เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 25 ธันวาคม 2025 at 16:58.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    23,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,974
    ค่าพลัง:
    +26,816
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    23,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,974
    ค่าพลัง:
    +26,816
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่วัดท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ดูจากโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ ๒๐ องศาเซลเซียส แต่ว่าสภาพอากาศจริงน่าจะต่ำกว่านี้ ๑ - ๒ องศาเซลเซียสเสมอ เพียงแต่ว่าไม่ได้มีเครื่องวัดที่อยู่ในพื้นที่ให้ตรวจสอบได้ จึงไม่ขอยืนยันในจุดนี้

    กระผม/อาตมภาพเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้า ร่วมกับพระภิกษุสามเณรและญาติโยมที่วัดท่าขนุนแล้ว ก็ไม่ได้ออกบิณฑบาต หากแต่ว่าไปฉันเช้าที่โรงครัว จากนั้นก็วิ่งลงมาจังหวัดกาญจนบุรี เข้าไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดใต้ เพื่อร่วมงานวันครบรอบวันมรณภาพปีที่ ๒๓ ของพระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ. ๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) ซึ่งท่านไปเสียชีวิตขณะที่นำคณะพระภิกษุและญาติโยมสักการะสังเวชนียสถานทั้ง ๔ แห่งที่ประเทศอินเดีย ซึ่งท่านนำญาติโยมไปเพื่อให้ได้พุทธานุสติแบบนี้ทุกปี

    พระเดชพระคุณ "หลวงพ่อไพบูลย์" ของคนจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ท่านเป็นทั้งที่รักของพระภิกษุสามเณรและญาติโยมทั้งหลาย เนื่องเพราะว่าท่านทำทุกอย่างเพื่อความเจริญของคณะสงฆ์ และความอยู่ดีกินดีของญาติโยมทุกท่าน

    ในเรื่องของวัดวาอารามต่าง ๆ ซึ่งสมัยก่อนแทบจะไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับทางกรมการศาสนา ทำให้เจ้าอาวาสจำนวนมากไม่ได้รับนิตยภัต ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ก็ได้หลวงพ่อไพบูลย์นี่แหละ ที่ "ท่อม ๆ" เข้าไป ไม่ว่าจะอยู่ในป่าลึกแค่ไหนก็ตาม ไปช่วยจัดการจนกระทั่งได้เอกสารสิทธิ์ในการครอบครองที่ดิน และสามารถตั้งเป็นวัดได้เสียเป็นส่วนใหญ่

    มีเพียงบางแห่งที่ทางราชการทำเอกสารสูญหาย ทำให้ไม่สามารถจะเป็นวัดที่ถูกต้องได้ ถ้าอย่างของทางอำเภอทองผาภูมิก็ได้แก่วัดโบอ่อง เป็นต้น เพียงแต่ว่าเมื่อสิ้นหลวงพ่อไพบูลย์ไปแล้ว เรื่องนี้ก็ "กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่ง" และโดยเฉพาะยุคนี้สมัยนี้ เหมือนกับว่าไม่มีใครอยากให้มีวัดเพิ่มมากขึ้น ทางวัดโบอ่องซึ่งเป็นวัดมาเนิ่นนานนับร้อยปี จึงต้องกลายเป็นสำนักสงฆ์โบอ่องไปโดยปริยาย..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    23,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,974
    ค่าพลัง:
    +26,816
    กระผม/อาตมภาพเองนั้นไข้จับหนักมาก จนต้องฉันยาก่อนที่จะเข้าร่วมพิธีทั้งหลาย เมื่อไปถึงได้ครู่เดียว หลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา - พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีรูปปัจจุบัน ลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อไพบูลย์ก็กวักมือเรียก ให้ไปช่วยแจกข้าวสารให้กับบุคคลในชุมชนรอบวัด ซึ่งถ้าเป็นคนในชุมชนจริง ๆ ก็จะมีบัตรที่ทางวัดมอบให้ไป เมื่อนำบัตรมาส่งให้กับทางพระภิกษุสามเณร ซึ่งคอยดูแลจัดแถวอยู่ กระผม/อาตมภาพก็มอบข้าวสารถุง ๕ กิโลกรัมให้แก่ทุกคน

    แต่ว่าก็มีจำนวนหนึ่งที่มาจากชุมชนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่รอบวัด และรู้ว่าทุกวันสำคัญของทางวัดใต้ จะมีการแจกสิ่งของ โดยเฉพาะข้าวสาร จึงแห่กันมาอีกนับร้อย ๆ คน กระผม/อาตมภาพจึงต้องรอสามเณร ส่งข้าวสารถุงให้เพื่อแจกแก่บุคคลที่ไม่มีบัตร หมดข้าวสารไปอีก ๑ คันรถ ขนาดนั้นแถวก็ดูเหมือนจะไม่ได้สั้นลงเลย..! จึงได้แต่ประกาศว่าตั้งแต่นี้ไป จะมอบให้เฉพาะบุคคลที่ถือบัตรมาเท่านั้น เพราะว่ามีจำนวนที่แน่นอนอยู่แล้ว

    จากนั้นก็เข้าไปกราบรายงานตัวกับพระมหาเถระทั้งหลายที่เดินทางมาร่วมงาน ซึ่งองค์ประธานในวันนี้คือ "หลวงปู่สมเกียรติ" ของกระผม/อาตมภาพเอง พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี (สมเกียรติ โกวิโท ป.ธ. ๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

    อีกท่านหนึ่งที่เป็นประธานในการเจริญพระพุทธมนต์ ก็คือพระเดชพระคุณพระธรรมโพธิมงคล (สมควร ปิยสีโล ป.ธ. ๙) เจ้าคณะภาค ๒ เจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี (พระอารามหลวง)

    ที่ดีใจมากที่สุดก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณประสงค์ - พระเดชพระคุณพระเทพเมธาภรณ์ (ประสงค์ วราสโย ป.ธ. ๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี (ธรรมยุต) ซึ่งท่านผ่าตัดสมอง จนกระทั่งทางคณะสงฆ์ต้องยกท่านขึ้นเป็นกิตติมศักดิ์ แล้วตั้งเจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่ ท่านอยู่ในห้องไอซียูเป็นเวลานาน มาวันนี้รู้สึกว่าแข็งแรงกระปรี้กระเปร่ามาก ไม่ทราบเหมือนกันว่าบุญรักษาหรือว่ากรรมรักษา..!

    เมื่อเข้าไปกราบ ท่านยังบอกว่า "ไม่ได้ไปวัดท่าขนุนมานานแล้ว" จนต้องเรียนท่านบอกว่า "หลวงพ่อรักษาสุขภาพก่อนครับ ถ้าแข็งแรงขึ้นเมื่อไร แจ้งมาก็แล้วกัน กระผมยินดีถวายการต้อนรับ"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    23,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,974
    ค่าพลัง:
    +26,816
    อีกท่านหนึ่งที่เป็นสุดยอดสปิริตของคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ก็คือหลวงพ่อพระครูนิโครธโยคาภิรักษ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดน้ำตก อดีตเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสังวราภิมณฑ์ หรือหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่ง "หลวงพ่อแอ๋ม" ของเรานั้น ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ของคณะสงฆ์ที่ไหน ท่านก็ไปร่วมงานเสมอ และที่แน่ ๆ ก็คืออยู่จนงานเลิกถึงจะกลับ เป็นตัวอย่างที่สุดยอดมาก ซึ่งกระผม/อาตมภาพและบรรดาคณะสงฆ์รุ่นหลัง ๆ เอาเป็นแบบอย่างอยู่เสมอ

    ครั้นได้เวลาก็ขึ้นไปร่วมเจริญพระพุทธมนต์ แต่ด้วยความที่ว่าบางจังหวะต้องหยุดไอ แล้วขณะเดียวกันก็ต้องสั่งงานให้กับน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ถ่ายรูปในบางมุม ซึ่งมีบุคคลสำคัญฝ่ายฆราวาสนั่งอยู่ อย่างเช่นนางพัชรินทร์ พัดทอง ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือว่านางสาวกมลชญา ประเสริฐสิน ปลัดจังหวัดหญิงของจังหวัดกาญจนบุรี เหล่านี้เป็นต้น แต่ว่าสามารถที่จะสวดมนต์ได้ตรงตามที่คนอื่นเขาสวดกันอยู่

    ในขณะที่หลวงพ่อ ดร.พระครูสมบัติ (พระครูวิบูลกาญจโนภาส, ดร.) เจ้าคณะอำเภอท่ามะกา รองเจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร ทำหน้าแปลกใจว่า "สั่งโน่นสั่งนี่หันกลับมาทีไรสวดตรงทุกที ขนาดผมสวดอยู่แท้ ๆ ยังมีทิ่มผิดเลย..!" กระผม/อาตมภาพไม่ทราบว่าจะกล่าวอย่างไร ว่าสามารถที่จะแยกใจทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้ จึงได้แต่เรียนท่านไปว่า "กระผมเองถนัดในการสวดมนต์ไปด้วย ทำงานไปด้วย ก็เลยสวดไม่ผิดครับ" พูดง่าย ๆ ว่าหลอกเพื่อนเสียอย่างนั้น..!

    ส่วนอีกท่านหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้กัน
    แม้ว่าจะสงสัยแต่ไม่พูดไม่จา ก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณตี๋ - พระเดชพระคุณพระกิตติวชิรธาดา (วิทยา มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม เจ้าคณะอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อนร่วมงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ มาด้วยกัน จนกระทั่งรู้ใจกันดีแล้ว ว่าควรที่จะทำอะไรต่อมิอะไรกันตอนไหน

    กระผม/อาตมภาพเองมักจะสร้างความแปลกใจให้กับคนอื่นเสมอในหลายเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือเขาเห็นอยู่ว่าป่วยหนักขนาดไหน บางทีต้องฉันยาวันละ ๓ เวลา แต่ว่าถึงเวลางานหนักงานเบาก็ไปทำให้เขาได้หมด..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    23,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,974
    ค่าพลัง:
    +26,816
    ประการที่สองก็คือ ถ้าหากว่าเจริญพระพุทธมนต์ หรือว่าสวดพระพุทธมนต์ เมื่อถึงเวลาแล้วก็สามารถที่จะทำได้ถูก สวดได้ถูก ทั้ง ๆ ที่ทำงานอื่นไปด้วย แต่ว่าพระภิกษุสามเณรและญาติโยมวัดท่าขนุนนั้น จะเห็นอยู่เป็นประจำว่า กระผม/อาตมภาพนั้น ทำวัตรเช้า - ทำวัตรค่ำไปด้วย อ่านหนังสือไปด้วย ส่งงานทางไลน์ไปด้วย

    เรื่องพวกนี้เป็นการซักซ้อมการแยกจิตแยกกาย ทำงานหลาย ๆ อย่างร่วมกัน ทุกท่านก็นึกไม่ถึงว่ากระผม/อาตมภาพเองนั้น บางทีก้มหน้าก้มตาส่งงานทางไลน์ แต่พอคนอื่นสวดมนต์ผิด ก็สามารถบอกที่ถูกได้ทันที หรือเห็นว่าอ่านหนังสืออยู่แท้ ๆ เขาจะกราบเขาจะไหว้อย่างไร สามารถลงได้ตรงจังหวะกับเขาทุกครั้ง

    ลักษณะแบบนี้คือการฝึกซ้อมปฏิบัติในกีฬาสมาธิ ที่พวกเราทั้งหลายจะทิ้งเสียไม่ได้ เนื่องเพราะว่าสมาธิเป็นของไม่แน่นอน ถ้าสภาพร่างกายไม่ดี บางทีเขาก็ไม่เอากับเราเลย กระผม/อาตมภาพจึงต้องซักซ้อมในทุกสภาพ ในทุกอารมณ์ ในทุกสถานที่

    คำว่า ทุกสภาพ ก็คือไม่ว่าจะอยู่ในลักษณะไหนก็ตาม ร่างกายดี หรือเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ทำเป็นปกติ ในทุกสถานที่ก็คือ ทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ตาม ก็ต้องซักซ้อมเข้าออกสมาธิให้คล่องตัว และในทุกเวลาก็คือ พยายามไม่ยอมให้เวลาผ่านไปเปล่า ๆ อย่างไรเสีย สติก็ต้องกำหนดรู้อยู่กับภาพพระ หรือว่าอยู่กับพระนิพพาน โดยเฉพาะอยู่กับลมหายใจเข้าออก และความรู้สึกที่ว่า "เราจะต้องตาย ตายเมื่อไร เราขอไปอยู่พระนิพพานกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น" เนื่องเพราะว่าครูบาอาจารย์สอนอยู่เสมอว่า "อย่าได้ประมาท ความตายสามารถมาถึงเราได้ทุกเวลา"

    ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายคิดว่าตนเองเป็นนักปฏิบัติธรรมแล้ว จะเอาปฏิปทาของกระผม/อาตมภาพไปใช้ดูบ้างก็ได้ ถ้าทำได้สำเร็จ ทำได้คล่องตัว กระผม/อาตมภาพก็อนุโมทนาด้วย ต่อให้ทำไม่สำเร็จ แต่ถ้าใช้ความเพียรพยายามจริง ๆ ก็จะเอาใจช่วย ขอให้ท่านทั้งหลายสำเร็จได้สักวันหนึ่ง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...