นี่ ๆ เหล่านักปฏิบัติ จ๋าาา ช่วยวิสัชนา ตอบ นู๋บี ทีซิ ว่า ขรัวตาจะตีไหมค้าาาาาาาา ?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย 5th-Lotus, 20 ตุลาคม 2009.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ลงทุนกระเทียมในจีน สร้างกำไรมหาศาล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 พฤศจิกายน 2552 07:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=480 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=480>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กระเทียมจีน สีขาวบริสุทธิ์น่ารับประทาน ขนาดหัวและกลีบใหญ่ ปลอกง่าย - ความหวาดกลัวต่อโรคหวัดสายพันธุ์ใหม่ในจีน กำลังสร้างกำไรมหาศาลให้กับนักลงทุน จากราคากระเทียมที่พุ่งสูงขึ้น 4 เท่า เพราะขาดตลาด ด้วยสรรพคุณที่ว่าสามารถปัองกันโรคหวัดสายพันธุ์ใหม่ได้ (ภาพเอเจนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> รอยเตอร์ - ราคากระเทียมในจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า ตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา จนเปรียบเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลกำไรดีที่สุดในปีนี้ แซงหน้าทองคำและหุ้นไปแล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานวันที่ 26 พ.ย.

    กระเทียมโด่งดังเป็นข่าวเมื่อหนังสือพิมพ์ไชนาเดลี รายงานในสัปดาห์ก่อนว่า โรงเรียนมัธยมศึกษาในหังโจว เมืองเศรษฐกิจทางตะวันออกของจีน ได้ซื้อกระเทียม 200 กก. และบังคับให้นักเรียนกินพร้อมอาหารเที่ยงทุกวัน เพื่อให้มีสุขภาพดี

    จาง ผิง อายุ 74 ปีให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ที่ตลาดผักในกรุงปักกิ่งว่า เขาไม่รู้จักไวรัส H1N1แต่รู้ว่า กระเทียมช่วยป้องกันหวัดได้ “ดูผมสิ ผมไม่เคยเป็นหวัดมาหลายปีแล้ว และปีหนึ่งๆ ผมจะซื้อกระเทียมกินเป็นสิบๆ กิโลฯ ”

    บ้างมีการมองไปว่า ราคาที่แปรปรวนนี้ เกิดจากแรงกระทำบางอย่าง

    ไชนาบิสซิเนสส์นิวส์ รายงานว่า กลุ่มเหมืองถ่านหินซึ่งทั้งมั่งคั่งร่ำรวยและเป็นนักเก็งกำไรตัวฉกาจ ได้ลงมาเล่นกับราคาในตลาดกระเทียม ด้วยการกักตุนไว้

    กระเทียมเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของการประเมินสินทรัพย์ ที่มอร์แกน สแตนเลย์ ได้จัดทำขึ้น และคิดว่าจะถูกหยิบขึ้นมาพูดถึง หลังการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อแก้วิกฤติการเงินโลก โดยจะพบว่า แม้แต่กระเทียมก็นำมาเก็งกำไรกันได้

    China - Manager Online


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เจ้าพ่อสแปมเมอร์อีกรายนอนคุก 4 ปี น้อยไป!?</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 พฤศจิกายน 2552 16:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=150>[​IMG] </TD></TR><CAPTION align=bottom>อลัน ราลสกี้ (Alan Ralsky) เจ้าพ่อขบวนการร่อนอีเมลขยะวัย 64 ปีที่ตั้งฉายาให้ตัวเองด้วยความภูมิใจว่า "Godfather of spam"

    CyberBiz - Manager Online
    </CAPTION></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เจ้าพ่อขบวนการร่อนอีเมลขยะนามอลัน ราลสกี้ (Alan Ralsky) วัย 64 ปีและพวกอีก 6 คนถูกตัดสินให้รับโทษจำคุก 4 ปีพร้อมค่าปรับ 250,000 เหรียญ ฐานต้มตุ๋นหลอกลวงนักลงทุน ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ว่าโทษจำและปรับนี้น้อยเกินไป เพราะเนื่องจากเหยื่อที่ถูกต้มตุ๋น ชาวเน็ตตาดำๆและธุรกิจทั่วโลกยังต้องสูญเสียทั้งเงินและเวลาซึ่งคิดเป็นตัวเงินแล้วมากกว่าค่าปรับหลักแสนเหรียญมากนัก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    40 ประการ บ่งบอกถึง "ความฉลาด" ของลูก
    เด็กแบบไหนจึงเรียกว่าฉลาด? คำถามนี้พ่อแม่หลายคนอาจสงสัยและพยายามหาคำตอบ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านใดก็ตาม พ่อแม่ทุกคนก็ย่อมนำสิ่งที่มีประโยชน์มาให้ลูกเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ว่านอกจากลูกจะมีกายแข็งแรงแล้ว ใจและสติปัญญาก็แข็งแรงไม่แพ้กันด้วย

    ทั้งนี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการวิจัยถึงลักษณะของเด็กฉลาด แล้วสรุปออกมาพอ เป็นแนวทางให้เราได้พิจารณาว่าเด็กที่ฉลาดควรมีลักษณะ 40 ประการดังนี้

    1.เป็นคนช่างสังเกต มีความรู้สึกไว และรับรู้ได้เร็ว

    2. สามารถคิดได้อย่างมีความสุข

    3. เรียนรู้ได้ดีและเร็ว

    4. ใช้คำศัพท์ได้มากและถูกต้อง

    5. ชอบตั้งคำถาม

    6. มีความคิดเป็นของตัวเอง

    7. มีใจจดจ่อเมื่อพบสิ่งแปลกใหม่

    8. มีความจำดี

    9. ชอบอ่านหนังสือ

    10. ชอบเป็นผู้นำเมื่อเล่นกับเพื่อน

    11. เป็นผู้ออกความคิดเมื่อเล่นกัน

    12. เป็นผู้ที่ครูชอบมอบหมายงานให้ทำ

    13. ชอบการปั้นและวาดรูป

    14. มีความรู้สึกดีกับทัศนียภาพและภาพวาด

    15. วาดภาพตามความคิดของตนเอง

    16. ชอบติชมภาพเขียน

    17. ชอบเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะเพลง

    18. ใช้ร่างกายแสดงออกทางอารมณ์

    19. มีการทรงตัวดี

    20. ชอบเคาะจังหวะเมื่อได้ยินเสียงดนตรี

    21. ชอบแสดงความคิดเห็น

    22. ไม่ท้อถอยง่ายเมื่องานล้มเหลว

    23. อ่านหนังสือได้ก่อนเข้าเรียน

    24. สนุกกับการคิดเลข

    25. อยากรู้อยากเห็น

    26. มีมือที่มั่นคง หยิบของเล็ก ๆ ได้ดี

    27. มีความซึมทราบในเรื่องที่ตนสนใจ

    28. ชอบทดลองสิ่งต่าง ๆ

    29. แก้ปัญหาด้วยตัวเอง

    30. เฉลียวฉลาดในการหาคำตอบและคิดค้นคำตอบใหม่ ๆ

    31. มีจินตนาการและสร้างสรรค์ในสิ่งเพ้อฝัน

    32. มีความกระฉับกระเฉงในการแก้ปัญหาหรือเมื่อพบสิ่งใหม่ ๆ

    33. เป็นต้นคิดโครงการใหม่ ๆ ไม่พึ่งคนอื่น

    34. มีความกระตือรือร้น

    35. เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง

    36. มีเพื่อนมาก

    37. ชอบสำรวจสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ

    38. เด็กคนอื่นเลือกให้เป็นผู้นำ

    39. สร้างจินตนาการและเล่าเรื่องเหล่านั้น

    40. มีทัศนคติต่อชีวิตเป็นอิสระ

    อย่างไรก็ตาม ลักษณะของเด็กฉลาดที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแนวทางให้เราได้ทราบว่าควรจะพัฒนาเด็กให้มีลักษณะเช่นใดบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่ไม่มีลักษณะเช่นนี้จะเป็นเด็กที่ฉลาดไม่ได้เพราะเด็กฉลาดบางรายก็มีส่วนที่มีข้อด้อยเช่นกัน เราจึงควรให้ความสนใจพัฒนาลูกของเราให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้

    Life & Family - Manager Online
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG]

    26 พย. 2552 15:21 น.


    <DD>รัฐบาลแถบนอร์ทเทิร์น แทริทอรี่ของออสเตรเลีย ประกาศแผนการเมื่อวันพุธว่า ในสัปดาห์หน้า จะใช้เฮลิคอปเตอร์ทำการไล่ต้อนอูฐป่าประมาณ 6,000 ตัว ให้ออกนอกเมืองไปประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนจะยิงทิ้งและปล่อยให้วากเน่าเปื่อยอยู่ในทะเลทราย หลังจากสภาพแห้งแล้งในภูมิภาค ทำให้มีอูฐทยอยเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกทีที่เมืองเล็กๆชื่อดอกเกอร์ รีเวอร์ ซึ่งมีประชากร 350 คน เพื่อค้นหาน้ำดื่ม


    <DD>อากาศแห้งแล้งผิดปกติในพื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลียในปีนี้ ทำให้อูฐที่เคยอยู่ในป่า เข้าไปในเมืองเพื่อหาน้ำ พวกมันเข้าใกล้ตัวบ้านเพื่อพยายามหาน้ำจากแอร์คอนดิชั่น เหยียบย่ำรั้วของรันเวย์ของท่าอากาศยานขนาดเล็กของที่นั่น ทำลายแท็งค์น้ำ และสร้างความปนเปื้อนให้กับแหล่งน้ำต่างๆ เพราะซากเน่าของอูฐที่ถูกเหยียบตายขณะแย่งน้ำ<DD><DD>
    [​IMG]
    <DD><DD>ปลาตายเป็นจำนวน เป็นหมื่นเป็นแสน ในลุ่มน้ำอเมซอน<DD><DD>http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-903


    </DD>
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“รถอัจฉริยะ” สัญลักษณ์แห่งความหวังของอุตสาหกรรมรถยนต์ในเขมร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤศจิกายน 2552 16:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=550>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    ภาพเอเอฟพีวันที่ 21 ส.ค. นายเนียนกับรถที่เขาออกแบบขึ้นเอง "อังกอร์ 333-2010" บริเวณหน้าบ้านในกรุงพนมเปญ </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เอเอฟพี - รถมินิคาร์สีทองคันจิ๋ว ที่วิ่งไปมาบนถนนในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครและสีสะดุดตาเท่านั้น แต่ผู้ประดิษฐ์รถคันนี้ นายเนียน ผลึก (Nhean Phaloek) ยังอ้างว่ารถของเขาสามารถสั่งการผ่านความคิดได้ด้วย

    “ผมแค่ดีดนิ้วประตูรถก็จะเปิด หรือไม่ผมเพียงแค่คิดให้ประตูรถเปิด มันก็จะเปิดทันที” เจ้าของรถสุดเก๋อายุ 51 ปี ที่ภาคภูมิใจกับรถประดิษฐ์ในชื่อว่า อังกอร์ 333-2010 กล่าว

    ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างอ้าปากค้างเมื่อนายเนียนสาธิตเทคนิคการเปิดประตูรถให้ดู โดยรถที่สร้างขึ้นจากไฟเบอร์กลาสคันนี้มีมูลค่าทั้งหมด 5,000 ดอลลาร์และใช้เวลาประกอบอยู่ 19 เดือน แต่เจ้าของรถไม่เปิดเผยให้เห็นระบบรีโมตคอนโทรลที่ซ่อนอยู่ภายในรถให้ผู้สื่อข่าวดูแต่อย่างใด

    “ผมรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจมากกับรถของผมเพราะหลายคนต่างชื่นชมและคอยซักถามผมเกี่ยวกับวิธีที่ผมสร้างรถคันนี้ขึ้นมา” นายเนียน กล่าว โดยรถที่เขาประดิษฐ์ขึ้นนี้สามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดได้ถึง 100 กม./ชม.

    “งานของพวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้กับคนรุ่นใหม่ได้เข้าสู่กระบวนการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่ากัมพูชาก็มีความสามารถที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นคิดว่าเราทำไม่ได้” นายกง กล่าว

    “ผมรู้สึกดีใจมากกับความสำเร็จของผม แต่ก็ยังไม่ค่อยพอใจมันมากเท่าไหร่” นายกง กล่าว พร้อมระบุว่ากัมพูชายังขาดเทคโนโลยีที่ทันสมัยและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการประดิษฐ์และผลิตผลงานที่มีประสิทธิภาพ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=550>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    นายเนียนชี้ส่วนต่างๆ ภายในห้องโดยสารให้ดู พร้อมบอกว่ารถจิ๋วแต่แจ๋วคันนี้สามารถเปิดประตูด้วยเสียงหรือความคิด </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>รถยนต์อังกอร์ 333-2010 เป็นคันที่ 3 ที่ นายเนียน ประดิษฐ์ขึ้น และเป็นคันแรกที่สามารถพูดได้ ซึ่งทันที่ที่นายเนียนปิดประตูรถอย่างแรง รถยนต์ของเขาจะส่งเสียงขึ้นมาว่า “ทำไมคุณต้องปิดประตูแรงขนาดนี้”

    เรียบเรียงจาก 'Telepathic' car symbolises Cambodian car industry hopes โดย Chan Sovannara
    IndoChina - Manager Online


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เบบี้ โฮเต็ล (Baby Hotel) ที่พึ่งคลายเครียดของพ่อแม่ในแอฟริกาใต้

        • [​IMG] 7 ก.ย. 52 16.17 น.
        • [​IMG] อ่าน<SCRIPT src="http://app.sanook.com/weblog/counter/js/?site_id=61&weblog_id=171&entry_id=822721" type=text/javascript></SCRIPT> 222 ครั้ง
      • เลือกขนาดตัวอักษร : [​IMG] [​IMG]
    • [​IMG] โดย นสพ.มติชน
    [​IMG]

    คอลัมน์ ร่อนตามลม
    โดย raikorn@hotmail.com
    การได้ใช้เวลาช่วงวีกเอ็นด์อย่างมีความสุข... ได้นั่งดูหนังจนจบเรื่องโดยไม่ถูกขัดจังหวะ ต้องลุกขึ้นไปทำอะไร... ได้นั่งทำงานจนดึก โดยไม่รู้สึกผิดว่ากำลังทิ้งใครไว้ที่บ้าน ไม่ใช่ "ความฝัน" ที่ไกลเกินจริงสำหรับ พ่อแม่ในแอฟริกาใต้อีกต่อไปแล้ว เมื่อมีโรงแรมเปิดใหม่ชื่อว่า เบบี้ โฮเต็ล (Baby Hotel) ที่เปิดขึ้นมาเพื่อช่วยลดความเครียดให้คุณพ่อ-คุณแม่โดยเฉพาะ!!!
    ตอนนี้ทั้งพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกตามลำพัง หรือที่ฝรั่งเรียกว่า ซิงเกิล แพเรนต์ (single parent) และพ่อแม่ที่มีฐานะดี แต่ไม่ค่อยมีเวลา สามารถหาเวลา "ปลดล็อค" ให้ตัวเองมีโอกาสได้พักบ้าง ได้ไปทำอะไรโดยไม่ต้องเป็นห่วงลูกว่าจะไม่มีใครดูแล ด้วยการนำลูกไปฝากไว้ที่โรงแรมกลางย่านธุรกิจในนครโยฮันเนสเบิร์กแห่งนี้ ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด
    เบบี้ โฮเต็ล ต้องการเจาะตลาดกลุ่มผู้ปกครองที่รู้สึกตึงเครียดกับสภาพชีวิตที่ต้องผสมผสานการทำงานและดูแลลูกให้ลงตัว แต่ก็ทำได้ยากมาก ขณะที่การพึ่งบริการของสถานรับเลี้ยงเด็กก็เจอปัญหาน่ารำคาญใจ เรื่อง "เงินค่าปรับ" ที่บรรดาเนิร์สเซอรี่ต่างปรับอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่มีคำว่าผ่อนผันเลยสักนิด หากพ่อแม่ไปรับลูกเกินเวลาที่กำหนดไว้แม้จะเกินไปแค่ 1 ชั่วโมงก็ตาม!
    "พวกเนิร์สเซอรี่จะเฮี้ยบเรื่องเวลามาก คุณต้องไปรับลูกตรงเวลาเป๊ะๆ ไม่มีการยืดหยุ่นเลย" เอสเม่ สเวนนิส ผู้อำนวยการเบบี้ โฮเต็ล เล่าให้นักข่าวเอเอฟพีฟัง พร้อมทั้งเล่าถึง "ความต่าง" ระหว่างเบบี้ โฮเต็ล กับเนิร์สเซอรี่ทั่วไปว่า สถานรับเลี้ยงเด็กส่วนใหญ่จะรับเด็กตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป แต่โฮเต็ลขนาด 50 เตียงของเธอ พร้อมรับเด็กทารกตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบ โดยมีเจ้าหน้าที่ 10 ชีวิตคอยดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด ด้วยค่าบริการทั้งวัน 545 แรนด์ (ราว 2,397 บาท) ซึ่งราคานี้ได้รวมค่าอาหารมื้อค่ำและบริการอาบน้ำไว้ด้วย ส่วนเด็กคนใดที่เกิดฝันร้ายขึ้นมากลางดึก ก็มีบริการกอดฟรีแถมให้ ไม่ต้องเสียตังค์
    สำหรับพ่อแม่ที่นำทารกแบเบาะไปฝากไว้ แล้วกลัวว่าลูกอาจจะถูกสลับตัวกับทารกคนอื่น ก็ไม่ต้องกังวล เพราะทางโฮเต็ลได้เตรียมการป้องกันปัญหานี้ไว้แล้ว ด้วยการทำป้ายชื่อเด็กทุกคนไปแปะติดไว้ที่หัวเตียง เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่สลับเด็กผิดตัวกัน!
    นางเชอรี่ กัลจาร์ด ซึ่งแยกทางกับสามี แล้วนำเอ็มม่า ลูกสาววัย 8 เดือนไปฝากไว้ที่เบบี้ โฮเต็ลบอกว่า ที่นี่เปรียบเหมือนของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ เพราะทำให้นักบัญชีอย่างเธอสามารถรับนัดช่วงค่ำที่อาจมีเข้ามาอย่างเร่งด่วน หรืองานที่อาจมีเข้ามาอย่างไม่คาดฝันทำให้เธอต้องอยู่ทำงานจนดึกได้อย่างสบายใจ
    "หรืออย่างตอนเช้าวันเสาร์ หากฉันอยากออกไปทำธุระส่วนตัว อยากไปช็อปปิ้ง การจะหอบหิ้วลูกเล็กๆ ไปด้วย ก็ไม่สะดวก และคงไม่ใช่ความคิดที่ดี นั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ฉันเลือกไปส่งลูกไว้ที่เบบี้ โฮเต็ล หรือวันไหนที่ฉันอยากไปตัดผม ฉันก็ไม่สามารถหอบหิ้วลูกไปด้วยแน่นอน"
    เอสเม่ สเวนนิส เล่าว่า ที่เธอตัดสินใจเปิดเบบี้ โฮเต็ล ขึ้นมาเมื่อปี 2547 ก็เพราะเธอเคยเจอความรู้สึกและปัญหาแบบนี้มากับตัว ตอนที่ต้องกลายเป็นแม่หม้ายลูก 3 หลังจากหย่ากับสามีแล้วก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครช่วยเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา เพราะที่แอฟริกาใต้นับวันครอบครัวที่อยู่รวมกันพร้อมหน้าเป็นครอบครัวใหญ่ยิ่งหายาก
    "ฉันมั่นใจว่าต้องมีลูกค้าแน่ พ่อแม่ที่อาจจะมาใช้บริการเราเป็นบางโอกาส หรือจำเป็นต้องมาฝากลูกไว้กับเราเป็นประจำ"
    แล้วเอสเม่ก็คิดไม่ผิด แถมอีกไม่นานเธอยังมีโครงการจะเปิดเบบี้ โฮเต็ล สาขาที่ 2 ขึ้นที่พอร์ต เอลิซาเบธ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศภายในปีนี้
    การเกิดขึ้นของเบบี้ โฮเต็ลยังช่วยให้ครอบครัวที่พ่อแม่ต่างต้องทำงานนอกบ้านอย่างครอบครัวของ ทาสลีม ซาเยด สามารถทำงานได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องเป็นห่วงลูกฝาแฝดที่เธอไม่คิดจะจ้างพี่เลี้ยงเด็ก เพราะรู้สึกไม่ไว้ใจ
    "พอเราออกจากบ้าน พวกพี่เลี้ยงก็จะนั่งดูทีวี ทำโน่นทำนี่ของตัวเอง โดยไม่สนใจดูแลลูกเรา"
    ทาสลีม คิดเหมือนกับเชอรี่ ที่บอกเช่นกันว่า เธอก็ไม่คิดจะจ้างพี่เลี้ยงลูก หนึ่งในเหตุผลนั้นก็เพราะการเอาเอ็มม่ามาฝากไว้ที่เบบี้ โฮเต็ลยังทำให้ลูกของเธอมี "สังคม" รู้จักเล่นกับเด็กคนอื่น
    "แต่ถ้าอยู่บ้านกับพี่เลี้ยง เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการกระตุ้น หรือมีกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการในการเรียนรู้เลย"

    เบบี้ โฮเต็ล (Baby Hotel) ที่พึ่งคลายเครียดของพ่อแม่ในแอฟริกาใต้
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จีนโชว์ป๋า-สาดเงินแอฟริกา3แสนล.

    วันที่ 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6920 ข่าวสดรายวัน

    จีนโชว์ป๋า-สาดเงินแอฟริกา3แสนล.

    เมื่อ 8 พ.ย. เอพีและบีบีซีรายงานว่า ผู้นำเบอร์ 2 ของจีน มหาอำนาจแห่งเอเชีย ซื้อใจชาติกลุ่มทวีปแอฟริกา ประกาศก้อง "จีนเป็นเพื่อนแท้ของแอฟริกา" พร้อมมอบเงินกู้ 3 ปี มูลค่า 340,000 ล้านบาท

    นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน แถลงนโยบายช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าวขณะร่วมประชุมสุดยอดผู้นำจีน-แอฟริกา ครั้งที่ 4 ณ เมืองชาร์ม เอล-ชีก ของอียิปต์ และระบุว่า ไม่ว่าสถานการณ์โลกวุ่นวายแค่ไหนจีนจะสนับสนุนการพัฒนาในแอฟริกาอย่างแท้จริงและมั่นคง โดยนอกจากเงินกู้แบบผ่อนปรน 340,000 ล้านบาทแล้ว ยังจะช่วยแอฟริกาพัฒนาพลังงานสะอาดผ่านโครงการใหม่ 100 โครงการ รวมถึงช่วยรับมือกับปัญหาโลกร้อน ส่งเสริมให้สถาบันการเงินจีนปล่อยสินเชื่อแก่บริษัทขนาดเล็ก และเปิดตลาดให้แก่สินค้าแอฟริกา

    ทั้งนี้ ชาติตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์จีนว่า สนับสนุนรัฐบาลที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในแอฟริกาเพียงเพราะต้องการทรัพยากรธรรมชาติ

    จีนโชว์ป๋า-สาดเงินแอฟริกา3แสนล.
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="100%">"ลูกบ้า"เจ้าสัว 28ปีสวนสยาม

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    เจ้าสัวไชยวัฒน์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>'สวนสยามต่อสู้มานานกว่า 27 ปี ระหว่างการต่อสู้มีทั้งสดชื่นและขมขื่น มีอุปสรรคก็ฟันผ่ามาตลอด

    พอในปีที่ 28 ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีขึ้น เราได้มีโอกาสปรับโครงสร้างหนี้ที่เราขาดทุนสะสมไว้ให้หมดไป แล้วเพิ่มทุนพัฒนา 3 พันล้าน โดยกู้จากไทยธนาคาร ส่วนที่เหลือเราขายที่ดินในตระกูลเหลืองอมรเลิศอีกพันกว่าล้าน และอีก 500-600 ล้าน เป็นของญาติๆ และพวกที่มาช่วยลงทุน'

    น้ำเสียงราบเรียบของนายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ที่ปรึกษา บริษัท สยามพาร์คซิตี้ จำกัด วัย 70 ปี ที่ยังมุ่งมั่นสร้างฝันและร้อยยิ้มให้กับคนกรุงเทพฯ กล่าวหลังพิธีเปิด 'แอฟริกา แอดเวนเจอร์' เครื่องเล่นใหม่ที่ทุ่มงบกว่า 240 ล้านบาท บนพื้นที่ 20 ไร่ จำลองชีวิตและผู้คน ฝูงสัตว์ในป่าแอฟริกาให้เคลื่อนไหวส่งเสียงร้องดุจมีชีวิต โดยร้อยเรียงเป็นเรื่องราวสร้างความตื่นตาตื่นใจ

    การเปิดโซนผจญภัยดังกล่าวขึ้นมาใหม่ สวนทางกับที่นายไชยวัฒน์เคยถอดใจประกาศขายสวนสยาม หลังเกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้งซ้อนภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2550 ถัดมาคือในวันเด็กแห่งชาติ 12 มกราคม 2551 กับเครื่องเล่น 'อินเดียน่าล็อก' และซูเปอร์สไปรอล เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

    ในครั้งนั้นนายไชยวัฒน์ประกาศขายกิจการบนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านผ่านสื่อมวลชนพร้อมประกาศว่าไม่คิดจะเปลี่ยนใจ เพราะรู้สึกเหนื่อยและอายุมาก และต้องหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยธนาคาร โดยมีนักธุรกิจทั้งชาวเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ติดต่อขอซื้อเครื่องเล่น

    มาวันนี้ เจ้าสัวสวนสยามมีแรงฮึดอีกเฮือก ส่งไม้ต่อให้ทายาทสานความฝันในการสร้างรอยยิ้มให้คนไทยต่อไป



    ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ เกิดวันที่ 28 ต.ค. 2481 ที่อำเภอบางเขน กรุงเทพฯ บุตรนายย่งเจ็ง และนางไน้ ประกอบอาชีพค้าขาย มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน หญิง 4 ชาย 4 เป็นลูกคนที่ 3 เรียนจบชั้นป.4 โรงเรียนบางบัว ได้รับปริญญาศิลปศาสตรบัญฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จากวิทยาลัยครูจันทรเกษม เมื่อปี 2530

    คร่ำหวอดกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จัดสรรบ้านและที่ดิน ก่อนจะเปิดสวนสนุกที่มีทั้งเครื่องเล่นและสวนน้ำเป็นที่ฮือฮาในชื่อว่า 'สวนสยาม-ทะเลกรุงเทพ' เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2523 บนถนนเสรีไทย ฉีกแนวไปจาก 'แฮปปี้แลนด์-แดนเนรมิต' มีไฮไลต์อยู่ที่ 'สไลเดอร์' และ 'รถไฟเหาะตีลังกา' ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 200 ชีวิต ที่อยู่ร่วมงานกันมาตั้งแต่รุ่นบุกเบิก มีเครื่องเล่นรวมกว่า 40 ชนิด ตามโครงการที่จะแล้วเสร็จในปีหน้า

    เพราะนอกจากสวนน้ำและเครื่องเล่นยุคแรกแล้ว ยังลงทุนเครื่องเล่นใหม่ 16 ตัว จากต่างประเทศ ในวงเงิน 3 พันล้านบาท เปิดบริการแล้ว 8 ตัว คือ วอร์เท็กซ์ ซูเปอร์เกลียวเหาะมหาสนุก, บูมเมอแรง รถไฟเหาะตีลังกาถอยหลัง, ไซ-แอม ทาวเวอร์ หอชมวิวสูง 100 เมตร, ไจแอนท์ดร็อป ดิ่งพสุธาบนความสูง 75 เมตร, คอนดอร์ เหยี่ยวเวหาร่อนบนความสูง 50 เมตร, อะลาดิน สุดยอดความมหัศจรรย์กับพรมเหาะมหัศจรรย์ และล่าสุด ท่องป่าแอฟริกา-แอฟริกาแอดเวนเจอร์ การผจญภัยในป่าแอฟริกาที่มีทั้งเรือและรถไฟ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    1.สวนสนุกของครอบครัว

    2.วอร์เท็กซ์ ซูเปอร์เกลียวเหาะมหาสนุก

    3.โซนใหม่แอฟริกาแอดเวนเจอร์

    4.ผจญภัยในป่าแอฟริกา

    5.วัยซนหน้าซูเปอร์สไปรอล

    6.สไลเดอร์ยอดฮิต

    7.คอนดอร์ เหยี่ยวเวหา

    8.ผจญภัยในป่าแอฟริกา

    9.รถไฟตะลุยป่า

    10.วุฒิชัยกับพ่อ

    11.วันส่งวุฒิชัยไปเรียนอังกฤษ

    12.ถ่ายกับลูกชายคนโต ต้อม สิทธิศักดิ์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    'ตอนประกาศขาย เราถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เมื่อมีเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงทำไมถึงรุนแรง เจ้าหน้าที่ยกมาเป็นขโยง มีการตรวจสอบกันทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน สวนสนุกอื่นๆ ก็โดนตรวจสอบเหมือนกับไฟไหม้ฟาง มีเรื่องทีก็ตูมตาม พอไม่มีเรื่องก็แล้วไป ทำให้น้อยใจ ท้อครับ ท้อกันทุกคน แต่ก็คิดว่าสวนสยามเราสร้างขึ้นมาเอง คิดได้ก็ไม่ท้อ แต่ที่ทำให้ท้อเพราะหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องใช้โอกาสอันนี้โปรโมตตัวเอง ทำให้เรารู้สึกว่า เอ๊ะ! เราเอาเงิน 2-3 พันล้านไปฝากเอาดอกเบี้ยแบงก์นอนกิน หรือจะไปบวชเป็นพระดี ตอนเช้าก็มีคนมาทำบุญ จะไปบวชแล้วแต่กิเลสยังไม่หมด บวชไม่ได้ และเราจะหยุดไม่ได้ สู้มาตั้งขนาดนี้แล้ว ถอยไม่เป็นแล้วครับ

    การตัดสินใจสู้หรือไม่มันค่อนข้างยาก เพราะจุดมุ่งหมายต่างกัน ถ้าอยากสู้เราต้องตั้งธงไว้ว่าจุดหมายเราอยู่ที่ไหน จุดหมายของผมคือหลังจากมีเงินเหลือผมอยากสร้างสวนสนุก เพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนชาวไทย 60 ล้านคน เมื่อมีอุปสรรคก็ถือว่ายังทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จ ยังไม่โดนใจคน ยังไม่เป็นที่น่าเที่ยวสำหรับทุกคน ทำให้เราไม่สามารถสร้างการตลาดที่แข็งแรงได้ เราก็ต้องพยายามต่อสู้กัดฟันต่อไป

    27 ปี แห่งการต่อสู้ไม่ใช่ของง่ายๆ เหมือนกรุงโรมที่ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว คิดถึงตรงนี้ก็ไม่ท้อใจ ถ้าเราตั้งมั่นเราคงสำเร็จทุกอย่าง จึงทุ่มให้สวนสยามทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเวลา การเงิน สิทธิปัญญา ความรู้ความสามารถที่เราไม่มีเองก็หามาจากที่อื่น เพื่อให้ได้มาซึ่งผลสำเร็จของเรา'

    ไชยวัฒน์กล่าวต่อว่า 'ไม่มีหลักบริหารอะไร ถ้าเราทำอะไรแล้วต้องเชื่อมั่น กล้าตัดสินใจ กล้าได้กล้าเสีย สิ่งที่ลงไปแล้วจะบอกว่าขาดทุนและไม่ลงทุนไม่ได้ สวนสนุกต้องลงทุนและพร้อมที่จะกำไร-ขาดทุนในเวลาเดียวกัน คนที่เงินเยอะๆ เขาก็ไม่มาบ้าลงทุน ถือว่าอยู่สบายแล้ว ไม่อยากมาเดินดูงานแบบนี้ หรือคนไม่มีเงินก็ไม่มีปัญญาสร้าง

    ผมบังเอิญมีเงินไม่มาก แต่มีปัญญาและก็อยู่ในวงการนี้มานาน ก็ค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ เติม ขายที่ดินเก่าๆ ไป จนคนเขาบอกว่าผมเป็นคนบ้า แต่ผมก็ถือว่าบ้าแบบนี้บ้าเพื่อความสุขของคนอื่น ผมพร้อมที่จะบ้า'

    การปรับตัวซื้อเครื่องเล่นใหม่จากต่างประเทศขณะที่บ้านเมืองเราเศรษฐกิจกำลังแย่ แต่พอสร้างเสร็จเศรษฐกิจก็คงดี พอเศรษฐกิจดีเราก็อยู่ได้ เป้าหมายสูงสุดของสวนสยามจะสมบูรณ์แบบและเป็นสากล บริหารแบบคนรุ่นใหม่ได้ปลอดภัย ตามหลักวิชาการและมีกำไร ความปลอดภัยกับการการันตีนั้นเราใช้สุดความสามารถ ต้องยึดตามหลักวิชาการของบริษัทแม่ที่เป็นผู้สร้างเครื่องมาให้ความรู้คนของเรา สอนคนของเราให้รู้จักจัดการและการบำรุงรักษาเครื่องเล่น

    ที่ผ่านมาข่าวความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนอันหนึ่งทำให้เรารู้จักวิธีบำรุงรักษา ระวังและคอยดูแลให้ใกล้ชิดมากกว่านี้'

    หากถามว่า ณ วันนี้ความฝันที่จะสร้างรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ สำเร็จหรือยัง

    'ก็มีทั้งฝันที่ยิ้มและฝันไม่ยิ้ม แต่การเห็นประชาชนมาเที่ยวแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส เฮฮา ก็โอเคแล้ว'



    เจ้าสัวไชยวัฒน์ มีคนหนุ่มสาวทายาทรุ่น 2 มาร่วมแชร์ความฝัน โดยนายสิทธิศักดิ์ ลูกชายคนโต นั่งในตำแหน่งประธานกรรมการ นายวุฒิชัย ลูกชายคนกลาง อยู่ในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่ และจิรวรรณ ลูกสาวคนเล็ก นั่งตำแหน่งรองประธานกรรมการ โดยทุกคนเข้ามาบริหารงานกับพ่อมากว่า 2 ปีแล้ว

    'พ่อฝันไว้แบบนี้ ลูกต้องสานความฝัน กว่าจะเดินมาถึงตรงนี้ไม่ง่าย ตามหลักทั่วไปใครๆ ก็อยากสร้างสวนสนุก แต่ก็สร้างไม่ได้เพราะขาดปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งการลงทุนสูง สถานที่กว้างๆ ก็ไม่มี หรือจะเอาคนที่มีความรู้ความสามารถด้านสวนสนุกในเมืองไทยก็หายาก ฝันที่พ่อฝันไว้ฝันต่อไปเถอะ' คำกล่าวจากพ่อสู่ลูก

    'ต้องให้เวลาเขา คนรุ่นใหม่ใช้ความสุขุมรอบคอบแต่อาจเสียเวลาไปบ้าง ต่างจากคนรุ่นเก่าใช้กันแบบครอบครัวคนจีน หากใช้งานดึกๆ มีข้าวกินฟรี ไม่ว่างก็ไม่ต้องทำ มีกำไรเป็นโบนัส ขาดทุนก็ไม่ให้ อยู่แบบพี่น้อง แต่คนรุ่นใหม่มีหลักการ ทำงานเกินเวลาเอาโอเวอร์ไทม์ ไม่ทำก็อด ทำไม่ดีไล่ออก แต่ของเราถ้าไม่ดีก็โดนด่า ผิดมาสั่งสอน ไม่ได้ไล่กันไป' ไชยวัฒน์กล่าวเปรียบเทียบการทำงานของคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่

    '2 ปีที่ผ่านมาวิชั่นใหม่น่าพอใจมาก แต่เรื่องปฏิบัติยังไม่ค่อยพอใจ เนื่องจากคนเก่ากับคนใหม่การทำงานต้องอาศัยจิตวิทยาและหลักวิชาการ มันต้องค่อยๆ ซึม เรียกว่าน้ำใหม่น้ำเก่า หากพยายามจะไล่น้ำเก่าออกไปต้องใช้เวลาเติมอยู่เรื่อยๆ และค่อยๆ ดูดน้ำออก ใช้เวลา พลังงานนิดหนึ่ง ขณะเดียวกันคนเก่าภูมิต้านทานสูง เจอน้ำเน่าน้ำเหม็นก็อยู่ได้ไม่เกิดโรค คนรุ่นใหม่เจอน้ำเหม็นน้ำเน่าก็ท้องร่วง'



    ลูกชายคนที่สอง วุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ วัย 34 ปี กล่าวว่า 'พวกเราในฐานะลูกๆ มองท่านเป็นคนที่มีความฝัน และพวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นพี่ชาย น้องสาว คนในครอบครัวจะร่วมแชร์ความฝันที่อยากให้คนไทยมีสวนสนุกมาตรฐานสากลระดับโลกอยู่ในประเทศไทย ในราคาคนไทย นี่เป็นสิ่งที่พ่อตั้งขึ้นมาและพวกเราร่วมกันสร้างความฝัน เป็นศูนย์รวมของประเทศไทย และจะเป็นสวนสนุกที่อยู่แถวหน้าของเอเชีย ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าพวกเรามีโอกาสไปถึงจุดนั้นสูงมาก'

    วุฒิชัยกล่าวต่อว่า พ่อเป็นคนมีความตั้งใจ มีความฝัน สร้างฐานะด้วยตนเองตั้งแต่เด็ก และทำสำเร็จแล้ว อายุ 30 กว่าๆ ก็เป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้าน และท่านก็ตอบแทนสังคมกลายเป็นที่มาของสวนสยาม ในแง่การลงทุนบุคคลธรรมดาที่จะลงทุนเรื่องสวนสนุกเป็นเรื่องที่ลำบากแต่ท่านก็ทำด้วยตัวของท่านเอง

    พ่อพูดเสมอว่า โตขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง จบป.4 แต่สิ่งที่ท่านมีเสมอคือความตั้งใจและซื่อสัตย์ต่องานของตัวเอง คนเราจะโกงใครได้หมดแต่ไม่สามารถโกงตัวเองได้ ท่านสอนเสมอและให้อดทน ตั้งใจทำงาน

    พวกเราในรุ่นลูก ท่านเปิดให้เราได้รับการศึกษาเป็นอย่างดีทั้ง 3 คน เพราะฉะนั้นเรานำส่วนที่คุณพ่อยังขาดในเรื่องหลักวิชาการ ทฤษฎีเข้ามาอยู่ในองค์กร สิ่งที่เราทำในรุ่นลูกคือจะพัฒนาสิ่งที่คุณพ่อสร้างมาอย่างไรให้มันก้าวไปข้างหน้าได้ พ่อบอกว่าท่านเหมือนช่างก่อสร้าง ไม่ใช่วิศวกร ท่านสร้างบ้านชั้น 1 ไม่พัง ถ้า 2 ชั้นอาจยังอยู่ได้ แต่ถ้าสร้างตึกอาจจะลำบาก ลูกๆ ที่ไปเรียนมาก็สามารถช่วยท่านสร้างพื้นฐานขององค์กรธุรกิจเหมือนสร้างพื้นฐานของอาคาร เพื่อที่จะทำสูงขึ้นไปอีกหน่อยและอยู่ได้อย่างแข็งแรง

    วุฒิชัยกล่าวต่อว่า เราเชื่อว่าคนไทยต้องการใช้บริการสวนสนุกที่มีมาตรฐานระดับโลก ในราคาที่ไม่เป็นพิษกับกระเป๋าคนไทย นั่นคือสิ่งที่เราพยายามให้ และเราให้สิ่งดีที่สุดในการติดตั้งเครื่องเล่นโดยใช้วิศวกรผู้ผลิตจากต่างประเทศเป็นผู้ควบคุมติดตั้ง เช่น วอร์เท็กซ์และไซ-แอมทาวเวอร์ใช้วิศวกรจากเยอรมันและเนเธอร์แลนด์มาติดตั้ง เราเชื่อว่าเป็นเครื่องเล่นที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่เครื่องเล่นจะมีได้ ส่วนเครื่องเล่นก่อนหน้านั้นได้จ้างวิศวกรจากเยอรมันมาช่วยวางระบบการรักษา เพื่อให้สวนสยามมีความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่สวนสนุกจะให้ได้ เราทำได้เต็มที่แล้ว

    ในเรื่องอุบัติเหตุแม้ว่าจะพยายามป้องกันอย่างสุดชีวิตและทุกวิถีทาง มูลเหตุก็ยังเกิดขึ้นเสมอ สวนสยามเปิดมา 28 ปี มีผู้มาใช้บริการเฉลี่ยปีละ 2-3 ล้านคน ตลอดระยะเวลารวม 60-70 ล้านคน ถึงวันนี้มีอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิต 1 ราย อาจไม่เยอะแต่สำหรับเราเป็นความเสียใจอย่างมาก ถ้าเราตั้งใจลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนสูงสุด สวนสนุกคงไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก แต่เราเลือกแล้วทั้งครอบครัวโดยเฉพาะคุณพ่อว่าอยากให้คนไทยมีความสุข มาเห็นคนเจ็บ คนเสียชีวิต เป็นสิ่งที่เจ็บมากกว่าขาดทุน

    'เมื่อมีความฝันและรู้ว่าเรากำลังจะเดินสู่จุดนั้น มันเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุด ทำให้ผ่านจุดนั้นมาได้ และทุกคนในสวนสยามนี้เชื่อว่าสวนสยามจะยืนอยู่แถวหน้าของเอเชีย'




    ที่มาของข่าว [​IMG] <TR><TD align=right colSpan=2>(22 ต.ค 51)</TD></TR></TBODY></TABLE>

    "
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อาหารที่ได้กินตอนอยู่แอฟริกา(Ghana)
    <!--Main-->[SIZE=-1]วันไปเยี่ยมบล็อกเพื่อนบ้าน มีแต่รูปอาหาร เพื่อนบ้านในบล็อกแก๊งหลายท่านมีอาหารน่ารับประทาน ด้วยความอิจฉาเลยเอาอาหารที่ตัวเองเคยได้ทานมาอวดแก่สายตาชาวโลกบ้าง ฮ่าๆๆๆ ดูไปก็คอยซับน้ำหมาก ...เอ้ยยยย น้ำลายไปก่อนนะคะ ว่าจะน่ารับประทานขนาดไหน

    เนื่องด้วยขี้เกียจและไม่ค่อยมีเวลาทำอาหาร อีกอย่างเบื่อฝีมือ(ห่วยๆ) ตัวเอง อาหารนอกบ้านจึงเป็นหนึ่งทางเลือกของชินเช่นกัน แต่ให้กินทุกวันก็ไม่ไหว เพราะราคาอาหารที่นี่ก็ค่อนข้างแพง แต่ก็ได้ปริมาณเยอะเช่นกันค่ะ ขอเริ่มจาก นี่เลยค่ะ

    ซุปลูกกระเจี๊ยบ
    ประกอบด้วย น้ำมันปามล์แดง หอมใหญ่ พริก ลูกกระเจี๊ยบ เนื้อสัตว์ตามที่ท่านชอบ รับประทานกับข้าวสวย อร่อยดี มันหนึบๆ เหนียวๆ ยืดๆ รสชาติก็แบบแอฟริกา ไม่เผ็ดมากไป


    [​IMG]

    ไก่ย่าง
    อันนี้อาจจะหรู แต่อีชิ้นที่ตั้งอยู่นี่ก็ราวๆ สามร้อยบาท เอ่อ...ชินว่า ไก่ย่างข้าวเหนียวไทยเราเด็ดกว่าค่ะ


    [​IMG]

    แบรนด์นี้เป็นของแอฟริกาใต้ เห็นว่าสูตรเด็ดที่น้ำจิ้มของเขา ไม่รู้เหมือนกันแล้วแต่คนชอบค่ะ

    [​IMG]

    ซุปชาคาลาก้า
    อันนี้ก็อาหารแอฟริกาใต้เช่นกัน ก็สาระพัดผักที่จะมั่วใส่ลงมาได้ ดูแล้วเหมือนต้มอาหารหมูเลย ชินก็ทานกับข้าวค่ะ


    [​IMG]

    รสชาติหรือคะ ก็แปลกๆดี เปรี้ยวๆ เผ็ดๆ เค็มๆ บอกไม่ถูกค่ะ ที่ชอบทานเพราะมันไม่มีเนื้อสัตว์

    [​IMG]


    ข้าวกล่องวันนี้เป็นข้าวสวย คาเรวาเร่(กล้วยแพลนทินทอด) ราดด้วยซอสแบบกาเนี่ยน(อันนี้อร่อย) มีเส้นพาสต้า ไก่ทอดและผัก อร่อยดีค่ะ กล่องนี้ 60 บาท สำหรับชิน กินเผื่อมื้อเย็นได้เลยค่ะ

    [​IMG]

    ส่วนข้าวกล่องนี้เป็น จร๊อฟไรท์(ข้าวมันกาน่า) ราดด้วยซอสแบบกาเนี่ยน(อันนี้อร่อย) ไก่ทอดคาเรวาเร่(กล้วยแพลนทินทอด) และผัก กล่องนี้ 60 บาท กล่องวันนี้อร่อยค่ะ กินเกือบหมด ความจริงเขามีให้เลือก ปลา เนื้อ และไก่ ส่วนมากชินจะสั่งไก่มากินค่ะ แต่ปลาก็ใช้ได้นะ เนื้อแน่นดี แต่ไม่ทราบว่าปลาอะไร

    [​IMG]

    อันนี้ไปทานข้าวบ้านหัวหน้าแผนก รอดตายไปหนึ่งมื้อ (อาหารญี่ปุ่น)[​IMG]

    [​IMG]


    ส่วนมื้อนี้ต่างคนต่างทำไปแล้วก็ทานด้วยกัน เห็นแกงเขียวหวานชินไหมคะ โอ้ววว มื้อนี้ไปบ้านของข้าราชการญี่ปุ่นหนุ่มหล่อเมียเผลอท่านหนึ่ง อิอิอิ[​IMG]

    [​IMG]

    ชินไม่ค่อยทานเนื้อสัตว์ค่ะ ร้านประจำที่ชอบไปทาน ก็เป็นอาหารเลบานิช ไปคนเดียวไม่ค่อยคุ้ม ต้องหาคนไปด้วย ติดนิสัยชอบทานกันหลายคน มันทำให้อาหารมีรสชาติมากขึ้น

    [​IMG]

    อาหารที่สั่งประจำคือสลัดเลบานิช ชุดนี้ราวๆ 320 บาท ผักล้วนๆ กับแผ่นแป้ง ลูกมะกอกดอง พริกดอง แตงกวาดอง สาระพัดอะไรดองให้มาแกล้มกิน

    [​IMG]

    แล้วก็สั่งไก่ย่างมาด้วย น้ำจิ้มแบบเลบานิชอร่อยดี หอมกลิ่นกระเทียมสด[​IMG]

    [​IMG]

    เอามะม่วงแอฟริกามาอวดค่ะ ชินไม่ชอบทานมะม่วงสุก อันนี้ยังดิบ สีแดงดี สวยจัง เห็นเขาเรียกกันว่าเป็น “Apple Mango” ชินชอบทานแต่มะม่วงดิบ แต่เห็นหลายคนบอกว่าสุกๆ ก็อร่อย อันนี้ไม่ทราบ แต่ดิบๆ เนื้อแน่น เนื้อดี ไม่เปรี้ยวมาก(เฉพาะพันธุ์นี้) กลิ่นหอมดี แต่จืดไปนิด อืม...ตกลูกประมาณสิบบาทค่ะ ช่วงนี้มีมะม่วงเยอะค่ะ อยากกินมะม่วงน้ำปลาหวาน แต่หาคนทานด้วยไม่ได้ ได้แต่กินมะม่วงดิบเปรี้ยวๆ ตอนนั่งพิมพ์งาน อู้ยยยย แซบบบหลาย

    [​IMG]

    มะม่วงที่กาน่าเวลาสุกไม่ใช่เป็นสีเหลืองๆ เสมอไป วิธีดูมะม่วงสุกของที่นี่คือ การบีบๆ เห็นแม่ค้าเขาบอกมาอีกที ด้วยความที่ลูกมันใหญ่ เวลาสุกทีหนึ่งก็แทบอืดมั้งคะ เรื่องอาหารและมะม่วงเคยนำเสนอไปแล้ว ถือว่าเรื่องเก่ามาเล่าใหม่แล้วกัน

    งบน้อย รายได้ไม่เพียงพอ ได้แต่กินแบบพอเพียง สั่งๆมาก็พยายามทานให้หมด ทำให้นับวันหุ่นเริ่มไปทางกาเนี่ยนทุกวัน ยกเว้นนมไม่โตเท่า เอิ๊กกกกกกกก


    ปิดท้ายสำหรับคนชอบดื่มอะไรจากกล่อง ยกตัวอย่างความซุ่มซ่ามของชิน ปกติชินจะดื่มนมกล่อง เพราะเราจะโต๊ เราจะโต ชินก็ไฮโซ ดื่มนมแอฟริกานี่ล่ะ ดูฉลากสิคะ..ยิ้มทีเห็นแต่ฟันขาวๆ[​IMG]

    [​IMG]

    ตอนแรกเจาะดูดไปอึกหนึ่ง เอ....วันนี้นมแปลกๆ เป็นก้อนๆ รสชาติเหมือนนมเปรี้ยว ยาหู้ ยาหู้ เพื่อพลานามัยที่สมบูรณ์ เลยจัดการเทออกมาดู เอ่อ ทำไมสีแปลกๆ นมรสสตอเบอร์รี่ของฉันเป็นสีขาวได้งัย ดื่มอีกที เอ...รสชาติไม่ใช่นะ

    [​IMG]

    อืม...ลองเปิดกล่องใหม่ดีกว่า อ้าวทำไมมันต่างกันหว่า สงสัยนมหนูเสีย...โธ่เวร หลงดื่มไปตั้งเยอะ[​IMG]

    [​IMG]

    นี่ถ้าเด็กๆ ดื่ม สงสัยได้มีท้องเสีย ขอฝากเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองไว้นะคะ ระวังบุตรหลานดื่มนมบูดจากกล่องค่ะ [​IMG]

    เหมือนเอาตัวเองมาโชว์ “ห่วย” ยังงัยก็ไม่รู้ เอาน่า รสชาติของชีวิต อ้อ..ชีวิตชินมิได้รันทดแต่อย่างใดนะจ๊ะ แต่ได้รสชาติดี เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่งบนโลกใบนี้...ก็เท่านั้น

    จบข่าว รายงาน ณ อัคคร่า ประเทศกาน่าเจ้าค่ะ

    สบายดีกาน่า สวัสดีประเทศไทย [​IMG][/SIZE]<!--End Main-->

    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">[SIZE=-1]Create Date : 12 กรกฎาคม 2551[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    BlogGang.com : : alei :
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    .. เชียงใหม่ (72) : บันทึกถึงต้นไม้ ..



    [​IMG]
    -1-



    นานมาแล้ว มือของฉันมักไม่ค่อยถูกโรคกับต้นไม้

    เวลาลงมือปลูกต้นไม้ทีไร ต้นไม้มักไม่ค่อยรอดทุกที ฉันอดคิดไม่ได้ว่า เวลาฉันเริ่มคิดที่จะปลูกต้นไม้ ในช่วงที่ไปด้อมๆมองๆ หาต้นไม้ที่ชอบ บรรดาต้นไม้คงอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆกัน เชื่อหรือไม่ แม้แต่พลูด่าง ต้นไม้ที่ปลูกง่ายที่สุด ก็ยังไม่รอดเลย

    ต้นไม้เป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ ต้นไม้มีชีวิต มีความรู้สึก- ฉันเชื่ออย่างนั้น

    การที่ต้นไม้ตายอาจเป็นเพราะรังสีอำมหิตที่มันเคยแผ่กระจายออกจากตัวฉันก็ได้ เมื่อก่อนฉันเป็นคนที่ใจร้อน มีคนบอกว่าใจร้อนส่งผลมายังมือที่สัมผัสต้นไม้ด้วย ใจร้อนทำให้มือร้อน และคงไปในทำนองเดียวกับเลือดร้อนนั่นเอง

    ช่วงหลังฉันสังเกตตัวเองว่า ต้นไม้อยู่กับฉันได้นานขึ้น ต้นไม้ชุดปัจจุบันที่ฉัน (เสี่ยง) เอามาปลูก มีอยู่ประมาณ 10 ต้น โดยที่ฉันค่อยๆทยอยเอาเข้ามาเลี้ยง ยอมรับว่าไม่มีความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ อาศัยถามจากคนขาย หรือไม่ก็หาข้อมูลจากปรมาจารย์กูเกิ้ล ปุ๋ยเป๋ย ก็ไม่มีความรู้ว่าเขาต้องใส่เท่าไร สูตรไหน ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ (จริงๆหน้าที่ใส่ปุ๋ยเป็นของคนใกล้ตัว ส่วนฉันคุยกับต้นไม้ เอ้ย!!รดน้ำอย่างเดียวค่ะ แฮ่)



    [​IMG]
    -2-



    ก่อนจะซื้อ พวกเราก็ไปมองหาตามแหล่งขายต้นไม้ ตลาดคำเที่ยงเป็นตลาดต้นไม้แหล่งใหญ่ในเชียงใหม่ ต้นไม้มีหลายราคา ฉันว่าการตั้งราคาของต้นไม้สมัยนี้น่าจะมาจากความนิยมและชื่อที่ตั้งให้ ชื่อที่ดูเหมือนจะเป็นมงคลหน่อย ราคาก็สูงหน่อย

    วันที่ไปเดิน ด้อมๆมองๆ พวกเราไม่ได้ตั้งใจ หรืออยากได้พันธุ์ไหนเป็นพิเศษ ขอที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และรูปลักษณะที่งาม เท่านั้นก็พอใจแล้ว (พูดก็พูดเถอะ ต้นไม้ที่อยู่ในร้านต้นไม้ ยังไง๊ ยังไงเขาก็เลี้ยงได้งามกว่าเราวันยังค่ำ ไม่รู้ทำได้ยังไง)

    พ่อค้าแม่ค้าต้นไม้มักจะแนะนำต้นไม้ที่มีชื่อเป็นมงคลให้พวกเรา แต่จนป่านนี้ฉันก็ยังจำชื่อต้นไม้ที่นำมาปลูกไม่ได้ทั้งหมด จำได้แค่สองสามต้นเท่านั้นเอง




    [​IMG]
    -3-




    [​IMG]
    -4-



    ต้นไม้ที่นำมาเป็นคู่แรกคือต้นส้ม วันที่ไปเดินดู เห็นว่าน่ารักดี ต้นส้มต้นเล็กๆ มีลูกเล็กๆ กระจายทั่วทั้งต้นปนกับใบเขียวๆ ส้มลูกเล็กยังเขียวอยู่เลย คนขายบอกแต่เพียงว่าให้หยอดปุ๋ยเดือนละหนเท่านั้นเอง ให้ยาด้วย ฉันก็จำไม่ได้แล้วว่ายาอะไร ส้มต้องกินยาด้วยหรือ แล้วก็ลืมถามว่าพอส้มสุกปลั่งแล้วทำไง มันจะงอกอีกเมื่อไร และคำถามอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ได้ถาม มัวแต่ตื้นเต้นกับต้นส้มที่แสนจะน่ารัก




    [​IMG]
    -5-



    เมื่อหลายวันก่อน คณะเกษตรฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดงานเกษตรแฟร์ขึ้น ฉันก็ไม่พลาด ไปเดินจนกระทั่งเจอต้นส้มกิมจ๊อ พันธุ์เดียวกับส้มที่ฉันนำมาปลูกนี่แหละ อ้อ!!ตอนแรกเห็นร้านขายส้มพันธุ์คล้ายๆกัน แต่ลูกกลมๆ ส้มจี๊ด- ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันถามแม่ค้าถึงวิธีการดูแลส้ม แม่ค้าร้านนี้ตอบแบบหยิ่งๆนิดนึงว่า นานไปต้นส้มจะโทรมแก้ไขไม่ได้หรอก ต้องทิ้งอย่างเดียว แหม…ใจเสีย เลยรีบเดินไปที่อื่น จนกระทั่งเจออีกร้าน คราวนี้กิมจ๊อของแท้ ต้นเบ้อเริ่ม ราคาต้นใหญ่ๆแบบนี้ หกเจ็ดร้อยแน่ะ แพงเหมือนกันแฮะ แต่ฉันไม่ได้คิดจะซื้อเพิ่มหรอก เพราะมีอยู่สองต้นแล้ว แม่ค้าร้านนี้บอกถึงวิธีการดูแล ค่อยใจชื้นหน่อย การดูแลที่แตกต่างระหว่างสองร้าน เชื่อคนที่ไม่ให้ทิ้งดีกว่าเนาะ

    ต้นไม้ของพวกเราไม่ได้มีแต่ต้นส้มค่ะ อีกสองต้นใบใหญ่ๆเขียวๆ ฉันก็จำชื่อไม่ได้แล้ว กวักนางพญา หากจำไม่ผิด …ต้นนี้ก็ไม่ได้ซื้อเพราะชื่อค่ะ ใบเขียวงามเชียว เห็นแล้วต้องตา เลยขนมาปลูก รดน้ำให้ทุก 1-2 วัน ไม่ให้โดนแดด ฉันวางกระถางสองต้นไว้คนละมุมกัน ฉันมักจะสังเกตต้นไม้เวลาที่รดน้ำค่ะ มองใบ มองลักษณะลำต้น ฯลฯ เมื่อสองวันที่แล้ว สังเกตว่าอีกต้นใบจะลาดลงกว่าต้นที่อยู่ในที่แสงส่องไม่ค่อยถึง ฉันเองก็ค่อนข้างไวต่อความผิดปกติของต้นไม้ ฉันจึงลองสลับที่กันระหว่างสองต้นนี้ ปรากฏว่าใบที่ดูเหมือนสลด กำลังจะกลับเข้าที่เดิม

    ต้นเล็กอีกสองต้นที่มีใบสีเขียวแซมขาวก็เช่นเดียวกัน วันหนึ่งเมื่อเดือนสองเดือนก่อน น้องชายที่เป็นญาติห่างๆมาศึกษางานในร้าน เขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ใกล้ๆต้นนี้ เขานั่งคุยสองสามชั่วโมงโดยไม่ลุกไปไหนเลย ช่วงเย็นเมื่อน้องกลับบ้านไปแล้ว ฉันสังเกตต้นไม้ต้นหนึ่ง ใบเฉาจนหมดต้น ฉันรีบยกกระถางขึ้น ปรากฏว่ากระถางเบาหวิว ดูเหมือนไม่มีน้ำ ต้นไม้ท่าทางจะขาดน้ำ (โดนความร้อนมากไป??) ต่างจากอีกต้นที่วางอยู่ใกล้ๆกัน ฉันรีบเอาน้ำมารดเป็นการใหญ่ วันรุ่งขึ้นลุ้นว่าต้นไม้จะรอดหรือไม่ ปรากฏว่ารอด ใบที่เคยสลดฟื้นกลับมาดังเดิม ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย

    บัวสีม่วงคือ ต้นไม้ต้นล่าสุดที่พวกเรานำมาลงในอ่างใบเล็ก เราเฝ้ามองดูการเจริญเติบโตของมัน ย้ายจากกระถางลงอ่างก็เป็นสิ่งใหม่ที่ฉันไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต จนฉันรู้สึกดีต่อการได้สัมผัสต้นไม้ สัมผัสน้ำ สัมผัสดิน



    [​IMG]
    -6-



    ใกล้ๆกับอ่างบัว มีตุ๊กตาดินเผาที่เป็นรูปกบ ฉันวางตุ๊กตาไว้บนฝาปิดหม้อน้ำใบเล็กข้างอ่างบัว วันใดที่หันหัวตุ๊กตาไปทางอ่างบัว วันนั้นบัวมักไม่บาน แต่เมื่อลองขยับตุ๊กตาให้หันไปในทางตรงกันข้าม บัวก็ชูก้านและบานรับแสงทุกวัน คนใกล้ตัวบอกกับฉันว่า บัวอาจไวต่อสิ่งที่มันคิดว่ากำลังคุกคามมันก็ได้…สมมติฐานนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องป้องกันภัยที่จะเข้ามาหาตัวเอง




    เมื่อพิจารณาการได้ใกล้ชิดต้นไม้มากขึ้น ฉันอดคิดไม่ได้ว่า ชีวิตฉันเปลี่ยนไปจริงๆ จากการที่เคยดูแลคน ก็เอาเทคนิคเหล่านั้นมาใช้สำหรับดูแลต้นไม้ได้เหมือนกัน การไวต่อสิ่งผิดปกติที่เกิดกับคนเจ็บคนป่วยทั้งหลาย ทำให้ฉันไวต่ออาการผิดปกติของต้นไม้ได้เช่นเดียวกัน


    เหนือสิ่งอื่นใด ฉันเริ่มคิดว่าต้นไม้ก็มีหัวใจเหมือนกันนะคะ







     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Once Upon a Time...กาลครั้งหนึ่ง "โลกร้อน" กลายเป็นนิทาน
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤศจิกายน 2552 22:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    หลายคนเคยตื่นตระหนกกับ "ข้อมูลจริง" ทางวิทยาศาสตร์ของภาวะโลกร้อนจนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรักษาโลกใบนี้ให้ยังโอบอุ้มเราต่อไป แต่สำหรับบางคนอาจต้องได้รับการกล่อมเกลาจากนิทานที่ไม่ได้จบแบบ "แฮปปี้" จึงจะเริ่มตระหนักถึงมหันตภัยธรรมชาติ อันเป็นผลพวงจากน้ำมือมนุษย์

    ปกติเมื่ออ่านนิทานแล้ว มักจะจบแบบมีความสุข แต่ชีวิตจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น และถ้านิทานไม่ได้จบแบบมีความสุขเราอาจจะอยากทำให้ในชีวิตจริงแบบมีความสุขได้

    นิทานเรื่องนี้ นุ่นเล่าถึงโลกอนาคตที่ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปจากภาวะโลกร้อน ผู้คนไม่สามารถออกไปต่างที่ต่างๆ ได้ เพราะแสงแดดที่เป็นอันตราย และคำคืนที่หนาวเหน็บจนทำให้ผู้คนแข็งตายได้ คนที่เหลืออยู่ต้องอาศัยอยู่ในถ้ำ และนางเอกของเรื่องมีปู่ที่เล่านิทานเก่ง และมักเล่านิทานเกี่ยวเทพนิยาย เจ้าหญิง-เจ้าชายซึ่งจบอย่างมีความสุขให้เธอฟัง

    จนวันหนึ่งปู่ของเธอต้องออกไปหาน้ำและถูกแสงแดดทำอันตราย ซึ่งก่อนที่ปู่จะสิ้นลม เขาได้เล่าเรื่องโลกในอดีตที่เต็มไปด้วยสีเขียวขจี ความอุดมสมบูรณ์ ความสุขสบายของโลกยุคเก่า ทั้งเครื่องบิน-รถยนต์ที่พาเราไปไหนต่อไหนได้ คอมพิวเตอร์เครื่องจักรที่น่าอัศจรรย์ แต่ความสะดวกสบายเหล่านี้ตีค่าเป็นราคาที่แสนแพง วันหนึ่งโลกก็ถูกน้ำท่วม ทุกคนต่างล้มตาย แต่..."กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...โลกเคยสวยงาม" คือประโยคปิดท้ายของปู่
    Science - Manager Online
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ส่องกล้องกองทัพหุ่นยนต์รุ่นล่าแดนปลาดิบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 พฤศจิกายน 2552 19:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ญี่ปุ่นจัดงานโชว์ตัวหุ่นยนต์ครั้งใหญ่กลางโตเกียวตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในชื่อ International Robot Exhibition งานนี้กองทัพผู้สร้างและสถาบันวิจัยด้านหุ่นยนต์กว่า 200 ค่ายตบเท้าร่วมแสดงเทคโนโลยีล่าสุดกันอย่างคึกคักตลอด 4 วันจัดงาน

    ประเดิมที่ "Manoi AT01" หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ความสูง 34 เซนติเมตร ฝีมือการผลิตของบริษัทของเล่นนามคิวโช (Kyosho) ความสามารถพิเศษคือการเต้นฮิปฮอป (hip-hop) วาดลีลาเด็ดพร้อมสามารถทรงตัวได้อย่างน่าทึ่ง

    ที่เรียกความสนใจได้ถล่มทลายคือหุ่นยนต์ซามูไรความสูง 50 เซนติเมตร ผลิตโดยบริษัทหุ่นยนต์นาม Crafthouse จุดขายคือการรำดาบคุโรดะบุชิ (Kurodabushi) ซึ่งสามารถเปลี่ยนส่งดาบระหว่างมือทั้ง 2 ข้างได้อย่างไร้ที่ติ

    งานนี้มีการจัดแสดงเตียงอัจฉริยะโดยฝีมือการผลิตของผู้ผลิตเครื่องจักรนาม Japan Logic Machine เตียงอัจฉริยะนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเป็นหุ่นยนต์พยาบาล ถูกตั้งชื่อว่า "Yurina" ความสามารถพิเศษคือการแปลงร่างจากเตียงเป็นรถเข็นล้อเลื่อนได้ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายร่างกายได้เอง

    ยังมีหุ่นยนต์หุ่นแสดงแบบเสื้อนาม "Dropop" สร้างจากกระดาษแข็ง ภายในติดตั้งชุดควบคุมท่าทาง 8 จุด ฝีมือการผลิตของบริษัทหุ่นยนต์นาม Eager เชื่อว่าวัสดุจากกระดาษจะทำให้ตัวหุ่นมีน้ำหนักเบาเหมาะกับการเคลื่อนย้ายและมีราคาต่ำลงกว่าการใช้โลหะ

    หุ่นยนต์สาวสวยนั้นได้รับความสนใจไม่น้อยในงานนี้ เป็นหุ่นยนต์พนักงานต้อนรับฝีมือบริษัท Kokoro ซึ่งสาธิตให้เห็นในงานว่าสามารถยิ้มแย้มได้ไม่ต่างจากสาวตัวจริง เรียกว่าสวยถอดแบบสาวในการ์ตูนญี่ปุ่นถูกใจชาวโมเอะกันเป็นแถว

    ขณะที่คนอื่นโชว์หุ่นยนต์เป็นตัวเป็นตน บริษัท Squse นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มือมาโชว์ตัวในงาน ความพิเศษคือสุดยอดเทคโนโลยีการควบคุมนิ้วด้วยความดันอากาศของวัตถุ ซึ่งทำให้การหยิบจับของหุ่นยนต์มือถือนี้มีความนิ่มนวลตามสิ่งของได้อย่างเหนือชั้น

    หุ่นยนต์ตัวเดียวที่ได้รับสิทธิ์เป็นผู้เปิดงานหุ่นยนต์นี้คือหุ่นยนต์จากบริษัท Kawada Industries นามว่า Nextage เป็นหุ่นยนต์ที่ติดตั้งกล้องดิจิตอล 2 ตัว ความสามารถพิเศษคือการเป็นหุ่นยนต์ทีมเวิร์กที่สามารถประชุมเพื่อทำงานร่วมกันได้ เชื่อว่าจะเป็นหุ่นยนต์อนาคตไกลในเชิงปัญญาประดิษฐ์

    งานนี้นักออกแบบหุ่นยนต์ชื่อดังชาวญี่ปุ่น Tomotaka Takahashi เปิดตัวหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ตัวใหม่ในชื่อ "Ropid" หน้าตาน่ารักในความสูง 38 เซนติเมตร สามารถวิ่งและกระโดดขึ้นไปบนอากาศได้โดยใช้เสียงควบคุม เชื่อว่าจะถูกใจเด็กๆทั่วโลก

    ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าเชิงพาณิชย์ของหุ่นยนต์เหล่านี้ ขอบคุณภาพจากเอเอฟพี

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=102 height=25>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/TabGalleryUBG.gif height=25>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=11 height=25>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle height=7>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ede9e8><TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">หุ่นยนต์ซามูไร</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ท่ารำดาบน่าทึ่ง</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>ออกแบบความเท่ห์โดยบริษัทหุ่นยนต์นาม Crafthouse</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">หุ่นยนต์หุ่นแสดงแบบเสื้อนาม "Dropop"</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">สร้างจากกระดาษแข็ง สามารถเปลี่ยนท่าทางได้หลากหลาย</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>บริษัท Squse ขณะสาธิตการหยิบ"ลูกบอลนิ่ม"ของหุ่นยนต์มือ</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">หุ่นยนต์ทีมเวิร์ก Nextage</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ขณะประชุมเพื่อทำงานร่วมกัน</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>หุ่นยนต์ตัวเดียวที่ได้รับสิทธิ์เป็นผู้เปิดงานหุ่นยนต์</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">Manoi AT01 นักเต้นฮิปฮอป</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ท่าเต้นเหลือร้าย</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>ยกขาข้างเดียวได้</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">Ropid หน้าตาน่ารัก</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">Ropid ขณะเต้นโชว์</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพการแปลงร่างของ"Yurina" หุ่นยนต์ที่สามารถแปลงร่างเป็นเตียงและเก้าอี้ล้อเลื่อนได้</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ภาพเต็มตัวของ Yurina</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">หุ่นยนต์พนักงานต้อนรับฝีมือบริษัท Kokoro ซึ่งมีฟันสวยกว่าสาวตัวจริงบางคน</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>เทียบกันระหว่างสาวตัวจริงและหุ่นยนต์</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    CyberBiz - Manager Online
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กูเกิลขออภัยที่ผลค้นภาพ"สตรีหมายเลข 1"ไม่เหมาะสม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 พฤศจิกายน 2552 10:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=150>[​IMG] </TD></TR><CAPTION align=bottom>กูเกิลนำข้อความ "Offensive Search Results" ขึ้นแทนที่ตำแหน่งโฆษณา เมื่อคลิกที่ข้อความจะปรากฏข้อความชี้แจงจากกูเกิลเรื่องผลการสืบค้นที่ไม่เหมาะสม ในหน้าผลการสืบค้นภาพของ Michelle Obama สตรีหมายเลข 1 ของชาวอเมริกัน</CAPTION></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>กูเกิลแถลงการณ์ขออภัยที่เอนจิ้นของกูเกิลแสดงภาพสตรีหมายเลข 1 ของมวลชนอเมริกันอย่าง"มิเชล โอบามา"โดยไม่เหมาะสม โดยยอมรับผิดว่าบางครั้งภาพจากการสืบค้นบนกูเกิลนั้นไม่เหมาะสมเข้าข่ายละเมิด แต่ยืนยันว่ากูเกิลและทีมงานต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของชาวอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับแรก

    ผลการค้นหาภาพสตรีหมายเลข 1 ที่ไม่เหมาะสมนั้นหมายถึงภาพที่ล้อเลียนเชื้อชาติของมิเชล โอบามา ซึ่งปรากฏในผลการค้นหาหน้าแรกเมื่อมีการป้อนชื่อ Michelle Obama ลงในบริการค้นหาภาพของกูเกิล ความเคลื่อนไหวล่าสุดในขณะนี้คือกูเกิลนำข้อความ "Offensive Search Results" ขึ้นแทนที่ตำแหน่งโฆษณา เมื่อคลิกที่ข้อความจะปรากฏข้อความชี้แจงจากกูเกิลเรื่องผลการสืบค้นที่ไม่เหมาะสมบนเว็บเสิร์ชเอนจิ้นเบอร์ 1

    กูเกิลชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้เห็นด้วยกับภาพที่ไม่เหมาะสมบนนานาเว็บไซต์ แต่เพราะสูตรการคำนวณของกูเกิลที่ประกอบด้วยหลายพันข้อนั้นเป็นตัวกำหนดให้ระบบแสดงผล ทำให้กูเกิลไม่สามารถกำจัดผลการสืบค้นที่ไม่เหมาะสมนั้นๆออกทันทีที่ได้รับการร้องเรียน กูเกิลจึงขออภัยหากผู้ใช้รู้สึกไม่ดีจากการใช้งานกูเกิล

    อย่างไรก็ตาม กูเกิลยืนยันว่าพร้อมจะนำผลการสืบค้นที่ไม่เหมาะสมออกในกรณีที่เคร่งครัด เช่น การขอความร่วมมือตามกฏหมาย โดยประชาสัมพันธ์กูเกิลยังไม่ออกมาพูดถึงแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผลการสืบค้นภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ

    ยังไม่มีรายงานความเห็นจากทำเนียบขาวในกรณีที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ ประเทศไทยเองก็เคยมีปัญหาผลการสืบค้นของกูเกิลไม่เหมาะสมเพราะแสดงลิงก์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ครั้งนั้นกูเกิลก็ปฏิเสธที่จะลบลิงก์ทันทีที่มีการร้องเรียน กระทั่งมีการดำเนินการทางกฏหมาย กูเกิลจึงยอมลบลิงก์ในที่สุด

    ความคืบหน้าในด้านอื่นๆของกูเกิลขณะนี้ คือการเพิ่มบริการสืบค้นภาพยนตร์ให้สามารถทำงานได้บนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม กูเกิลยังจำกัดบริการดังกล่าวไว้เฉพาะในพื้นที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ไอร์แลนด์ อังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

    CyberBiz - Manager Online</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นิทานสอนใจ : เหมียว เหมียว เหมียว/ต้นหลิว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤศจิกายน 2552 10:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าแมวตัวหนึ่งที่ไม่มีเพื่อน มันชื่อว่า "เจ้าเหมียว" เจ้าเหมียวมันอยากมีเพื่อนมากๆ เลย "เราจะทำยังไงดีนะ...ถึงจะมีเพื่อน" เจ้าเหมียวคิด คิด และก็คิด

    "อ๋อ...คิดออกแล้ว เราลองออกเดินทางไปตามหาเพื่อนดีกว่า ต้องเจอแน่ๆ เลย" ว่าแล้วเจ้าเหมียวก็เริ่มออกเดินทางทันที

    เจ้าเหมียวออกตามหาเพื่อนในป่าเป็นที่แรกก่อน มันได้ยินเสียงดังมาแต่ไกลว่า "จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ" เจ้าเหมียวจึงเดินตามเสียงนั้นเข้าไปเรื่อยๆ จนเห็นนกตัวหนึ่งกำลังร้องเพลงอยู่บนต้นไม้อย่างมีความสุข

    "สวัสดีเจ้านกน้อย มาเป็นเพื่อนกับฉันมั้ย" เจ้าเหมียวถามนกน้อย

    "ถ้าเธออยากจะมาเป็นเพื่อนกับฉัน เธอต้องบินอย่างฉันให้ได้ก่อนสิ แล้วฉันจะยอมเป็นเพื่อนกับเธอ" นกน้อยตอบ

    เจ้าเหมียวรีบตอบตกลง เพราะมันอยากมีเพื่อน มันเลยปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วก็กระโดดลงมาทันที

    "โอ๊ย...เจ็บจังเลย" เจ้าเหมียวร้องออกมาเสียงดัง ผลปรากฏว่า เจ้าเหมียวบินไม่สำเร็จ มันเลยไม่ได้เป็นเพื่อนกับเจ้านกน้อย

    เจ้าเหมียวเดินไปที่ลำธาร เพราะหิวน้ำ และมันก็เห็นตัวอะไรก็ไม่รู้ อยู่ในน้ำ เจ้าเหมียวจึงถามไปว่า

    "เธอเป็นใคร มาเป็นเพื่อนกับฉันมั้ย"

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=288 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=288>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แล้วเจ้าตัวนั้นก็ตอบกลับมาว่า "ฉันเป็นปลา ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับฉัน เธอก็ต้องว่ายน้ำแบบฉันให้ได้ก่อนสิ ฉันถึงจะเป็นเพื่อนด้วย เธอว่ายน้ำแบบฉันได้หรือเปล่าล่ะ"

    เจ้าเหมียวรีบตอบตกลง แล้วรีบกระโดดลงน้ำทันที...ตู้ม !!!

    "ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที" เจ้าเหมียวร้องตะโกนเสียงดังลั่นป่า เพราะว่าตัวเองกำลังจะจมน้ำ

    เจ้าปลาน้อยจึงว่ายน้ำมาช่วยเจ้าเหมียวขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย...แล้วก็ว่ายน้ำจากไป โดยไม่ยอมเป็นเพื่อนกับเจ้าเหมียว

    เจ้าเหมียวเดินทางหาเพื่อนจนลืมสังเกตดูท้องฟ้าว่า มืดแล้ว จนมันได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมาว่า "ฮูก ฮูก ฮูก สวัสดีเจ้าแมวน้อย ดึกดื่นแบบนี้ทำไมยังไม่กลับบ้าน" คุณนกฮูกถาม

    "ฉันกำลังเดินตามหาใครสักคนมาเป็นเพื่อนฉัน แล้วเธอล่ะ มาเป็นเพื่อนกับฉันได้มั้ย" เจ้าเหมียวถาม

    คุณนกฮูกตอบกลับมาว่า "ฉันเป็นเพื่อนกับเธอไม่ได้หรอก เพราะฉันชอบอยู่บนต้นไม้ในป่าที่เงียบสงบ ฮูก ฮูก ฮูก"

    "แต่ฉันเห็นสัตว์ชนิดหนึ่งนะ มีหาง มีหู และขา 4 ขา เหมือนเธอด้วย แต่มันต่างกันแค่สีเท่านั้นเอง พวกเขามีชื่อว่า เจ้าหง่าว กับเจ้าแง้ว" นกฮูกบอกเจ้าเหมียวด้วยความสงสาร

    พอพูดจบ คุณนกฮูกก็บินไปตามเจ้าหง่าว กับเจ้าแง้ว ให้มาหาเจ้าเหมียวน้อย ซึ่งสัตว์ทั้งสองที่คุณนกฮูกพามานั้น ช่างเหมือนเจ้าเหมียวน้อยมากๆ เลย ต่างกันแค่สี และก็ลายเท่านั้นเอง

    "ไชโย...ฉันมีเพื่อนแล้ว เราเป็นเพื่อนกันนะ" เจ้าเหมียวกระโดดดีใจที่จะได้มีเพื่อนใหม่แล้ว

    "ฉันชื่อ เหมียว" เจ้าเหมียวทักทาย

    "ฉันชื่อแง้ว" "ฉันชื่อหง่าว" เพื่อนใหม่ทั้ง 2 ตัวแนะนำตัวกับเจ้าเหมียวตามลำดับ

    ตั้งแต่นั้นมา แมวน้อยทั้ง 3 ประกอบด้วย เจ้าเหมียว เจ้าแง้ว และเจ้าหง่าว ก็เป็นเพื่อนรักกันตลอดมา และก็มีความสุขที่ได้เป็นเพื่อนกันตลอดไป

    นิทานเรื่องนี้ น้องต้นหลิวตั้งใจจะบอกให้รู้ว่า "ความพยายามเป็นสิ่งที่ดี และเด็กๆ ทุกคนสามารถมีเพื่อนได้ แต่ไม่จำเป็นต้องไปทำตาม หรือทำให้เหมือนกับเพื่อนคนๆ นั้น และที่สำคัญ การเลือกเพื่อนควรเลือกให้ดี และเลือกให้เข้ากับตัวเราเองมากที่สุด"

    ขอบคุณนิทานดีๆ จากครอบครัวพูลศรี และมูลนิธิเด็ก

    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ลุคใหม่ เบคแฮม ทรงผมขัดใจเมีย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 พฤศจิกายน 2552 17:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ก่อนหน้านี้เราอาจจะรับรู้ว่า เดวิด เบคแฮม เป็นต้นแบบของทรงผมให้กับวัยรุ่นมาตลอด และความเชื่อมั่นนี้เอง วิคตอเรีย เบคแฮม ก็ดูจะมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมถึงขนาดล่าสุดออกพ็อคเกตบุ๊ค “Cut it like Beckham” ที่พูดถึงทั้งทรงผมและทรงหนวดเคราอันน่าภาคภูมิใจของสามี จนยกให้เป็นกฎของแฟชั่นฉบับวิคตอเรียทีเดียว
    แต่ไม่รู้ยังไง เบคแฮมถึงได้ไปตัดผมใหม่ ออกมาดูแปลกตาไปกว่าเดิม จนบรรดาสื่อมวลชนของอังกฤษถึงกับบอกว่า เป็นทรงที่ห่วยที่สุดของเบคแฮมเท่าที่นักเตะรูปหล่อคนนี้เคยตัดมาเลยทีเดียว เพราะมันดูไม่ชัดเจนเอาเสียเลยว่า เบคแฮมแกจะเลือกทรงไหนกันแน่ ระหว่าง โมฮอค หรือรากไทร หรือรองทรงธรรมดา ราวกับมีกองขยะมากองไว้บนหัว
    ไม่รู้ว่าเพราะผมทรงนี้ตัดเพื่อลงไปแข่งในแมตการแข่งขันของ แอลเอ กาแล็คซี่หรือเปล่า ถึงขนาดทำให้ในช่วงเดียวกัน วิคตอเรีย เดินทางข้ามมหาสมุทรกับไปอังกฤษยังสนามบินฮิธโทรว์เลย......ก็เพิ่งจะชื่นชมไปไม่ทันไร คุณพี่ก็ทำซะเสียขนาดนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9520000143864</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อัตตาอันอ่อนน้อม สะท้อนภาพราชันย์บนเวที
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    Entertainment - Manager Online
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=9 width=422 align=center border=0><TBODY><TR><TD width=200>[​IMG]</TD><TD>
    "มีกฎหมายที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ฉบับหนึ่ง ที่ปกครองทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกผู้ที่เกิดขึ้นและมีชีวิตอยู่ ข้าพเจ้าไม่ปฏิเสธกฎหมายหรือผู้ให้กฎหมายนั้น เพราะข้าพเจ้ารู้จักสิ่งเหล่านั้นน้อยมาก พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงปกครองจิตใจและเปลี่ยนแปลงมัน ผู้ที่ตระหนักถึงความมีอยู่จริงอันแท้จริงของพระองค์ จึงจะรับรู้กระบวนการเปลี่ยนแปลงในจิตใจ"

    มหาตมะ คานธี


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]โมฮันดาส เค. คานธี เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 1869 เขาเรียกอัตชีวประวัติของตัวเองว่า "เรื่องราวการทดลองสัจธรรมของข้าพเจ้า"

    "ความรู้สึกไร้ความเชื่อมั่นและความหวาดกลัวของข้าพเจ้าไม่มีวันสิ้นสุด"

    "ในดินแดนซึ่งพระเป็นเจ้าทรงคุ้มครองแห่งนั้นเอง ที่ข้าพเจ้าค้นพบพระเป็นเจ้าของตนเอง"

    'อยู่และต่อต้าน'

    เขาเริ่มคิดว่าชาวซูลูถูกชาวอังกฤษกดขี่ในลักษณะนี้ เขานึกถึงการกดขี่ในครอบครัวของตัวเอง โดยเฉพาะภรรยาของเขา ในเวลานั้นเขาเคยทำสิ่งที่เรียกว่าเป็นสามีที่โหดร้าย หึงหวง และกดขี่ การได้เห็นกบฏชาวซูลู เป็นการจุดชนวนความคิดนี้ขึ้นมา ท่านจึงเข้าใจได้ว่าชาวอังกฤษกดขี่ชาวซูลูอย่างไร แล้วนำไปเปรียบเทียบกับตัวเอง คานธีบอกว่า "ข้าพเจ้ารู้สึกผิดกับพฤติกรรมกดขี่เยี่ยงนี้นัก ข้าพเจ้ารู้สึกผิดต่อชีวิตสมรสของตัวเอง ต่อความสัมพันธ์ของคาสตวา"

    ด้วยวัย 37 ปี เขาปวารณาตนเพื่อถือเพศพรหมจรรย์ตลอดไป

    [​IMG]

    ในปี 1906 คานธีก็เข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านทางความคิดทางการเมืองอันน่าตื่นตะลึง กฎหมายใหม่กำหนดให้ชาวอินเดียทุกคนจะต้องเข้ารับการจดทะเบียนและพิมพ์ลายนิ้วมือ ข้อบังคับนี้รวมถึงการให้หญิงชาวอินเดียต้องเปลื้องผ้าต่อหน้าตำรวจผิวขาว เพื่อกรอกตำหนิรูปพรรณลงในทะเบียนด้วย

    ด้วยความโกธรแค้น ชาวอินเดียสามพันคนมาพบกันในโยฮันเนสเบิรต์ เพื่อวางแผนการตอบโต้ ทันใดนั้นพ่อค้าชาวมุสลิมคนหนึ่งยืนขึ้นแล้วชูกำปั้นพร้อมกับพูดว่า "ข้าแต่พระเป็นเจ้า เราจะยอมเข้าคุกก่อนที่จะยอมแพ้ให้กฎหมายฉบับนี้!!"

    คานธีไม่เคยนึกถึงการเข้าคุกมาก่อน แต่ก็รู้โดยสัญชาตญาณว่านี่แหละ...คือวิถีทางที่ถูกต้องแล้ว เขาลุกขึ้นแล้วก็พูดว่า "เราจะสวดขอต่อพระเป็นเจ้าว่า เราจะเข้าคุก และเราจะในนั้นจนกว่ากฎหมายนี้จะถูกเพิกถอน และเราจะยอม"
    พวกเขาอดทนต่อการทุบตีของตำรวจ ยอมรับความเจ็บปวดอย่างกล้าหาญโดยไม่ตอบโต้
    เขาค้นพบวิธีต่อต้านแบบอหิงสาเป็นครั้งแรกที่แอฟริกาใต้นี่เอง คุณยืนหยัดต่อต้านผู้กดขี่ บอกเขาว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ แต่พร้อมกันนั้นคุณก็ให้ความมั่นใจว่าคุณจะไม่ทำร้ายเขา
    http://palungjit.org/threads/ราชันย์ไร้มงกุฎ-พระจักรพรรดิผู้เดินดิน.216017/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เขาว่า "เสื้อผ้าของต่างชาติบ่งบอกว่าเราเป็นทาสทางวัฒนธรรมของชาวตะวันตก เราไม่อาจปลดปล่อยตัวเองจากความเป็นทาส การเผาเสื้อผ้าของต่างชาติ จึงเป็นการฟอกจิตใจของพวกเรา"

    [​IMG] คานธีใช้เวลาวันละ 1 ชั่วโมงทุกวันเพื่อปั่นด้ายเอง

    ในปี 1930 ขณะอายุได้ 62 ปี คานธีวางแผนการใหม่ที่จะต่อต้านการเก็บภาษีซึ่งไม่เป็นธรรม ภาษีที่อังกฤษเรียกเก็บจากเกลือ

    การทำเกลือหรือการขายเกลือของชาวอินเดียถือว่าผิดกฎหมาย กิจการนี้สงวนไว้ให้สำหรับคนต่างชาติทำ เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่การประท้วงครั้งนี้ เขาวางแผนจะเดินเท้าเป็นระยะทาง 240 ไมล์ ไปยังทะเลอาหรับเพื่อไปทำเกลือที่นั้น พวกพ้องของเขาในสภาคองเกรซของอินเดีย ต่างอ้อนวอนให้เขาทบทวนแผนการครั้งนี้ใหม่ เกลี้ยกล่อมว่าแผนการนี้อาจจะล้มเหลว รัฐบาลอังกฤษมั่นใจว่าศัตรูเก่าของตนกำลังถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด

    ****************************************************************
    วันที่ 12 มีนาคม 1930 คานธีพร้อมด้วยสาวกจำนวน 80 คน เริ่มต้นการเดินทางซึ่งกลายเป็นความสนใจของชาวโลก และเปลี่ยนแปลงวิถีทางแห่งประวัติศาสตร์

    ขบวนของคานธีเดินได้เพียงวันละ 10 ไมล์ และเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมด้วย และมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้ามาที่อินเดียเพื่อทำข่าวนี้เป็นคนแรก เมืองชายฝั่งที่ใกล้ที่สุดคือเมืองพาราณาสี ผ่านไป 24 วันเขาเดินทางผ่านหมู่บ้านนับพันๆ แห่ง ขบวนของเขากลายเป็นกลุ่มผู้ประท้วงขนาดใหญ่ และทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป ไม่เพียงแต่คนทั่วทั้งอินเดียจะเข้าร่วม แต่ทั้งโลกก็เอาใจช่วยเช่นกัน รายงานข่าวของอเมริกันส่วนใหญ่รายงานว่านี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ

    เมื่อขบวนของคานธีถึงชายฝั่งมหาสมุทรในวันที่ 6 เมษายน มีชาวอินเดียหลายแสนคนเข้าร่วมกับเขา คานธีก้มลงหยิบเกลือขึ้นแล้วพูดว่า "ด้วยเกลือหยิบมือนี้ ข้าพเจ้าขอต่อต้านการบังคับของจักรวรรดิอังกฤษ ขอเราจงร่วมกันต่อสู้เพื่อสิทธิของพวกเรากันเถิด" และการตอบสนองเป็นไปราวกับประกายไฟ ทั่วทั้งประเทศไม่ว่าพ่อค้า ชาวนา แม่บ้าน ต่างพากันทำเกลือ และขายเกลือกันอย่างเปิดเผย

    คนหลายพันถูกจองจำ รวมทั้งคานธีด้วย ตำราจทุบตีผู้ประท้วงอย่างโหดเหี้ยม สร้างความโกธรแค้นและความสามัคคีขึ้นในหมู่ชาวอินเดียมากยิ่งขึ้น คานธีรู้ดีว่าการใช้วิธีต่อต้านแบบอหิงสา จำเป็นต้องแสดงความกล้าหาญออกมาให้เห็น จึงจะดึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในตัวมนุษย์ออกมาได้ เขาสอนให้ชาวอินเดียรู้จักต่อต้านผู้กดขี่ และต่อสู้กับตัวเองด้วย

    ภายใต้ความกดดันจากนานาชาติ ลอร์ดเออร์วิน ผู้สำเร็จราชการอังกฤษจึงยอมปล่อยตัวคานธี และเชิญเขามาเจรจา

    คานธีตรงออกจากที่คุมขังไปยังจวนของผู้สำเร็จราชการ ซึ่งจะรองรับแขกผู้มีเกียรติเท่านั้น...

    น้ำอุ่นถูกนำมารับรองคานธีตามคำขอ เขาวางแก้วลง แล้วก็ค่อยๆ หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากชายพก ผู้สำเร็จราชการถามว่าอะไร คานธีตอบว่า "ท่านที่เคารพอย่าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ นี่เป็นเกลือที่ผมแอบทำโดยผิดกฎหมาย" เขาเทเกลือนั้นลงในน้ำ... คน... แล้วก็ดื่ม

    [​IMG]

    "ข้าพเจ้ากำลังขอร้องต่อบิดาแห่งชาติของเรา ให้ท่านมีเมตตา มีความรัก เห็นความจริงและงดใช้ความรุนแรง ขอจงประทานพรแก่พวกเรา เสรีภาพอันสมบูรณ์เท่านั้นคือสิ่งที่เราต้องการ"
    คานธียอมรับว่า อัตตาคือจุดบกพร่อง และบางครั้งความชื่นชมบูชาของมวลชนก็ทำให้เขาคึกคะนอง อย่างไรก็ดีความวินัยอันเคร่งครัดทำให้เขาเอาชนะความรู้สึกนั้นได้ หลานชายของคานธีเคยเล่าว่า 'จำได้ว่าหลายครั้งที่ผมเดินทางไปกับท่าน ตามสถานีรถไฟทุกแห่ง ก็จะมีผู้คนเป็นพันๆ มาร้องตะโกน คานธีจงเจริญ คานธีจงเจริญ และจะร้องอยู่อย่างนั้นจนรถไฟแล่นผ่านไป ผลจากเสียงร้องพวกนั้นทำเอาท่านนอนไม่หลับเลย'
    ในเดือนสิงหาคม ปี 1942 คานธีเรียกร้องการประกาศอิสรภาพโดยทันที "นี่คือคำสวดเป็นคำสั้นๆ ที่ข้าพเจ้าจะมอบแก่ท่านอยู่หรือตาย เราจะปลดปล่อยอินเดียหรือมิฉนั้นก็ยอมตาย" และในคืนวันที่คานธีประกาศอิสรภาพนั้นเอง เขาและสมาชิกสภาคองเกรซทั้งหมดก็ถูกจับกุม ด้วยวัย 73 ปีและด้วยสุขภาพที่ทรุดโทรม เขาจะต้องนำการปฏิวัติในอีก 2 ปีข้างหน้าจากในคุก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    "ไม่มีอะไรอื่นนอกจากโหดร้ายรอบกายข้าพเจ้า ชีวิตข้าพเจ้าต้องพ่ายแพ้ มีแต่ความตายจึงจะทำให้สิ่งที่ชีวิตข้าพเจ้าไม่อาจทำสำเร็จบรรลุผลขึ้นได้"

    "ข้าพเจ้าอาจจะตายโดยน้ำมือของผู้ลอบสังหาร และถ้าเป็นอย่างนั้นให้จำไว้ว่า ข้าพเจ้ายอมรับลูกกระสุนนั้นอย่างกล้าหาญ ด้วยพระนามของพระเป็นเจ้า และเมื่อนั้นข้าพเจ้าจึงจะเชื่อว่าตนคือ มหาตมะ อย่างแท้จริง"

    "หากมีการนองเลือด ปล่อยให้เป็นเลือดของฉัน เพราะคนจะมีอยู่ชีวิตอย่างอิสระ หากพร้อมที่จะตายถ้าจำเป็นด้วยมือของพี่น้องของเขา"

    วันที่ 30 มกราคม 1948 คานธีในวัย 78 ปี เดินเข้าไปในที่ประชุมสวดประจำวัน ในสวนเวอริฮาทร์ กรุงนิวเดลีย์ ท่ามกลางฝูงชนนั้นเอง ชายชาวฮินดูคนหนึ่ง 'นาฮูราน กอสซี่' วัย 36 ปี ก้าวออกมาก้มลงคารวะคานธี แล้วพูดว่า 'ท่านมาสายสำหรับการสวด' คานธีก็พูดว่า 'ใช่ฉันมาสายไป มาสายจริงๆ' แล้วกอสซี่ชักปืนเล็กๆ ออกจากเสื้อเชิ้ตของเขา แล้วยิงปืนใส่คานธี 3 นัด กระสุนเจาะทะลุท้องของมหาตมะ และอีกนัดหนึ่งที่หน้าอก เขาไม่แสดงถึงความประหลาดใจหรือความเจ็บปวด ขณะสุดท้ายก่อนความตายจะพรากเขาไป คานธีพนมมือในลักษณะสวดมนต์แล้วพึมพรำคำว่า "ราม" พระผู้เป็นเจ้าในภาษาอินเดีย

    โลกของอินเดียเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงเมื่อไม่มีมือที่เยือกเย็นของมหาตมะ คานธี ความประนีประนอมทางเชื้อชาติก็จางหายไป

    อินเดียทั้งประเทศคร่ำครวญนาน 13 วัน ความเศร้าโศกและตื่นตระหนกจากการสังหารคานธี ดึงอินเดียให้หลุดออกจากความบ้าคลั่ง ความรุนแรงยุติลงเพียงชั่วข้ามคืน ผู้คนนับล้านต่างหลั่งไหลมายังกรุงเดลีย์ เพื่อให้ได้อยู่ใกล้เขา ตลอดทั้งคืนนั้นทุกคนต่างมาที่นี่ คลื่นมนุษย์พาหลั่งไหลติดตามร่างของชายร่างเล็กคนนี้ จนมาถึงลานเผาศพ ฝูงชนประมาณ 3-4 ล้านคนกั้นสะอื้นไม่อยู่

    ทั้งหมดเพื่อให้เกียรติแก่ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยมีตำแหน่งสำคัญในอินเดีย ชายซึ่งไม่ร่ำรวยและมีทรัพย์สินทั้งหมดไม่ถึง 3 ดอลลาห์เมื่อเขาตาย ไอน์สไตน์กล่าวถึงคานธีว่า 'คนรุ่นอนาคตจะไม่มีทางเชื่อเลยว่า มีคนแบบนี้อยู่จริงบนโลกมนุษย์นี้'

    มีคนกล่าวไว้ว่า 'ท่านคานธีเป็นอมตะ' คงเพราะมรดกแห่งมนุษยชาติอันยิ่งใหญ่ที่สุด คือการใช้ชีวิตแบบคานธี ชีวิตที่เกิดมาเพื่อความใฝ่ฝันเพียงอย่างเดียว... หลักการเดียว... นั้นคือ หลักอหิงสา

    การต่อสู้โดยไม่ใช่ความรุนแรงได้ปลดปล่อยอินเดียให้เป็นอิสระ และนับจากนั้นอีก 50 ปีต่อมา อหิงสาได้เปลี่ยนโฉมหน้าของโลก ดังที่มาร์ติน ลูเธอร์คิงส์ ได้กล่าวไว้ว่า "พระเยซูเจ้ามอบคำสอนแก่ข้าพเจ้า คานธีมอบวิธีการ"

    อังคารของคานธีได้รับการอันเชิญโดยรถไปชั้นสามขบวนพิเศษ ไปยังชายฝั่งมหาสมุทรเพื่อโปรยลงบนคลื่น ที่พำนักสำหรับวิญญาณซึ่งไม่เคยสูญเสียความศรัทธาต่อพระเป็นเจ้า หรือต่อมนุษย์เลย
    <TABLE borderColor=#cccccc cellSpacing=0 cellPadding=7 width="80%" align=center bgColor=#333333 border=1><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[​IMG]"ท่ามกลางความตาย ชีวิตยังคงอุบัติขึ้น ท่านโปรยความเท็จ ความจริงก็ยังคงอุบัติขึ้น ท่ามกลางความมืด แสงสว่างยังคงอุบัติ ด้วยเหตุนั้นข้าพเจ้าถือว่าพระเป็นเจ้าคือชีวิต คือความจริง คือแสงสว่าง พระองค์คือความรักและความดีอันสูงสุด"
    มหาตมะ คานธี


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
  20. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    S.O.S

    อะโหล ๆ ป้านู๋ขวัญจ๋าาาาาาา
    ตอนนี้ ที่สมาคมของเรา
    มี ไอ้ทุย เอ๊ย อาฮุยนัมเบอร์ทู
    มันถูกหญ้าอ่อนตำคอ อ่ะ


    ป้านู๋บี แจกยาฆ่าหญ้าให้มันกินแร้ววววว
    แต่กัวมันจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวขาดใจตายซะก่อน
    เรยมาชวน ป้านู๋ขวัญ ไปใช้เสียงหวาน ๆ เย็น ๆ
    สวดมาติกา เอ๊ย เทศนาโปรดมันอีกคนจ้า
    เผื่อมันจะเห็นดวงตาธรรม มั่ง

    ไปช่วยกันยำตีน เอ๊ย ปลอบอกปลอบใจมันหน่อยนะ ที่


    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=itoursab&month=11-2009&group=6&date=28&gblog=4
     

แชร์หน้านี้

Loading...