มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

โรคเบาหวาน โรคตับ โรคปอด โรคมะเร็ง

โรคซึมเศร้าที่มาทีหลังโรคพวกนี้น่ากลัวกว่าเยอะ

ผมก็เป็นเบาหวานนะ แต่เป็นเบาหวานเพราะโรคซึมเศร้า

ซึมเศร้าแต่กินเหล้าไม่เป็น ซัดมันน้ำอัดลมอย่างเดียว 555 กินต่อเนื่องกันนานครับ
เป็นเบาหวานเลย


ว่าแต่คุณชีวินท่าทางจะเป็นพวก ปัญญาจริตปนศรัทธาจริตเหมือนผมนะเนี่ย
น่าจะเป็นพวกอยากเห็นโลกศิวิไลซ์เหมือนกัน เมื่อก่อนผมก็อยากเห็นโลกที่มีแต่คนดีและมีความสุขเหมือนกันครับ

แต่
ตอนนี้มันหวังผลแบบนั้น 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้หรอก
เชื้อให้เกิดอกุศลมันมี แม้สมมุติว่าภัยพิบัติล้างโลกเกิดขึ้นจริง คนไทยที่เหลือรอดเป็นคนดี 100 เปอร์เซ็น ก็ยังเหลือต่างประเทศ ที่เขาก็ยังมีความเชื่อต่างจากประเทศเราอยู่ ความเจริญทางด้านการแพร่กระจายข่าวสารยังมีอยู่

แม้ความรุ่งเรืองจะมีมา แต่ก็ไม่แน่ว่าเราจะควบคุมความรุ่งริ่งได้
แต่ผมว่า ถ้าคำทำนายเป็นจริงแล้วความรุ่งเรืองมาคราวนี้ ความรุ่งเรื่องนี้ก็อาจจะอยู่กับเราอย่างน้อย 300-400 ปีขึ้นไปแหละมั้งครับ

 

อยากเห็นรูปเหมือนพระยาธรรม

 

และหลวงปู่เทพอุดร รบกวนมากไปไหม

 

หลวงปู่เทพอุดร....

ท่านลองหาอ่านในหลวงพ่อฤาษีลิงดำสิขอรับ

 

หลวงปู่หรอ น้องซีไอดีใหม่อยากรู้ทำไมเอ่ย? อิอิ

 

https://palungjit.org/threads/ประวั...ธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ-พิมพ์เป็นตัวอักษร.356194/

 

เอิ่ม กลับมาอีกทีผมไม่ทันโลก(เรื่องที่คุยกัน) เสียแล้ว กลับเข้าป่าแล้วกันครับ 555

 

คือผมว่า ผมคง”เข้าป่า” ดีกว่าครับ

ฮ่วย!!!

 

ถ้าไม่เป็นการรบกวน คุณ Satanial มีอะไรสร้างสรรค์จรรโลงจิต แนะนำผมได้นะครับ ระยะนี้ เจอเกมส์1,000 หน้า หน้ากากอคาเดมี่ เลยอยากเอาตัวเองเข้ากรุ .... เข้าป่า เข้าดอยไปเลย

นี้ก็จะเขวี้ยงอุปกรณ์สื่อสารทิ้งเพราะเหมือนเสพติด
กระแสความติ้งต้องของโลกธรรม ที่มีเวบธรรมมะเป็นฉากบังหน้า กระผมว่า ถ้าไม่มีเนต ไม่มีมือถือก็คงดีเหมือนกันนะครับ เวลาพม่าบุก เกาหลีถล่ม แผ่นดินไหว พายุเข้า ก็จะได้ สูญ เร็วเลย ไม่มานั่งตกกะอ้กต้กกะใจแบบนี้ ....

อยากดื่มไวน์แดง ....

 

หากอยากให้ผมแนะนำ การที่จะหลุดพ้นจากการเจอสิ่งที่ทำให้เหนื่อยๆ เซ็งๆ คงเป็นสติ นั่นแหละครับ นี่แหละจรรโลงจิตที่สุดแล้ว และเป็นการจรรโลงที่ไม่ต้องการ "สิ่งปรุงแต่ง"ซะด้วย


วิธีการฝึก "สติ"

1.ให้นั่งเอาพัดลมเป่า(ห้ามเพ่งปล่อยตัวสบายๆเหมือนจะหลับไปเลยได้ยิ่งดี[ห้ามหลับจริง])ส่วนไหนก็ได้ตามสะดวก
2.ขณะที่อยู่ในอาการสบายๆจะพบว่ามีลมมาตีที่บางส่วนของร่างกายโดยไม่ต้องเพ่ง
3.เริ่มคง อาการรู้ ณ ตรงนั้นว่ามีลมมาตีตรงส่วนนั้นๆ โดยให้ฝึกรู้ไปเรื่อยๆและรู้กว้างขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ว่ากระแสลมมาจากตรงไหนโดยไม่ต้องมองและไม่ต้องเพ่ง (รู้กว้าง)
4.ฝึกให้รู้ละเอียดขึ้น(จับสภาพของอากาศจากการรู้เช่นมีลมไม่มีลม อากาศร้อน อากาศเย็น)
5.เมื่อทำได้แล้วจะพบว่า สภาวะรอบนอกและสภาวะในตัวเราไม่เหมือนกัน มันมีชั้นแยก หรือจะเรียกว่ามิติ(ขอใช้ศัพท์ให้มันหล่ออลังไปเลยจะได้ศักดิ์สิทธิ์หน่อย) คือชั้นรอบนอก ชั้นกายเนื้อ ชั้นความรู้สึกตัว(สัมปชัญญะ) และชั้นอัตตาจิต(ทำได้กี่ชั้นก็เอาเท่านั้น)
6.คงสภาวะของสติไว้เรื่อยๆ ซึ่งจะมีสัมปะชัญญะอยู่ด้วยก็ตามสะดวกแต่ให้รู้ให้บ่อยๆ เมื่อทำได้แล้ว ทันทีที่เริ่มเครียด(กดดัน,วิตก,หรืออะไรก็ตามแต่ที่เป็นสภาวะที่ทุกข์) สิ่งที่แสดงออกมาคือ กายหนักขึ้นทุกข์ขึ้น เราจะรู้ทันที หรือหากรู้ในชั้นของอัตตาจิตที่เพ่งไปดูในสิ่งอื่นๆได้ก็เลิกเพ่งซะ เมื่อรู้ว่ากำลังจะทุกข์ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด(รู้จากอัตตาจิตหรือกาย)ก็วางซะ(โดยการเลิกเพ่งสิ่งใดๆดำรงสติไว้เฉยๆ) และการมีสติแบบนี้ย่อมช่วยได้ทั้งในชีวิตประจำวันทั้งทางโลกและทางธรรมครับ


ปล.คนส่วนใหญ่เขาเข้าใจว่าเขามีสติ แต่ความจริงเขาไม่มี(เพราะเขาไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาทุกข์เขาสุขเขาจะรู้ต่อเมื่ออาการมันคงอยู่ไปสักระยะแล้วเท่านั้นและเขาก็ไม่มีสัมปะชัญญะ[เหมือนคนเวลาเราจะเดินความรู้สึกตัวไม่มี เดินเป็นระบบ auto] และเขาก็ไม่รู้รอบนอกด้วย) เพราะหากมีสติจริงๆเมื่อได้ยินเสียงรถ หรืออะไรฝ่าอากาศ มาก็ย่อมหันไปมองแล้ว หรือตอบโต้ตามสัญชาติญาณ แต่บางคนตกใจทำอะไรไม่ทันก็มีเพราะไม่มีสติ(ไม่นับคนที่มีสติแต่ไม่รู้ว่าควรทำอะไร ณ ขณะนั้น) นั่นแล และนี่คือฐานของการฝึกที่ทำให้ไม่หลงในสมาธิด้วยครับ


EDIT : และที่สำคัญหากฝึกได้แล้ว รู้แล้วว่าสภาวะของการดำรงสติมั่นเป็นอย่างไร เมื่อเราหลงไปในสิ่งที่ไม่ใช่ปัจจุบัน ขณะ เช่น เวลาคิด เราไม่ได้อยู่ในปัจจุบัน เราไม่รู้รอบตัวไม่รู้อะไรเลย กับเวลามโนเป็นภาพในหัว มันก็ไม่รู้ถึงปัจจุบันเช่นกัน ดังนั้นเทคนิคนี้ขอเรียกว่า "กลับสู่ปัจจุบัน ขณะ" ครับ หากฝึกได้ก็จะไม่หลง ไม่เจอนิวรณ์ อย่างแน่นอน และรู้สภาวะธรรมตามจริง จากเนื้อกายได้เลยครับ

EDIT 2 : และนี่แหละคือข้อสำคัญที่ทำให้ "รักษาศีลได้ตลอด" เพราะที่คนปกติรักษาศีลกันได้ติดๆดับๆ เพราะไม่เคยฝึกสติ เขา ถือแค่ "ศีล สมาธิ ปัญญา" แต่จริงๆแล้วหากจะรักษาศีลได้ตลอดสิ่งที่ทำให้สำเร็จคือ "สติ สมาธิ ปัญญา" นะครับ เผื่อไว้สำหรับคนที่อยากรักษาศีลได้โดยไม่หลุดและไม่เกร็งด้วยครับ

 

ขอบคุณครับ
มโนจิตที่ปรุงแต่ง ทำให้เราเกิด อารมณ์ ทุกย์ สุข เศร้า สารพัดจะเมคอัพขึ้น จนเกิดสภาวะ หลงติด หลงมิติ แล้วทำให้ไม่เกิดปัญญา เพราะไอ้ไม่มีสติสัมปชัญญะนี้ล่ะครับ...

 

การใช้เวลาไปกับการวิจัยหาความเป็นพุทธะ
ในตน
เพื่อความดับทุกข์
เป็นสิ่งที่คุ้มค่าน่าลงทุนมากกว่า
เพราะเป็นการทุ่มเพื่อปลดปล่อย
ตนเองสู่อิสระภาพ
ส่วนการทุ่มเท
ด้านอื่นๆ ที่ทำเพื่อแลกกับวัตถุและเพื่อปากท้อง
ซึ่งยิ่งทุ่มยิ่งเสี่ยงต่อต้นทุนชีวิต
พราะเป็นการทุ่มเพื่อกอบเก็บ
เอาเข้ามาเป็นของตน

 

เล่าเรื่องกบฏผีบุญ อยากรู้เรื่องรายละเอียด
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

ศรัทธาพละมากกว่าปัญญาพละ จะทำให้มีโมหะได้ง่าย จนเกิดราคะ โทสะได้ง่าย ทำให้อาจเกิดกามฉันทะนิวรณ์หรือพยาบาทนิวรณ์
ปัญญาพละมากกว่าศรัทธาพละ จะเกิดวิจิกิจฉานิวรณ์ ความลังเลสงสัย
วิริยะพละมากกว่าสมาธิพละ จะเกิดอุทธัจจะกุกกุจจะนิวรณ์ ฟุ้งซ่านและรำคาญใจ
สมาธิพละมากกว่าวิริยะพละ จะเกิดถีนมิทธะนิวรณ์ ควางง่วงและท้อแท้ เกียจคร้าน
////


ผมเป็นคนวิกลจริตจริง ๆ ด้วย นิวรณ์มาครบเลย

 

ใช่ครับ และนี่เป็น ธรรมะวิจัยยะ หรือการวิปัสสนา ของจริงด้วยครับ เพราะขณะอยู่ในสภาวะนั้นๆเรารู้ตามจริง จิตส่งออก จิตตั้งมั่นก็รู้ หรือเนื้อกายเวทนาเปลี่ยน(เช่นเวลาโกรธกายจะร้อนระอุแน่น)ก็รู้อยู่ โดยพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม(มารมณ์)ตามที่ปรากฏได้เลยครับ
ไม่ต้องไปนั่งมโนวิปัสสนาเอาเอง ที่หลายคนเรียกวิปัสสนึกนั่นแหละครับ

 

สนใจไปเป็นอัลกออีดะห์ปลดปล่อยคนบ้าในเว็บกันไหมครับ ลุงแมว ฮาๆ

 

ฮาๆไม่หรอกครับ นิวรณ์มันมาตาม สถานการณ์ นาครับ แต่ผมว่าท่านซะลิวัน น่าจะ วิตกจริต มากกว่า วิกล นะครับ

 

555 จริต 6 มาครบครับ ที่มามากกว่าเพื่อนเป็นวิตกจริต กับโทสะจริต(เมื่อก่อน ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเหมือนเดิมมั้ย) ที่เหลือเฉลี่ย ๆ ไป พอ ๆ กันครับ

 

บทความนี้ไปอ่านเจอมาครับ
น่าจะเป็นบทสรุปได้ดีไม่มากก็น้อย
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=2386

 

น่าเสียดายนะครับ ที่ผมเห็น.. คนชั่วน่ากลัวแต่น่าอันตรายน้อยกว่าคนดีกลายพันธุ์
เขาให้ไปช่วยคนไปปราบมาร ไม่ใช่เจือกไปเป็นหัวหน้ามาร.. คนในเวบเยอะครับ หลายตัวอยู่
เฮ้อ.....แต่สำหรับกระผม การทำลายคนชั่ว อภิบาลคนดี ด้วยชีวิตและจิตวิญญาณ ยังต้องกระทำอยู่
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม...


ไปล่ะครับ ไวน์หมดขวด...