หลวงพ่อสำเร็จศักดิสิทธิ /มัจฉชาดก "ว่าด้วย ปลาขอฝน"

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,616
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    ทีฆาวุกุมาร l "ผู้ไม่จองเวร" #ทีฆีติโกสลชาดก #นิทานชาดก #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Aug 11, 2025

    เรื่องราวจากพระไตรปิฎก *บอกเล่าถึงเจ้าชายทีฆาวุ ผู้ไม่จองเวร* โดยเริ่มต้นด้วยการที่ *พระเจ้าพรหมทัตทรงเข้ายึดครองแคว้นโกศล* และสังหารพระเจ้าทีคิติกับพระมเหสี ซึ่งเป็นบิดามารดาของทีฆาวุ. แม้ทีฆาวุกุมารจะมีความแค้น แต่ก็ *ยึดมั่นในคำสอนของบิดา* ที่ว่า "เวรย่อมระงับได้ด้วยการไม่จองเวร" เมื่อมีโอกาสสังหารพระเจ้าพรหมทัต เขากลับละเว้นและ *เลือกที่จะให้อภัย* สุดท้าย *เหตุการณ์นี้นำไปสู่การคืนราชสมบัติ* ให้แก่ทีฆาวุ และทั้งสองก็ **อยู่ร่วมกันโดยปราศจากความอาฆาต**. ในเรื่องทีฆาวุกุมาร *การจองเวร* หมายถึง การผูกใจเจ็บและมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นหรือตอบโต้ความเสียหายที่ได้รับ ซึ่งในเรื่องนี้สะท้อนผ่านความขัดแย้งระหว่างพระเจ้าพรหมทัตกับพระเจ้าทีคิติ และความรู้สึกของทีฆาวุกุมารที่มีต่อพระเจ้าพรหมทัตหลังจากที่พระองค์ปลงพระชนม์พระราชบิดาและพระราชมารดาของทีฆาวุกุมาร ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ *การจองเวร* ที่ปรากฏในเรื่องมีดังนี้:
    • **วงจรแห่งความอาฆาต**: เรื่องราวแสดงให้เห็นว่า หากทีฆาวุกุมารเลือกที่จะจองเวรด้วยการปลงพระชนม์พระเจ้าพรหมทัต ก็จะเกิดการตอบโต้ไปมาไม่สิ้นสุด ทีฆาวุกุมารอธิบายว่า "ถ้าข้าพระองค์คิดว่าพระองค์ทรงปลงพระชนม์พระราชบิดามารดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงปลงพระชนม์ของพระองค์เสีย พวกคนที่จงรักภักดีต่อพระองค์ก็จะพึงปลงชีวิตของข้าพระองค์ ส่วนพวกคนที่ชอบฆ่าพระองค์ก็จะพึงปลงชีวิตพวกคนเหล่านั้น **เวรจึงไม่ระงับลงได้ด้วยเวรอย่างนี้**"
    • **คำสอนของพระราชบิดา**: พระเจ้าทีคิติได้ตรัสสอนทีฆาวุกุมารในวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพว่า "**เวรทั้งหลายย่อมไม่ระงับด้วยเวรเลย แต่ย่อมระงับได้ด้วยความไม่ผูกเวร**" คำสอนนี้เป็นหลักคิดสำคัญที่ทีฆาวุกุมารยึดถือและเป็นตัวช่วยเตือนสติไม่ให้เขาจองเวร
    • **การเอาชนะความรู้สึกจองเวร**: ทีฆาวุกุมารมีความคิดที่จะจองเวรถึง 3 ครั้ง โดยการชักพระขรรค์ขึ้นจากฝักเมื่อมีโอกาสที่จะปลงพระชนม์พระเจ้าพรหมทัตที่กำลังบรรทมอยู่ แต่ทุกครั้งเขาก็สามารถระงับความแค้นไว้ได้ด้วยการระลึกถึงพระดำรัสของพระราชบิดา นี่แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ภายในจิตใจและการเลือกที่จะไม่จองเวร
    • *ความหมายของการ "ไม่เห็นยาว"**: ทีฆาวุกุมารอธิบายคำว่า "**อย่าเห็นยาว**" ที่พระราชบิดาตรัสไว้ว่า หมายถึง **อย่าได้ทำเวรให้ยาวออกไป* หรืออย่าให้เวรนั้นดำเนินต่อไปไม่สิ้นสุด
    • *การระงับเวรด้วย "ความไม่ผูกเวร"**: จุดสูงสุดของเรื่องคือเมื่อทีฆาวุกุมารและพระเจ้าพรหมทัตต่างฝ่ายต่างมอบชีวิตให้แก่กันและกัน และสาบานว่าจะไม่คิดทรยศต่อกัน ผลลัพธ์คือ **เวรนั้นระงับลงด้วยความไม่ผูกเวร* การกระทำนี้ไม่ใช่เพียงการให้อภัย แต่เป็นการยุติวงจรของความแค้นโดยสิ้นเชิง
    • **ผลลัพธ์ของการไม่จองเวร**: การที่ทีฆาวุกุมารไม่จองเวรทำให้พระเจ้าพรหมทัตทรงมอบราชสมบัติของพระเจ้าทีคิติคืนให้ และยังประทานพระราชธิดาให้แก่ทีฆาวุกุมารอีกด้วย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการไม่จองเวรนำมาซึ่งสันติภาพ การคืนดี และผลลัพธ์ที่ดีในที่สุด
    โดยสรุปแล้ว การจองเวรตามที่ปรากฏในเรื่องทีฆาวุกุมาร คือการสานต่อความแค้น ซึ่งจะนำไปสู่ความไม่สงบและวงจรแห่งการแก้แค้นที่ไม่รู้จบ และเรื่องนี้เน้นย้ำถึงหลักธรรมที่ว่า *เวรจะระงับได้ด้วยการไม่จองเวรหรือความไม่ผูกเวรเท่านั้น* ดังคำกล่าวที่ว่า "สัญญมะโต เวรัง นะจียติ ผู้ระมัดระวังอยู่ ย่อมไม่ก่อเวร"
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,616
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    ทีปิชาดก l ที่มาของคำว่า "แพะรับบาป" #นิทานชาดก #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jul 21, 2025
    เรื่องราวของ *ทีปิชาดก* ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนาเกี่ยวกับ *อันตรายของการเผชิญหน้ากับคนพาล* พระองค์ทรงเล่าเรื่อง *แม่แพะที่ต้องเผชิญหน้ากับเสือเหลือง* ในสองเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ *สติปัญญาและอุบายในการเอาชีวิตรอด* และชี้ให้เห็นว่า *ผู้ประทุษร้ายมักไม่รับฟังเหตุผล* แต่จะมุ่งทำร้ายผู้อื่นไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เรื่องราวนี้สอนให้เห็นถึงความจำเป็นในการ *หลีกเลี่ยงคนพาล* และการใช้ปัญญาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตราย.
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,616
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    มหาโจร 5 จำพวก "พระภิกษุปล้นศาสนา" #พระวินัยปิฏก #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Aug 2, 2025

    ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 1 วินัยปิฎก เล่มที่ 1 มหาวิภังค์ ภาค 1 ได้กล่าวถึง *"มหาโจร 5 จำพวก"* ที่ปรากฏอยู่ในโลก พระผู้มีพระภาคได้ทรงจำแนกประเภทของมหาโจรเหล่านี้ โดยเปรียบเทียบพฤติกรรมของมหาโจรทางโลกกับพฤติกรรมของภิกษุผู้เลวทรามในพระธรรมวินัย ดังนี้:
    • *มหาโจรจำพวกที่ 1: ผู้มุ่งหวังลาภสักการะและบริวาร*
    • เหมือนมหาโจรบางคนในโลกนี้ที่ปรารถนาให้ตนเป็นผู้มีบริวารเป็นร้อยหรือเป็นพันคน แวดล้อมแล้วเที่ยวไปในหมู่บ้าน ตำบล และเมืองหลวง เพื่อเบียดเบียน ตัด หรือเผาผลาญผู้อื่น.
    • ในทำนองเดียวกัน ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ก็ปรารถนาว่า เมื่อใดหนอตนจึงจะเป็นผู้มีภิกษุรูปอื่นแวดล้อมเป็นร้อยหรือเป็นพันรูป และเที่ยวจาริกไปในหมู่บ้าน ตำบล และเมืองหลวง ได้รับการสักการะ เคารพนับถือ บูชา ยำเกรงจากคฤหัสถ์และบรรพชิต ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร (ปัจจัยสี่) และในที่สุดก็เป็นไปตามปรารถนา.
    • *มหาโจรจำพวกที่ 2: ผู้ยกตนเอง*
    • คือภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ เมื่อได้เล่าเรียนพระธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว ก็ยกตนเองขึ้น.
    • *มหาโจรจำพวกที่ 3: ผู้กำจัดเพื่อนพรหมจารีด้วยเรื่องอันหามูลมิได้*
    • คือภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ ย่อมตามกำจัดเพื่อนพรหมจารีผู้หมดจด ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ อันหาเหตุผลหรือมูลความจริงมิได้.
    • *มหาโจรจำพวกที่ 4: ผู้โกงหรือเบียดบังเอาของสงฆ์หรือของคฤหัสถ์*
    • คือภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ ย่อมทรงข้อเครียด (หมายถึง เบียดเบียน หรือฉ้อโกง) ของจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย หรือเบียดบังเอาคุณพันธ์ุกรุรูปบริขารของสงฆ์.
    • สิ่งของที่กล่าวถึงได้แก่ พื้นที่อาราม วิหาร พื้นที่วิหาร เตียง ตั่ง ธูป หมอน หม้อโลหะ อ่างโลหะ กระถางโลหะ กระทะโลหะ มีด ขวาน ผึ่ง จอบ สว่าน เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้ามุงกระต่าย หญ้ากล้อง หญ้าสามัญ ดินเหนียว เครื่องไม้ และเครื่องดิน.
    • *มหาโจรจำพวกที่ 5: ผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมที่ไม่มีอยู่ ไม่เป็นจริง*
    • คือภิกษุผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมอันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริง (คือความรู้ความเห็นอย่างประเสริฐอย่างสามารถ) โดยน้อมเข้ามาในตนว่า "ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้".
    • พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า **นี่คือมหาโจรในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์**.
    • เหตุผลที่กล่าวเช่นนั้น เพราะภิกษุนั้นฉันข้าวของของชาวแว่นแคว้นด้วยอาการแห่งคนขโมย. การกระทำเช่นนี้ถือว่าร้ายแรงกว่าการฉันก้อนเหล็กแดงดั่งเปลวไฟเสียอีก.
    • หากภิกษุใดไม่รู้แต่กล่าวอวดว่ารู้ ไม่เห็นแต่กล่าวอวดว่าเห็น และต่อมาได้สารภาพว่าตนได้กล่าวเท็จป่าวๆ **ภิกษุรูปนั้นย่อมเป็นปราชิก หาความเป็นภิกษุไม่ (หา สังวาส มิ ได้)**. สิกขาบทนี้เป็นอันพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้.
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,616
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    กากชาดก ว่าด้วย "กาวิดน้ำด้วยปาก" #ฟังธรรมก่อนนอน #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Aug 3, 2025

    "นิทานชาดก" คือ *เรื่องราวในอดีตกาลที่พระพุทธเจ้าทรงนำมาแสดงเพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน* และอธิบายพฤติกรรมหรือกรรมของบุคคล ในกรณีนี้ พระพุทธเจ้าได้ทรงนำ *"กากชาดก"* ซึ่งมีคำเริ่มต้นว่า "อปินังหันกาสันตา" มาเล่า โดยมีที่มาจากการที่ *พระภิกษุสูงอายุหลายรูปในพระเชตวันมหาวิหารพากันร้องไห้คร่ำครวญ* ถึงอดีตภรรยาเก่าของพระเถระรูปหนึ่งที่เคยเป็นอุบาสิกาผู้มีรสมืออร่อยและมีอุปการะแก่พวกตนมากเมื่อนางเสียชีวิตลง *เนื้อหาของ "กากชาดก" มีดังนี้:*
    • *เรื่องราวในอดีตกาล:* เกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี
    • *พระโพธิสัตว์:* เสวยพระชาติเป็นเทวดารักษาสมุทร
    • *เหตุการณ์หลัก:*
    • กาตัวหนึ่งกับนางกาภรรยาของตนได้ไปพบของถวายพลีกรรมแด่พญานาคที่ชายหาด ซึ่งมีทั้งนม ข้าว ปลา เนื้อ และสุรา
    • กาผัวเมียคู่นี้ได้กินและดื่มสุราเข้าไปมากจนเมามาย
    • เมื่อต้องการจะอาบน้ำ คลื่นลูกหนึ่งได้ซัดนางกาเข้าไปในสมุทร และปลาตัวหนึ่งก็กลืนกินนางกาไป
    • กาตัวผู้ร้องไห้คร่ำครวญ และฝูงกาอื่นๆ ก็พากันมารวมตัวกัน
    • ฝูงกามีความคิดว่า "น้ำในสมุทรนี้จะสำคัญกว่าพวกเราหรือ" และ *พากันพยายามวิดน้ำในมหาสมุทรให้แห้ง* เพื่อค้นหานางกา
    • พวกมันช่วยกันอมน้ำเค็มไปบ้วนทิ้งข้างนอก แต่เมื่อคอแห้งก็ขึ้นบก
    • แม้จะพยายามอย่างหนักจนขาเมื่อย ปากแห้ง และตาแดง แต่ก็ไม่สามารถทำให้น้ำในมหาสมุทรแห้งได้ เพราะน้ำยังคงเต็มอยู่เสมอ
    • กาเหล่านั้นบ่นว่า "เออหนอ ขาตะกายของพวกเราล้าเสียแล้ว และปากเล่าก็ซีเสีย พวกเราพากันวิดอยู่ไม่ทำให้น้ำเหือดแห้งได้ ดูเถอะพ่วงน้ำใหญ่คงเต็มอย่างเดิม"
    • เมื่อฝูงกากำลังร้องรำพันเพ้ออยู่นั้น เทวดาประจำสมุทร (พระโพธิสัตว์) ได้สำแดงรูปร่างน่าสะพรึงกลัวไล่พวกมันไป ทำให้ฝูงกาได้รับความสวัสดี
    *การประชุมชาดก (การเชื่อมโยงตัวละครในอดีตกับปัจจุบัน):* พระศาสดาทรงนำเรื่องนี้มาแสดงและทรงประชุมชาดก โดยอธิบายว่า:
    • *นางกาในครั้งนั้น* ได้มาเป็น *ภรรยาเก่าของพระเถระ* ในปัจจุบัน
    • *กาตัวผู้* ได้มาเป็น *พระเถระผู้แก่* ในปัจจุบัน
    • *ฝูงกาที่เหลือ* ได้มาเป็น *พระเถระแก่ๆ ที่เหลือ* ในปัจจุบัน
    • *เทวดารักษาสมุทร* ได้มาเป็น *พระตถาคต (พระพุทธเจ้า)* ในปัจจุบัน
    การเล่าชาดกนี้จึงเป็นการชี้ให้เห็นว่า การที่พระภิกษุสูงอายุเหล่านั้นร้องไห้คร่ำครวญถึงอุบาสิกาผู้ล่วงลับไปนั้น มิใช่เกิดขึ้นในชาตินี้เท่านั้น แต่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาแล้วในอดีตชาติ โดยเปรียบเทียบกับฝูงกาที่พยายามวิดน้ำมหาสมุทรเพื่อช่วยเหลือนางกาที่ตายไป แสดงให้เห็นถึงความผูกพันและความพยายามที่ไร้ผลเช่นเดียวกัน.
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,616
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    สัญชีวชาดก l ว่าด้วย "โทษที่ยกย่องอสัตบุรุษ" #นิทานชาดก #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Aug 8, 2025

    เรื่องราวของสัญชีวชาดกกล่าวถึง *พระเจ้าอชาตศัตรู* ที่ทรงยกย่อง *พระเทวทัตผู้ชั่วร้าย* จนเป็นเหตุให้ทรงกระทำปิตุฆาตและไม่ได้รับความสุขในราชสมบัติ พระองค์ทรงสำนึกผิดและปรารถนาเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านการชี้ทางของ *หมอชีวกโกมารภัจจ์* แม้จะได้ฟังธรรมแล้วก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ทันที เพราะผลกรรมจากการยกย่องคนไม่ดี พระศาสดาจึงทรงย้อนอดีตถึงเรื่องราวของ *สัญชีวมานพ* ที่ชุบชีวิตเสือจนถูกเสือทำร้ายตาย เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า *การยกย่องผู้ที่ประพฤติชั่ว ย่อมนำพาความพินาศมาสู่ตนเอง* เสมือนที่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงประสบพบเจอมา.
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,616
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    มัจฉชาดก "ว่าด้วย ปลาขอฝน" #ฟังธรรมก่อนนอน #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jul 25, 2025

    *มัจฉชาดก* ซึ่งเล่าเรื่องราวของ *พระสัมมาสัมพุทธเจ้า* เมื่อครั้งประทับอยู่ที่วัดเชตวัน มหาวิหาร และทรงบันดาลให้ฝนตกในแคว้นโกศลที่กำลังประสบภัยแล้งอย่างหนัก พืชผลเหี่ยวเฉา บ่อน้ำแห้งขอด สัตว์น้ำจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมาน *พระพุทธองค์* ทรงทอดพระเนตรเห็นความทุกข์ยากนี้ จึงทรงตัดสินพระทัยอธิษฐานจิตให้น้ำท่วมท้น ซึ่งทำให้ฝนตกลงมาอย่างหนักทั่วแคว้นโกศลในเวลาอันสั้น บรรเทาทุกข์ให้กับมหาชนและสรรพสัตว์ทั้งปวง *พระพุทธองค์* ยังทรงเล่าเรื่องในอดีตชาติว่า แม้ในขณะที่ทรงเป็น *พญาปลาโพธิสัตว์* ก็เคยใช้อำนาจสัจจะอธิษฐานให้ฝนตกเพื่อช่วยชีวิตหมู่ปลาที่กำลังจะตายจากภัยแล้งเช่นกัน โดยทรงชี้ให้เห็นถึงความเมตตาและกรุณาที่ทรงมีต่อสรรพสัตว์มาตั้งแต่อดีตกาล
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,616
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    อชาตศัตรู ทำปิตุฆาต กรรมหนักห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน

    เศษดิน ที่ปลายเล็บ
    Apr 4, 2021

    พระเจ้าอชาตศัตรู หลงเชื่อพระเทวทัต จึงกระทำปิตุฆาต แย่งชิงราชสมบัติจากพระบิดา ต่อมาภายหลังกลับใจ กลายเป็นพุทธอุบาสก ผู้ค้ำจุนพระพุทธศาสนา
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,616
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    EP12 สังฆาทิเสส สิกขาบทที่ ๑ : เรื่อง พระเสยยสกะ

    Dhamma Tales: Stories from the Tipitaka
    Aug 2, 2025
    สังฆาทิเสส คือ อาบัติร้ายแรงประเภทหนึ่งในพระวินัยสงฆ์ รองจากปาราชิก ซึ่งมีทั้งหมด 13 สิกขาบท. หากภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส จะต้องเข้ารับการสงเคราะห์จากสงฆ์เพื่อแก้ไขอาบัติ โดยผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น ปริวาส, มานัต และอัพภาน.
     

แชร์หน้านี้

Loading...