ว่า

 

...................................................................................

***แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า พระคุณเจ้าที่เราเชื่อว่าเป็นพระอรหันต์นั้น ท่านเป็นพระอรหันต์จริง? ไม่เก๊***

...................................................................................

***แต่ถ้าท่านเป็นพระอรหันต์จริง ท่านคงไม่สอนให้เราโง่ อย่างที่เป็นกันอยู่นี้เป็นแน่*-*

..................................................................................

นี่หมายถึง ท่านเป็นพระอริยเจ้า ท่านเป็นพระอรหันต์ หรือนี่....

ท่านจึงสามารถ สอน แนะนำ ให้ "คน" ฉลาด เป็น อัจฉริยะ
(ฉันคืออะไร? = เวบไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com)

การที่ท่านสามารถสอนให้ คน เป็น อัจฉริยะ ตามท่านได้ทัน
(ก็ไม่รู้ว่า.. จะไป "ทัน" กันที่ไหน)

โถ.. น่าสงสารตัวเอง.. ได้คุยกับ "พะอะละหัน" มาตั้งนาน แล้วละซิเรา

แต่เอ.. ทำไม เราจึงยัง "โง่" อยู่อย่างนี้ หว่าาาา

...................................................................................

 

<TABLE class=tborder id=post1731688 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เตชปญฺโญ ภิกขุ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1731688", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Oct 2006
ข้อความ: 373
พลังการให้คะแนน: 69






</TD><TD class=alt1 id=td_post_1731688 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->"อย่าเชื่อใคร แต่ผมเชื่อพุทธองค์"

*************

***แน่นอนว่าใครๆก็จะพูดเช่นนี้กันทั้งนั้น***

***แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า "คำสอนใดเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์?"***

---------------------

***ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า ก็ต้องไม่เชื่อพระพุทธเจ้า***

-----------------------------------​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>................................................................................................

องค์สมเด็จพระจอมไตร ตรัสอย่างไร ย่อมเป็นเช่นนั้น.. ไม่ต้องตีความ

หากคิดที่จะตีความคำตรัสสอน ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธองค์ นั้น
ย่อมแสดงว่า บุคคลนั้น ย่อมมีความรู้เสมอ ทัดเทียม หรือ ยิ่งกว่า พระพุทธองค์

ที่คุณบอกว่า....

***ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า ก็ต้องไม่เชื่อพระพุทธเจ้า***

คุณก็ย่อม อยู่ในข่าย นี้

...............................................................................................

ขนาดคำตรัสสอนของพระองค์ คุณยังสามารถ กล้าบังอาจ กล่าวได้ว่า....

***ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า ก็ต้องไม่เชื่อพระพุทธเจ้า***

ถามหน่อยเถอะ ขนาดพระพุทธเจ้า ทรงตรัสสอน คุณก็บอกว่าไม่ต้องเชื่อ
แล้วคุณออกมาพูดปาว ๆ นี้.. จะพูดเพื่อ.. ให้ใครเชื่อคุณ กันละครับ

หากคุณสามารถพูดให้ใคร เชื่อ คุณได้ นี่....

คุณก็ต้อง ยอดเยี่ยมกว่า พระพุทธเจ้า แล้วละครับ ท่าน

...............................................................................................

โทษการ "กล่าวตู่" พระพุทธองค์

บุคคล คณะบุคคล หรือ ผู้ใด อ้างอิง คำตรัสสอน ว่า..

พระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ เช่นนี้.... ทั้งที่ พระองค์ ไม่ได้ทรงตรัสไว้
พระพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงตรัสไว้ เช่นนี้.... ทั้งที่ พระองค์ ทรงตรัสไว้

อย่างนี้ โทษ คือ อเวจี

ก็ไม่เชื่อว่า มันมี นรก เสียอย่าง.. ขุมไหน มันก็ต้อง ไม่มี
แล้วจะไป เกรงกลัว ทำไม.. ใช่ไหม....

...............................................................................................

แล้วคุณ ก็บอก ว่า....

***แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า "คำสอนใด เป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์?"***

คุณไม่เชื่อ พระไตรปิฎก กล่าวจาบจ้วง ว่ามีการ ต่อเติม เสริมแต่ง

แต่ คุณ ก็อ้างพระไตรปิฎก (บางส่วน) มากล่าวคัดแย้งพระไตรปิฏก
แล้วคุณก็ตัดส่วนที่คุณไม่พอใจ ส่วนที่ไม่เข้าใจ ที่ทำไม่ได้ ทิ้งไปเสีย

ผมขอย้อน คำถาม ที่คุณ ถาม ไว้ว่า..
***แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า "คำสอนใด เป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์?"***

แล้วตัวคุณเอง รู้ได้อย่างไร ว่า....
คุณเอาอะไรเป็นเกณฑ์ ตัดสินใจ เชื่อพระไตรปิฎก (จึงนำมากล่าวอ้างตะแบง)
คุณเอาอะไรเป็นเกณฑ์ ตัดสินใจ ตัดทิ้งพระไตรปิฎก (เพราะคุณเข้าถึงไม่ได้)

คุณเป็นใครกันหนอ ถึงได้เก่งกาจ ปานนี้
เก่งกว่า พระไตรปิฎก.. ทั้งฉบับ
เพราะคุณมีเชี่ยวชาญ (พอใจ) มีความสามารถ ตัดพระไตรปิฎก ทิ้งออกไปเสียบ้าง ก็ได้

แถมอ้างอิง พระไตรปิฎก.. มาคัดแย้ง พระไตรปิฎก ก็ยังทำได้อีก

...............................................................................................

 

คุณเป็นใครกันหนอ ถึงได้เก่งกาจ ปานนี้

เก่งกว่า พระไตรปิฎก.. ทั้งฉบับ
เพราะคุณมีเชี่ยวชาญ (พอใจ) มีความสามารถ ตัดพระไตรปิฎก ทิ้งออกไปเสียบ้าง ก็ได้

แถมอ้างอิง พระไตรปิฎก.. มาคัดแย้ง พระไตรปิฎก ก็ยังทำได้อีก

...............................................................................................

อ้อ.. เพิ่งรู้ ว่า.. คุณเป็น "พะอะละหัน" นี่เอง

...............................................................................................

 

สงสัยท่านคงเป็นซุป ค่ะ ซุป??????....x หัวเผือก หัวมัน และหัวไช้เท้า ...ยังมีประโยชน์เสียกว่า อย่างน้อยก็ยังประทังความหิว แก้ความทุกข์ทางสังขาร...

ท่านเตชฯ เคยพิจารณาแบบเด็ก ๆ แบบนี้ไหมค่ะ ของขวัญปีใหม่ มอบให้ท่านค่ะ

 

ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

สันติภาพตามแนวทางพุทธศาสนา ​

ในปัจจุบันโลกกำลังประสบกับปัญหานานัปการอยู่ ซึ่งก็มีทั้ง ปัญหาน้ำท่วม, ฝนแล้ง, โลกร้อน, ความยากจน, ความอดอยากขาดแคลน, มลพิษ, โรคเอดส์, อาชญากรรมต่างๆ, และปัญหาสงครามในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น ซึ่งปัญหาทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเกิดมาจากการที่มนุษย์ลุ่มหลงติดใจในความสุขจากสิ่งฟุ่มเฟือยหรือ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=4>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เตชปญฺโญ ภิกขุ
--------------------------------------------

***แต่ถ้าท่านเป็นพระอรหันต์จริง ท่านคงไม่สอนให้ เราโง่ อย่างที่เป็นกันอยู่นี้เป็นแน่*-*

(ฉันคืออะไร? = เวบไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com )

..........................................................

ดูผลการโหวต : คุณเห็นด้วย กับ หลักสูตรพุทธศาสนา ม.1-ม.6 นี้ ไหม ?


</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="75%">ไม่เห็นด้วย (คิดว่าสอนผิด) </TD><TD class=alt2 noWrap> </TD><TD class=alt1 title=Votes noWrap align=middle width="12%">473</TD><TD class=alt2 noWrap align=right width="13%">90.61%</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="75%">เห็นด้วย (คิดว่าสอนถูก) </TD><TD class=alt2 noWrap> </TD><TD class=alt1 title=Votes noWrap align=middle width="12%">49</TD><TD class=alt2 noWrap align=right width="13%">9.39%</TD></TR></TBODY></TABLE>
...............................................................................................

สรุปว่า.. มี บุคคลอัจฉริยะ 9.39%

ก็เป็นไปตามบุญ บารมี และกฏแห่งกรรม.. ของใคร ก็ของมัน....

................................................................................................

ที่ผมพูดมา พูดไว้ ก็ไม่ได้มีเจตนา จะหาความ "ชนะดักดาน" อันใด
ที่กล่าวไว้ ก็เพียง เพื่อเป็น "สติ" ไว้สำหรับเทียบเคียง เพื่อการพิจารณา

ส่วนที่ว่า..
ตัวของเรา จะเชื่อสิ่งไหน.. เชื่ออย่างไร....

"จิต" (อทิสมานกาย) ของเราเอง จะสรุป ตัดสินใจเอง
ทั้งนี้ ก็เป็นไปตามบุญ บารมี และกฏแห่งกรรม.. ดังที่กล่าวไว้แล้ว..

ด้วยความปรารถนาอันดี เท่านั้น....

การค้าขาย.. หากไม่รู้จริง.. ถึงมีทุนมาก ก็เจ๊งได้ง่าย
ก็จะเสียหาย เสียทรัพย์ เสียเวลา ไปมาก โดยเปล่า..

...............................................................................................

ท่านผู้เข้าถึงอริยธรรม.. ท่าน ย่อมรู้ว่า.. จะพูดสิ่งใด แก่ใคร จะมีผลไหม..
ท่าน ก็จะพูดแต่ในสิ่งที่จำเป็น.. เมื่อกล่าวแสดงแล้ว.. ย่อมมีผลที่ดี ตามมา

ผมเอง ก็มีสติ มีปัญญา อันด้อยอยู่มาก....
เพียงแต่ ที่กล่าวมา กล่าวแสดงไว้ ก็ด้วย "หวังดี" ด้วยใจจริง

แต่เมื่อถึงเวลานี้ ผมก็เกิด "ความเบื่อ"
และคิดได้ว่า.. พอควร แก่เวลา ของกระผม แล้ว

ที่ผ่านมา หากบังเอิญ คำพูด ไป "ขัดจิต" หรือ "ไม่พึงใจ" ต่อท่านใด ก็ตาม
ก็โปรด อย่าได้ถือความ.. ขอให้คิดเสียว่า เป็นเสียงหมา มันเห่าหอน
เพียงเท่านี้ ท่านก็จะสบายใจ.. ไม่เดือนร้อนจิต.. ไม่คิดพยาบาท..

ส่วนตัวกระผม ก็ถือโอกาส ขอขมา ขออภัย
จักได้ ไม่มีเวร ไม่เป็นกรรม สืบเนื่องกันต่อไป

คำพูด การแสดง ใด ๆ ที่คิดว่า.. ผมคิดผิด กล่าวผิด
ก็ขอจง อโหสิกรรม ให้แก่กระผม ด้วยเถิด.

................................................................................................

โพสในครั้งนี้ จึงจะเป็นโพสก่อนสุดท้าย ในกระทู้ "อันร้อนแรง" แห่งนี้

ขอฝากไว้ครั้งสุดท้าย ว่า.. จงพิจารณาใคร่ครวญให้ถ่องแท้ แม่นมั่น
แล้วจึงต่อย คิดลงทุน "ค้าขาย" ด้วยจิต ด้วยวาจา ด้วยการกระทำ

ด้วยหวังอยากให้ทุกดวงจิต ล้วนมีแต่ "ความสุข.."
อย่าให้เป็น "ความสุก.." เลย

ขอความเมตตา ขอความกรุณา ขอความมุทิตา ขอความอุเบกขา
ขอความอโหสิกรรม จงมีแก่กัน และกัน

ด้วยเถิด

...............................................................................................

แก้ไข เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2552

เดิน ๆ อยู่จิตก็พอสงบ รำลึกถึงเรื่องนี้ ขึ้นมา....
ที่กระผมฯ กล่าวว่า..

ที่กล่าวมา กล่าวแสดงไว้ ก็ด้วย "หวังดี" ด้วยใจจริง

แต่เมื่อถึงเวลานี้ ผมก็เกิด "ความเบื่อ"
และคิดได้ว่า.. พอควร แก่เวลา ของกระผม แล้ว

ที่ผ่านมา หากบังเอิญ คำพูด ไป "ขัดจิต" หรือ "ไม่พึงใจ" ต่อท่านใด ก็ตาม
ก็โปรด อย่าได้ถือความ.. ขอให้คิดเสียว่า เป็นเสียงหมา มันเห่าหอน

ความกังวลใจ ก็เกิดขึ้น....
เพราะว่า คำกล่าวออกจากวาจา (คำเขียน) ของกระผม ก็จริงอยู่....

แต่ทว่า คุณความดี ความรู้ ความเข้าใจ ในพระศาสนา
ที่ซึมซับรับมา ก็ต้องเนื่องด้วย คำแนะนำ สอนสั่ง จากครู อาจารย์
ซึ่งนำมาจากคำตรัสสอน ของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า

การที่ผมกล่าววาจา ว่า....

ที่ผ่านมา หากบังเอิญ คำพูด ไป "ขัดจิต" หรือ "ไม่พึงใจ" ต่อท่านใด ก็ตาม
ก็โปรด อย่าได้ถือความ.. ขอให้คิดเสียว่า เป็นเสียงหมา มันเห่าหอน

ข้อนี้ จึงเป็นความเลว อันแท้จริงของกระผม
หากผมคิดเอง รู้เอง กล่าววาจาเอง ก็เท่ากับว่า ผมเลวเอง

แต่ทว่า สิ่งที่กระผมซึมซับรับมา
ย่อมรู้ได้จากการสอนสั่ง ของครู อาจารย์ สืบ ๆ กันมา

ดังนั้น การกล่าววาจาเช่นนี้
ก็เท่ากับว่า ไม่เคารพ ครู อาจารย์ และพระธรรมคำตรัสสอน
อย่างนี้ คือ เลวแท้จริง

กระผม ได้น้อมสำนึกแล้ว

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
อุกาสะ ทะวารัตตะ เย นะกะตัง

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
อุกาสะ ขะมามิ ภันติ

กรรมใดที่ข้าพระพุทธเจ้า ได้ประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินพระรัตนตรัย
ด้วยความโง่เขลา เบาปัญญา ด้วยความไม่ตั้งใจ ก็ตาม

ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระธรรม พระอริยสงฆ์
พรหม เทวา ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา

ได้โปรดอดโทษ ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า นับตั้งแต่บัดนี้
ตราบเท่าเข้าสู่ พระนิพพาน ด้วยเทอญ

กราบ..
กราบ..
กราบ....

................................................................................................

 

​

เนื่องในวาระดิถี ขึ้นปีใหม่ 2552

ขอกล่าวอ้าง บุญราศี บารมีแห่งทาน ศีล ภาวนา
ที่พวกเราต่างได้บำเพ็ญไว้ดีแล้ว ตั้งแต่ต้น ถึง ณ บัดนี้

รวมถึง คุณความดี ที่กระผมได้เพียรสร้างไว้แล้ว
อันจะก่อเกิดอานิสงส์ มาก น้อย เพียงใดก็ตาม

ด้วยบุญกุศล ที่พวกเราต่างได้บำเพ็ญกันมา
ขอจงโมทนาในบุญของกันและกัน

ขอกราบอาราธนาบารมี คุณแห่งพระไตรรัตน์
บุญฤทธิ์ของพรหม เทพเทวา นานาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ด้วยบุญราศี ที่พวกเราได้บำเพ็ญไว้ดีแล้ว

ขอคุณพระไตรรัตน์ พรหม เทพเทวา นานาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
โปรดจงเปิดช่องทางที่เป็นกุศล ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
ให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้รับอานิสงส์อันดี ที่ได้บำเพ็ญไว้

มีความสุขกาย มีความสบายจิต และมีความสุขใจ
มีความรุ่งเรืองขึ้น ในทางทางโลก
มีความเจริญขึ้น ในทางธรรม

ได้เข้าถึงความสำเร็จ
ตามความมุ่งมาด ปรารถนา ที่ได้ตั้งใจไว้ดีแล้ว

จงทุกประการ

เทอญ.

..............................................................................................

 

ท่านพุทธทาส ปัจจุบันนี้อยู่โลกันตนรกครับ เนื่องจากท่านจงใจคัดค้านพระอภิธรรมโดยเฉพาะ เพราะท่านกล่าวสั่งให้ตัดพระอภิธรรมทิ้ง ทั้งๆที่พระอภิธรรมได้บรรยายเรื่องนรกสวรรค์ไว้โดยพิสดารอยู่แล้ว พร้อมด้วยเหตุปัจจัยครบถ้วน ความจริงของชีวิตเรื่องภพภูมิ มีอยู่ในพระอภิธรรมครับ ไม่เชื่อก็ลองค้นพระไตรปิฎกดู คุณพุทธทาสบังอาจมาลบหลู่อรรถกถาจารย์ บังอาจมาลบหลู่พระธรรมวินัยที่พระพุทธองค์สั่งให้เป็นพระศาสดาแทนพระองค์ พุทธทาสได้แต่งกลอนบิดเบือนพระธรรมวินัยด้วยอักษรอันวิจิตรของท่านได้พาท่านลงนรกขุมโลกันต์ไปเรียบร้อย น่าเวทนายิ่งนัก

 

พระอภิธรรมมัตถสังคหปริเฉทที่5 ก็มีกล่าวถึงภพภูมิโดยละเอียด

(ในที่นี้มาจากพระอภิธรรมปิฎกวิภังค์ เล่มที่78)

http://www.abhidhamonline.org/aphi/p5/003.htm​