ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เอ่อ

ขออนุญาต นะครับ อันนี้ไม่รู้จะช่วยได้บ้างมั้ย

พอดีได้รับคำแนะนำจากคุณอา ลูกศิษย์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ น่ะครับ

ท่านว่า ( ไม่ทราบว่าท่านทราบมาจากไหน ) ท่านแนะนำให้ใส่บาตรเป็นสังฆทาน หรือถวายสังฆทาน ให้แก่ท้าวมหาชมพูบดี แล้วบอกท่านให้ช่วยให้คนใครอบครัว ชื่อ ( บอกชื่อ*นามสกุลคนในครอบครัว ) ให้รอดพ้น ให้หาย ให้ไม่เป็น โรคระบาดร้ายแรงต่าง ๆ ครับ

ก็ ตามความเชื่อนะครับ

สวัสดีครับ

 

มิน่าละ มดดำมันหนีขึ้นมาอยู่ชั้น5ได้สองสามวันแล้วก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันเพราะปกติไม่เคยมีมดมาวิ่งในห้อง

 

คุณธีรยุทธ เท่าที่ผมได้ข้อมูลมาช่วงพายุนากรีสยังเข้าเข้าไม่ถึงพม่า พระองค์ทรงสั่งทำฝนเทียมตลอดแนวตะวัตกของประเทศไทยเพื่อสร้างแนวความกดอากาศสูง(อากาศเย็น)เพื่อเป็นแนวปะทะต่อทิศทางการเคลื่อนที่ของพายุทำให้พายุนากรีสเปลี่ยนทิศตั้งฉากขึ้นทางเหนือของประเทศพม่า่ ไม่ต้องเข้าประเปศไทย พระองค์ฉลาดสุดๆเลยครับ ไม่แน่ใจว่าพอเข้าใจธรรมชาติของพายุหมุนนี้หรือเปล่า คือพายุนี้เกิดขึ้นจากความกดอากาศต่ำ หากเจออากาศความกดสูงมันจะเสียทิศทางการเคลื่อนที่หรืออาจะสลายตัวได้เลย

 

หนู ในร้านปกติ มันจะมาอยู่ในถังขยะและในครัวตลอดแม้ว่าจะเดินเข้ามาดูและไล่มันบ่อยแค่ไหน เข้าครัวทุกครั้งจะเจอมันตลอด แต่ เมื่อคืนนี้มันเงียบจนวังเวง และ ไม่มีวี่แววของหนู 2-3 ตัวนั้นเลย ฝนก็ตกแต่เสียงอึ่งอ่าง คางคกเงียบกริบ มันแปลกดีน่ะ - -"

 

เกษตรฯ ประชุมรับมือน้ำท่วม​

​

กระทรวงเกษตรฯ 17 ก.ค.-กระทรวงเกษตรฯ ประชุมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม รัฐมนตรีเกษตรระบุว่า สถานการณ์ฝนยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่เป็นห่วงพายุจรและฝนที่อาจตกท้ายเขื่อน ซึ่งคาดว่าจะมีพายุหมุนเขตร้อนเข้าไทย 2-3 ลูกในฤดูฝนนี้

รายงานการประชุมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องแนวทางปฏิบัติเตรียมรับสถานการณ์ภัยธรรมชาติ ที่โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ ระบุว่า ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน คาดว่าจะมีพายุหมุนเขตร้อน 2-3 ลูกเคลื่อนเข้าสู่ในตอนบนของประเทศ และภาคใต้ในเดือน ต.ค.ถึง พ.ย. ซึ่งจะทำให้มีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ย้ำกับข้าราชการเรื่องการประสานงาน และเตรียมการให้พร้อมทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดภัยธรรมชาติ

ส่วนการเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยนั้น ขณะนี้เขื่อน 2 แห่ง คือ เขื่อนแควน้อยและเขื่อนกิ่วคอหมา ก่อสร้างเสร็จพร้อมรับน้ำรวม 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนสภาพอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีน้ำเพียงร้อยละ 48 พอที่จะรับน้ำเพิ่ม แต่ที่ตนเป็นห่วงคือพายุจรที่อาจจะตกท้ายเขื่อน และการที่ฝนตกกระจุกตัวเป็นบางพื้นที่ นายธีระย้ำว่า ปีนี้จะไม่มีการระบายน้ำเข้าพื้นที่เกษตรในภาคกลาง แต่จะระบายน้ำในลุ่มเจ้าพระยา ออกทั้งสองฝั่ง

ขณะเดียวกันอธิบดีกรมชลประทานได้นำสื่อมวลชนไปติดตามการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก โดยได้ยืนยันว่า สามารถรับน้ำเหนือได้อย่างแน่นอน โดยด้านตะวันออกจะระบายน้ำออกทางแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำนครนายก ส่วนเขื่อนกันน้ำสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังก่อสร้างจะเสร็จทันรับสถานการณ์ปีหน้า จะลดจำนวนวันน้ำท่วมขังจากเดิม 10 วันเหลือ เพียง 2-3 วัน.-สำนักข่าวไทย

2009-07-17 16:05:21

ที่มา http://news.mcot.net/

 

ไต้ฝุ่นโมลาเว คร่าชีวิตคนในฟิลิปปินส์ 3 คน​

​

มะนิลา 18 ก.ค.- เจ้าหน้าที่เผยว่า พายุไต้ฝุ่นโมลาเวที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และไร้ที่อยู่อีกเกือบ 100,000 คน โดยพายุทวีกำลังแรงขึ้น และกำลังเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ในวันนี้

ผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นโมลาเว เป็นเด็กชายวัย 13 ปีคนหนึ่งที่จมน้ำเสียชีวิตในเมืองคาลูกัน ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา และชายวัย 32 ปีที่เสียชีวิตจากไฟดูดในจังหวัดอีโลกอส ทางภาคเหนือของประเทศ ส่วนอีกรายเป็นทารกเพศหญิงที่จมน้ำเสียชีวิตในจังหวัดอิโลอิโล หลังเกิดน้ำท่วมบ้าน

พายุไต้ฝุ่นโมลาเว ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดที่ศูนย์กลางพายุ 95 กม./ชม. และกระแสลมแรง 120 กม./ชม. ได้เคลื่อนตัวไปทางเกาะบาตาเนส ซึ่งอยู่เหนือสุดของฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ สำนักอุตินิยมวิทยาคาดว่า ไต้ฝุ่นโมลาเวจะเคลื่อนตัวพาดผ่านพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของจีนภายในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ดี เมื่อเช้านี้ยังคงมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของกรุงมะนิลา และคาดว่าจะมีฝนตกต่อไปในช่วงที่พายุกำลังเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์

สำนักป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนฟิลิปปินส์ ระบุว่า อิทธิพลของพายุทำให้ประชาชนเกือบ 23,000 ครัวเรือน หรือราว 95,000 คน ในกรุงมะนิลา และแถบปริมณฑล รวมทั้งพื้นที่ทางภาคเหนือต้องไร้ที่อยู่ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อศูนย์กลางทางการเงินในกรุงมะนิลา และทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องปิดการซื้อขายชั่วคราวด้วย.- สำนักข่าวไทย

2009-07-18 14:52:06

ที่มา http://news.mcot.net

 

ก็คงประมาณนั้นน่ะครับผม พอพายุสงบผมก็ได้เดินทางไปที่พม่า ก็ได้ทราบข้อมูลบางส่วน ว่า ตอนที่ UN พยายามจะเข้าไปช่วยนั้น ทางรัฐ ของ พม่าเองกลับปฏิเสธ จนต้องให้ทาง ASIAN เองเข้าไปพูด ถึงยอมให้ทาง UN เข้าไป แต่! จะมีใครรู้บ้างครับ ว่า รัฐบาลของพม่า ได้บอกกับประชาชนว่า UN จะเข้ามาช่วยเหลือเฉพาะ วันเสาร์-อาทิตย์ แต่กลับบอกทาง UN ว่าให้เข้ามาช่วยเหลือเฉพาะวัน จันทร์-ศุกร์ นั้นหละครับ จะเจอกันได้ยังไง ช่วง วันจันทร์-ศุกร์ ตามถนนข้างทางจะ ไม่มีประชาชนพม่า มารอรับของที่ทาง UN เข้ามาช่วยเลย ส่วนวัน เสาร์-อาทิตย์ จะมีคนมารอรับของบริจาคเต็มถนนข้างทาง แต่ไม่มี UN เข้ามา ผมเคยมีคลิป (ไม่รู้อยู่ Drive ไหน) ตำรวจจะถูกประชาชนทำร้ายเนื่องจากขอน้ำกินแต่ตำรวจไม่ให้กินครับ ผมยอมรับว่าประเทศพม่ายังเป็นประเทศที่ปิดมาก เกี่ยวเนื่องกันหลายเรื่อง ตอนที่ผมเดินทางไป ช่วงขึ้นเหนือไปนิดนึงก็เป็น ทุ่งทะเลท่อนไม้สัก มหาศาลมาก ขึ้นไปอีก ไม่แน่ใจว่าเป็นเหมืองอะไร รถพ่วงจอดข้างทางต่อคิวกันนับได้มากกว่า 200 คัน เข้าไปทางถ้ำ ไกลๆ ทรัพยากรพม่า มีมากเกินกว่าที่คิดไว้ครับ ตัวอย่างเช่นใน จะมีโรงแรมหนึ่ง เขา จะเอา หยก นน.กว่า 34 ตัน มาตั้งโชว์เลย ผม ถามเขาบอกว่านี้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ภูเขาทั้งลูกเป็นหยกทั้งหมดเลยก็มีเขาบอกว่ามีแต่จำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ที่พม่า ทางรัฐบาลพยายามปิดหูปิดตา ประชาชนมากครับ

 

สวัสดีค่ะทุกท่าน
ทุกทีก็จะเป็นคนอ่านข้อความดีๆๆๆๆๆๆและความรู้ที่มีประโยชน์มากๆๆๆๆ จากพี่ๆๆๆทุกคนในห้องนี้ ต้องขอบคุณมากนะคะที่คอยช่วยให้ความรู้และเตือนภัย

แต่วันนี้มันเกิดอาการคันไม่คันมืออยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตและมุมมองของคนไทยกับไข้หวัดตัวนี้ แต่ขอเกริ่นไว้ก่อนว่า อาจจะเป็นแค่มุมมองของที่บ้านของหนูกับสังคมรอบข้างนะคะ

เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้หนูก็มาเรียนหนังสือที่อเมริกาทางบ้านก็จะเป็นห่วงหนักมากเรื่องเกี่ยวกับไข้หวัดที่นี่แต่ขอบอกตรงๆๆเมืองที่หนูอยู่ ซานฟราน คนที่นี่มองเรื่องไข้หวัดเป็นเรื่องเล็กๆๆ เพราะทุกคนแค่บอกว่าถ้าป่วยก็ต้องอยู่บ้านและในโรงเรียนของหนูก็จะมีเจลทำความสะอาดมือแทบจะทุกจุดในโรงเรียน เท่าที่เห็นเวลาทุกคนเข้ามาในโรงเรียนก็จะกดเจลล้างมือกันแทบทุกคน อันนี้ในความเห็นส่วนตัวก็ดีนะที่ทุกคนทำเรื่องนี้เป็นเหมือนเรื่องสำคัญถึงแม้จะไม่มีใครเคยยกเรื่องนี้เข้ามาพูดเป็นหัวข้อสนทนากันเท่าไหร่

รู้สึกจะเกริ่นสะเนิ่นนานกลับมาที่เมืองไทย คุณแม่ก็เป็นคุณครูสอนหนังสือ เราก็ด้วยความที่เป็นห่วงคุณแม่คุณพ่อก็จะคอยสลับถามว่าเป็นอย่างไร คุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า ที่โรงเรียนคุณแม่นี่แปลกมาก สมัยก่อนที่จะมีไข้หวัดตัวนี้เด็กนักเรียนก็จะคอยเอาแต่โดดเรียนอ้างว่าป่วยเป็นหวัดบ้างละ แต่พอมีไข้หวัดตัวนี้ เด็กที่ป่วยกลับไม่ยอมลาโรงเรียน แม่ก็ถามเด็กว่าทำไมไม่หยุดเค้าก็ตอบว่า เค้ากลัวเพื่อนๆๆๆประนามว่าตัวเองเป็นไข้หวัดและเป็นคนที่จะแพร่ระบาดเชื้อ พูดง่ายๆๆก็กลัวสังคมรังเกียจ คุณแม่ก็เอาหน้ากากให้ใส่ เด็กก็ไม่ยอมใส่ เพราะอายเพื่อน คุณแม่ก็ได้แต่บอกว่ากลุ้มใจ

แล้วก็อีกเรื่องค่ะเวลาที่คุณแม่ไปเดินซื้อของที่ตลาดก็จะพยายามใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตัวเอง แต่กลับโดนคนรอบข้างมองด้วยความรังเกียจ ว่าเป็นหวัดหรืออาจจะเป็นคนแพร่เชื้อ ยิ่งตอนที่ที่บ้านไปทำบุญเข้าพรรษาทุกคนในครอบครัวก็ใส่หน้ากากกันหมด แต่เรื่องที่ตลกมาก็คือไม่มีใครกล้านั่งใกล้ครอบครัวหนู ทุกคนกลับที่จะกล้าไปนั่งใกล้ๆๆ คนที่ไม่ได้ใส่หน้ากาก แถมบางคนก็ไอก็จามทั้งที่เค้าไม่มีหน้ากาก แต่ทุกคนก็พอใจที่จะนั่งใกล้เค้ากัน

เฮ้อ พอหนูฟังจากที่คุณแม่เล่าก็ เออทำไมคนที่นี่ถึงไม่กลัวกันบ้างนะ แต่คุณแม่บอกว่าใครจะมองยังไงเค้าก็ไม่กลัวเพราะเค้าไม่อยากจะติดไข้หวัดนี้เพราะยังต้องทำงานส่งเสียลูกๆๆๆ

วันนี้หนูเลยอยากจะเล่าให้ทุกท่านฟังค่ะเพราะมันอึดอัดใจมากว่าทำไมทุกคนถึงไม่ตระหนักกับเรื่องนี้แล้วช่วยกันป้องกันตัวเองจากไข้หวัดนี้ หนูเลยอยากทราบว่าเคยมีใครมีเหตุการณ์แบบนี้เหมือนที่คุณแม่หนูเจอมาบ้างค่ะ

 

โลกก็เป็นเช่นนี้แล.....

 

ผมเคยคุยกับคุณ Falkman นานเกือบ 2 เดือนแล้วว่าไวรัสหวัดใหญ่ 2009 ตัวนี้เหมือนถูกออกมาให้มีคุณสมบัติที่กลายพันธุ์ได่ง่าย และยิ่งมีการใช้ยาทามิฟลูมากก็จะยิ่งทำให้เชื้อกลายพันธุ์ง่ายยิ่งขึ้นอีกมาก คุณ Falkman ยังบอกผมมาเรื่องการใช้ยาเขียวรักษาและป้องกัน ผมเชื่อว่าภายใน 2 ปีนี้เชื้อจะกลายพันธุ์จนมีคนเสียชีวิตจำนวนมากอาจจะเป็นเรือนแสนสำหรับประเทศไทยและอาจจะเป็นหลักสี่ร้อยล้านคนทั่วโลก ก็คงต้องจับตาดูกันต่อไป การฉีดวัคซีนหากเชื้อกลายพันธุ์ไปวัคซีนที่เคยฉีดก็จะไม่มีผลต่อเชื้อที่กลายพันธุ์ ต่อไปการรักษาต้องพึ่งการสร้างภูมิต้านทานของตัวเราเองเป็นหลักครับภูมิต้านทานของมนุษย์อยู่ที่การฝึกจิตให้ใสและสว่างครับ เร่งๆฝึกกันนะครับ

 

ขอแจมด้วยคนนะครับ เกี่ยวกับเรื่องพระเจ้านี่ เพราะผมก็เป็นอีกผู้หนึ่ง ที่อ่านมามาก แปลมามากพอสมควร
เกี่ยวกับเรื่องพระเจ้าและมนุษย์ต่างดาวนี่

ในขณะเดียวกัน ผมเองก็เหมือนพี่เกษม ที่เป็นศิษย์สายธรรมกาย (ด้วย) อยู่เหมือนกัน

ถ้าพระพุทธเจ้า มี 3 ฝ่าย คือ ภาคดำ ภาคขาว และภาคไม่ดำไม่ขาว แล้วหละก็

ผมจะขอแสดงความคิดเห็นด้วยปัญญาเท่าที่ผมมีอยู่น้อยนิดนี่แหละว่า

เรื่องพระเจ้านั้น ถึงแม้ว่า ต่อให้อาจจะไม่ใช่มาจากพระพุทธเจ้าภาคขาว ก็ไม่น่าลงไปถึงภาคดำได้

เพราะคำสอนต่างๆ พลังต่างๆที่คนทั่วโลกสัมผัสได้ เป็นพื้นฐานของ "พลังแห่งความรักแบบไม่มีเงื่อนไข"
และพลังแห่งความเมตตาปราณี"

ดังนั้น ผมคิดว่า เราลืมนึกถึงอีกภาคหนึ่งไปหรือเปล่า นั่นก็คือ "ภาคไม่ดำไม่ขาว"

พระองค์ (อาจจะ) ไม่ได้มีเจตนาร้ายที่จะฉุดให้ใครตกนรกหมกไหม้ แต่ก็ (อาจจะ) ไม่ได้อยากขนคนเข้านิพพานจนหมดซะทีเดียว

พระองค์จึง (อาจจะ) สอนเรื่องชีวิตที่เป็นอมตะ ให้มีความรักความเมตตาต่อกัน ให้อยู่กันอย่างปรองดอง
ผู้ที่เข้มแข็งกว่า ก็ช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า

และทางเลือกที่พระองค์ (อาจจะ) แนะนำ ก็คือ

1. ถ้าบรรลุแล้ว จะเลือกเข้านิพพานก็ได้
2. หรือจะไม่เข้านิพพานก็ได้ แต่ไปอยู่ที่มิติอื่นๆ ไปพัฒนาตัวเองต่อไป
ไปช่วยรูปธรรมอื่นๆ ในมิติอื่นๆ และไปเล่นละครชีวิตในมิติอื่นๆต่อไป
3. อยู่บนโลกนี้ต่อไป แบบเป็นอมตะ เพื่อคอยช่วยเหลือชาวโลกต่อไป

เพราะถ้าถามผมในแง่มุมนี้นะ เข้าหรือไม่เข้านิพพาน ก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย
เพราะว่า ยังไงเสียจักรวาลมันก็ดำเนินต่อไปของมันเช่นนั้น ชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีเบื้อต้น ไม่มีบั้นปลาย
ดังนั้น ผู้ที่เข้านิพพานไปก่อน ก็หลบหนีความทุกข์ไปนั่งเล่นในนิพพานก่อนแล้ว
ส่วนผู้ที่ยังไปไม่ถึงนิพพาน ก็ขวานขวายกันต่อไป เวียนว่ายตายเกิดกันต่อไป

แต่ถามว่าผู้ที่ไปนั่งเล่นในนิพพานแล้วหายไปไหนไหม๊ ก็ยังไม่หายไปไหน แค่นั่งเอิบอิ่มกับความสุขไปวันๆเท่านั้นเอง

ย้ำนะครับว่า อันนี้ ถ้าคิดบนพื้นฐานของมุมมองนี้ ก็จะเห็นเป็นประมาณนี้ ดังนั้น สายมหายานทั้งหลาย
จึงนิยมมีพระโพธิสัตว์ที่บรรลุแล้ว (ถ้าอยากแย้ง ขอให้กลับไปอ่านคำว่า "สายมหายาน" ใหม่นะครับ)
แต่ไม่ยอมเข้านิพพาน จึงคงดำรงอยู่ในภพทั้งสาม เพื่อคอยโปรดสรรสัตว์ อันเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่า
การที่หนีทุกข์ไปโดยลำพังคนเดียว (สมชื่อกับคำที่เขาเรียกเราว่า "หินยาน" = ยานลำเล็กๆ)

อันนี้แค่ความคิดผมนะครับ ไม่มีอ้างอิงใดๆทั้งสิ้น ผิดหรือถูกก็มิอาจทราบได้ เพราะผมยังไม่รู้แจ้งหนะครับ


............................

 

ทรงบำเพ็ญทุกกรกริยานานถึง 6 ปี เพราะโทษของวจีกรรม​

วาระแห่งกรรม เมื่อยังไม่ถึงเวลาก็ยังพอผ่อนผันไปได้ แต่เมื่อถึงเวลาแล้วก็ไม่มีใครสามารถจะหลีกเลี่ยงไปได้

กรรมของพระพุทธเจ้า (อย่างย่อ) จากพระไตรปิฎก

พระพุทธเจ้าของเราทรงเผยพระประวัติกรรมและผลของกรรมของพระองค์ กับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ขณะประทับเหนือพระศิลาอันน่ารื่นรมย์ใกล้สระอโนดาด

ทรงกล่าวว่าครั้งหนึ่ง เห็นภิกษุผู้อยู่ป่ารูปหนึ่งจึงได้ถวายผ้าท่อนเก่า โดยตั้งปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ผลแห่งกรรมอันเนื่องด้วยผ้าท่อนเก่านั้น ได้สำเร็จในความเป็นพระพุทธเจ้า

ครั้งหนึ่งเคยเป็นนายโคบาล ต้อนแม่โคไปสู่ที่หากิน เห็นแม่โคดื่มน้ำขุ่นจึงห้ามไว้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นในภพสุดท้ายนี้ พระองค์กระหายน้ำ จึงไม่ได้ดื่มตามต้องการ เพราะเคยให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาถวาย พระอานนท์ไปแล้วไม่ตักมาบอกว่าน้ำขุ่น ต้องตรัสย้ำให้ไปตักใหม่เป็นครั้งที่สอง จึงได้น้ำใสกลับมาเพราะน้ำขุ่นนั้นกลับใส

ชาติหนึ่งเคยเป็นนักเลงชื่อปุนาลี ได้กล่าวใส่ความพระปัจเจกพุทธเจ้า พระนามว่าสุรภิผู้มิได้ประทุษร้าย ด้วยผลแห่งกรรมนั้นต้องไปท่องนรกสิ้นกาลนาน เสวยทุกขเวทนาสิ้นพันปี ด้วยกรรมที่เหลือในภพสุดท้ายก็ถูกใส่ความ เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกา ซึ่งเป็นนักบวชหญิงถูกพวกเดียรถีย์ใช้ให้ทำเป็นไปค้างคืนกับพระสมณโคดม ให้ใครต่อใครหลงผิดทั้งที่นางค้างที่อื่น แต่รุ่งเช้าก็ทำท่าโผเผมาจากเชตวนาราม อีกสองสามวันที่มีคนโจษจันกัน พวกเดียรถีย์ก็จ้างนักเลงไปฆ่านาง ป้ายความผิดว่านางถูกฆ่าปิดปาก คนสงสัยว่าอาจจะจริง ร้อนถึงพระราชาส่งราชบุรุษไปสืบดูตามร้านสุรา ก็จับนักเลงที่ฆ่ากับเดียรถีย์ที่จ้างฆ่ามาลงโทษหมด

อีกชาติหนึ่งเป็นพราหมณ์ผู้มีความรู้ มีผู้เคารพสักการะ สอนมนต์แก่มานพ 500 ได้ใส่ความภีมฤษีผู้มีอภิญญา มีฤทธิ์มาก หาว่าฤษีนี้เป็นผู้บริโภคกาม มานพทั้งหลายก็พลอยชื่นชม เมื่อไปภิกขาจารในสกุลก็เที่ยวกล่าวแก่มหาชนว่าฤษีนี้เป็นผู้บริโภคกาม ผลของกรรมนั้นภิกษุ500 เหล่านี้ทั้งหมดก็พลอยถูกใส่ความด้วย เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกาทีถูกนักเลงฆ่าป้ายความผิดให้พระพุทธองค์ ภิกษุทั้งหลายที่อยู่ในเชตวนาราม พลอยถูกหาว่าร่วมกันฆ่าปิดปากนางสุนทริกา และถูกด่าว่า กระทั่งพระราชาจับนักเลงและเดียรถีย์ที่ร่วมกันฆ่านาง จึงสงบ

อีกชาติหนึ่งไปกล่าวใส่ความพระสาวกของพระสัพพาภิภูพุทธเจ้า มีนามว่านันทะ จึงต้องท่องไปในนรกหลายหมื่นปี เมื่อเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ถูกใส่ความมาก และด้วยกรรมที่เหลือ ชาติสุดท้ายนี้จึงถูกนางจิณจมาณวิกา ใส่ความว่าพระองค์ทำให้นางตั้งครรภ์

ชาติหนึ่งเคยฆ่าน้องชายต่างมารดาเพราะเหตุแห่งทรัพย์ ผลักลงในซอกเขา เอาหินทุ่ม ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงถูกพระเทวทัตเอาหินทุ่มที่เขาคิชกูฏ จนสะเก็ดหินกระเด็นถูกหัวแม่เท้า ห้อพระโลหิตในชาติสุดท้าย

อีกชาติหนึ่งเป็นเด็กเล่นอยู่ในทางใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงเผาสิ่งต่างๆขวางทางไว้ ผลกรรมนั้น ในภพสุดท้ายจึงถูกพระเทวทัตส่งคนตามล่า

ชาติหนึ่งเป็นนายควาญช้าง ไสช้างไล่กวดพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เที่ยวไปเพื่อบิณฑบาต ผลแห่งกรรมนั้น ชาติสุดท้ายถูกช้างนาฬาคิรีดุร้ายเมามัน วิ่งเข้ามาเพื่อทำร้ายในนครอันประเสริฐมีภูเขาเป็นคอกคือกรุงราชคฤห์ ซึ่งมีภูเขาห้าลูกแวดล้อม

อีกชาติหนึ่งเป็นพระราชา เป็นหัวหน้าทหารเดินเท้า ฆ่าบุรุษหลายคนด้วยหอก ผลแห่งกรรมนั้น ต้องหมกไหม้อย่างหนักในนรก ด้วยผลที่เหลือแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้าย สะเก็ดแผลที่เท้ากลับกำเริบ กรรมยังไม่หมด

ชาติหนึ่งเคยเป็นเด็กชาวประมง ในหมู่บ้านชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาก็มีความชื่นชม ด้วยผลของกรรมนั้นจึงเกิดเจ็บที่ศรีษะ ในขณะที่วิทูฑภะฆ่าพวกศากยะในกรุงกบิลพัสด์

อีกชาติหนึ่งเคยบริภาษพระสาวกในพระธรรมวินัยของพระผุสสพุทธเจ้า ว่าท่านจงเคี้ยว จงกินข้าวเหนียวเถิด อย่ากินข้าวสาลีเลย ผลแห่งกรรมนั้นในชาติสุดท้ายนี้ ต้องบริโภคข้าวเหนียวอยู่สามเดือน เมื่อพราหมณ์นิมนต์ไปอยู่เมืองเนรัญชา แล้วลืมถวายอาหาร ได้อาศัยพ่อค้ามาถวายข้าวเหนียวแดงที่มีไว้ให้ม้ากิน

ชาติหนึ่งสมัยที่ไม่มีพระพุทธเจ้า เคยทำร้ายบุตรนักมวยปล้ำ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงเจ็บที่หลังเรื่อย

ชาติหนึ่งเคยเป็นหมอ แกล้งให้ยาถ่ายแก่บุตรเศรษฐี เป็นยาถ่ายอย่างแรง ถึงแก่ชีวิต ผลแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้ายนี้ จึงเป็นโรคปักขันทิกะลงพระโลหิต

อีกชาติหนึ่งได้ชื่อว่าโชติปาละ เคยกล่าวกับพระสุคตพระนามกัสสปะว่า การตรัสรู้เป็นของได้โดยยาก ท่านจะได้จากควงไม้โพธิ์ที่ไหนกัน ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้ายนี้ต้องบำเพ็ญทุกกรกริยาเป็นอันมาก สิ้นเวลาถึงหกปี ต่อจากนั้น จึงได้บรรลุการตรัสรู้

“เรามิได้บรรลุการตรัสรู้โดยทางนั้น ได้แสวงหาโดยทางที่ผิด เพราะถูกกรรมเก่าทวงเอา” พระองค์ทรงหมายถึง มิได้ปฏิบัติธรรมบรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในทันทีเลย ต้องไปหลงผิดปฏิบัติทางอื่นอยู่หกปี อดอาหารจนแทบสิ้นชีวิตเมื่อบำเพ็ญทุกกรกริยา เปลี่ยนมาฉันอาหารอีก ทำให้ปัญจวัคคีย์โกรธเลิกนับถือหาว่าไม่มั่นคง แต่ภายหลังเมื่อพระองค์ทรงปฏิบัติถูกทางจนบรรลุธรรม ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วจึงไปโปรดปัญจวัคคีย์ ให้หายโกรธ หายเข้าใจผิด

พระพุทธองค์ทรงสรุปการแสดงกรรมอันเกิดจากอดีตชาติทั้งหลายดังกล่าว “เราสิ้นบุญและบาปแล้ว เว้นแล้วจากความเดือดร้อนทั้งปวง ไม่มีความโศก ไม่มีความคับแค้นปราศจากอาสวะ จักปรินิพพาน”

กรรมและผลของกรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงให้ประจักษ์ มีเนื้อหาให้เห็นว่า กรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก แม้แค่แสดงความชื่นชมกับผู้หลงผิดคิดผิด ยังต้องรับกรรมเช่นภิกษุห้าร้อยรูป ที่พลอยรับกรรมถูกตำหนิด่าว่าเป็นผู้ร่วมกันฆ่านางสุนทริกาเพื่อปิดปาก ซึ่งไปกล่าวร้ายพระพุทธเจ้าว่าเสพกามกับนาง เนื่องมาจากกรรมสมัยเป็นมานพห้าร้อยคน ในสมัยพระองค์เป็นพราหมณ์สอนมานพนั้น โดยชื่นชมกับคำกล่าวหาใส่ความของพราหมณ์อาจารย์ที่ว่าฤษีบริโภคกาม

หรือสมัยพระพุทธองค์เป็นเด็กชาวประมง ได้ชื่นชมกับชาวประมงที่ฆ่าปลา ยังต้องรับกรรมเจ็บที่ศีรษะ เป็นต้น

ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=poivang&month=06-2007&date=10&group=4&gblog=11

 

กำจัดไวรัส H1N1 ด้วยโอโซน

ลองไปซื้อเครื่องทำโอโซน มาใช้สิครับ
อันละร้อยเดียวที่ห้างอมร

 

ต้องขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาถกในเว็บบอร์ดนี้ หากจะรับทราบเรื่องนี้ต้องมีภูมิธรรมพอสมควร อย่างน้อยใจต้องสว่างไสวยิ่งกว่าอาทิตย์ยามเที่ยงตลอดเวลา แต่หลายท่านเข้ามาติติงแวสดงความเห็นเชื่อมโยงไปยังความเห็นของผม เรื่องของพระผู้สร้างที่ผมติติงไปนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของธาตุธรรมทั้งสามฝ่ายเลย มันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เพราะยังเป็นแค่อุปาทานอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ได้ก้าวพ้นจากเรื่องทิฐิขึ้นไปสู่เรื่องที่ลึกซึ่งเลยด้วยซ้ำ ก็ขอยืนยันคำเดิมที่เตือนไปว่าในเมื่อศาสดาของศาสนานั้นๆ ตลอดจนสาวกและผู้ที่ดูแลศาสนาเหล่านั้น เขาไม่เคยคิดว่าพระเจ้าของเขาเป็นหนึ่งเดียวกับพระพุทธเจ้าแม้แต่น้อย สำหรับชาวคริสต์ พระพุทธเจ้าเป็นแค่ประกาสกของพระเจ้าเท่านั้น สำหรับศาสนาพราหมณ์พระพุทธเจ้าเป็นอาตารที่ 9 ที่มาหลอกลวงชาวโลกให้เลิกบูชาเทพเจ้า สำหรับอิสลาม ถ้าคุณไปบอกว่าพระพุทธเจ้าคืออัลเลาะห์ เขาถือว่าเป็นการหมิ่นศาสนาของเขาเลยด้วยซ้ำ หากไม่เชื่อก็ลองไปสอบถามเพื่อนต่างศาสนิกนั้นๆได้เลย ก็ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ทำไมชาวพุทธต้องไปวุ่นวายกับเรื่องของศาสนาอื่น ปล่อยเขาไปตามทางของเขา เราก็ศึกษาของเราให้ดี ไม่เห็นต้องไปดัดแปลงหลักธรรมของเราไปรองรับความเชื่อของคนอื่น เพราะถึงทำไป เพื่อนต่างศาสนิกเขาไม่ปลื้มด้วยแน่นอน จึงเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์จริงๆ
แน่นอนว่าทุกศาสนาสอนให้คนทำดี แต่ความดีก็ยังมีความแตกต่างกัน ไม่เช่นนั้นทำไมต้องมีศาสนาพุทธด้วย แม้สมัยพุทธกาลก็ยังมีลัทธิความเชื่อหลากหลาย ก็ล้วนสอนให้คนทำดีทั้งนั้น แต่ความดีนั้นไม่เหมือนกัน จุดมุ่งหมายก็แตกต่างกัน การแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ไม่ใช่การดัดแปลงหลักธรรมของเราให้กับเขา แต่หลักที่แท้จริงก็คือ "หากใครทำดี เราก็สนับสนุน"
เรื่องพระผู้สร้างอะไรทำนองนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้หมดแล้วว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ต้นสายปลายเหตุความเชื่อนี้เป็นมาอย่างไร ผมว่าท่านที่ติติงก็มีความรู้สูงอยู่แล้ว น่าจะค้นคว้าหามาศึกษาได้ไม่ยาก ถ้าอย่างไรก็เอาเรื่องความเชื่อส่วนตัววางไว้ ยึดตามที่พระพุทธองค์ทรงชี้ขาดไว้แล้วดีกว่า

 

ขอเพิ่มอีกอย่างนะครับ อันนี้เจอมากับตัวเองเมื่อตอนสึนามิ
แมลงสาบครับ คืนก่อนเกิดสึนามิตอนนั้น แมลงสาบออกมาเิดินเต็มทางท้าวไปหมดเลยครับ ตอนนั้นแปลกใจมาก วันต่อมาก็เกิดแผ่นดินใหวและสึนามิตามมา

 

เป็นแบบนี้ครับ

ที่เมืองไทยก็คล้ายๆกัน

อย่างผมใส่ก็เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อต่างหาก

และถ้าสังเกตุดู วันธรรมดาคนใส่หน้ากากอนามัยมากกว่า วันเสาร์อาทิตย์

เพราะ วันเสาร์ อาทิตย์เป็นวันไปเที่ยวกลัวไม่หล่อไม่สวย บ้าง อายเพื่อนบ้าง

ที่จริงมีอีกหลายวิธีการในการป้องกันโรค แต่ที่น่าห่วงในเรื่องไข้หวัดนี้ เพราะมันแพร่กระจายทางอากาศนี่ล่ะ

 

การที่ประเทศไทยเรา ได้ยกระดับความแพร่ขยายของโรคหวัด ครั้งนี้จนขึ้นสู่อันดับ ที่8 ของโลกนั้น

เป็นเพราะ "กรรม" อันเป็นวจีกรรม อันใหญ่ เพราะออกอากาศไปทั่วประเทศไทย


"โรคหวัดนี้ไม่ต้องไปตื่นกลัวอัะไร หายเองได้ไม่ต้องรักษา"

กรรมของท่านใด คณะใดนั้น กฏแห่งกรรมก็ย่อมส่งผล ของมันด้วยความยุติธรรมด้วยจิตที่อุเบกขา


ส่วนเราในฐานะประชาชนทั่วไปก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพตัวเราเองและคอยให้ข้อมูลกันเพื่อการป้องกันและเยียวยา


ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ท่านมีกฏว่า หากไม่เกินผลของกรรม ท่านจึงช่วยได้

และในขณะนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็ช่วยหลายคนให้หายจากโรคไข้หวัด นี้ ด้วย กำลังสมาธิบ้าง น้ำมนต์ด้วยอำนาจพุทธคุณบ้าง มามากมายครับ

แต่หากเราไม่ศรัทธาผลแห่งความศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่เกิด เป็นเรื่องธรรมดา


ดังนั้นโรคนี้ก็กลายเป็นเครื่องมือในการคัดแยก ผู้ที่ทรงไตรสรณะคมณ์ตั้งมั่นออกจาก ผู้ที่ยังมีวิจิกิจฉา ผู้ที่นับถือศาสนาแต่ในนาม แต่ยังไม่เข้าถึงพระรัตนไตรอย่างแท้จริงครับ

เรื่องนี้รวมไปถึงผู้ที่เข้าถึงความดีในของแต่ละศาสนาด้วย

 

ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีและให้ทำดีครับ มีสติทำใจให้สว่างกันดีกว่าครับ

 

เรื่องของมดดำที่บ้านผมแถวมีนบุรี สังเกตเห็นมาเกือบเดือนแล้วว่ามีการอพยพกันยกใหญ่ แต่วันนี้ลองตามไปดูว่าเค้าอพยพกันไปไหน ผลคือขึ้นไปบนยอดต้นไม้ สูงประมาณสามเมตร แล้วหายไปเลยครับ คาดว่าคงไปเจาะรูทำโพรงอยู่ในต้นไม้ หวังว่า น้ำคงไม่ท่วมเร็วกว่าที่คิดไว้นะครับ อันนี้เป็นข้อเท็จจริงหนึ่งที่เกิดขึ้นตรงบ้านผมครับ

 

ไต้ฝุ่นโมลาเวพัดถล่มภาคใต้ของจีน​

​

จีน 19 ก.ค.-ไต้ฝุ่นโมลาเวพัดถล่มพื้นที่ทางภาคใต้ของจีน ทำให้เกิดฝนตกหนัก จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คนและอีกนับแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย

หนังสือพิมพ์น่า เดลี รายงานว่า พื้นที่ในมณฑลเสฉวนมีฝนตกหนัก น้ำท่วมสูง และลมแรงจัด ชายฝั่งมีคลื่นสูง เนื่องจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นโมลาเว ส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 5,000 หลังคาเรือนใน 22 เขตของมณฑลได้รับความเสียหาย ป้ายจราจรและป้ายโฆษณาบางส่วนชำรุดเสียหาย จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน สูญหาย 5 คน ชาวบ้านกว่า 117,000 คน ต้องอพยพไปยังที่พักชั่วคราว เนื่องจากบ้านเรือนถูกพายุพัดพังเสียหาย

อย่างไรก็ดีไต้ฝุ่นลูกดังกล่าวจะเริ่มอ่อนกำลังและเคลื่อนตัวไปยังมณฑลกวางตุ้งแล้ว แต่อิทธิพลของไต้ฝุ่นก็ยังทำให้เกิดฝนตกหนักและพายุรุนแรง ไต้ฝุ่นโมลาเวถือเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 5 ที่พัดถล่มจีนในปีนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พื้นที่ทางภาคใต้ของจีนต้องเผชิญกับฝนตกหนักมาแล้วระลอกหนึ่ง ทำให้ชาวบ้านกว่า 5 แสนคนต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

2009-07-19 23:07:39

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย จากมรสุมภาคใต้ปากีสถาน​

​

การาจี 19 ก.ค. – ฝนตกหนักจากมรสุมที่นครการาจี ทางภาคใต้ของปากีสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 15 ราย และทำให้เกิดไฟดับในพื้นที่ส่วนใหญ่

ปริมาณน้ำจากฝนตกหนักเข้าท่วมบริเวณที่ลุ่มของนครการาจี ได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนหลายร้อยหลัง รวมทั้งแนวสายไฟฟ้าและสถานีจ่ายไฟจนส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับทั่วเมืองเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ก.ค.) แต่ขณะนี้ไฟฟ้าเริ่มใช้การได้แล้วบางส่วน ส่วนผู้เสียชีวิตจำนวนมากเกิดจากถูกไฟดูด โดยเชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจสูงขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยหลายจุด

ด้าน นายกามาร์-อุซ-ซามาน ผู้อำนวยการสำนักอุตุนิยมวิทยา ชี้ว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกในนครการาจี ตั้งแต่คืนวันที่ 17 ก.ค. จนถึงเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 14.7 เซนติเมตร โดยคาดว่าสถานการณ์ฝนฤดูมรสุมจะเริ่มคลี่คลายในช่วงค่ำวันนี้ พร้อมกันนี้ระบุว่า ฝนช่วงฤดูมรสุมมาถึงช้ากว่าปกติราว 15 วัน และคาดว่าปริมาณน้ำฝนในปีนี้จะต่ำกว่าปกติราวร้อยละ 30.- สำนักข่าวไทย

2009-07-19 15:58:16

ไต้ฝุ่นถล่มฮ่องกง ยังไม่กระทบการบิน​

​

ฮ่องกง 19 ก.ค. - ฮ่องกงเผชิญพายุไต้ฝุ่นพัดกระหน่ำรุนแรง แต่ยังไม่ถึงขนาดกระทบการจราจรทางอากาศ

เกาะฮ่องกงเผชิญพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มตั้งแต่ช่วงบ่ายวันเสาร์ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกรุนแรงในช่วงกลางคืน ทางการต้องเร่งปลดป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์กีฬากลุ่มชาติเอเชียตะวันออกลงเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ความเร็วลมพายุอาจสูงเกินกว่า 100 กม. ต่อชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม การจราจรทางอากาศตามสนามบินในฮ่องกงยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก และดรากอนแอร์ อยู่ระหว่างพิจารณาเลื่อนหรือย้ายสนามบินลงจอด ส่วนสายการบินอื่น ๆ ประกาศแนะผู้โดยสารให้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของเที่ยวบินในเว็บไซต์. -สำนักข่าวไทย

2009-07-19 05:08:07

ฝนตกหนักในเกาหลีเหนือ เกรงจะเกิดอุทกภัยรุนแรง ​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต
​

โซล 19 ก.ค.- เกิดฝนตกหนักในกรุงเปียงยางและพื้นที่หลายแห่งของเกาหลีเหนือ ทำให้วิตกว่าจะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เหมือนเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนและไร่นาได้รับความเสียหายมหาศาล

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ รายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในภาคกลางและใต้ของเกาหลีเหนือ เมื่อวันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา วัดปริมาณน้ำฝนได้ 11.3 นิ้ว เฉพาะที่กรุงเปียงยาง วัดได้ 9.2 นิ้ว แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ก่อนหน้านี้ในปี 2550 ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนานติดต่อกันหลายวันทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายประมาณ 600 คน และไร้ที่อยู่อาศัยประมาณ 1 แสนคน อุทกภัยสร้างความเสียหายให้แก่พืชผลการเกษตรกว่าร้อยละ 11 ของทั้งประเทศ มีรายงานว่าในพื้นที่บางส่วนของประเทศวัดปริมาณน้ำฝนได้กว่า 26 นิ้ว และจากอุทกภัยครั้งนั้นส่งผลให้เกาหลีเหนือต้องขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ.- สำนักข่าวไทย

2009-07-19 15:46:47

โคลนถล่มฝังกลบบ้านในเยอรมนี สูญหาย 3 คน​

​

เยอรมนี 19 ก.ค. - เกิดเหตุโคลนถล่มในเยอรมนี ฝังกลบบ้านหลังหนึ่ง ทำให้มีผู้สูญหาย 3 คน

เหตุโคลนถล่มเกิดขึ้นบริเวณเนินเขาใกล้ทะเลสาบทางภาคกลาง โคลนจากเนินเขาไหลเททับบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีผู้อยู่อาศัย 3 คน เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยผู้สูญหายทั้ง 3 คนได้ เพราะยังอันตรายเกินไป เนื่องจากโคลนจากเนินเขายังเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง อาคารหลังหนึ่งในพื้นที่โคลนถล่ม ถูกโคลนพาเคลื่อนที่ลงไปยังที่ต่ำไกลราว 100 เมตร

สาเหตุโคลนถล่มครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่ชาวบ้าน 44 ครัวเรือน ได้รับคำแนะนำให้ย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้เนินเขาและทะเลสาบ ซึ่งเคยเป็นเหมืองถ่านหินและถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่ปี 2537. -สำนักข่าวไทย

2009-07-19 04:10:36

จีนเผยตำรวจยิงผู้ก่อม็อบที่ซินเจียงเสียชีวิต 12 คน ​

​

ปักกิ่ง 19 ก.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างนายนูร์ เบกรี หัวหน้าผู้บริหารเขตปกครองตนเองซินเจียง ว่า ในเหตุการณ์ไม่สงบที่เมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตซินเจียง เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ตำรวจจีนยิงผู้ก่อม็อบเสียชีวิต 12 คน ในจำนวนนี้ 3 คน ถูกยิงเสียชีวิตในบริเวณที่เกิดการจลาจล ส่วนอีก 9 คน เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ทางการจีนกล่าวว่า เหตุจลาจลทำให้มีผู้เสียชีวิต 192 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเชื้อสายฮั่น แต่สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า จนถึงขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต 197 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่บริสุทธิ์ และว่าตำรวจได้แสดงความอดกลั้นจนถึงที่สุดในระหว่างเกิดความไม่สงบ โดยในเบื้องต้นได้ยิงกระสุนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ แต่ก็ยังไม่สามารถสลายอันธพาลที่ก่อความรุนแรงได้

อย่างไรก็ตาม ชาวอุยกูร์กล่าวหาว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงของจีนเปิดฉากยิงผู้ประท้วงอย่างสงบ และจากรายงานข่าวของสำนักข่าวซินหัวก็ไม่ได้เอ่ยถึงความรุนแรงครั้งนี้ว่าเป็นความรุนแรงทางเชื้อชาติ เพียงแต่บอกว่าความไม่สงบเริ่มขึ้นมาจากการเดินขบวนของนักศึกษา ซึ่งนายนูร์ เบกรี ยอมรับว่าไม่คาดคิดว่าการเดินขบวนจะนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรง เขาบอกว่าในการจลาจลทำให้ตำรวจจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ และมี 1 นายเสียชีวิตเพราะถูกยิงที่ศีรษะด้วยก้อนหิน ทั้งนี้ผู้ก่อม็อบได้ใช้มีด ท่อนเหล็ก และก้อนหินเป็นอาวุธโจมตีประชาชน.- สำนักข่าวไทย

2009-07-19 08:42:21

จีนกักตัวนักเรียนชาวอังกฤษกว่า 50 คน หลังตรวจพบติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 ​

​

ปารีส 19 ก.ค. - รัฐบาลจีนสั่งกักตัวคณะนักเรียนชาวอังกฤษ หลังจากผลการตรวจพบว่ามีนักเรียน 4 คน ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะที่จอร์เจียยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรก ส่วนที่สิงคโปร์มีรายงานผู้เสียชีวิตคนแรกจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

บริติช เคาน์ซิล แถลงว่า นักเรียนชาวอังกฤษทั้ง 4 คน อยู่ในโรงพยาบาล ส่วนนักเรียนที่เหลือ 48 คนและครูถูกกักบริเวณอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง นอกจากนี้มีรายงานว่า จีนยังได้สั่งกักตัวนักเรียนชาวอังกฤษ 1 คน และครู 1 คน จากนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นเวลา 2 วัน หลังจากตรวจพบว่ามีอุณหภูมิในร่างกายสูงเมื่อเดินทางมาถึงกรุงปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม นักเรียนและครูคนดังกล่าวไม่ได้แสดงอาการไข้หวัด จึงได้ปล่อยตัวไปแล้ว

ทางด้านผู้เสียชีวิตรายแรกที่สิงคโปร์ เป็นชายวัย 49 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจากอาการหัวใจวาย อันเนื่องมาจากปอดบวมอย่างรุนแรงและได้รับเชื้อไวรัสชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายแรกในจอร์เจีย เป็นสตรีซึ่งเดินทางมาจากกรุงลอนดอน ซึ่งทางการจอร์เจียได้กักบริเวณผู้ติดเชื้อรายนี้ ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

2009-07-19 08:54:07

ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชี้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นร่วมพันใน 4 วัน​

​

โตเกียว 19 ก.ค.- กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นแจ้งว่า จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิน 4,000 คนแล้ว โดยเพิ่มขึ้นถึง 1,000 คน ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา

กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นแจ้งเมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ตามเวลาไทย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 แล้วทั้งสิ้น 4,027 คน นับตั้งแต่พบผู้ป่วยรายแรกเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมาตัวเลขอยู่ที่ 3,122 คน เดิมจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ แต่เพิ่งเร็วขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่เทศกาลหยุดฤดูร้อน.- สำนักข่าวไทย

2009-07-19 14:08:08

รถไฟประสานงาในซานฟรานซิสโก บาดเจ็บ 47 คน​

​

สหรัฐ 19 ก.ค.-เกิดเหตุขบวนรถไฟขนาดเล็กชนประสานงาในนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่สถานีรถไฟเวสต์ พอร์ทัล เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าขบวนรถไฟที่กำลังมุ่งหน้าไปทางภาคตะวันตกได้พุ่งเข้าชนรถไฟอีกขนวนหนึ่งซึ่งเพิ่งออกมาจากอุโมงค์ แรงปะทะทำให้บริเวณส่วนหัวของรถไฟขบวนแรกพังเสียหายยับเยิน แต่อีกขบวนหนึ่งไม่ได้รับความเสียหายมากนัก

นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 47 คนทั้งหมดถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 4 คน โฆษกการรถไฟซานฟราสซิสโกระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว โดยตั้งประเด็นไว้ที่ปัญหาขัดข้องทางเทคนิค หรือเกิดจากความผิดพลาดของบุคคล.-สำนักข่าวไทย

2009-07-19 15:23:37

ที่มา http://news.mcot.net