มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

เราดูตัวเรา เราดูใจเรา
เราควรทำอย่างไร
เราสามารถช่วยได้หรือไม่
บารมีเรามีเท่าไหร่
เราพร้อมยอมตายเพื่อเขาหรือเปล่า
เขารู้จักคุณธรรมบ้างไหม
เขารู้จักเอื้ออาทรต่อผู้อื่นหรือเปล่า
เพื่อนเราบูชาพระรัตนตรัยหรือบูชาใคร..
ควรทำอย่างไรตัดสินใจด้วยตัวเอง
...โลกต้องการคนดี..
...กรรมกำลังทำหน้าที่..
...เรียกว่ากรรมยุค4G
...เจ้าของเรือนกำลังเก็บกวาด..
...ใครขวางทางย่อมมีผลกระทบด้วย...

 

เรื่องควบคุม กาย วาจา ใจ ชำระล้างวางจิตนั้นเป็นเรื่องหลักที่จะต้องมีในโลกและสังคม ที่จะนำพาไปสู่บันไดขั้นต่อไป

 

ในเมื่อจิตคือสิ่งวางเปล่า ยังไงก็หนี้ไม่พ้นตัวตนและค่าเดิมที่เป็น มั้ยว่าจิตนั้นจะห่างเหินจากค่าเดิมที่เป็นไปไกลแค่ไหน ลองดูสักตั้ง คงมั้ยเสียหาย

 

..อดีตชาติของเรานั้น...ชาติหนึ่งได้เป็นศิษย์พุฒาจารย์โต พรหมรังษี จึงเรียกได้ว่าเราเป็นศิษย์วัดระฆัง สิ่งที่จะหยุดเราได้นั้นมีเพียงเสียงระฆังจากขรัวโต...เราเคยถูกท่านควบคุมจิตมาแล้วครั้งหนึ่ง เราย่อมรู้ดีว่าเราควรทำอย่างไร...หากเราไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงท่านคงไม่ปล่อยให้ศิษย์ตายแน่นอน
..อดีตชาติครั้งนั้นท่านรักเราเหมือนลูกแท้ๆ...

 

"ภิกษุจงดำรงตนด้วยความไม่ประมาทเถิด"
พระโมคคัลลานะ ทรงอภิญญาถึงเพียงนั้น "ยังหนีกรรมไม่พ้น" ไม่มีใครช่วยใครได้ถึงระดับห้ามความตายได้จึงได้มีคำกล่าวว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" นะครับ

ทิษฏิ(ความเชื่อ/ตั้งม้่นในความคิด)ไหนๆที่ไม่ตรงตามจริงนั้นไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมสนองนะครับ มันคุ้มแล้วหรือที่จะแลก ลองพิจารณาตามจริงดูนะครับ

 

สัมผัส รับรู้ และวาง

 

ว่าแต่ว่าท่าน เทวิน หายเงียบไปเลย ไม่สบายทางกาย ใจ จิต หรือ ติดธุระหนอ

 

ผมก็เคยโดนตามเหมือนกัน เมื่อหลายปีก่อน
ตอนนั้น ผมติดขัดในการทำสมาธิแบบ พุทโธ
พอผมสมาธิแล้วปวดหัว ผมก็ไปต่อไม่เป็น
ติดแหง๊กอยู่ตรงที่ปวดหัวนี่แหละ

จนวันหนึ่งไปอ่านหนังสือของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ที่มีคนเอามาทิ้งไว้ในที่ทำงาน
ผมก็ว่า พระกับลูกศิษย์ สงสัยจะบ้านิพพานไปหน่อยนะ
อะไรๆ ก็จะไปนิพพานอยู่ท่าเดียว
ขนาดผมฝึกกับ พระอาจารย์สายวัดป่า มาตั้งนาน
ยังไม่เคยทำได้ใกล้เคียงกับ พระโสดาบัน
จะไปหวังอะไรกับ พระนิพพาน

จนกระทั่งคืนหนึ่ง ก็แบบเดียวกันนี้เลย
แล้วก็มีนางฟ้าใส่ชุดสีชมพูมาเกี่ยวข้องด้วย
ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะคิดว่า คิดไปเอง
วันหนึ่ง ผมก็เล่นเกมส์ในเฟสอยู่
แล้วข้อความของ บอร์ดพลังจิต ก็เด้งขึ้นมา
ผมก็คลิ๊กตามอ่าน จนไปเจอกับ นางฟ้าชุดสีชมพู
ที่ห้อง อภิญญาxp โน้น ก็เลยสิงอยู่ที่นี้
ไม่ได้ไปไหนอีก ต่อมาก็เลิกเล่นเกมส์
แล้วก็ฝึก อรูปญาน จนคล่องดีแล้ว ก็ปล่อยวาง

 

ท่าน เล่าปัง ครับ
ทำไมท่านยัง คอมเม้นต์คนอื่น อยู่เล่า
ท่านทำไมไม่ คอมเม้นต์ตนเอง
แบบนี้ ผมว่า ท่านนี้จะพาคนที่เห็นด้วยกับท่าน
ไปเที่ยว นารากะ ซะมากกว่า
คำพูดผิด ก็กลับคำได้ ไม่มีเสียหาย
แต่ถ้า ความเห็นผิด อันนี้อันตราย
ผมว่า คอมเมนต์แต่เรื่องดีของคนอื่นดีไหม
ไม่งั้นเดี๊ยวจะโดนผมเตะโด่งจนรับไม่ทัน
เดี๊ยวจะจุกเสียเปล่า ผมขอร้อง
ถ้าทำไม่ได้ ก็ฟังอย่างเดียว
ไม่ต้องออกความคิดเห็นก็ได้
จะได้ไม่ต้องบาปกรรม โดยไม่จำเป็น
ถือเสียว่า ผมขอร้องก็แล้วกัน

 

เกือบถึงที่สุดแล้ว
อยู่ลืมคาถาของ พระพุทธองค์ ที่ว่า
สรรพสิ่งเพียงสมมุติๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ มองเห็นสิ่งใด
สิ่งนั้นก็เป็นเพียงแค่ สิ่งสมมุติ นั่นเอง

 

คนเหล่านี้ ไม่ได้คิดช้า
แต่เป็นเพราะ คนพวกนี้ ฝึกอานาปานสติ
หรือฝึกการกำหนดลมหายใจ
มาหลายชาติภาพแล้ว
พอเกิดมาอีกครั้ง ก็จะมีอาการ
เหมือนคนที่เข้าญานที่สี่อยู่ตลอดเวลา

วิธีแก้ก็คือ ให้ไปฝึกกสินชนิดที่มีคำกำกับยาวๆ
จะทำให้จิตเร็วขึ้น ทำงานที่เร็วขึ้น
อย่างเช่น คำกำกับว่า สัมมาอะระหัง
โดยให้ทิ้งคำวา พุทโธ ไป
แล้วเปลี่ยนเป็นคำยาวๆ แทน
ก็จะใช้ได้เหมือนกัน

 

ท่านเล่าปัง
ท่านใช้ภาษาอ่อนด้อยในทางธรรม
ท่านยังกล้าว่า คนอื่นที่เค้ารู้เห็นมากกว่าท่าน
แล้วยังจะหาพวก ร่วมหัวจมท้ายกับท่านอีก
ท่านนี่เล่นไม่เลิกเลยนะ

องคุลีมาร ฆ่าคนเป็นพัน
เป็นนักโทษของบ้านเมือง
ก็ยังวางดาบที่ฆ่าคนลงได้
ยอมให้คนอื่นได้ฆ่าตนเองบ้าง
สลับกัน

แต่ท่านมีบารมีอยู่บ้าง ไม่น้อย
ยังกระแนะกระแหนคนอื่น
ในทางธรรมอยู่
ทำเพื่ออะไร หากท่านมีดี
ก็ให้โชว์ ดี ที่ท่านมีออกมาให้ดูดีกว่า
ยอมให้ผู้อื่นด่าบ้าง
อาจจะได้บรรลุธรรมโดยพลัน
หรือว่า ระดับท่าน ยังกลัวความดีของตนเองอยู่

 

ฝากให้ที่หลบภัย ที่พวกเราจะไปรวมกัน
เวลาที่พื้นที่ถูกตัดขาด ที่เทือกเขาเพชรบูรณ์
คือ

1 วัดซับลังกา ต.เกาะรัง อ.ชัยบาดาล
จ.ลพบุรี ถนนเส้น ลำนารายณ์ - วิเชียรบุรี

2 วัดเขาน้อยปัจเจกธรรม ต.เกาะรัง อ.ชัยบาดาล
จ.ลพบุรี
https://web.facebook.com/watkhaonoi00/?rf=432017376821365&_rdc=1&_rdr

3 วัดรังย้อย ต. หนองย่างทอย อ.ศรีเทพ จังหวัด จ. เพชรบูรณ์

 

ท่าน nilakarn ครับ พอดีมีเรื่องอยากจะถามหน่อย
มีร่างกาย มีจิต แล้วมีอะไรต่อจากจิตครับ ผมจะได้ทำความเข้าใจกับมัน พอดีว่าพึ่งเริ่มครับ บางทีของเก่าผมอาจจะหลงเหลือ หากมีคนเตือนและบอก อาจจะพอเข้าใจได้

 

จะต้องเรียว่า
กาย
เวทนา
จิต
ธรรม
ครับ จึงจะถูกต้อง

กายมันหยาบที่สุด เวลาจับอารมณ์
ก็จะทำได้ง่ายสุดครับ

ส่วนเวทนาละเอียดลงมาหน่อย
แต่ก็ยังหาเจอในร่างกาย
จึงจำเป็นจะต้องไว้อันดับที่สอง
เมื่อจบกิจที่กายแล้ว เราก็ต้องมาต่อที่เวทนา

ส่วนอันดับที่สาม จิต
เป็นของละเอียดขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง
คือ ถ้าไม่ได้จบกิจกาย กับ กิจเวทนา มาก่อน
ก็ยากที่จะสังเกตเห็นเรื่องของจิต
เพราะเป็นเรืองที่เบาบางอย่างมาก

ส่วนอันดับที่สี่ ธรรม อันนี้ยากที่สุด
ละเอียดที่สุด มีร่อยรอยเหลืออยู่นิดหน่อย
ถ้าไม่สังเกตให้ดี ก็อาจจะไม่เห็นเลย
ผู้ที่เห็นส่วนมาก จะต้องจบกิจกาย
กิจเวทนา กิจจิต มาก่อน จึงจะสามารถ
สังเกตเห็นธรรมได้
โดยเฉพาะ ผู้ที่ศึกษามามาก มักจะติดอยู่ตรงนี้
กลับก็ไม่ได้ ไปต่อก็ไม่เป็น เพราะว่า
ตัวเราก็คือธรรมเหมือนกัน
จะสังเกตเห็นธรรมอีก ได้ยากมาก

แต่ก็มีนักศึกษาบางคน ที่จบทีเดียว
เป็น พระอรหันต์เลย
ไม่ต้องมาศึกษาตามขั้นตอน
แต่ก็แทบจะหนึ่งในโกฎิ
ของ พระอริยะเจ้า เลยทีเดียว

 

เกมเมอร์ที่ว่าแน่ หลายท่านยังต้องยอมจะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับท่าน nilakarn
กว่าน้ำขุ่นจะตกตะกอนรอการระเหยเหือดแห้งไป ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่มีอะไรยากเสมอไป

 

ครับผม ทุกๆท่าน
คืนนี้นอนหลับฝันดี ตื่นลืมตาขึ้นมามีสตังค์ ซื้อหนมกินครับ
ดาราแฟร์ ติ๊งต๊องบ้างบางเวลา.

 

ครับผม เคยเล่นตั้งแต่ เกมส์แรกนาร๊อค เครื่องpc ขายดาบในเกมส์ อันละ แสนบาท
ก่อนหน้านั้น ก็เครื่องแฟมิลี่ครับ แต่ตอนนี้ รู้สึกว่า จะเล่นเกมส์อะไรก็ไม่สนุกแล้ว เพราะมีแต่เกมส์ซ้ำๆกันไปมา มาขลุกอยู่ใน บอร์ดพลังจิตแทน

 

ผมรออ่านบทความของ ท่าน อ. ดาราแฟร์ยุนะครับ

 

ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็น พระ อยู่ทุกขณะจิต
แต่เมื่อจำเป็นจะต้องเป็น ก็ต้องเป็นพระ ให้ถึงที่สุด นี่คือ หลักการครองจิตของเรา
หากเป็นพระ อยู่ตลอดเวลา โดยที่เราไม่ใช่ เพศพระ
จิตจะอ่อนล้าถึงที่สุด ไม่สามารถทำการทำงานได้ แนะนำ ให้ฟังเพลงบ้าง ดูหนังบ้าง ร้องเพลงบ้าง เพื่อผ่อนคลายจิต