นี่ ๆ เหล่านักปฏิบัติ จ๋าาา ช่วยวิสัชนา ตอบ นู๋บี ทีซิ ว่า ขรัวตาจะตีไหมค้าาาาาาาา ?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย 5th-Lotus, 20 ตุลาคม 2009.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อะนะ...เอาเยย อาเจ้ หนับหนุน [​IMG]

    ถ้าจะให้ดีนะ ต่อหน้าคุณนุ กะป๋านิวรณ์ อะ ตดให้เยอะๆ เลย
    เพราะ2คนเนี่ย ท่าทางจะชอบดมตด คนอื่นนะ... ฮี่ฮี่
    แบบว่า ชอบตามล้างตามเช็ด ให้คนอื่น ง่ะ

    ถ้าเจอคุณนุ.....ก็ทำแบบนี้.....ตดใส่ แล้วก็.....[​IMG]

    ถ้าเจอป๋านิวอน...ก็ตดใส่...แล้วก็.....[​IMG]


    อิอิ... พอได้ปะคะ
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    แม๊...!!!.. กลิ่นแรงไปห้องประเทืองปัญญาเล๊ย โอ้ย ชื่นจาย...
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อาเจ้...ก็แพล่มไปเรื่อย อะค่ะ

    ถูกมั่งผิดมั่ง พูดตามที่รู้เห็นและเข้าใจได้ด้วยสติปัญญาของเรา

    บางทีรู้มากเพราะอ่านมาก ก็ไม่ได้แปลว่ารู้ถูกนะคะ คุณน้อง

    ต้องรู้ใจตัวเองเนืองๆ รู้ความคิดตัวเองเนืองๆ รู้อาการงี่เง่าต่างๆของตัวเองเนืองๆ

    เรื่องของตัวเอง อะ รู้เข้าไปเหอะ ของจริงแท้ เป็นธรรมของเราเอง หัดรู้ตัวเองไว้เด๋วดีเอง

    โกรธ เกลียด อาฆาต พยาบาท หลง รัก ชอบ ชัง ยินดี ยินร้าย ที่มันเกิดในใจเรานี่แหละ
    ทุกอย่างรวมเรียกว่าธรรม

    กุศลาธรรมา อกุศลาธรรมา อัพยากตาธรรมา

    อยากรู้ธรรม อยากบรรลุธรรม ก็ดูใจตัวเองปาย
    อยากรู้กิเลส อยากบรรลุกิเลส ก็ดูใจคนอื่นปายยยยย งิงิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2010
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG]......[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    เจอคุณนุ ต้องแจกให้เป็นฝูงๆๆๆ ถึงจะสมฐานะ คน กวน...โอ๊ยยยย คริ คริ

    พอได้ ปะคะ
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    พวกฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พวกฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ<!-- google_ad_section_end --> = พวก แพล่ม ไม่ยอมเลิก ซะกะที

    พอได้ ปะคะ ลุงขัน
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    กระทู้ว่าด้วย ภัยพิบัติ แผ่นดินไหว และความสัมพันธ์กับโลก

    คือผมไปโม้ในบอร์ดอื่นมา ก็เลยเอามาลงในนี้ด้วย ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลจากทุกท่านครับและหากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ [​IMG]

    ผมจะเริ่มตั้งแต่ อธิบายศัพท์ก่อนล่ะกัน
    [​IMG]

    Sunspot จุดดำ/จุดมืด/จุดดับ คือ จุดที่พลังงานน้อยกว่าบริเวณรอบๆ ทำให้มันมืดกว่ารอบๆก็แค่นั้น และเป็นจุดที่แก๊สร้อนลอยตัวขึ้นไป แล้วเย็นตัว และกำลังจะตกกลับเข้าไป และพบว่ามีคาบการเกิดทุกๆ 11 ปี มีอายุตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ถึงหลายเดือน และจะเกิดขึ้นมาเป็นคู่ เสมอ!!

    โดยจุดหนึ่งจะเป็นขั้วเหนือกับขั้วใต้ ทำให้เกิดเป็นสนามแม่เหล็กขึ้น

    [​IMG]

    และทุกๆ 11 ปีจะเกิดช่วงที่จะเกิดจุดมืดขึ้นมากที่สุด และเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีปฎิกิริยาสูงสุด หรือ Solar Maximum ซึ่งทุกครั้งที่เกิด Solar Maximum สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะกลับขั้วและ ซึ่งครั้งล่าสุดที่เกิดคือปี 2001 ครั้งต่อไปคือปี 2012 !!!

    พบว่าจำนวนของจุดมืดยังมีความสัมพันธ์กับการแผ่ รังสีของดวงอาทิตย์ (Solar radiation) อีกด้วย จากการตรวจวัดตั้งแต่ปี 2522 โดยเมื่อจุดมืดมีจำนวนมากจะทำให้การแผ่รังสีของดวงอาทิตย์มีปริมาณลดลง

    Solar Maximum

    [​IMG]

    คอโรนา

    [​IMG]
    >> คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ <<
    i663.photobucket.com/albums/uu353/itou/010621africa06b_big.jpg

    จากในรูปเส้นรัศมีสว่างๆชั้นบรรยากาศ ของดวงอาทิตย์ที่มีชื่อว่า คอโรนา ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึงล้านองศา และเต็มไปด้วยรังสีเอ็กซ์ ทั้งๆที่ผิวมีอุณหภูมิแค่ประมาณ 4000(จุดมืด) - 6000 องศาเท่านั้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้มีอุณหภูมิสูงถึงขนาดนั้น

    จริงอยู่ว่ามีอุณหภูมิสูงมาก แต่ก็มิได้มีความร้อนมาก เนื่องจากมีอะตอมของก๊าซอยู่เบาบางมาก (อุณหภูมิเป็นเพียงค่าเฉลี่ยของพลังงานในแต่ละอะตอม ปริมาณความร้อนขึ้นอยู่กับมวลทั้งหมดของสสาร) แต่ด้วยพลังงานความร้อนที่สูงมาก ทำให้อนุภาคมีความเร็วมาก และมากพอที่จะหลุดจากแรงโน้มถ่วง
    ของดวงอาทิตย์ ทำให้คอโรนา ขยายตัวออกไปทุกทิศทุกทาง จนกระทั่งห่อหุ้มระบบสุริยะไว้ทั้งหมด เรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์ / heliosphere เปรียบเสมือนเป็นเกราะของระบบสุริยะ ที่คอยป้องกันระบบสุริยะจากรังสี อนุภาค และฝุ่นละอองในอวกาศ

    Heliosphere

    [​IMG]
    >> คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ <<
    i663.photobucket.com/albums/uu353/itou/72408main_ACD97-0036-1.jpg

    คอโรนาที่แผ่ออกในรูปของพลาสม่า** โดยจะเกาะอยู่ตามเส้นแรงแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ดังรูป ซึ่งที่เป็นเส้นโค้ง ก็เพราะดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเอง และที่เส้นไม่เรียบก็เพราะพลาสม่าที่มีความเร็วมากพอ ก็จะดึงเส้นแรงแม่เหล็ก ของดวงอาทิตย์ไปได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เข้ามาปะทะกับโลกจึงไม่ใช่มีแค่พลาสม่า

    **พลาสม่า คือ แก๊สที่แตกตัวเป็นไอออนกันอิเล็กตรอน เป็นอนุภาคมีประจุ

    [​IMG]
    >> คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ <<
    i663.photobucket.com/albums/uu353/itou/68868.png

    ซึ่งเราเรียก กระแสธารพลาสม่าที่พัดออกมาจากดวงอาทิตย์ว่า ลมสุริยะ หรือ Solar wind ลักษณะการพัดของลมสุริยะ
    [​IMG]
    >> คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ <<
    i663.photobucket.com/albums/uu353/itou/research_current.gif

    [​IMG]

    >> คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ <<
    i663.photobucket.com/albums/uu353/itou/mars_space.gif

    พบว่าพื้นผิวของดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเองด้วย ความเร็วไม่เท่ากัน ทำให้เกิดการบิดตัวของกระแสพลาสม่า บวกกับความปั่นป่วนของสนามแม่เหล็ก หรือ อาจเกิดจากการเชื่อมต่อใหม่ของสนามแม่เหล็ก ทำให้บริเวณพื้นผิวของดวงอาทิตย์ เกิดจากปะทุ (Flare) ซึ่งเมื่อเกิดแฟลร์ขึ้นในบริเวณนี้จะทำให้เกิดลมสุริยะที่รุนแรงมากหรือที่ เรียกว่าพายุสุริยะนั่นเอง หรือเกิดการระเบิดมวลมหาศาลออกมา (CME) ซึ่งพบว่าความถี่ในการเกิดแปรผันตามวัฏจักร
    ของดวงอาทิตย์อีกด้วย ซึ่งในช่วงที่ดวงอาทิตย์มีปฎิกิริยาสูงสุด อาจเกิดบ่อยถึง 2-3 ครั้งต่อวัน ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดของจุดมืดด้วยเช่นกัน


    Flare สังเกตว่าเกิดใกล้ๆจุดมืด

    [​IMG]

    CME พลังต่างกับ Flare ลิบลับ

    [​IMG]

    >> คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ <<
    i663.photobucket.com/albums/uu353/itou/CME_EIT_C2_2002_prev.jpg

    พบว่าการปลดปล่อยก้อนมวลจากคอโรนาครั้ง หนึ่งๆ (CME) จะพาสสารมวลอย่างน้อย 1.6 x 10 ยกกำลัง 15 กรัม (พันล้านตัน) ออกมาด้วยอัตราเร็ว 20 กิโลเมตรต่อวินาที จนถึง 2,700 กิโลเมตรต่อวินาที เลยทีเดียว

    ทำให้เมื่อเกิด CME ทำให้ลมสุริยะบริเวณนั้นอ่อนกำลังลง เนื่องจาก CME พัดเอาคอโรนาไปหมด ทำให้เกราะของระบบสุริยะหรือเฮลิโอสเฟียร์ อ่อนกำลังลงชั่วคราว ทำให้มีรังสี อนุภาค พลังงานและสิ่งแปลกปลอมต่างๆเข้ามา ในระบบสุริยะ ซึ่งทำให้ดาวต่างๆในระบบสุริยะได้รับพลังงานมหาศาลเข้าไป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้างอย่าง ยิ่งช่วง Solar Maximum ได้รับพลังงานเข้าไปเต็มๆ เช่น ดาวเนปจูน ดาวยูเรนัส เกิดการกลับขั้วของสนามแม่เหล็ก
    ส่วนดาวอังคาร พบว่าสนามแม่เหล็กหายไปเลย!!!! ฯลฯ


    มาเข้าเรื่องการเรียงตัวของดาวกันดีกว่า

    ที่ทฤษฎีการเรียงตัวของดาวเป็นไปได้ เพราะถ้าการเรียงตัวของดาวไม่มีผลแล้ว การเกิด CME ต้องเกิดแบบสุ่ม แต่จากสถิติพบว่ามันไม่ใช่ แต่ไม่ใช่การเรียงตัวจะทำให้เกิดแผ่นดินไหว แต่การเรียงตัวทำให้เกิดการเสริมกันของ"สนามแม่เหล็ก" ยิ่งช่วงที่สนามแม่เหล็กของดาวต่างๆ แปรปรวน และได้รับพลังงานจากภายนอกด้วยแล้ว เป็นตัวกระตุ้น ให้มีโอกาสที่จะระเบิดมวล (CME)
    ออกมาในแนวการเรียงตัวมากกว่าทิศทางอื่นเท่านั้น พบว่าช่วงที่มีการเรียงตัวมาก พบว่าช่วงนั้นจะเกิดจุดมืดขึ้นมากเป็นพิเศษ และช่วงนั้นดวงอาทิตย์จะมีปฎิกิริยาสูงสุด ซึ่งพบว่าจะเกิดแผ่นดินไหวถี่ขึ้นอย่างผิดปกติ ถ้าเทียบกับช่วงที่ไม่มีการเรียงตัว


    ย้ำนะ สนามแม่เหล็ก บางคนออกมาบอกว่าการเรียงตัวไม่มีผลเพราะดาวแต่ละดวงมีมวลน้อยมาก เมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ ซึ่งก็ถูกเพราะดวงอาทิตย์มีมวลคิดเป็น 99% ของมวลทั้งหมดในระบบสุริยะ แต่ที่ว่าไม่มีผลนะผิด เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับมวล ซึ่งทำไมนั้นเราจะกล่าวกันต่อไป

    กระบวนการมันก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรมาก อย่างที่บอกการเรียงตัวทำให้เกิดการเสริมกันของสนามแม่เหล็ก เป็นการกระตุ้น ให้พลาสม่า ซึ่งเป็นอนุภาคมีขั้ว ถูกดึงไปในทิศที่เกิดการเรียงตัว แล้วทีนี้มันส่งผลกับโลกได้อย่างไร

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Rqy58n6PoDc&"]www.youtube.com/watch[/ame]

    < Animation สั้นๆประกอบความเข้าใจ
    เมื่อพายุสุริยะที่เกิดจาก Flare หรือ CME พัดมาชนกับสนามแม่เหล็กโลก ด้วยความเร็วสูง ทำให้สนามแม่เหล็กโลกถูกบีบตาม Animation เมื่อเส้นแรงแม่เหล็กโลกไหวแล้ว ย่อมส่งผลให้ชั้นแมนเทิล ที่เป็นโลหะเหลว เกิดการไหวตัวด้วย ซึ่งส่งผลให้แผ่นเปลือกโลกที่ตั้งอยู่ข้างบน ย่อมเกิดการไหวตัว ซึ่งทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นครับ


    แล้วผมรู้ได้ไง ทำไมผมมั่นใจกับทฤษฎีนี้นัก ....

    [​IMG]

    ... เพราะพระพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงเรื่องนี้ในพระไตรปิฎกด้วย !!! เครดิตทั้งหลายทั้งปวงต้องยกให้พระพุทธเจ้าท่าน ผมเพียงแค่นำมานำเสนอ และ หาข้อมูลมาสนับสนุนเท่านั้น ...
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๐
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค หน้าที่ ๙๐

    ดูกรมารผู้ มีบาป ท่านจงมีความขวนขวายน้อยเถิด ความปรินิพพานแห่งตถาคตจักมีไม่ช้า โดยล่วงไปอีกสามเดือนแต่นี้ ตถาคตก็ จักปรินิพพาน ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค
    ทรงมีพระสติสัมปชัญญะทรงปลงอายุสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์ และเมื่อพระผู้มี
    พระภาคทรงปลงอายุสังขารแล้ว ได้เกิดแผ่นดินไหว ใหญ่ และขนพองสยองเกล้า น่าพึงกลัว ทั้งกลองทิพย์ก็บันลือลั่น

    ครั้งนั้น พระอานนท์ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า น่าอัศจรรย์จริงหนอ เหตุไม่เคย มีมามีขึ้น แผ่นดินใหญ่นี้ไหวได้ อะไรหนอเป็นปัจจัยสำหรับให้แผ่นดินไหว ใหญ่ปรากฏ ฯ ...

    พระอานนท์คิดดังนั้นแล้วก็เข้าไปถามพระพุทธเจ้า ...

    โดย 8 ปัจจัย แต่มีปัจจัยแรก ปัจจัยเดียวที่เป็นปรากฏการทางธรรมชาติ
    “อย อานนฺท มหาปวี อุทเก ปติฏฺิตา อุทก วาเต ปติฏฺิต วาโต อากาสฏฺโ โหติ”
    “ดูกรอานนท์ มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ”

    “โส โข อานนฺท สมโย ย มหาวาตา วายนฺติ มหาวาตา วายนฺตา อุทก กมฺเปนฺติ
    อุทก กมฺปิต ปวึ กมฺเปติ”
    “สมัยที่ลมใหญ่พัด เมื่อลมใหญ่พัดอยู่ย่อมยังน้ำให้ไหว
    น้ำไหวแล้ว ย่อมยังแผ่นดินให้ไหว”
    แปลความได้ว่า
    ดูกรอานนท์ เปลือกโลกนี้ตั้งอยู่บนลาวา ซึ่งลาวา นี้สัมพันธ์ กับลมสุริยะ ลมสุริยะนี้ตั้งอยู่บนอวกาศ เมื่อพายุสุริยะพัดมาย่อมยังลาวาให้ไหวตัว เมื่อลาวาไหวย่อมยังแผ่นดินให้ไหว
    เรารู้กันอยู่แล้ว ใช่ไหมว่าลาวาใต้ผิวโลก มีการเคลื่อนไหวอย่างไม่เป็นระเบียบ
    ผมไปค้นเจอว่า เวลาเค้าอยากรู้ว่าลาวาเหลวใต้ผิวโลก ในชั้นแมนเทิลนี้ เคลื่อนที่อย่างไรรู้ได้โดยการสังเกตุเส้นสนามแม่เหล็ก !!!!

    พูดง่ายๆ คือลาวาเหลว ในชั้นแมนเทิล มีความสัมพันธ์กับ สนามแม่เหล็กของโลก และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกก็เพราะ สนามแม่เหล็กของโลก ก็เกิดจากลาวาหรือโลหะเหลวไหลรอบแก่นโลกและพบว่า สนามแม่เหล็กของโลก จะปั่นป่วนและอ่อนกำลังลง เมื่อปะทะกับลมสุริยะ....

    เพราะฉะนั้นจึงสามารถเชื่อได้ว่าลมสุริยะ ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวได้จริง
    และถ้าการเรียงตัวของดาวมีผลต่อการเกิดลมสุริยะ ... เราก็อาจทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้เช่นกัน

    จบแล้วจ้า ~

    :cool:<!-- google_ad_section_end -->

    โดยคุณ
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Falkman<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3511916", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]
    http://palungjit.org/threads/ประกาศข่าวแผ่นดินไหว.51734/page-122
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2010
  8. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    อ่า แม้แต่ น้ำขึ้น น้ำลง และดวงจันทร์ ก็ยังมีผลต่ออารมณ์ของมนุษย์แระ
    แม่เหล็ก อันนี้หลบภัย ใช้แทนกิเลสแล้วกัน
    เป็นตัวดึงดูดให้เราหนี พ้น จากสังสารวัฐ แต่ว่า การจะหนี
    แรงแม่เหล็กได้นั้น ต้องทำให้มันเป็นขั่วเดียวกันเสียก่อน จะผลักกัน
    แต่ตอนนี้ แม่เหล็กของเค้าเป็นต่างขั่วซึ่งมีแรงดึงดูดมหาศาล
    จะให้ทำอย่างไร ถึงจะหนีพ้นรัศมีได้นั้น
    ต้องไปศึกษาแม่แรงอีกขั่ว(ศีล) และพยายามทำให้เป็นขั่วเดียวกันให้ได้(สมาธิ)
    เมื่อถึงจุดหนึ่งมันย่อมถีบ(ปัญญา) หนีออกไปได้
    แต่ตอนนี้ศีล มันหนักเหมือนศิลาเจงๆ
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ที่อ่านพระสูตรมาแล้วพอจำได้ว่า
    เริ่มต้นโลกกำเนิดเป็นเนยใสเนยเหลว
    แล้วตอนที่โลกถูกเผาด้วยพระอาทิตย์7ดวงก็กลับเป็นเนยใสเนยเหลว ไม่มีฝุ่นไม่มีผง
    สงสัยเนยใสเนยเหลว จะเป็นลาวา หรือเมนทัล ที่อยู่ภายในโลกหรือเปล่าหนอ
    แร้ว ที่อาภัสพรหมลงมาบริโภคเนยใส เนยเหลว ง้วนดิน ที่มีกลิ่นหอมปานรวงผึ้งนี่
    จะเป็น ลาวา รึป่าว แปลกดีเนอะ ก็แพล่มกันไป

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 216

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลนางครั้งบางคราว โดยล่วงไป
    แห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๗ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๗
    ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้และขุนเขาสิเนรุ ไฟจะติดทั่วลุกโชติช่วง
    มีแสงเพลิงเป็นอันเดียวกัน เมื่อแผ่นดินใหญ่และขุนเขสิเนรุไฟเผา
    ลุกโชน ลมหอบเอาเปลวไฟฟุ้งไปจนถึงพรหมโลก เมื่อขุนเขาสิเนรุ
    ไฟเผาลุกโชนกำลังทะลาย ถูกกองเพลิงใหญ่เผาท่วมตลอดแล้ว
    ยอดเขาแม้ขนาด ๑๐๐ โยชน์ ๒๐๐ โยชน์ ๓๐๐ โยชน์ ๔๐๐ โยชน์
    ๕๐๐ โยชน์ ย่อมพังทะลาย เมื่อแผ่นดินใหญ่และขุนเขาสิเนรุถูก
    ไฟเผาผลาญอยู่ ย่อมไม่ปรากฏขี้เถ้าและเขม่า เปรียบเหมือนเมื่อ
    เนยใสหรือน้ำมันถูกไฟเผาผลาญอยู่ ย่อมไม่ปรากฏขี้เถ้าและเขม่า
    ฉะนั้น
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง
    ไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม ควรจะเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควร
    หลุดพ้น ในสังขารทั้งปวง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น ใครจะรู้


    เรียนรู้เรื่องโลกได้ที่นี่

    http://www.lms.moe.go.th/lms/content/learningobject/Magma/explo1.swf
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2010
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สนามแม่เหล็กโลก หมายถึง โลกมีสมบัติแม่เหล็ก บริเวณขั้วโลกเหนือทางภูมิศาสตร์และลึกลงไปจากผิวโลกเปรียบเสมือนมีขั้วแม่เหล็กขนาดใหญ่และเป็น ขั้วแม่เหล็กชนิดขั้วใต้ หรือบางครั้งเรียกว่า ขั้วแม่เหล็กโลกทางทิศเหนือ และบริเวณขั้วโลกใต้ทางภูมิศาสตร์เปรียบเสมือนมีขั้วแม่เหล็กชนิดขั้วเหนือ สนามแม่เหล็กโลกเกิดจากหินหนืดในแก่นโลกชั้นนอก และในส่วนล่างของแมนเทิลไหลวนทำให้มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนที่ คือเกิดกระแสไฟฟ้าไหลวนประมาณ 10,000 ล้านแอมแปร์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่เกิดสนามแม่เหล็กหุ้มห่อโลก<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p[​IMG]</O:p
    >
    <O:p</O:p
    เชื่อกันว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกนั้นเกิดขึ้นเมื่อการไหลเวียนของนิกเกิลเหลว(liquid nickel) และเหล็กเหลว (liquid iron) ในแกนกลางชั้นนอกของโลกกระจัดกระจาย จากนั้นก็จัดเรียงตัวใหม่ในทิศทางตรงกันข้ามแต่ยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุของการกระจัดกระจายดังกล่าว หลักฐานการกลับขั้ว พบได้ในสันเขากลางมหาสมุทร (mid-ocean ridges) ซึ่งแผ่นเปลือกโลกเทคโทนิค (tectonic plates) ได้แยกออกจากกัน และที่ก้นมหาสมุทรก็เต็มไปด้วยแมกมาซึ่งไหลซึมออกมาจากเปลือกโลกชั้นใน (mantle) อนุภาคแม่เหล็กในของเหลวร้อนดังกล่าวได้พลิกทิศทางของสนามแม่เหล็กโลกในเวลานั้น<O:p</O:p
    <O:p
    [​IMG]</O:p>
    ปัจจุบัน
    ขั้วโลกเหนือเคลื่อนไปทางประเทศรัสเซีย 34 ไมล์ต่อปี<O:p</O:p
    นั่นก็คือ ซานตาครอสกำลังย้ายบ้านไปอยู่รัสเซีย<O:p</O:p
    นักวิทยาศาสตร์พบว่า ในอดีตโลกมีการสลับขั้วแม่เหล็กเฉลี่ย 300,000 ปีต่อครั้ง<O:p</O:p
    เรื่องเศร้าก็คือ 700,000 ปีที่ผ่านมายังไม่มีการสลับขั้วเกิดขึ้นเลย<O:p</O:p
    ดังนั้นการเลื่อนตำแหน่งของขั้วโลกเหนือในหลายๆปีที่ผ่านมานี้ จะเป็นการส่งสัญญานอะไรบางอย่างหรือไม่ ความแรงของสนามแม่เหล็กโลกในสองร้อยปีที่ผ่านมาลดลงด้วยตัวเลขที่มีนัยสำคัญ<O:p</O:p
    ดังนั้นการสลับขั้วแม่เหล็กโลกจึงอาจจะเกิดเมื่อไรก็ได้ โดยเราไม่ได้ตั้งตัว<O:p</O:p
    ผลที่ตามมาก็คือ สัตว์โลกที่อพยพตามทิศแม่เหล็กโลกจะปั่นป่วน บางชนิดอาจสูญพันธุ์ <O:p</O:p
    ห่วงโซ่อาหารจะมีปัญหา แน่นอนคนต้องโดนด้วย แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงที่สุด<O:p</O:p
    เรื่องร้ายแรงที่สุดก็คือในระหว่างการสลับขั้ว แนวสนามแม่เหล็กโลกที่ป้องกันรังสีร้ายแรงจาก
    ดวงอาทิตย์จะปั่นป่วนรังสีร้ายแรงจะลงมาถึง เราบนผิวโลกแน่ๆ การสื่อสารต่างๆต้องปั่นป่วนใช้ไม่ได้<O:p</O:p
    เราอาจถูกเผาตาย หรือ mutante แปลงร่างไปเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ (Newtype, X-men)
    หรือการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม(DNA)นั้นเอง
    <O:p</O:p
    เรื่องแบบนี้คงมาถึงสักวัน จงใช้ชีวิตให้มีความสุข<O:p</O:p
    <O:p
    [​IMG]</O:p>
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    อ่านมาเล่าต่อจาก Mysterious Earth's Core Plume Shifting the Magnetic North Pole Mysterious Earth's Core Plume Shifting the Magnetic North Pole - Magnetic north pole - Gizmodo<O:p</O:p
    ที่มาข้อมูลและภาพเพิ่มจาก :http://www.oknation.net, www.navy.mi.th/sattahipbase/<WBR><!-- google_ad_section_end -->

    เครดิต
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->มิคาเอล777<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2893921", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]
    http://palungjit.org/threads/แม่เหล็กโลกกำลังจะกลับขั่ว.60963/page-2
     
  11. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    [​IMG]
    ......

    ทรงตด
     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846


    pig_cryy2pig_cryy2
    ...... จะฟ้องลุงขันธ์
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/Ql1PPkZiHl8&amp;hl=en_US&amp;fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/Ql1PPkZiHl8&amp;hl=en_US&amp;fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/N6QMxgWCtls&amp;hl=en_US&amp;fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/N6QMxgWCtls&amp;hl=en_US&amp;fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ลุงขันธ์ เซย์ :

    พวกฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ ว่ะ

    เจ๊ขวัญ เซย์ :

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ใครไม่รู้ เซย์ :

    เอิ๊ก ๆ

    อีกคน เซย์ :

    แหะ แหะ
     
  16. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ลุงขันธ์ เดี๋ยวแกก็มา

    แก รัก สมาชิก ชงชา จะตาย ฮิ๊ ฮิ๊


    oishi_
     
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    [​IMG]
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:36:06 น. มติชนออนไลน์

    <CENTER></CENTER>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]หนุ่มอึ้ง เจอใบหน้า"พระเยซู"ปรากฎบนฟาร์ม ระหว่างเลือกหาสถานที่เที่ยวด้วย"กูเกิล เอิร์ธ"[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE>P { MARGIN: 0px**</STYLE>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ว่า นายแซค อีวานส์ ชาวเมืองเซ้าท์แธมป์ตัน ประเทศอังกฤษวัย 26 ปี ต้องพานพบกับเหตุการณ์ชวนอึ้ง เมื่อเขาได้พบภาพคล้ายใบหน้าพระเยซู ขณะเลือกสถานที่ที่อยากจะไปเที่ยวจากโปรแกรมกูเกิล เอิร์ธ เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองปุสป็อกลาดานีย์ ในประเทศฮังการี และเจ้าตัวบอกว่า นี่เป็นสิ่งพิเศษ เพราะปกติแล้ว เขาไม่ใช่คนที่เคร่งศาสนาประเภทจะคอยจ้องหาภาพพระแม่มารีหรือพระเยซูมาก่อน

    รายงานระบุว่า ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะชาวอังกฤษต่างพบเห็นใบหน้าพระเยซูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น หญิงอังกฤษจากโคเวนตรี้ เห็นใบหน้าพระเยซูจากเหล็กท่อน้ำในบ้าน และที่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐแมสสาซูเซตต์ ซึ่งมีเตารีดเป็นรอยไหม้เป็นรูปภาพคล้ายใบหน้าพระเยซู



    [​IMG]


    เครดิต http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-1052
    [/FONT]<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2010
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE width=706 align=center><TBODY><TR><TD height=713>
    คุณชอบมองท้องฟ้าไหม?

    ฉันเชื่อว่าเกือบทุกคนคงจะตอบว่าชอบ การได้มองความกว้างใหญ่ไพศาลของท้องฟ้าทำให้จิตใจสัมผัสได้ถึงความอิสระ
    ครั้นพอเห็นนกโผบินอยู่ด้านบน ฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า แผ่นฟ้านี้จะมีความสูงสักเท่าใดกันนะ ก้อนเมฆที่ปรากฏตรงหน้า
    เรา จะอยู่ห่างจากพื้นโลกขึ้นไปไกลเพียงไหน แล้วเราจะมีโอกาสได้สัมผัสความนุ่มที่คิดไปเองว่ามีได้ไหม?

    คำถามนี้คงจะเป็นได้แค่ความคิดเพ้อฝันที่เกิดขึ้นในบางช่วงเวลา แต่ก็เกิดขึ้นในเกือบจะทุกครั้งที่ฉันแหงนหน้ามองขึ้น
    ไปยังเบื้องบน หากได้มองหมู่เมฆในช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก ความสวยงามของสีสันที่แต่งแต้มก้อนเมฆทำให้ฉันต้องยก
    กล้องขึ้นมาเก็บภาพอยู่ร่ำไป แม้จะเคยถ่ายรูปก้อนเมฆเก็บเอาไว้มากมาย แต่ฉันรู้สึกว่าก้อนเมฆและท้องฟ้าในแต่ละวัน
    ไม่เหมือนกันอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างและตำแหน่งของเมฆแต่ละก้อน ภาพบางภาพ เราอาจเห็นเพียงครั้งเดียวในชีวิต
    บางภาพก็เห็นจนเจนตา แต่เมื่อสังเกตดีๆ ก็จะพบว่า มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันเสมอ บางวันฉันเห็นก้อนเมฆ
    ขนาด เล็กรวมกันเป็นแพคล้ายรูปพัด บางวันก็เห็นเส้นจางๆ บนท้องฟ้าเหมือนใครนำพู่กันหมาดสีไปตวัดทิ้งไว้ในอากาศ
    จนเห็นเป็นเส้นร่างจางๆ พอให้จินตนาการได้

    ความสนใจในปรากฏการณ์ธรรมชาติของฉันเพิ่มมากขึ้นเมื่อปรากฏข่าวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศจีน พลังขนาด
    7.9 ริกเตอร์ ความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังการปล่อยพลังงานอันมหาศาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับหมื่น ขณะเดียวกันก็ยังมี
    จำนวนผู้บาดเจ็บอีกนับแสนราย ความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน บังเกิดเป็นความโศกเศร้าและเห็นใจในชะตากรรม
    ของเพื่อนร่วมโลกนับหมื่นนับแสนชีวิต ขณะเดียวกัน ข่าวนี้ก็ทำให้ฉันรู้จักกับคำว่า "เมฆแผ่นดินไหว"

    รายงานข่าวจากบางเว็บไซต์ระบุว่า ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ บอกให้รู้ว่ากำลังจะเกิดแผ่นดินไหว แม้แต่เครื่องตรวจการ
    เกิดแผ่นดินไหวเองก็ยังพยากรณ์ล่วงหน้าไม่ได้ เพราะเครื่องตรวจวัดที่ทางการจีนใช้นั้น จะพยากรณ์เหตุแผ่นดินไหวล่วง
    หน้าได้ก็ต่อเมื่อมีการไหวเตือนก่อนเท่านั้น และยังบอกเพิ่มเติมอีกว่านักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นใช้การสังเกตเมฆแผ่นดินไหว
    มาเป็นส่วนหนึ่งในการพยากรณ์แผ่นดินไหวล่วงหน้าอีกทางหนึ่งด้วย

    หลังจากอ่านข่าวนี้ ความสนใจในเรื่องเมฆแผ่นดินไหวก็ทำให้ฉันค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ จนไปพบข้อมูลเเรื่อง
    สิ่งบอกเหตุก่อนการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ จากเว็บไซต์ของกรมทรัพยากรณี จากข้อมูลที่ได้ ทำให้ฉันหันมา
    สนใจกับรูปร่างหน้าตาของก้อนเมฆมากขึ้น และประจักษ์กับตัวเองว่า ปรากฏการณ์เมฆแผ่นดินไหวอยู่ใกล้ตัวเรานี่เอง


    [​IMG]
    ในตอนสายของวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2551 ฉันพบว่าบนท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆเกล็ดปลาจำนวนมาก จึงรีบไปคว้า
    กล้องถ่ายรูปมาบันทึกภาพไว้ และรีบโทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่หลังจากที่ฉันได้ยินข่าวเรื่องแผ่นดินไหวที่
    ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้
    ซึ่งความแรงของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณช่องแคบที่กั้นฟิลิปปินส์กับไต้หวันมีความ
    รุนแรงถึง 6.8 ริกเตอร์ เพื่อนของฉันบอกว่า ที่เชียงใหม่ก็ปรากฏเมฆแผ่นดินไหวเป็นรูปเกล็ดปลาเช่นกัน ลักษณะของ
    เมฆที่ปรากฏในภาพถ่ายเหมือนกับก้อนเมฆที่ฉันถ่ายภาพได้จากหน้าบ้านของตัวเองไม่มีผิด

    [​IMG]


    ฉันยังคงตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รู้ และเริ่มเก็บภาพก้อนเมฆแปลกๆ ที่เข้ากับลักษณะของเมฆแผ่นดินไหวเอาไว้มากมาย
    สิ่งแรกที่ฉันทำในทุกเช้าที่ตื่นขึ้นคือออกมาสังเกตท้องฟ้า บางวันจึงได้เห็นเมฆเกล็ดปลากระจัดกระจาย หรือบางวัน
    ก็เห็นเมฆที่มีลักษณะคล้ายงูกำลังเลื้อยผ่าน บางครั้งเป็นเส้นตรง บางครั้งเป็นเส้นแถบที่มองเห็นได้ชัดเจน และเมฆ
    ที่ปรากฏในตอนสายของวันที่ 4 มิถุนายน 2551 ก็ทำให้ฉันต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อทราบข่าวว่า เช้ามืดของวันเดียว
    กัน ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกที่ประเทศอินโดนีเซียด้วยความรุนแรงขนาด 5.8 ริกเตอร์

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]


    จะด้วยความบังเอิญหรืออื่นใดก็ตาม แต่ฉันเชื่อในสัญญาณจากธรรมชาติเสียแล้ว ฉันค้นหารูปเก่าๆ ที่เคยถ่ายเก็บไว้
    ตั้งแต่ปี 2548 พบว่า ตัวเองเคยถ่ายภาพเมฆเกล็ดปลาและเมฆที่มีลักษณะคล้ายเส้นตรงไว้หลายรูปด้วยกัน จากนั้น
    ฉันกับเพื่อนที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่ก็มักจะคุยกันเรื่องเมฆแผ่นดินไหวที่เห็นนี้ เราต่างคนต่างเก็บภาพก้อนเมฆในท้องที่
    ของตัวเองและแลกเปลี่ยนกันชม

    [​IMG]
    (เมฆรูปงูและเกล็ดปลากระจัดกระจายอยู่บนท้องฟ้า)

    [​IMG]
    [​IMG]
    เมฆแถบที่มีลักษณะเป็นเส้น คล้ายงู



    ความตื่นเต้นผสานกับความกังวลทำให้หัวข้อสนทนาในระยะหลัง หนีไม่พ้นเรื่องภัยธรรมชาติที่ไม่อาจทำนายเวลาที่จะ
    เกิดขึ้นล่วงหน้าได้... และในตอนเช้าของวันนี้ ฉันก็ได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ทำให้ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น

    คุณเคยเห็นรุ้งแบบนี้ไหม?
    [​IMG]
    มันไม่เหมือนกับรุ้งอื่นที่เราท่านเคยเห็นผ่านตามาตั้งแต่เด็ก รุ้งเส้นนี้ไม่ได้โค้งตัวเอาปลายด้านหนึ่งลงพื้น แต่มันโค้งตัว
    และขนานกับพื้นโลกในแนบราบ

    [​IMG]
    ไม่ใช่รัศมีแสงที่เกิดจากอาทิตย์ทรงกลด เพราะพระอาทิตย์ที่ฉันเห็นกำลังเจิดจ้า และไร้ซึ่งวงรัศมี และโค้งรุ้งนั้น ก็หัน
    ด้านโค้งเข้าหาดวงอาทิตย์ มันจึงไม่มีทางเป็นโค้งรุ้งที่ปรากฏตอนพระอาทิตย์ทรงกลดอย่างแน่นอน

    [​IMG]
    [​IMG]
    ท้องฟ้าทางทิศตะวันออก มีก้อนเมฆคล้ายลอนคลื่นแผ่กว้าง และเป็นหนึ่งในลักษณะของเมฆแผ่นดินไหว ธรรมชาติ
    กำลังบอกอะไรกับเรา?


    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ฉันไม่มีคำอธิบายใดมาตอบความสงสัยของตัวเองได้ กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จากภาพถ่ายที่เห็น
    คงต้องรอให้ธรรมชาติเป็นผู้ตอบคำถามนี้กระมัง...
    ภาพและเรื่องโดย อัญชา
    11 มิถุนายน 2551
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>เว็บไซต์แนะนำ.-

    http://earthquakecloud.wordpress.com : รวมภาพเมฆแผ่นดินไหวที่น่าสนใจ

    เรื่องเล่าริมทางเดิน : ดินไหวอยู่ในฟ้า? โดย วาดวลี

    กรมทรัพยากรธรณี

    รวมรูปเมฆแผ่นดินไหว โดย อัญชา
    </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD><HR></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD>
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    Earthquake Clouds :
     

แชร์หน้านี้

Loading...