ติดตามสถานะการณ์

สุดสลด ชาวบ้านอิหร่านซดเมทานอลดับอื้อ หลงเชื่อข่าวลือรักษาโควิด-19 ได้
ชาวบ้านอิหร่านหลายสิบคนเสียชีวิตจากอาการเมทานอลเป็นพิษ เพราะหลงเชื่อข่าวลือว่าการดื่มสุรารักษาโรคโควิด-19 ได้ จึงต้มเหล้าเถื่อนดื่มเป็นจำนวนมาก
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

หมออังกฤษคอนเฟิร์ม รักษาผู้ป่วย HIV หายรายที่ 2 ของโลก
แม้ไวรัสโควิด-19 จะยังไม่มียารักษา แต่วงการแพทย์ก็มีข่าวดี เมื่อหมอสามารถรักษาผู้ติดเชื้อ เอชไอวี ให้หายได้เป็นรายที่ 2 ของโลกแล้ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ภาพความโหดร้ายน่ากลัวในตลาดหุ้นและน้ำมันดิบเมื่อวาน มลายไปสิ้น และหวยไปออกที่ตลาดพันธบัตรแทน เพราะเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างเร็ว

ตามไปดูคำอธิบายและกราฟแนวโน้ม ภาวะตลาดวันที่ 10 มี.ค. 63 ได้ที่ลิงก์นี้

[ bit.ly/TIF_10Mar20 ]

(ส่วนที่ซ่อนไว้ในรูป เป็นความตั้งใจให้คลิกลิงก์เพื่ออ่านข้อมูลที่ครบถ้วน )

 

Alibaba อ้าง AI สามารถตรวจจับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้แม่นยำถึง 96% ในเวลาไม่กี่วินาที
เป็นอีกหนึ่งในบทพิสูจน์ที่สำคัญของนวัตกรรมและเทคโนโลยีว่าจะเข้ามาช่วยยับยั้งหรือสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ที่กำลังพ่นกระจายพิษไปทั่วโลกได้อย่างไร
ล่าสุดสำนักข่าว Sina Tech News ในประเทศจีนได้รายงานว่า ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Alibaba นั้นสามารถคัดกรองและตรวจจับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการอ่านผล CT Scan บริเวณหน้าอกของผู้ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีระดับความแม่นยำอยู่ที่ 96% ด้วยเวลาประมาณ 20 วินาที

 

#Earthquake
วันที่ 10 มี.ค. 2563
เวลา 21:06 น. ตามเวลาประเทศไทย
แผ่นดินไหว Kuripan, Indonesia
พิกัด 5.884°S 102.935°E
ขนาด 5.5 ลึก 29.5 กม.

https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us60008d51/executive

 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเขาไม่มีทางติดไวรัสโคโรน่า
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-
รอยเตอร์ส อ้างว่าเมื่อเย็นวันอังคาร ประธานาธิบดีสหรัฐไม่ยอมรับการตรวจสอบของแพทย์ทำเนียบขาวสำหรับ ไวรัสโคโรนา โดยบอกว่ามันไม่ได้แสดงอาการใดๆของการติดโรคไวรัสโคโรน่า
ตามที่ได้รายงานข่าวของเครือข่าย "ซีเอ็นบีซี" กล่าวว่า ทรัมป์จับมือกับ ดั๊กคอลลินจอร์เจียสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้เดินทางไปกับแมตต์เกตส์ฟลอริด้าในคณะกรรมการ บนเครื่องบินประธานาธิบดีในวันจันทร์
คอลลินและเกตส์ ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา
เพราะพวกเขาเชื่อมต่อโดยตรงกับคนในที่ประชุมดำเนินการทางการเมืองอนุรักษ์นิยมในแมรี่แลนด์ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
(แต่ทรัมป์มั่นใจว่าเขาไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแน่นอน เพราะอาจจะ"ฉีดวัคซีน"ไว้แล้ว เขาเลยมั่นใจเต็มร้อยว่าเขาปกติดีไม่ทางที่จะติดไวรัสโคโรน่าอย่างแน่นอน เพราะมีภูมิคุ้มกันจากวัคซีนแล้ว)
BY>>>>>Giant Khan<<<<<
https://www.alalamtv.net/news/4786231/ترامب-يكشف-حقيقة-إصابته-بفيروس-كورونا

 

“บทเรียนจากอิตาลี่ สู่ไทย....”
แค่พลาดไป 1 Case ก็เกินพอ.....
ชั่วไม่กี่ข้ามคืน อิตาลี่ ก็แซงเกาหลีใต้ไปแล้ว
แค่การติดตามCaseต้นตอ(Patient Zero)ไม่พบ
แค่คนที่ติดเชื้อ หลุดมือไป1คน ก็สามารถระบาดไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ....
ยิ่งมีความล้มเหลวในระบบการกักกันผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง ก็ยิ่งเพิ่มการระบาดรวดเร็วขึ้น....
“แค่พลาด หรือ หลุดไป1 Case ก็เกินพอ เพราะแค่1Case ก็สามารถแพร่เชื้อเป็นปฏิกริยาลูกโซ่ขยายจำนวนไปอย่างรวดเร็ว..ไม่มีที่สิ้นสุด...
ปรากฏการณ์เข่นนี้ ได้เกิดขึ้นทั้งในจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน และ กำลังจะตามมาอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป...
Italy มีผู้ติดเชื้อมากกว่า South Koreaไปแล้ว
มีเกือบหมื่นCasses (9,172) ตายสูงมาก(463)
อัตราตายสูงถึง5%...(10/03/20)
สาเหตุแห่งการระบาดหนักของอิตาลี เพราะ...
1.ความล่าช้าในการดำเนินการตั้งแต่พบ2Casesแรกที่Romeตั้งแต่31มกราคม 63
2.การวินิจฉัยโรคผิดพลาด(คิดว่าเป็นแค่ไข้หวัดใหญ่)แค่1caseที่Lombadia ตอนเหนือของประเทศ จนทำให้เกิดการติดต่อไปยังบุคคลากรทางการแพทย์ และ ผู้ป่วยจำนวนมาก ตลอดจนขยายตัวไปจนเกือบทั่วประเทศในเวลาที่รวดเร็วมาก
3.ไม่มีมาตรการป้องกันการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพพอเพียง(มีข้อจำกัดด้านการบริหารจัดการ กำลังคน และงบประมาณ..ตามข้อที่9)
4.ค้นหาต้นตอของผู้ติดเชื้อคนแรก(Patient Zero)ไม่พบ ไม่สามารถติดตามตัวต้นตอการติดเชื้อได้ และล่าช้ามากเกินไป
5.นิสัยส่วนตัวของชาวอิตาลี ค่อนข้างรักสนุก รักความสะดวกสบาย ไม่ค่อยระมัดระวังตัวเท่าไร
6.ไม่นิยมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันโรค ซึ่งรวมถึงหลายประเทศในยุโรป นโยบายหลายประเทศ คือคนที่ใส่กน้ากาก ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่เป็นโรค แต่สำหรับ Covid-19นั้น คนที่กำลังแพร่เชื้ออยู่มักจะไม่ทราบว่าตนเองกำลังติดเชื้ออยู่ แม้กระทั่งระยะที่กำลังเป็น Pneumonia ซึ่งสามารถเดินเพ่นพ่านแพร่เชื้อไปทั่ว
**สาหรับการป้องกัน Covid-19แล้ว ขอให้ทุกคนจงนึกอยู่เสมอว่า คนที่เรากำลังอยู่ใกล้ คือ คนกำลังแพร่เชื้อ
7.Italy มีประชากรสูงวัย(อายุเกิน65ปี)ถึง22.8% มากที่สุดในEUทำให้มีการติดเชื้อง่ายและอัตราตายสูงมาก
8.นอกจากนี้ จากสถิติการท่องเที่ยวของอิตาลี่ ปรากฏว่าคนจีนนิยมเที่ยวItalyมาก
9.Italyเป็นประเทศใหญ่เป็นอับดับ4ของยุโรป มีปัญหาเศรษฐกิจมาก ใกล้เคียงกับประเทศกรีซ เคยได้รับฉายาด้านเศรษฐกิจว่า เป็น “คนป่วยของยุโรป” ในปี2019 มีหนี้สาธารณะสูงถึง132%ของGDP
10.แม้จะมีระบบการบริหารจัดการดีอย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดการระบาดสูงถึงจุดหนึ่ง ก็จะรับมือไม่ไหว เกิดอาการ”มั่ว” โกลาหล สับสนอลหม่าน(Chaos)ประสิทธิภาพต่ำลงจนรับมือไม่ไหว...
**ย้อนมาประเทศไทย**
ประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายตัวนี้ดังต่อไปนี้........
1.ระบบการกักกันโรค การติดตามผู้ที่อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังยังไม่ดีพอ ...เห็นได้จากการเล็ดลอดของเหล่าผีน้อย ลอยนวล ไปเดินเผ่นพล่านแพร่เชื้อทั่วเมือง น่าตำหนิผู้เกี่ยงข้องอย่างมาก ที่ขาดการเอาใจใส่ และรับผิดชอบ โดยบางคนอ้างว่า เครื่องบินมาถึงก่อนกำหนด...
2.การขาดหน้ากากอนามัยของประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ ยังโชคดีที่ประชาชนส่วนมากตระหนักถึงวิธีการป้องกันตนเอง แต่พวกเขาไม่สามารถหาหน้ากากอนามัยมาใช้ได้อย่างพอเพียง น่าตำหนิผู้เกี่ยวข้องอย่างมาก และที่น่ารังเกียจมากคือกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัว ที่มาหากินบนความทุกข์ยากของเพื่อนร่วมชาติ ชั่วร้ายจริงๆ!!!
3.การขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมของคนบางคน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในข่ายต้องกักตัว หรือเฝ้าระวัง
ซึ่งบางคนจงใจฝ่าฝืนกฏหมาย ยังใช้สื่อออนไลน์เยาะเย้ยเจ้าหน้าที่ โดย เฉพาะผีน้อยบางคน
4.นักการเมืองบางคนที่ส่งเสริมให้ผู้คนออกไปชุมนุมกัน ทั้งๆที่ทราบดีว่า จะมีโอกาสของการแพร่เชื้ออย่างมาก และอาจจะทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ได้ จริงอยู่การแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิของทุกคนตามรัฐธรรมนูญ แต่รัฐธรรมนูญไม่ได้ให้สิทธิแก่คนทุกคนที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรค นับว่าเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง...
5.ประเทศชาติขาดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน(Unity)ที่จะต่อสู้กับโรคร้าย นักการเมืองยังมุ่งแต่จะต่อสู้แย่งชิงอำนาจกัน มากกว่าจะต่อสู้กับโรคร้าย
ทุกวันมีแต่การทะเลาะด่ากัน สาดโคลนใส่กัน ขาดความสำนึกในบทบาทหน้าที่ที่จะต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน ต่างเห็นแก่ประโยขน์ส่วนตนมากกว่าความอยู่รอดของชาติ...
**ปัจจัยที่เป็นโชคดีของประเทศเราก็มีอยู่บ้าง
1.ประเทศเรามีนักวิชาการที่เก่งด้านนี้มากพอสมควรโดยเฉพาะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุข และ อาจารย์โรงเรียนแพทย์ รวมทั่งความร่วมมืออย่างดีจากโรงพยาบาลเอกชน
2.ประเทศเรามีประสบการณ์โรคSars และ โรคระบาดหลายชนิดมาแล้ว มีระบบบริการจัดการรองรับอยู่แล้วระดับหนึ่ง
3.ประชาชนชาวไทยมีความตระหนักและตื่นตัว รู้เท่าทันโรคร้ายตัวนี้กันมาก โดยเฉพาะด้านการป้องกันตนเอง จะเห็นได้จากจะเห็นผู้คนสวมหน้ากากอนามัย กันได้ทั่วไป และมีความต้องการหน้ากากอนามัย และ อัลกอฮอล์เยลสูงมาก
4.ประชาชนชาวไทย มีความสามารถด้านสื่อสารทางโซเชียลออนไลน์อยู่ในระดับสูงมากทุกเพศ ทุกวัย ทำให้ได้รับข้อมูลที่Updateตลอดเวลา
5.อากาศประเทศไทยขณะนี้ ยังร้อนเกินกว่าการแพร่เชื้อของCovit-19 (แต่ถ้าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ย่างเข้าฤดูฝน อากาศเย็นลงก็ไม่แน่เหมือนกัน)
สรุป: 1.”จงดูตัวอย่างประเทศอิตาลีเข้าไว้
ประเทศไทย ไม่ไกลเกินเอื้อม!!
2.”แค่ 1 Case ที่พลาดไป ก็อันตรายเกินตัว”
3.อย่ามัวแต่ภูมิใจกับสถิติจำนวน Comfirmed Casesที่น้อยกว่าหลายประเทศทั่วโลก แต่จงพยายามค้นหา Casesที่อาจซ่อนเร้นอยู่ให้มากที่สุด
เช่นcasesที่มีความเสี่ยง พวกที่ติดเชื้ออยู่แต่ไม่มีอาการ เพื่อจะได้ป้องกันการระบาดที่คาดไม่ถึงอย่างเป็นระบบและทันท่วงที ขอให้นึกภาพง่ายๆว่า Confirmed Casesที่เราพบนั้น อาจเป็นส่วนภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ปริ่มน้ำมาให้เราเห็น ส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำนั้นอาจจะยังมีอีกมากก็ได้..
4.ขอให้ทุกท่านคิดอยู่เสมอว่า...
“ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ใคร ก็ติดได้ทุกเมื่อ”
5.คนไทยทุกคนอย่าประมาท ทุกคนนอกจากจะป้องกันตนเองแล้ว ต้องมีหน้าที่ป้องกันโรคให้ผู้อื่นด้วยโดยเฉพาะการไม่เป็นผู้แพร่เชื้อโรคเสียเอง ต้องมีจิตสาธารณะ รับผิดชอบห่วงใยต่อชีวิตผู้อื่นด้วย
6.”Only the paranoid survive”
(Andrew S.Grove)
(ผู้ที่หวาดระแวงเท่านั้น จะอยู่รอด)
ให้คิดอยู่เสมอว่า คนที่อยู่ใกล้เรามีเชื้อโรคร้ายอาจติดได้ทุกเมื่อ...
7.ขอให้นักการเมืองทุกท่านจงหยุดทะเลาะกันชั่วคราว แล้วหันมาดูแลประเทศชาติกันบ้าง ถ้ามัวแต่แบ่งฝ่าย แบ่งสังกัดทะเลาะกันอยู่ สักวันหนึ่งท่านอาจต้องนอนเตียงในห้องแยกโรคแผนกเดียวกันโดยมีเชื้อโรคสังกัดเดียวกันก็ได้...
ขอให้ทุกท่านปลอดภัย ไร้Covid-19.....
Chamnan._
(น.พ.ชำนาญ ภู่เอี่ยม
อดีตหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข)

 

อังกฤษช็อก "ปธ.น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์" ติดไวรัสโคโรนา
11 Mar 2020


เอวานเจลอส ระบุว่า “เขาตรวจพบเชื้อไว้รัส รู้สึกว่าจำเป็นที่จะต้องประกาศให้กับทุกคนได้ทราบ ผมปฏิบัติตามมาตรการที่จำเป็นทุกๆ อย่าง และได้ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างมีวินัย ก็ขอให้ทุกๆ คนนั้นปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน และผมหวังว่าผมจะหายดีโดยเร็ว"




และจากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้ทางสโมสร ฟอรเรสต์ สั่งบุคลากรทุกๆ คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

https://www.thansettakij.com/content/world/424273?ad=

 

ตำรวจพบเจ้าหน้าที่ตม.สุวรรณภูมิ ติดเชื้อโควิด-19
Publish 2020-03-11 07:57:27

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 ที่ผ่านมาเพจ บิ๊กเกรียน อินดี้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า .... นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าโรงพยาบาลสังกัด กรุงเทพมหานคร รับตัว ตำรวจ ตม.สุวรรณภูมิ ผลัด 2 ขาออก ติดไวรัส COVID-19 รับตัวไว้รักษาแล้ว

เบื้องต้น ตำรวจ ตม.สุวรรณภูมิ มีอาการเป็นไข้ เดินทางไปเข้ารับการตรวจ ที่ รพ.ลาดกระบัง ผลตรวจติดเชื้อไวรัส COVID-19 ด้าน รพ.ลาดกระบัง บอกมีความพร้อม ในกันคัดแยก ตรวจผู้ป่วย และ เจ้าหน้าที่ สวมใส่ชุดป้องกันเป็นอย่างดีในการตรวจคนไข้

ทั้งนี้ แหล่งข่าวใน สตม.ยอมรับว่ามีตำรวจในสังกัด สตม.ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ กลุ่มเสี่ยง ใกล้ชิดนักท่องเที่ยว ตรวจผู้โดยสาร ขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ ติดไวรัสCOCID-19 พร้อมแจ้งว่าทางโฆษก สตม.จะแถลงอย่างเป็นทางการ

https://www.tnews.co.th/social/la/522399/ตำรวจพบเจ้าหน้าที่ตม.สุวรรณภูมิ--ติดเชื้อโควิด-19

 

อังกฤษช็อค! รมว.สาธารณสุข ป่วย COVID-19

11 มีนาคม 2563

อังกฤษช็อค หลัง "นาดีน ดอรีส์" รมว.สาธารณสุข ตรวจพบว่าป่วยเป็นโรค COVID-19 โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับกับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน และยังพบกับคนหลายร้อยคนในรัฐสภา

รายงานล่าสุดจากบลูมเบิร์ก ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นาดีน ดอรีส์ ได้กลายเป็นสมาชิกรัฐสภาคนแรกของอังกฤษที่อาจป่วย โควิด-19 หลังการตรวจเชื้อเบื้องต้นมีผลเป็นบวก

และที่น่ากังวลกว่า ก็คือ ดอร์รีน ได้แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ เธอเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับกับ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ก่อนที่เธอจะป่วย อีกทั้งยังได้พบกับคนหลายร้อยคนในรัฐสภาในสัปดาห์นั้น

ไทม์ส รายงานว่าเธอป่วยหนักในวันศุกร์ที่ (6 มี.ค.) และการวินิจฉัยของเธอได้รับการยืนยันตอนเย็นวันจันทร์

“ทันทีที่ฉันได้รับแจ้งฉันได้ใช้มาตรการป้องกันที่แนะนำทั้งหมดและแยกตัวเองอยู่ที่บ้าน” เธอกล่าวในแถลงการณ์ และบอกอีกว่า “สาธารณสุขอังกฤษเริ่มติดตามการติดต่ออย่างละเอียดและแผนกและสำนักงานรัฐสภาของฉันกำลังติดตามคำแนะนำของพวกเขาอย่างใกล้ชิด”

https://www.bangkokbiznews.com/news...&utm_campaign=COVID-19&utm_content=&utm_term=

 

ป่วน! บอร์ดกสทช.กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เลี่ยงกักตัวแถมเรียกประชุม

10 มีนาคม 2563

กสทช.ป่วนหนัก เมื่อบอร์ดคนหนึ่งกลับจากหนึ่งในประเทศกลุ่มเสี่ยงโรคโควิด19 แต่ไม่ยอมกักตัว ปฏิเสธการวัดไข้คัดกรองก่อนทำงาน และยังดึงดันเรียกประชุมคณะทำงาน แต่ล่าสุดถูกสั่งยกเลิกประชุมแล้ว

หลังจากมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการบอร์ดของกสทช. คนหนึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 แต่กลับปฏิเสธการวัดไข้ คัดกรองก่อนเข้าที่ทำงาน ทำให้พนักงานใน กสทช.หวั่นวิตก และยังได้เรียกประชุมคณะทำงาน 2 ชุด อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เดิมนั้น สำนักงานกสทช. ซึ่งอยู่ในซอยสายลม เขตพญาไท จัดให้มีการประชุมบอร์ดในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.) แต่ต้องเลื่อนประชุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะบอร์ดคนนี้ยืนยันที่จะเข้าร่วมประชุมด้วย และล่าสุด สำนักงานกสทช. ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำความสะอาด ในห้องประชุม ลิฟต์ที่บอร์ดใช้ และห้องน้ำชาย โดยเริ่มคลีนนิ่งอย่างหนักตั้งแต่คืนนี้ (10 มี.ค.)

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า บอร์ดคนนี้เดินทางไปประเทศหนึ่งใยุโรป ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.และเดินทางกลับมาเมื่อ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. กสทช.เคยมีประกาศให้พนักงานกสทช.ที่เดินทางไปต่างประเทศระหว่างวันที่ 11 ก.พ.-19 เม.ย. เมื่อกลับมาต้องไปตรวจคัดกรองและเฝ้าระวัง COVID-19 และให้รอผลโดยใช้สิทธิลากิจ หรือลาพักผ่อน หรือลาป่วย และประกาศฉบับที่ 2 ลงวันที่ 25 ก.พ.เพิ่มเติมให้ผู้มาปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อที่กสทช. ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคารกสทช.ด้วย

https://www.bangkokbiznews.com/news...ications&utm_campaign=&utm_content=&utm_term=

 

นักวิทยาศาสตร์จีน ชี้ โควิด-19 สามารถอยู่ในอากาศได้นาน 30 นาที ต้องห่าง 4.5 เมตร 10 มี.ค. 2020 - 15:23 น.

งานวิจัยของจีนล่าสุด พบว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 สามารถเดินทางได้ไกลกว่าระยะห่างระหว่างคนที่ทางการแนะนำ อยู่ที่ 1 ถึง 2 เมตร และ อยู่ในอากาศได้นาน 30 นาที

คณะเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาของจีน ระบุในรายงานการวิจัยล่าสุดว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 สามารถอยู่ในอากาศได้นาน 30 นาที และ เดินทางไปได้ไกลถึง 4.5 เมตร นับเป็นระยะทางที่ไกลกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในประเทศต่างๆ แนะนำให้คนอยู่ห่างกัน คือ ที่ 1 ถึง 2 เมตร

นอกจากนี้ การวิจัยพบว่า เชื้อไวรัสสามารถอยู่ได้เป็นวัน หากอยู่ในละอองน้ำในอากาศ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการติดต่อ หากมีการสัมผัสพื้นผิวที่มีละอองเหล่านั้นอยู่

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่เชื้อไวรัสจะยังคงอยู่ได้บนพื้นผิวนั้นๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อาทิ อุณหภูมิ และชนิดของพื้นผิว เช่น ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส สามารถอยู่บนพื้นผิวกระจก, สิ่งทอ, โลหะ, พลาสติก และกระดาษ ได้ถึง 2 ถึง 3 วัน

การค้นพบครั้งนี้ เกิดจากกลุ่มนักวิจัยในมณฑลหูหนานของจีน ที่ต้องการทดสอบคำแนะนำของสาธารณสุขหลายประเทศทั่วโลก ที่แนะนำให้คนอยู่ห่างกัน 1 ถึง 2 เมตร เพื่อความปลอดภัย


https://www.springnews.co.th/global/628751

 

Too Young to Die
เมื่อทั้งโลกหยุดนิ่ง หลังเกิดการระบาดของโคโรนาไวรัส

Cr theatlantic.com

 

ข่าวฮ่องกง
**อัพเดทจากสายการบิน! มาตรการเดินทางเข้าไทยจากฮ่องกง
**แอร์เอเชีย ประกาศงดบิน จีน-ฮ่องกง-มาเก๊า 11-31 มี.ค.นี้

เริ่ม 12 มีนาคมนี้ ผู้ที่เดินทางเข้าไทยจากฮ่องกงรวมทั้งประเทศที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากได้แก่ จีน มาเก๊า อิตาลี เกาหลีใต้และอิหร่าน ให้ยื่นใบรับรองแพทย์ที่ออกไม่เกิน 48 ชั่วโมง พร้อมเข้ารับการกักกันเชื้อ 14 วัน และต้องกรอกข้อมูลตามแบบ ต.8 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และยื่นต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบินปลายทางในประเทศไทย

นอกจากนี้ ชาวต่างชาติที่จะเดินทางไปไทยจะต้องมีประกันที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 100,000 เหรียญสหรัฐ (คนไทยได้รับการยกเว้นส่วนนี้)

สำหรับผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย เดินทางไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และมีระยะเวลาพำนักไม่เกิน 14 วัน ไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารใบรับรองแพทย์ แต่หากมีความประสงค์จะพำนักในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเกิน 14 วัน จะต้องนำเอกสารใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เช็คอิน

****❗️เพิ่มเติม ทั้งหมดเป็นประกาศที่แอดสรุปมาจากสายการบินและ iata เท่านั้นนะคะ ไม่มีเจ้าไหนลงรายละเอียดเหมือนกันเลยค่ะ และแอดหาข้อมูลเป๊ะๆ หรือประกาศจากทางการไทยไม่ได้เลยค่ะ ****

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***
https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n

Source : https://www.iatatravelcentre.com/in...-8oeLPnSjN-jn1qW7m7q5j5GJEOBUdj63OFEEMcVpY_G4, Thai Airways, HK Express, Cathay Pacific, https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/870123, https://businesstoday.co/bt-news/10...RPyrG6gFsCVnF6rpXE_vR2wCoO-QyHm4wtdXxDp6SaRLQ

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ข่าวฮ่องกง

Breaking news!
ฮ่องกงประกาศกักกันเชื้อ 14 วัน ทุกคนที่เดินทางมาจากอิตาลี, บางพื้นที่ของฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น เริ่ม 13 มีนาคมนี้

ชาวฮ่องกงและผู้ที่เดินทางมาจากอิตาลีทั้งประเทศ (ก่อนหน้านี้กำหนดเพียงแค่บางพื้นที่), Oise และ Haut-Rhin ของฝรั่งเศส, North Rhine-Westphalia ในเยอรมนี รวมทั้ง Hokkaido ในญี่ปุ่น จะต้องถูกส่งตัวไปกักกันเชื้อที่แคมป์กักกันเชื้อที่ Chun Yeung Estate

นอกจากนี้ รัฐบาลฮ่องกงจะคอยจับตาดูสถานการณ์ของสเปนและอินเดียอย่างใกล้ชิด แม้ว่าขณะนี้ผู้ที่เดินทางมาจาก 2 ประเทศนี้จะยังไม่มีการกักกันเชื้อในตอนนี้

รวมทั้งยังได้ขอความร่วมมือจากประชาชน หลีกเลี่ยงออกเดินทางไปต่างประเทศ และเผยว่าได้เวลาที่การให้บริการสาธารณะและธุรกิจต่างๆ จะค่อยๆ กลับสู่สภาวะปกติ

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong/politics/article/3074380/coronavirus-hong-kong-planning-extend-travel-restrictions?,

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ข่าวฮ่องกง

มาเก๊าออกนโยบายกักตัวนักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยง
ฮ่องกงเสนอพิจารณามาตรการคัดกรองต่างชาติเพิ่ม รวมถึงประเทศที่มีผู้ติดเชื้อต่ำ

เริ่มวันนี้ มาเก๊าได้ประกาศการกักกันเชื้อ 14 วันให้กับผู้ที่เดินทางมาจากเยอรมนี, ฝรังเศส, สเปน และญี่ปุ่น

มาตรการในการรับมือเชื้อไวรัสโคโรน่าในฮ่องกง ณ ขณะนี้ คือฮ่องกงไม่อนุญาตให้ผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้, เมืองหูเป่ย ประเทศจีนเข้าฮ่องกง (ยกเว้นพลเมืองฮ่องกง) และมีการกำหนดการกักกันเชื้อ 14 วัน ให้กับทุกคนที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่, อิหร่าน, และ 3 ภูมิภาคของอิตาลี รวมทั้งชาวฮ่องกงที่เดินทางกลับมาจาก Daegu และ Gyeongsangbuk-do ประเทศเกาหลีใต้

Dr Lam Ching-choi ได้มีการเสนอให้พิจารณาเพิ่มมาตรการวานนี้ ในประเทศกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ รวมทั้ง อิตาลีทั้งประเทศ และ อินเดีย

“มีมาตรการการควบคุมการเข้าเมืองหลายแบบที่สามารถนำมาพิจารณาได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อต่อจำนวนประชากรในประเทศ หรือปัจจัยอื่นๆ เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ และความสามารถในการควบคุม”

รวมทั้งยังต้องจับตามองประเทศที่มีผู้ติดเชื้อน้อยด้วย เพราะนั่นหมายถึงประเทศนั้นๆ ขาดความสามารถในการตรวจหาเชื้อ หรือไม่ได้รับการตัดกรองตรวจหาเชื้อไวรัสที่เพียงพอ เขาได้ยกตัวอย่างอินเดียที่มีนักท่องเที่ยวฮ่องกงกลับมาจากอินเดียและพบว่ามีการติดเชื้อหลายคนเมื่อเดือนก่อน โดยตัวเลขล่าสุดอินเดียมีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ 43 ราย

“ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วประเทศในอินเดียมีไม่มาก แต่ก็ทำให้เราสงสัยเนื่องจากประชากรในอินเดียมีมาก และก็รวมทั้งชาวฮ่องกงหลายคนจากกรุ๊ปทัวร์ได้รับการติดเชื้อ”

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong/politics/article/3074213/coronavirus-hong-kong-should-impose-travel-restrictions?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ข่าวฮ่องกง

ฮ่องกงเตรียมให้คลินิคเอกชนตรวจสอบหาเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ แต่หลายฝ่ายแสดงความกังวล

เมื่อวานนี้ ทางรัฐบาลฮ่องกงได้ขยายโครงการเฝ้าระวัง ด้วยการเพิ่มสถานที่ทดสอบหาเชื้อไวรัสโคโรน่าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นที่โรงพยาบาลและคลินิคเอกชนทั้งหมดในฮ่องกง จากเดิมที่มีเพียงโรงพยาบาลรัฐบาล 17 แห่ง และคลินิครัฐบาล 64 แห่ง

โดยการทดสอบสามารถทำได้ด้วยการป้ายโพรงจมูก (nasal swab) หรือให้ผู้ป่วยเก็บตัวอย่างด้วยตัวเองด้วยการกวาดน้ำลายในคอที่บ้านแล้วนำมาส่งที่แล็ป

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Sophia Chan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาหารและสุขภาพของฮ่องกง ได้เปิดเผยว่า การขยายโครงการเฝ้าระวังเปรียบได้กับ “การจับปลาที่อาจเล็ดลอดออกจากตาข่าย” เนื่องด้วย 40% ของผู้ติดเชื้อในฮ่องกงได้ไปหาหมอที่คลินิคเอกชนก่อนไปโรงพยาบาลรัฐบาล

อย่างไรก็ดีประธานสหพันธ์แพทย์ฮ่องกง Henry Yeung Chiu-fat กุมารแพทย์ กล่าวว่าคงจะโชคดีมากถ้ารัฐบาลมีผู้เข้าร่วมโครงการนี้ได้สัก 50 แห่ง

แต่เขาก็ได้แสดงความกังวลเนื่องจากแพทย์เอกชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีอุปกรณ์ป้องกันจำนวนมาก และอาจจะลังเลที่จะดำเนินการป้ายโพรงจมูก (nasal swab) เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อในระหว่างการดำเนินการได้ เพราะการสัมผัสกับระบบทางเดินหายใจเป็นอีกทางที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3074315/coronavirus-hong-kongs-private-clinics-now-able?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

จีนปิดโรงพยาบาลชั่วคราวทั้งหมดในอู่ฮั่น

วันนี้ (11 มี.ค. 63) – สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้ทำการล้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ หลังจากที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 ทุกคนออกจากโรงพยาบาลชั่วคราวหวู่ช่าง ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศจีน ในวันอังคารที่ 10 มี.ค. 63 เมื่อผู้ป่วย 49 คนสุดท้ายเดินทางออกจากโรงพยาบาลชั่วคราวหวู่ช่าง เวลา 15:30 น. ทำให้โรงพยาบาลชั่วคราวสองแห่งสุดท้ายในเมืองอู่ฮั่นปิดตัวลง จากทั้งหมด 16 โรงพยาบาลชั่วคราวในอู่ฮั่น

The post จีนปิดโรงพยาบาลชั่วคราวทั้งหมดในอู่ฮั่น appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/global/629023

 

พบ ตำรวจตม. สุวรรณภูมิ ติดเชื้อ โควิด-19

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 หลังจากกระทรวงสาธารณสุขประกาศพบคนไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย พบว่า มีผู้ติดเชื้อ 1 รายผู้เป็นตำรวจ ตม.สุวรรณภูมิ โดยเพจเฟวบุ๊ก บิ๊กเกรียน อินดี้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า ….

นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าโรงพยาบาลสังกัด กรุงเทพมหานคร รับตัว ตำรวจ ตม.สุวรรณภูมิ ผลัด 2 ขาออก ติดไวรัส COVID-19รับตัวไว้รักษาแล้วเบื้องต้น ตำรวจ ตม.สุวรรณภูมิ มีอาการเป็นไข้ เดินทางไปเข้ารับการตรวจ ที่ รพ.ลาดกระบัง ผลตรวจติดเชื้อไวรัส COVID-19
ด้าน รพ.ลาดกระบัง บอกมีความพร้อม ในกันคัดแยก ตรวจผู้ป่วย และ เจ้าหน้าที่ สวมใส่ชุดป้องกันเป็นอย่างดีในการตรวจคนไข้
แหล่งข่าวใน สตม.ยอมรับว่ามีตำรวจในสังกัด สตม.ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ กลุ่มเสี่ยง ใกล้ชิดนักท่องเที่ยว ตรวจผู้โดยสาร ขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ ติดไวรัสCOCID-19 พร้อมแจ้งว่า ทางโฆษก สตม.จะแถลงอย่างเป็นทางการ

CR : บิ๊กเกรียน อินดี้

The post พบ ตำรวจตม. สุวรรณภูมิ ติดเชื้อ โควิด-19 appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/thailand/bangkok/629043

 

กรมควบคุมโรค ฆ่าเชื้อสนง.กสทช. หลังบอร์ดกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

หลังจากมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการบอร์ดของ กสทช. รายหนึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 แต่กลับปฏิเสธการวัดไข้ คัดกรองก่อนเข้าที่ทำงาน ทำให้พนักงานใน กสทช.หวั่นวิตก และยังได้เรียกประชุมคณะทำงาน 2 ชุด ในวันนี้ ( 11 มี.ค.) อีกด้วย

แต่สุดท้ายการประชุมดังกล่าว มีคำสั่งให้เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากบอร์ดรายนี้ยืนยันที่จะเข้าร่วมประชุมด้วย และล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. คืนที่ผ่านมา (10 มี.ค.) สำนักงาน กสทช. ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อ เริ่มตั้งแต่ชั้น 1-4 และจะดำเนินการจนครบทุกพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยในสุขอนามัยของผู้บริหาร และพนักงานทุกคน รวมถึงประชาชนที่มาติดต่องานยังสำนักงาน กสทช. ทุกคน การพ่นยายาฆ่าเชื้อนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ของสำนักงาน กสทช.

สำหรับบอร์ดกสทช. รายดังกล่าว ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เพิ่งเดินทางไปประเทศหนึ่งในยุโรป ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.และเดินทางกลับมาเมื่อ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยเมื่อวันที่ 22 ก.พ. กสทช.เคยมีประกาศให้พนักงานกสทช.ที่เดินทางไปต่างประเทศระหว่างวันที่ 11 ก.พ.-19 เม.ย. เมื่อกลับมาต้องไปตรวจคัดกรองและเฝ้าระวัง COVID-19 และให้รอผลโดยใช้สิทธิลากิจ หรือลาพักผ่อน หรือลาป่วย และประกาศฉบับที่ 2 ลงวันที่ 25 ก.พ.เพิ่มเติมให้ผู้มาปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อที่กสทช. ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคารกสทช.ด้วย

The post กรมควบคุมโรค ฆ่าเชื้อสนง.กสทช. หลังบอร์ดกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/thailand/628998