นี่ ๆ เหล่านักปฏิบัติ จ๋าาา ช่วยวิสัชนา ตอบ นู๋บี ทีซิ ว่า ขรัวตาจะตีไหมค้าาาาาาาา ?

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=-glgwUEX0So&feature=fvw"]อาจยังสงสัยผู้ชายคนนี้.....[/ame]...................................

 

ธรรมะ ก๊ะ การ์ฟิลด์


<center>คำเตือนนนนน



<center>'ทู้นี้ เป็นทำมะ แนว ฮาร์ดคอร์
เหมาะสำหรับ ตัวพ่อ แอนด์ ตัวแม่ นะจ๊ะ
ถ้า ทั่นมิใช่ สิ่งมีชีวิตประเภทนี้แร้วไซร้
ไม่ควร เลื่อนลงไปอ่านนะจ๊ะ
เด๋วจะจิตตก ไหลลงรูปู มิลู้ล่วย
เหอ...เหอ... </center>

</center>








อืม... หลายวันก่อนนู้นนนนน
ไปนั่งสุมหัวนินทา เอ๊ย เม้าท์ ก๊ะ เจ่เจ๊ ของอิฉัน
เรื่องไอ้ตี๋ปากตำแยคนนึงในเวบพังจิต




ณ กาทู้

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&month=09-2010&date=28&group=2&gblog=5

ตานี้ เจ่เจ๊ She เกิดอาการเซ็งจิต อารายก็มิลู้
บ่นพึมประมาณ ว่า อาตี๋ขี้โมโหคนนี้
อีชอบเข้าครัวปรุงตัวหนังสือแล้วเสิร์ฟไปทั่ว
แต่เจ่เจ๊เห็นอีปรุงแต่ละที...หมาม่ายแหล่ก เรยว่ะค่ะ

อาทิเช่น แบ่บเนี๊ยยยยยยย







แถมพอ เด็กกะคนชรา เขาชิมอาหารของอาตี๋
แร้ววววว โบกมือบ๊ายบาย ปฏิเสธไมตรี







โดยบอกว่า ลู้ปล่าววววว
อาหารของมรึงเนี่ยสุนัขยังไม่ รับประทานเรย นะคะ..







ได้โปรดเอาไปไกล ๆ ซ่งติง เยยย
กรูทำใจ กระเดือก ไม่ลงว้อยยยย







ทว่า พูดขนาดนี้แล้ว
อาตี๋อีก็ยังทำงอลลลลล บอก เช๊อะ กรู ไม่รู้ไม่ชี้











แร้วอีก็ถลกแขนเสื้อ ขู่ฟ่อ ท้าตีท้าต่อย กะลูกค้าซะงั้น








เลยเละตุ้มเป๊ะ ทั้งหม้อไหกะลังมัง ปลิวว่อน

















ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดเป็นโศกนาฏกรรม
คนชราคนหนึ่งโดนบังคับให้กระเดือกอาหาร
ที่ไอ้ตี๋ ทำ แร้ว She ก็กระอักออกมาเป็นเลือดสด ๆ








เด็กน้อยอีกคนโดนเอาอาหารยัดปาก
แล้วก็ถึงกับปากแตกสลบเหมือด







ส่วนสตรีอีกนาง เขมือบเข้าปากแล้วเก๊าะขึ้นผดขึ้นผื่น
คันคะเยอ เผลอฟุ้ง จนดูจิตแทบไม่ได้
เกือบตายเรยนะเธอว์







เจ่เจ๊ เข้าฌาน อยู่บนภู
นั่งดูแร้ว เก๊าะเรย ปลงอนิจจัง วัฏฏะสังขารัง
ก๊ะ ศึกอาหาเรปฏิกูลสัญญา ของ ไอ้ตี๋มัน





ด้วยใช้วิปัสนึกตรึกดูแร้ววว
ก็เห็นว่า พวกมรึงงงก็พอกันทั้ง2 ฝ่าย ล่ะวะ
เพราะไม่มีใครฟังใคร แต่อยากให้คนอื่นฟังตัวเอง








แถม มีแอบเยินยอ ลูกไป๊ ฯ เจ่เจ๊ นิดโหน่ยยย
โดยบอกว่า สงสัยมีก็แต่ พระนางการ์ฟิลด์ ของหม่ามี๊อ่ะ
ที่มีภูมิต้านสูง ขนาดกินตำแยยังอร่อยได้อีก ฯลฯ


แหม ๆ ฟังแร้ววววว
พระนางการ์ฟิลด์ มันเก๊าะเรย เขิลลลล ซะไม่มีชิ้นดี
จนดูจิตแทบมิได้ เรยนะนี่







จึงอยากจะกระซิบบอกแม่ปั๋วกลับไปว่า

แหะ ...แหะ....อิหม่ามี๊ขราาาาาา
เรื่อง เทคนิคการเขมือบตำแย เนี่ย
จิง ๆ อินู๋การ์ฟิลด์ ก็ บ่ ได้ ภูมิต้าทานสูงส่ง
อารายหรอกคร้าาาาทว่า ดันเกิดมาตะกละฝ่าคนอื่นเขา
จึงเจริญอาหารอาหารมากฝ่าชาวบ้านนิโหน่ย
เจออะไรก็ขม้ำแหลกกกกก อ่ะ แผล่บ ๆ







สุดท้ายเรยต้อง พยาม หัด เจริญสติปัฏฐาน
หมั่นฝึก อาหาเรปฏิกูลสัญญา ไว้เนือง ๆ
โดยหาเรื่องเอา ตำแย เป็น องค์เพ่งกสิณ เอิ๊ก ๆ


ทว่าก็ไม่เคยตะกละจนหน้ามืด
เผลอไปเขมือบตำแย ทั้งต้นซะทีง่ะ งิงิ
แต่ก็พยามเรียนลู้วิธี จะแยกสารพิษ ออกจากต้นตำแย
ก่อนหยิบเข้าปากเอามากินเล่นเก้เซ็ง
แทนของขบเคี้ยวเจ๋ง ๆ แค่นั้นแหล่ะ คร้าาาา






ยิ่งหากมีหลัก กาลามสูตร มาช่วยคัดกรอง
ในการคัดแยก สารพิษ ชีวิตเราก็จะไม่คันคะเยออ
แถม ยัง ใช้ สารพิษที่สกัดได้
เอาไป กวนซ่งติง ชาวบ้านได้อีกนะเธอว์ เหอ ...เหอ..
แหม๊ ? ช่างใช้ประโยชน์จากต้นตำแยได้อย่างคุ้มค่า
ตามหลักเศษสาด เจง ๆ หุหุ







อ้อ เห็นด้วยก๊ะ หม่ามี๊ นะเจ้าคะ

"งานนี้ใครมีใจเป็นกลางได้ก่อน
ก็จะมีชัยในสมรภูมิน้ำลาย
ใครชนะใจตัวเองได้
ก็จะชนะใจคนอื่นเองแหละ
งานนี้ มีอัตตา เป็นเดิมพัน !"



แต่หากเรายังมิอาจตัดใจ จากคุณอัตตา ที่น่าร้ากกก
เราก็ต้องลูจัก ซื่อสัตย์ กับ อัตตา ตัวเอง
และ พร้อมที่จะยอม เสียหมา
ลำเลิกเบิกประจานเจ้าอัตตาตัวดี
ให้ ประชาชี ได้รับลู้ ด้วย ง่ะ






ลู้สึกไง ก็ต้อง พูดงั้น
หากมิได้ รู้สึก สำนึกผิด จิง ๆ แร้วไซร้
ก็ไม่ควรจะไป สร้าง วจีกรรม ด้วยคำว่า ขอโทษ
เพราะ มันเป็น แค่ มานะ ซ้อน มานะ
หาใช่การสละออกซึ่งอัตตาของตนไม่




ถ้าคนเราไม่มีความจริงใจกับอัตตาตัวเองแล้วไซร้
ก็ไม่มีทาง พิชิตใจ ใครได้หรอกคร้าาา
แถมประเหมาะเคราะห์ร้าย
ก็จะมี เจ้ามานะ ปลอมตัวเป็น อิน้องคิตตี้
เกาะหนึบอยู่บนหัว อีกตะหาก








และ ถ้า เมื่อไรที่เรา เลิก แข่งขัน ซีเกมส์บุญ กับคนอื่น ได้
เมื่อนั้น กุศลกรรม มันก็จะผลุ่บ ๆ โผล่ๆมาให้เห็นอยู่รำไร
และทำให้ เจ้าตัวมานะ อัตรธานหลบหายไปเองอ่ะ


อืม...เท่าที่ดูแร้ว ไอ้ตี๋ขี้โมโหคนนี้ น่ะ
มันมักจะขี้เกรงใจ คนจริง
ที่ซื่อสัตย์กับอัตตาตัวเองซะด้วยจิ
ถ้า ใครทำได้อย่างที่อิฉันแนะนำ อ่ะนะ
ก็ คงไม่ต้องมาปากแตก หรือ กระอักเลือดตาย
เพราะต้นตำแยหรอกมั้ง อิอิ


อนึ่งที่ เลคเชอร์มาทั้งหมดนี้
พล่ามตามภาค ทฤษฎี นะคร้าาา
ส่วน ภาคปฏิบัติ นั้น ...
อันนี้คงต้องตัวครายตัวมันง่ะ งิงิ
เพราะ อิฉันเองเก๊าะยัง เตาะแตะ ๆ อยู่เรย แหะ ๆ







อ่ะ เอาการ์ตูน มาฝาก ทั่นผู้อ่านทู๊กกกกกทั่น ด้วยง่ะ
เห็นอิหลานลูกมด มันเคยพล่าม เรื่อง ธรรมมะ กะ การ์ตูน
ช่วงนี้ เจ้าป้าบัวเกรียน เรยนึกครึ้มพอกรึ่ม ๆ
จึง รจนา ธรรมะ ก๊ะ การ์ฟิลด์ มาให้ เสพ
ส่วนอ่านแร้วจะได้ ธรรมโม๊ะ อะไร
ไปคนละกี่กิโลขีด นั้นก็สุดแร้วแต่ วาสนาจริต เถิดหนา
เพราะ 'ทู้นี้ เจ้าป้า กะว่า จะม่ะเน้นสาระ
(ตรูเขียน เอามันส์ เฉย ๆ ง่ะ งิงิ )

<center>ธรรมะ ก๊ะ การ์ฟิลด์</center>




แคว๊ก......กกกกกกกกกกก แคว๊ก......กกกกกกกกกกก ....









ยาฮู้ ! นู๋ชื่อ อิ การ์ฟิลด์ ฮ่ะ







เหอ ๆ วันนี้ นู๋นึกครึ้ม
จึงอยากปรุงอาหาร (แข่งกับไอ้ตี๋xxx )








ก่อนอื่น ต้อง ชั่ง ตวง วัด
เพื่อ กะปริมาณ อาหาร
ที่ อยากจะ ทำ ซะหน่อย








เอาล่ะ เริ่มเข้าครัว ปรุงอาหารได้ !













ไชโย้ ทำเสร็จแระคั๊ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ทั่นผู้ชมมมมมมม








เอ๊ะ ? แต่มันจะอร่อยไหมหว่า
เอาวะ ! ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ
ถึง หมา ม่ายแหลก ก็ ม่ายเป็นไร
ไง แมว ( อย่างตรู ) แหลก เอง ก็ได้ฟระ เหอ...เหอ..














เริ่มจากชิ้นนี้ ก่อน
เป็น ออร์เดิร์ฟ เบา ๆ







แร้ว ตามด้วย ไอ้นี่
อะอ๊ำาาาาาาาาาาาาาา







อ่ะแจ๊บ ๆ ซร่วบ ...ซร่วบบบบบบบบ








อะโหยยย สวรรค์บนดิน เจง ๆ เยยยย







เอิ๊กกกกกกกก สีอีแลบ แซ่บอีหลี แจ่บ ๆ
อดข้าว ดอกหนาชีวาวาย
ไม่ตายดอก เพราะอดไปนิพพาน ลั้ลลา






มันก็เป็นเช่นนั้นเองงงงงงงง








เออ นี่ ๆ แต่ถึงสวาปามขนาดเนี๊ยะ
ก็ม่ะเห็นจะเสียหายตรงไหนนิ
น้ำหนักม่ะได้เพิ่ม แม้แต่ขีดเดียวเยยย
เห็นปล่าววว









ดูดิ๊ ยัง สะแลนเดอร์ อยู่เรย นะเธอว์ เหอ...เหอ...







แร้วเงี๊ยะ จะให้ ตรูหยุดเจี๊ยะของอาหย่อย ๆ ทำติ้งไรฟระ?








อ่ะฮั้นมันพวก สุขาปฏิปทาฯ นะจ๊ะ ทูนหัววว












ม่ะช่ายทำ ม่ะได้นะ
แต่ขี้เกียจทำเฟร้ยยยย
ลู้ไว้ซะด้วยยยยย








เชื่อ หัว อิการ์ฟิลด์ เต๊อะ
เด๋วดีเอง หุหุ






เฮ้ออออ ยิ่งคิดก็ยิ่ง ปิตี ปลาบปลื้ม เหลือ คณานัป
ทำไม ตรูช่างเป็น ลูกแมวที่อัจฉริยะ เฉกนี้หนอ ?
ทั้ง จ๋วย ทั้ง เก่ง เรยนะเนี่ยยยย




ปุจฉาาาาาาาาาาา
โอ๊ะ โอ๋ กระจกวิเศษ จ๋าาาาาา
จงบอกข้าเถิดดดดด
ผู้ใด๋ งามเริ่ดดดดด ในปฐพี ?






วิสัชนาาาาาาาาาาาาาา
พระนาง การ์ฟิลด์ อ่ะเด่ะ
งามเริ่ดดดด ที่ซู๊ดดดดดดด ใน ปฐพี








เฮ้อออออ ทำไม๊ ตรูช่าง เป็น แมวที่ สมบูรณ์แบบ เช่นนี้หนอ








อืม....ก็แสนจะ เปอร์เฟค ซะขนาดเนี๊ยะ
จะ ทำ อาราย ก็ น่าร้ากกก น่าเอ็นดู
ม่ายน่าเกลียด ชิมิ ๆ










ทำงี้ ก็ น่าร้ากกกกกก







แบบนี้ก็น่าเอ็นดู







ทำอาราย นู๋ เก๊าะ ม่ายผิดดดดด ๆๆๆๆ


















อ่ะโหล ๆๆๆๆๆ เทสท์ ๆๆ
1-2-3-4-5-6-7-8-9-0

ตัวกรู ของกรู นี่กรูน๊าาาาาาา
พวกเมิง จงมาแหกเนตร สังเกตดูซะ !










เก่ง เจ๋ง เริ่ดดดดดดด ซะอย่าง
ทำไปเยยย อย่าได้แคร์สื่อ ชะเอิงเอย


















อ้าววววววว เฮ้ยยยยยย
เกิด อารายขึ้น !?!









นิทานเรื่องนี้ สอนให้ ลู้ว่าาาาาา ......
อืม... ทิ้งไว้เป็น ปริศนาธรรม
ให้คลำกันเองก้อแร้วกันเน๊าะ
เพราะ อิฉัน ก็ ม่ะชัวร์ หรอกนะ
ว่า นิทานเรื่องนี้ มัน สอน อารายให้คนอ่าน ได้มั่ง
เพราะขนาดตัวอิฉันเอง
ยังอ่านแร้ว เก็ทมั่ง ไม่เก็ท มั่งเยยย อิอิ



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&month=11-2010&group=2&date=09&gblog=7

 

รู้ลึก ลืมตื้น หล่นหลุม พอกัน : อุ้ยเซี่ยวป้อ (ตอนจบ)
คอลัมน์ : บู๊ลิ้ม
โดย : พชร สมุทวณิช

นิยายจีนกำลังภายในเรื่อง “อุ้ยเซี่ยวป้อ” ที่เขียนโดย “กิมย้ง” นั้น มีอยู่บางฉากบางตอนในท้องเรื่องที่ผมชื่นชอบเป็นอย่างมาก และคิดว่าเป็นเรื่องที่สามารถนำมาสะท้อนสอนใจเราได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ตอนที่ “อุ้ยเซี่ยวป้อ” ถูกฮ่องเต้คังฮีบังคับให้ไปบวชเพื่อคอยอารักขาดูและพระบิดาฮ่องเต้องค์ก่อนที่สละบัลลังค์ออกผนวช

แม้จะอยู่ในสมณะเพศแต่ “อุ้ยเซี่ยวป้อ” ก็ยังคงความกลิ้งกลอกกระล่อนมีเล่ห์เหลี่ยมพราวแพรวเหมือนเช่นเดิม พระองค์น้อย “อุ้ยเซี่ยวป้อ” นั้นทำเอาบรรดาหลวงจีนทั้งหลายที่เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ต่างหัวหมุนไปตามๆ กัน

ทั้งนี้ แม้ว่าหลวงจีนเสียวลิ้มยี่ แม้จะมุ่งเน้นที่จะค้นคว้าแสวงหาหลักธรรม ส่วนเรื่องการฝึกปรือวิทยายุทธนั้นเป็นเพียงแค่เพื่อสุขภาพอนามัยและป้องกันตัว อย่างไรก็ดี เจ็ดสิบสองวิชาของเสียวลิ้มยี่ย่อมถือเป็นสุดยอดอันดับต้นๆ ในบู๊ลิ้ม ทั้งนี้ก็เพราะรากฐานความเป็นมาอันยาวนาน ผนวกกับทั้งการบำเพ็ญเพียรสมาธิฝึกจิตซึ่งสอดคล้องต้องกันกับหลักวิชากำลังภายในสายสถาบันสงฆ์อย่างพอดิบพอดี จึงทำให้เสียวลิ้มยี่จัดเป็นสถาบันอันยิ่งใหญ่ทั้งในสายธรรมมะบำเพ็ญเพียรและทั้งด้านวิทยายุทธอันเป็นเอกในยุทธภพ

ด้วยเหตุแห่งที่ว่าข้างต้น ทำให้บุคลิกลักษณะ การปฏิบัติตน ตลอดจนทัศนคติต่างๆ ของหลวงจีนเสียวลิ้มยี่ จึงมีความซับซ้อนในทางความคิด มุมมองต่างๆ ตลอดจนการตีความสรรพสิ่งที่มองภาพต่างๆ อย่างหลากมิติ คิดเรื่องต่างๆ อย่างซับซ้อน มองสิ่งต่างๆ อย่างรอบด้านและมองในทุกแง่มุมและทุกซอกหลืบลงรายละเอียด

ในขณะที่ “อุ้ยเซี่ยวป้อ” นั้น มีวิถีแห่งตนที่แสนจะดิบเถื่อน หยาบกร้าน และตื้นเขิน

หลวงจีนเสียวลิ้มยี่ซึ่งมีทัศนคติที่ซับซ้อน ละเอียดเนียน และลึกล้ำ จึงมักไม่เข้าใจและงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก ยามเจอะเจอกับสิ่งตื้นเขินแสนธรรมดาที่ถูกปล่อยออกมาจากคนดิบอย่าง “อุ้ยเซี่ยวป้อ” อยู่บ่อยครั้ง

มีครั้งหนึ่งที่มีบทสนทนาที่น่าขบขันในเรื่องของ “ความสับสนในการตีความ” ที่ “เจ้าสำนักฮ้วยชง” และ “หลวงจีนเต็งกวน” ที่เป็นบรรพชิตสูงศักดิ์ ใช้ทัศนคติ “ล้ำลึกวิเคราะห์ตื้น” จนกลายเป็นเรื่องที่น่าหัวร่อ ครั้งนั้น “อุ้ยเซี่ยวป้อ” เพียงใช้วาจาภาษาตลาดพูดจาเรื่อยเปื่อยหลอกด่า “ราชบุตรกัวะยื่อตัง” หลังจากที่ราชบุตรเอ่ยปากด่าหลวงจีนวัดเส้าหลินว่าปราศจากราคาค่างวดแม้แต่หุนเดียว ดังนี้

“สิ่งที่เหม็นที่สุดหาใช่ลมสุนัข หากแต่เป็นคารมคน ผู้คนบางคนยามกล่าววาจาออกมาถึงกับเหม็นคละคลุ้งตลบฟ้า เฉกเช่นกับ..เฮอะ เฮอะ ยังคงอย่าได้บอกออกไป สำหรับบุคคลที่ไม่มีราคาค่างวดแม้สักหุนเดียว หานับว่าต่ำต้อยที่สุดไม่ ที่ต่ำต้อยบัดซบที่สุด คือติดค้างหนี้สินบุคคลอื่นหลายร้อยหมื่นหลายพันหมื่นตำลึง แล้วบ่ายเบี่ยงไม่ยอมชดใช้ ท่านราชบุตรติดค้างผู้อื่นหรือไม่ ย่อมทราบกระจ่างใจ”

ราชบุตรกัวะยื่อตงงงงันวูบ มิทราบสมควรจะกล่าวกระไร เจ้าสำนักฮ้วยชงพลันกล่าวว่า

“วาจาซือตี๋ซึ้งถึงแก่นปรัชญา ชนชาวโลกเพาะกงกรรมกงเกวียน เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล วนเวียนมิรู้จบ ประกอบบาปกรรมไม่รู้สิ้น หากปราศจากราคาค่างวดแม้สักหุนเดียวก็เพียงแต่มิได้สร้างผลบุญกุศล ไม่ได้ประกอบบาปกรรม เปรียบกับบุคคลที่ติดค้างหนี้กรรมมากมายสุดคณานับว่าประเสริฐกว่าจริงๆ”

หลวงจีนเต็งกวนพอรับฟังคำอรรถาธิบายของเจ้าสำนักฮ้วยชง ก็เข้าใจอย่างปรุโปร่ง กล่าวอย่างนิยมเลื่อมใส “ฮ้วยเม้งซือเจ็ก(อุ้ยเซี่ยวป้อ) อายุยังเยาว์ กลับค้นคว้ารู้ซึ้งถึงแก่นแท้ ภายภาคหน้าย่อมสามารถจรรโลงหลักธรรมสถาบันสงฆ์แผ่ไพศาล”

หลวงจีนน้อยรูปหนึ่งกล่าวเหลวไหล หลวงจีนชราสองรูปกลับสนับสนุนเห็นพ้อง คล้ายมีเจตนารังควานราชบุตรกัวะยื่อตง ราชบุตรถึงกลับหน้าแดงฉานสดใส พลันโถมปราเข้าหาอุ้ยเซี่ยวป้อดุจสายฟ้า

ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ แท้จริงแล้ว สองหลวงจีนชรากลั้นขันติมาแต่ต้น แม้จะโดนกระทบกระเทียบ แดกดัน และเสียดสี จากอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ก็กลับไม่รู้สึกโกรธเคืองแต่อย่างใด พยายามที่จะประนีประนอมเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวต่อยตี แต่เมื่อนำเอา “ลึกล้ำวิเคราะห์ตื้น” แล้วรู้สึกซึ้งในปรัชญาด้วยการตีความเข้าใจไปเอง จึงเกิดปลื้มปิติในปรัชญาแห่งความเข้าใจผิด พลันเปล่งสาธุเอ่ยปากสนับสนุนชื่นชม “อุ้ยเซี่ยวป้อ” ออกไป

การต่อยตีย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยประการฉะนี้

ไหนๆ พอเอ่ยแล้วถึง “หลวงจีนเต็งกวน” อดไม่ได้ที่จะพูดถึง หัวหน้าตึกปัญญาบารมีผู้นี้อีกครั้งเพื่อตอกย้ำเรื่องที่ไม่ควรเอาเรื่องลึกล้ำซับซ้อนไปวิเคราะห์สถานการณ์ธรรมดาตื้นเขิน “หลวงจีนเต็งกวน” ผู้นี้เป็นผู้เยี่ยมยุทธแห่งสถาบันสงฆ์ทั้งนี้ก็เนื่องจากท่านเป็นผู้แตกฉานปรุโปร่งในวิชาวิทยายุทธทั้งหลายในแวดวงยุทธจักร เรียกได้ว่าแค่ตั้งท่าร่ายรำฝ่ามือ “หลวงจีนเต็งกวน” ก็ปรุโปร่งว่า นั่นกำลังจะสำแดงวิชาอะไร มีรูปแบบท่วงท่า และการจู่โจมเช่นใด ดังนั้น ยามเมื่อวิทยายุทธนั้นสำแดงเข้ามา ท่านย่อมหาวิถีทางในการตั้งรับและโต้ตอบกลับได้อย่างช่ำชองว่องไว

เมื่อ “อุ้ยเซี่ยวป้อ” ผู้มีนิสัยชอบวุ่นวายสร้างปัญหาโดยเฉพาะเรื่องตอแยสตรี ชักนำดรุณีชุดเขียวนางหนึ่งเข้าวัดมาจู่โจมจัดการกับเขา “หลวงจีนเต็งกวน” จึงรับหน้าที่ต่อยตีปกป้องด้วยวิทยายุทธอันเหนือล้ำ ไม่ว่าท่วงท่ากระบวนยุทธไหนจู่โจมมา เป็นไม่พ้นความรู้อันไพศาลของบรรพชิตผู้เปี่ยมปัญญาปรุโปร่งในวิชายุทธทั้งมวล ล้วนแล้วแต่สามารถคลี่คลาย

จนในที่สุดดรุณีน้อยผู้เรียนรู้วิทยายุทธครอบคลุมหลายสำนัก คิดแยบยล ดำเนินการกระโดดปราด ต่อยหมัดเปะปะ เตะกราดวุ่นวาย ปราศจากระเบียบแบบแผนใดๆ

หลวงจีนเต็งกวนถึงกับร้องโพล่งขึ้น “เอ๊ะ ประหลาดนัก โอย พิสดารแท้”

ทุกกระบวนท่าของนางล้วนไม่เคยประสบพบพานมาก่อน บางครั้งก็สอดคล้องกับท่วงท่าของสำนักใดสำนักหนึ่งแต่ก็คล้ายใช่คล้ายมิใช่ ยามกระทันหันห้วงสมองสับสนอลวน

หลวงจีนเต็งกวนนั้นแตกฉานหลักวิชาทุกค่ายสำนัก แต่การต่อยตีชุลมุนวุ่นวายราวกับเด็กทารก ทุกผู้คนล้วนเห็นมามากมาย แต่หัวหน้าตึกปัญญาบารมีภูมิความรู้ลึกล้ำไพศาลผู้นี้ กลับไม่เคยประสบพบพาน

หลวงจีนเต็งกวนยิ่งชมดูจากเลื่อมใสกลายเป็นเกิดความหวาดหวั่นวิตก ยิ่งเห็นอุ้ยเซี่ยวป้อหัวเราะฮาๆ เพราะขบขันที่ท่วงท่าไร้ระเบียบแบบแผนราวเด็กทารกเช่นนั้น หลวงจีนชรากลับวิเคราะห์ค้นคว้าอย่างจริงจัง หลวงจีนชราถึงกลับอับอายจนหน้าแดงฉานจรดใบหูและคิดในใจว่า “เราไม่รู้จักกระบวนท่าลึกล้ำของประสกหญิงผู้นี้ เกรงว่าต้องให้นางดำรงตำแหน่งหัวหน้าตึกปัญญาบารมีแทน”

จนสุดท้าย “หลวงจีนเต็งกวน” ห้วงสมองสับสนอลวนและพรั่นพรึงใจ ปรากฏเลือดลมพลุ่งพล่านสู่สมอง ถึงกับสิ้นสติสมประดี ล้มฟุบลงอย่างแช่มช้า

ที่ “กิมย้ง” เขียนเรื่องนี้ไว้ใน “อุ้ยเซี่ยวป้อ” ถือเป็นสุดยอดแห่งการสะท้อนแง่มุมที่สามารถนำมาสอนใจได้เป็นอย่างดี จริงๆ แล้ว ปราชญ์ที่เรียนรู้กว้างขวางรอบด้าน ถึงกับแตกฉานตลอดทุกซอกมุมจนทะลุปรุโปร่งในเรื่องยากๆ และซับซ้อน สิ่งที่ต้องคำนึงคืออย่าละเลยในสิ่งละอันพันละน้อยที่เป็นเรื่อง “ตื้นเขินและธรรมดา” เรียกได้ว่า “ศึกษายากอย่าลืมเรียนรู้เรียบง่ายธรรมดา” หรืออาจพูดง่ายๆ ว่า “รู้ลึกอย่าลืมตื้น”

จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ ทฤษฏีทางฝรั่งก็เคยว่าไว้เช่นกัน “วิลเลียมแห่งออคคัม” (William of Occham) ปราชญ์ในช่วงยุคศตวรรษที่ 13 เคยตั้งรูปแบบการตีความในเรื่องหลักการในการวิเคราะห์หาเหตุและผล หรือการหาคำอธิบายในสรรพสิ่งที่เป็นข้อสงสัย โดยที่หลักการนี้ สามารถครอบคลุมไปหลายเรื่องรวมถึงเรื่องอารยธรรม ไว้จนกลายเป็นทฤษฏีที่เรียกว่า “ใบมีดของออคคัม” หรือ “Ockham’s Razor” ที่บอกว่า เมื่อเกิดปัญหาที่ต้องการคำอธิบายหรือหาเหตุผล อย่าไปคิดซับซ้อนวุ่นวาย ให้ใช้หลักการในการวิเคราะห์หรือแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด คำอธิบายที่ง่ายที่สุดจะนำไปสู่สิ่งที่เป็นจริงถูกต้องได้ดีที่สุด

ในชีวิตจริงของคน หลายครั้งที่เราเองไปจ่อมจมอยู่กับการคิดอะไรที่ยากๆ หรือลึกซึ้งซับซ้อน พอบ่อยเข้าๆ ยามเมื่อเจอเรื่องราวที่ต้องสะสางหรือค้นหาคำตอบคำอธิบาย บางทีเราก็ลืมคิดและมองข้ามวิธีการที่จะตีโจทย์ด้วยหลักการง่ายๆ พื้นๆ ธรรมดา

นึกแล้วก็น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกวันนี้เรามักมองโลกด้วยทัศนคติที่ลึกล้ำหรือซับซ้อนเกินไปหรือเปล่า

จงตระหนักไว้เสมอว่า “รู้ลึก ลืมตื้น หล่นหลุม พอกัน”

Daily News - Manager Online -

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=vUVJ-HX6bdM&NR=1"]..........[/ame]...................................

 

“รู้ลึก ลืมตื้น หล่นหลุม พอกัน”

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=KyGufWNeDC4"].......[/ame].................................

 

เก็บลิ้งข้อมูลส่วนตัว

http://palungjit.org/threads/เกราะส...magnetic-poles-pole-shift-yellowstone.276116/

http://palungjit.org/threads/history-channel-ancient-aliens-2009-version.268270/

ไม่รู้ว่ามีใครเห็น Planet X หรือยัง?

ดาวเทียม Fermi ค้นพบโครงสร้างขนาดใหญ่ในทางช้างเผือกของเรา

เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้วในสหรัฐอเมริกา??? (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)<!-- google_ad_section_end -->

Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???

ถามทุกคนในเว็บพลังจิตนี้ + เจาะตำนานน้ำท่วมโลก

งานวิจัยเกี่ยวกับ 2012 ของ Pane Andov (แปลเพิ่มเติม หน้า 68-71 truth4thai.org)

นาซก้า อารยธรรมยุคพระเจ้าครองโลก

ทฤษฎีพระเจ้าจากอวกาศ(The Return of Ancient Astronauts )

รวมเรื่อง Crop circles

บันทึกลับข้ามจักรวาล ของ Bayer Stellar

เอ็ดการ์ เคย์ซี นักพลังจิตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งอเมริกา

http://palungjit.org/threads/2012-คำบอกเล่าจากต่างดาวและหลักฐาน.268887/

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=-dUtEm4Il2k&feature=related"]........[/ame].........................

 

อยากกิน แมว....................

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=zW1gxk16w6U&feature=related"]one...[/ame]...........................

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=kvxjquWHh_I&feature=related"].....[/ame]............
การที่ใจสองใจจะตรงกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เหตุมีอยู่ จึงมีผล

หากใจสองใจไม่ตรงกัน ใช่ว่าจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้
เพราะโลกนี้ดำรงค์อยู่ได้ด้วย การพึ่งพาอาศัยกัน
พึ่งพาดั่ง...เป็นเพื่อน เป็นพี่่ เป็นน้อง เป็นญาติกัน
โลกจึงอยู่ได้ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข

หลักพื้นฐานของการพึ่งพาอาศัยกันคือ
การเสียสละ....ความต้องการของตนเอง
ที่จะทำให้คนอื่นไม่สบายใจ

โลกจึงอยู่ได้ด้วยการเสียสละ

เพื่อนย่อมรักเพื่อนเสมอ
แต่สิ่งที่ให้เกินกว่าเพื่อนไม่ได้...ไม่ใช่ว่าจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้

 

โอ.เค..ตามนั้น ชี้ชัดอยู่แล้ว...

 

Anna Bessonova....the best

<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/VIor50F_m-I?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/VIor50F_m-I?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>

 

<object height="390" width="640"><object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/SsdtD9C0khE?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/SsdtD9C0khE?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>


<embed src="http://www.youtube.com/v/DaxKGHVZYPA&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" height="390" width="640"></object>

 

ข่าวจากชมรมจิตจักรวาลศึกษาแห่งโลก: UCSA


​

เรื่อง อย่าตื่นตกใจกับข่าวลือร้ายๆเรื่องภัยพิบัติ
เรียน สมาชิกชมรม UCSA และเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย
อ้างถึง ข่าวลือร้ายๆเรื่องคลื่นยักษ์สึนามิจะถล่มภาคใต้ในวันที่ 30 ธันวาคม 2553


ตามที่มีผู้กล่าวอ้างว่า จะเกิดมหันตภัยคลื่นยักษ์สึนามิถล่มภาคใต้ของไทย โดยจะเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งชายทะเลด้านตะวันออก คือ อ่าวไทย และฝั่งทะเลด้านตะวันตก คือ อันดามัน ในเวลาระหว่างเที่ยงคืนถึงตีสองของเช้าวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และด้ามขวานจะหักจมทะเลตั้งแต่ชุมพรยันนราธิวาส แล้วแจ้งให้รีบอพยพผู้คนโดยด่วน ซึ่งมีการเผยแพร่ข่าวร้ายนี้ไปทั่วจนสร้างความตื่นกลัวแก่พี่น้องเป็นจำนวนมาก และมีผู้นำข่าวสารนี้สอบถามไปยังชมรมของเรากันแทบทุกวัน


เราจึงขอเรียนมายังท่านทั้งหลายเพื่อทราบโดยทั่วกันว่า ความทราบถึงท่านประธานชมรม คือ อาจารย์ปริญญาผู้เป็นองค์ความรู้ของพวกเราแล้ว ท่านเมตตาให้แจ้งมายังท่านทั้งหลายในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล “พระผู้ทรงเริ่มต้นและสิ้นสุดแห่งทุกสรรพสิ่ง” ความว่า


1.สึนามิจะไม่เกิดขึ้นในวันเวลาที่มนุษย์ “คาดเดา” คือ เที่ยงคืนถึงตีสอง ของวันที่ 30 ธ.ค.2553 นั้นแน่นอน โดยคลื่นยักษ์จะไม่มีวันกระโจนเข้าสู่แผ่นดินทั้งสองฝั่งพร้อมกันจนทำให้แผ่นดินตั้งแต่ชุมพรยันนราธิวาสจมหายไปใต้ทะเลตามข่าวลือเด็ดขาด


ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล อาจารย์ยืนยันว่าทุกๆภัยที่จะเกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ เป็นปฏิบัติการชำระโลกโดยช่างเท็คนิค (เจ้ากรรมนายเวร) เป็นผู้กระทำเมื่อพระองค์ทรงเห็นเหมาะสมให้กระทำเท่านั้น พวกเขาจะกระทำให้เกิดมหันตภัยร้ายๆโดยพละการเองไม่ได้ และถ้าจะเกิดเหตุร้ายจริงๆ จะไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกที่จะได้รับอนุญาตให้ล่วงรู้ก่อนใครอื่น!!!


2.ไม่ต้องอพยพผู้คนหนีภัยคลื่นยักษ์สึนามิ และแผ่นดินด้ามขวานที่มันจะจมภายในสิ้นปีหรอก เพราะมันเป็นแค่เพียงข่าวลือเท่านั้น!!!


ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล ผู้ขันอาสามาทำหน้าที่ชี้ทางไปนิพพานและแจ้งข่าวสารการชำระโลกแก่มวลมนุษย์ด้วยดวงจิตอันบริสุทธิ์แท้จริง อาจารย์ท่านฝากเรียนมายังสมาชิกและเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายว่า ถ้าต้องการมีชีวิตรอดปลอดภัยจากปฏิบัติการชำระโลกของเจ้ากรรมนายเวร (ช่างเท็คนิค) ที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ตัวคุณเข้ามาเรื่อยๆ ที่เคยเกิดแล้วก็จะเกิดซ้ำอีกเพราะเขารู้ว่ามนุษย์ประมาท และมันก็จะเกิดในที่ๆไม่เคยเกิด ก็ให้ทุกคนจงอย่าตื่นกลัว คนที่กลัวตายจะถูกกากบาทเป็นเครื่องหมายไว้บนหน้าผากทันที เพราะคนกลัวตายคือคนที่ยังไม่พร้อมและไม่ยอมตายด้วยจิตยังไม่ใสพิสุทธิ์


ขอให้ชาวจิตจักรวาลและเพื่อนมนุษย์ผู้มีบุญบารมีที่ได้อ่านข่าวสารชิ้นนี้ จงเร่งปฏิบัติตนให้เคร่งครัดในหลักการดำเนินชีวิตประจำวันเอาไว้ดังต่อไปนี้


1.จงมีมหาสติในยามตื่น (รู้สติ-มีสติ-ใช้สติ)
2.จงรักผู้อื่นให้ได้ (แม้เขาแสดงเงื่อนไขไม่น่ารักต่อตัวเรา)
3.จงให้ผู้อื่นให้เป็น (ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และให้แม้แก่บุคคลที่เราไม่สมควรจะให้)
4.จงใช้ปัญญาของตนในการดำเนินชีวิต (คิดก่อนคิด-คิดก่อนพูด-คิดก่อนทำ: ใช้กฎ 4 ถูกของ “ปริญญา”)
5.จงมีปณิธานแห่งนิพพาน (ไม่ก่อกรรมใหม่-แก้ไขกรรมเก่า-เข้าให้ถึงองค์จิตจักรวาล)


ผู้ปฏิบัติตามทั้งห้าข้อนี้อย่างเคร่งครัดด้วยจิตสำนึกที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้สามารถข้ามผ่าน มหันตภัยพิบัติทั้งหลายที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าได้ ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดก็ตาม


3.เราเคยเตือนล่วงหน้ามาแล้วว่า น้ำจะท่วมโคราชถึงฐานย่าโม แต่หลายคนไม่เชื่อเพราะเข้าใจว่าโคราชเป็นที่ราบสูงหากจะท่วมจริง กรุงเทพฯคงไม่เหลืออะไรแน่นอน แต่ปรากฏว่าโคราชท่วมก่อนเพื่อนเลยขณะที่กรุงเทพฯยังอยู่ดีมีสุข....เห็นหรือยัง? (มีบันทึกภาพยนตร์และเสียงเอาไว้ทุกครั้งที่สื่อเป็นหลักฐานให้ค้นคว้าได้)


เราเคยเตือนไว้อีกว่า หาดใหญ่น้ำจะท่วมซ้ำสองอีกและจะหนักกว่าเดิม ปรากฏว่ามันก็ท่วมหนักกว่าเดิมจริงๆ....เห็นหรือยัง? (มีบันทึกภาพยนตร์และเสียงเอาไว้ทุกครั้งที่สื่อเป็นหลักฐานให้ค้นคว้าได้)


4.ครั้งนี้อาจารย์ฝากเตือนมาว่า ครั้งหน้าน้ำจะท่วมใหญ่ทั้งอีสานและภาคใต้หนักกว่าเดิม และจะท่วมนานกว่าเดิมด้วย ก่อนหน้าจะท่วมหนักนั้นประเทศไทยเราจะมีฤดูร้อน 2 หน!!!


ข่าวสารต่อไปนี้จงฟังหูไว้หูเท่านั้น:


ในปี ค.ศ.2011 ไทยเราและทั่วโลก จะเป็นปีแห่งภัยพิบัติ สังคมวิบัติ การเมืองวิบัติ เศรษฐกิจวิบัติ จิตสำนึกมนุษย์วิบัติ และเชื้อโรควิบัติรุนแรงกว่าปี ค.ศ. 2010 ประมาณเท่าตัว....โปรดคอยเผชิญ


ปี ค.ศ.2011 จะเป็นปีแห่งอุบัติภัย มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นได้ทั่วโลก อาจมีการตายหมู่คราวละมากๆ จะเกิดสึนามิในบางประเทศหรือบางเกาะที่ไม่เคยเกิด อาจจะมีแผ่นดินไหวรุนแรงในระดับช็อคโลกกันอีกครั้ง จะมีข่าวมนุษย์ต่างดาวเยือนโลกแบบเปิดเผยหนาหูขึ้น


ปี ค.ศ.2012 อาจเกิดพายุหมุนร้ายแรงพัดถล่มกรุงเทพฯ...โปรดเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า (ในปีหน้าจะยืนยันการเกิดไม่เกิดอีกครั้ง) กรุงเทพฯน้ำจะท่วมมากสุดในรอบสิบปี


ปี ค.ศ.2015 ระวังพม่าแผ่นดินไหวใหญ่ด้านติดทะเลอันดามันจนหักโค่นจมทะเล อาจทำให้ด้ามขวานไทยตรงประจวบฯหักจมตามไปด้วยเพราะแผ่นดินติดกันและจะก่อให้เกิดสึนามิรุนแรงทั่วมหาสมุทรอินเดียและอ่าวไทย บางเกาะในมหาสมุทรนี้จะจมทะเลหายไปจากแผนที่โลก ที่สำคัญอ่าวไทยกับอันดามันอาจจะทะลุถึงกันในคืนนั้นเลย?


ปี ค.ศ.2010 ราวๆ พ.ย.-ก.พ. ค.ศ..2011
u คนไทยต่างสีเสื้อกันอาจก่อหวอดตีกันให้วุ่นวาย เพราะเรื่องการเมืองอีกแล้ว
v เด็กอาชีวะจะก่อคดียกพวกตีกัน-ฆ่ากันให้วุ่นวายอีก
w อาจมีบุคคลสำคัญหรือชนชั้นสูงถึงแก่ชีวิตกะทันหัน
x คนดังที่เกี่ยวข้องทางการเมืองบางคน เพิ่งพบว่าตัวเองเป็นโรคร้ายแรง
y อาจมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แต่จะมีปัญหาในการหาเสียง และมีปัญหาในการตั้งรัฐบาลเรื่องใครจะเป็นนายกฯ


อาจารย์บอกว่าไม่มีใครห้ามภัยพิบัติได้ เพราะเป็นแผนปฏิบัติการเพื่อการชำระโลกที่ถูกพิพากษาหรือกำหนดเอาไว้แล้ว เพียงแต่มันจะเกิดวันไหน ช้าหรือเร็วและหนักหรือเบาแค่ไหนเท่านั้นเอง จึงขอทุกคนจงปฏิบัติตาม 5 ข้อที่แนะนำไว้ข้างต้นเถิด อย่ามัวเสียเวลาไปกับข่าวลืออันใดเลย


ด้วยรักและปรารถนาดีแท้จริง
ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ ชมรมฯ UCSA
Tel.089-105-2727, 086-374-0088, 02-938-0062​

ที่มา http://ufokaokala.com/index.php?topic=1729.0<!-- google_ad_section_end -->
เครดิต คุณเกษม

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Ua0H0NplVvk&feature=related"].....[/ame].......................

 

การกวนโอ๊ยคนอื่นได้โดยไม่ถูกตื้บถือว่าเป็นวาสนา

ก๊อปมาจาก ขาใหญ่

 

"ด่าออนไลน์" วงจรอุบาทว์เด็กไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ธันวาคม 2553 11:44 น.

ถือเป็นเรื่องที่ต้องจำใจยอมรับว่า วันนี้วัยรุ่นไทยได้วิวัฒนาการเขียน "คำด่า" จากที่เคยอยู่ในห้องน้ำ โต๊ะเรียน หรือกำแพง มาเป็นบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแล้ว ที่น่าวิตกคือ นาทีนี้การด่าทอออนไลน์กำลังมีแนวโน้มก่อตัวขึ้นเป็นวงจรอุบาทว์ซึ่งอาจจะ กัดกินสังคมไทยต่อไปในอนาคต เพราะงานสำรวจล่าสุดพบว่า 40% ของวัยรุ่นไทยทั่วประเทศพร้อมจะด่าทอกลับเมื่อโดนกระทำ

ดร.วิมลทิพย์ มุสิกพันธ์ หัวหน้าโครงการวิจัยเรื่อง "ปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมความรุนแรงทั้งทางกายภาพและการข่มเหงรังแกผ่านโลกไซเบอร์ของเยาวชนไทย" และอาจารย์สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ให้ข้อมูลว่า มากกว่า 26% ของกลุ่มตัวอย่างเยาวชนไทยอายุ 12-24 ปีจำนวน 2,500 คนทั่วประเทศ ไม่เห็นว่าการโพสต์ข้อความด่าทอบนอินเทอร์เน็ตเป็นการทำร้ายใคร และอีก 25% คิดว่าผู้ที่ด่าทอคนบนอินเทอร์เน็ตได้นั้น "เท่"

ถามว่าทำไมเรื่องนี้จึงน่าวิตก ดร.วิมลทิพย์ชี้ว่า เหตุ ที่คนไทยต้องสนใจเรื่องนี้เพราะการด่าทอคือหนึ่งในความรุนแรงที่ไม่ควรให้ บ่มเพาะในเด็กด้วยประการทั้งปวง โดยความรุนแรงคือ 1 ใน 10 ที่นำไปสู่สาเหตุการตายยอดนิยมในประเทศไทย

การด่าทอนั้นเป็นรูปแบบการข่มเหงรังแกออนไลน์หรือที่ต่างประเทศเรียก กันว่าไซเบอร์บูลลีอิง (Cyber-bullying) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเด็กไทย โดยดร.วิมลทิพย์เผยว่า 25% ของกลุ่มตัวอย่างเคยเป็นเหยื่อถูกนินทา ด่าทอ รองลงมาคือ 21% เคยถูกส่งข้อความก่อกวน 10% เคยถูกนำข้อมูลส่วนตัวมาเผยแพร่ 10% เคยถูกแอบอ้างชื่อให้ร้าย 13% เคยถูกล้อเลียน ข่มขู่ คุกคาม และ 13% เคยถูกลบออกจากกลุ่ม

"การสำรวจพบว่า บทบาทการเป็นเหยื่อและผู้กระทำหมุนเป็นวงจร กลุ่ม ตัวอย่าง 40% บอกว่าถ้าโดนมาจะทำกลับ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเด็กไม่รู้วิธีแก้ปัญหา และตัดสินใจแก้แค้นทำกลับ หมุนเป็นวงจรไม่จบสิ้น มีเพียง 5% เท่านั้นที่ไม่เคยบอกครู ปกปิด รอจนการข่มขู่จะเลิกไปเองโดยไม่ตอบโต้"

กลุ่มตัวอย่างมากกว่า 43.1% ระบุว่าเคยถูกรังแกผ่านโลกไซเบอร์ แม้ตัวเลขนี้จะน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือการที่วัยรุ่นไทยเป็นทั้งผู้ถูกรังแกและเป็นผู้ รังแกเสียเอง ทั้งที่ส่วนใหญ่รู้ว่าการข่มเหงนี้ไม่ควรกระทำ เพราะทำลายสุขภาพจิตเหยื่อ เป็นความรุนแรงและเป็นเรื่องที่ผิด สร้างปัญหา จุดนี้การศึกษาของดร.วิมลทิพย์พบว่าเกิดจากปัญหาครอบครัว โดยเฉพาะในเด็กอาชีวะที่มากกว่า 24% รู้สึกว่าแม่ไม่เข้าใจ เมื่อกระทำผิดแล้วจะโดนพ่อแม่ดุด่า ครอบครัวทะเลาะเป็นประจำ ไม่มีใครสนใจ

"วัยรุ่นไทยมากกว่า 30% ไม่กล้ากล่าวปฏิเสธ 36.5% ต้องการเป็นที่ยอมรับจึงต้องเห็นด้วย อัตราการข่มเหงรังแกออนไลน์ในเด็กไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษา เพราะเด็กรู้สึกว่าใครๆก็ทำ ถ้าทำต่อก็ไม่เห็นเป็นเรื่องอะไร"

ดร.วิมลทิพย์ชี้ว่า ประเทศไทย สามารถใช้แนวทางแก้ปัญหาจากประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งญี่ปุ่น สหรัฐฯ และอื่นๆที่ล้วนผ่านช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วงมาแล้ว โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่สามารถดึงเด็กที่มีแนวโน้มเป็นผู้ข่มเหง มาบ่มนิสัยให้เด็กรู้สึกว่าการข่มเหงรังแกออนไลน์ไม่ใช่ความเท่ได้สำเร็จ

"ญี่ปุ่นรู้ว่าวิธีไหนเวิร์กไม่เวิร์ก ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นตั้งหน่วยงาน ตรวจจับคำด่าทดข่มขู่ มีการสั่งห้ามพกโทรศัพท์-ห้ามแชตในโรงเรียน นอกเวลาเรียนให้พ่อแม่ดูแล แม้จะร่วมมือกันทั้งโรงเรียน-รัฐ-ครอบครัวก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพราะ เด็กเรียนรู้ว่าคำไหนจะถูกตรวจจับจึงเปลี่ยนเป็นสื่อสารด้วยศัพท์แสลงที่ ผู้ใหญ่ตามไม่ทัน ผลที่ได้ไม่คุ้มเงินที่ลงทุนระบบไป จากนั้นญี่ปุ่นจึงเปลี่ยนมาเล่นงานที่บุคลากรแทน กลับกลายเป็นว่าบุคลากรโรงเรียนกลับไม่รายงานว่ามีการข่มขู่ที่แท้จริง เท่าใด เมื่อไม่ได้ผล ญี่ปุ่นจึงกลับมาสร้างความเข้มแข็งกับครอบครัวและเด็ก ให้เด็กรู้สึกว่าไม่เดือดร้อนเมื่อถูกด่าทอ ทำให้ไม่เกิดวงจร"

ดร.วิมลทิพย์ชี้แนวทางว่าจะต่อยอดงานวิจัยชิ้นนี้ไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ โดยเชื่อว่างาน วิจัยนี้จะทำให้วิธีการคัดกรองเด็กในโรงเรียนไทยเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะแบบวัดระดับความสมบูรณ์ทางอารมณ์หรือ EQ ที่วัยรุ่นซึ่งเป็นผู้ข่มเหงออนไลน์ยังสอบผ่าน

"เด็กเรียนดีหน้าตาใสซื่อจำนวนไม่น้อยเป็นผู้ข่มเหงในไซเบอร์บูลลี อิง ทั้งหมดนี้กฏหมายไม่ใช่คำตอบ กฏหมายไทยไม่ได้ไม่ดี แต่การนำไปใช้เท่านั้นที่มีปัญหา สิ่งที่จำเป็นในตอนนี้คือพ่อแม่ต้องรู้ IT ไม่ใช่เป็นทุกข์เรื่องผลการเรียนของลูกอย่างเดียว"

วิมลทิพย์ย้ำหนักแน่นว่าแม้จะมีการข่มเหงออนไลน์ในวัยรุ่น แต่ไม่ได้แปลว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ทุกคนในสังคมที่ต้องลดความไม่ดีของอินเทอร์เน็๋ต ทำให้ดาบ 2 คมด้านที่ไม่ดีนั้นคมน้อยลง

** รู้หรือไม่? **

- คำว่า Cyber-bullying ใช้เรียกการรักแกกันอย่างต่อเนื่องผ่านโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ต เท่านั้น ใช้เฉพาะในกลุ่มเด็ก ส่วนการข่มเหงในกลุ่มผู้ใหญ่จะนับเป็นอาชญากร ซึ่งจะรวมถึงผู้ที่รังแกผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวด้วยการฟอร์เวิร์ดเมล จะได้รับโทษ 5 ปีปรับแสนบาทต่อการฟอร์เวิร์ด 1 ครั้ง

- หากเป็นเหยื่อรังแกออนไลน์ สามารถแจ้งความได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างถูกต้อง ซึ่งจะดีกว่าการกระทำตอบเป็นวงจรไม่รู้จบ

CyberBiz - Manager Online -

 

<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/pGpUM-msRk4?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/pGpUM-msRk4?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>

<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/QAlMDmEaM2w?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/QAlMDmEaM2w?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>

<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/3n5jVHRqSAU?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/3n5jVHRqSAU?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>

<object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/m1yYy6ny1HU?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/m1yYy6ny1HU?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>

<object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/p01XwqVV1-U?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/p01XwqVV1-U?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>

<object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/7w2ImOvgRus?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/7w2ImOvgRus?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>

<object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/4I1SuLV7HV4?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/4I1SuLV7HV4?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>

<object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/pAEpYLnvw9k?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/pAEpYLnvw9k?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>