ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    เรื่องภัยพิบัติควรรับรู้ไปตามจริงครับ อย่าคิดมาก ใครที่คิดเกินจนเป็นทุกข์ ถ้าเอะใจก็อาจเห็นว่าตัวเองกำลังรับวิบากอยู่ คุณอาจเคยสร้างความเค้นใจกับผู้อื่นทางมโนกรรมมาก่อน ถึงเวลาเจอกระทู้เจอข่าวภัยพิบัติมากๆก็ต้องรับผลทางมโนกรรม วจีกรรม มองอย่างรับรู้ไปตามจริง ทุกอย่างผ่านมาก็ผ่านไป มองไม่ทันก็ไปช่วยมันปรุงแต่งเป็นวัฏฏะไม่จบไม่สิ้น ส่วนกายกรรมด้านภัยพิบัติมาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น มองทันก็จะเหลือแต่เหตุผลตามจริง มีข้อมูลข่าวสารภัยพิบัติมากมายที่มีเหตุผล ทั้งจากสารคดีต่างๆ ข่าวภัยธรรมชาติรุนแรงต่างๆทั่วโลก ทำให้เราต้องเตรียมพร้อม ซึ่งกรรมแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บุชประกาศภาวะฉุกเฉิน-สั่งฟีมาช่วยเหลือไฟป่าแคลิฟอร์เนีย

    [​IMG]

    วอชิงตัน 23 ต.ค.
     
  3. dogsman

    dogsman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,094
    ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่เกิดขึ้นแน่นอน แต่คงไม่มีใครที่สามารถระบุ วัน
    เดือน ปี ที่แน่นอนได้ ว่าจริงๆแล้วมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และก็ไม่มีใครสามารถ
    แก้ไข เปลี่ยนแปลงได้..(ไดโนเสา ยังสูญพันธุ์ไปแล้ว) สิ่งที่มนุษย์ทำได้ก็คือเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมการณ์รับมือกับเหตุการณ์ ทั้งก่อนและหลัง(ถ้ายังไม่ตายซะก่อน..อิอิ) เมื่อเกิดภัยภิบัติขึ้น..ซึ่งก็ได้มีการเตรียมการณ์กันไว้แล้วจากทางกลุ่มเตือนภัยภิบัติเขากะลา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2007
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โคตรปฏิหาริย์ ****

    โคตรปฏิหาริย์ ...อยู่ที่ "สัจจะ"

    คนไม่เชื่อ "สัจจะ" จะไปไม่รอด
    โลกเขาจะไม่ปล่อยไว้

    ผู้มี "สัจจะ" ... คือ ผู้มีสัญญาที่ต้องทำ
    สัญญากับ "หลักสัจจะธรรม โลกุตตระธรรม พระไตรปิฎก"

    ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร...ท่านมี "สัจจะ" นำทางชีวิตหรือยัง ????

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    สารชมรมศาสนาและการกุศล เรื่องที่ 122 สถานการณ์โลกในปี 2551
    ประธานชมรมศาสนาและการกุศล

    สถานการณ์โลกในปี 2551

    มีผู้อ่านสารชมรมฯ จำนวนมาก ขอทราบรายละเอียดว่าปี 2551 จะมีอะไร
    เกิดขึ้นบ้าง ความจริงเรื่องนี้ ผู้เขียนไม่อยากจะพูด เพราะถ้าอะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิดอย่างมากที่สุด ก็ขยันเลื่อนออกไปได้ไม่เกินปี 2560 แต่ขณะนี้ คาดว่าปี 2551 ยังมีโอกาสเกิดมากกว่า เช่น สถานการณ์ที่เกิดจากการกระทำของคน (มิใช่มนุษย์)

    1. การแพร่อาวุธเชื้อโรค (Biological Warfare) จะมาทางอากาศ ซึ่งปัจจุบันเร่งแอบสะสมผลิตกันในหลายประเทศ ไม่ว่า เชื้อโรคฝีดาษ โรคแอนแทรกซ์ โรคไข้เลือดออกโรคไข้หวัดนก โรควัวบ้า และ โรคอีโบล่า ฯลฯ เป็นต้น จะนำมาใช้กันมากในปี 2551

    2. อาวุธเคมี โดยการใช้แก๊สพิษต่างๆ ซึ่งจะเป็นการวางระเบิดโกดังที่เก็บสารเคมีที่ผลิตยาฆ่าแมลงประเภทต่างๆ ในปี 2551 โดยเริ่มมาตั้งบริษัทหรือซื้อหุ้นใหญ่ในบริษัทผลิตยาฆ่าแมลง แล้วใช้ยาฆ่าแมลงผสมลงในน้ำประปาส่งไปตามท่อประปา ผสมใส่ลงในน้ำดื่มบรรจุขวด เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามล้มตายมากในปี 2551

    3. อาวุธปรมาณู เมื่อผู้ก่อการร้ายใช้ในปี 2551 สหรัฐอเมริกาก็ใช้บ้างในปี
    เดียวกัน และถ้าสหรัฐอเมริกาใช้ ผู้ก่อการร้ายก็ใช้เช่นเดียวกัน ขิงก็รา ข่าก็แรง เลวไม่ต่างกัน ระหว่างผู้ก่อการร้าย กับผู้นำประเทศมหาอำนาจ แน่นอน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโลกจะแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก ประเทศไทย มิใช่เป้าหมาย แต่รังสีของปรมาณูที่มากับลมและฝน จะตกลงไปในแม่น้ำลำคลอง ซึ่งย่อมส่งผลร้ายต่อประชาชนคนไทยแน่นอน

    - หากพิจารณาจากระบบป้องกันภัยจากกัมมันตภาพรังสี ถ้าใช้ในช่วงเกิด
    สงคราม ประเทศไทยเราไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่ไทยเรามีสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ มามากกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม แต่ไม่เคยมีแผนงานที่จะปกป้องภยันตรายในลักษณะดังกล่าว น้ำดื่ม น้ำใช้ อาหาร และยา ไม่เคยมีใครคิดป้องกันให้ปลอดภัยจากกัมมันตภาพรังสีมาก่อนเลย

    - ประเทศไทย ไม่มีอุโมงค์ใต้ดิน หรือถ้ำ สำหรับให้บุคคลสำคัญของประเทศใช้หลบภัยในยามเกิดสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งหลายประเทศได้เตรียมการเรื่อง ดังกล่าวมามากกว่า 20 ปีแล้ว แต่ไทยไม่เคยมีรัฐบาลไหนในอดีตตระหนักเรื่องนี้ หรือเตรียมการในเรื่องนี้ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้น ซึ่งเป็นความประมาท

    4. อาวุธนิวตรอน หรือ ระเบิดนิวตรอน (นิวตรอนบอมบ์) รังสีนิวตรอนจะไม่ทำลายอาคารบ้านเรือน แต่จะฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกชีวิต แม้กระทั่งจุลินทรีย์ในรัศมี 10 ตารางกิโลเมตร ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก็จะมีการนำมาใช้ในปี 2551

    5. อิเล็คโทรแมกเนติคบอมบ์ (Electromagnetic Bomb) หรือ E-Bomb อาวุธชนิดนี้ ไม่ทำลายชีวิตมนุษย์ แต่กระแสอิเล็คตรอนที่พุ่งกระจายออกมา จะทำลายโรงไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ การสื่อสารดาวเทียม และเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด เครื่องยนต์ต่างๆ จะใช้งานไม่ได้ เตาอบไมโคเวฟ หม้อหุงข้าว ตู้เย็น ฯลฯ จะใช้การมิได้เช่นกัน จะทำให้มนุษยชาติถอยความเจริญกลับไปเมื่อ 200 ปีก่อน ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    อาวุธดังกล่าวนี้ สหรัฐอเมริกาสร้างสำเร็จแล้ว และทดลองจนปรากฏได้ผลดีมากต่อมาผู้ก่อการร้าย ก็ได้เทคโนโลยีการสร้างอาวุธ ไปด้วย โดยสามารถสร้างขึ้นมาโดยใช้เงินสร้างระเบิดสำเร็จเพียงลูกละ 400 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น หรือประมาณ 16,000 บาทต่อลูก ก็ทำลายความเจริญทางเทคโนโลยีดังกล่าวได้แล้ว (ทั้งสหรัฐอเมริกา และผู้ก่อการร้าย ก็เป็นพวกบ้าเหมือนกัน)
    ความคิดวิตถาร พวกคิดบ้าๆ คิดทำลายล้างกัน ยังคงมีอยู่ต่อไป และจะพาลมาถึงประเทศไทยของพวกเราด้วยดังนั้น

    การคิดนึกจำลองเหตุการณ์ในอนาคตว่า ถ้าประเทศชาติของเรา จะไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำสะอาดไว้ดื่ม ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีวิทยุสื่อสาร ไม่มีโทรศัพท์มือถือเราจะดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมย้อนหลังไป 200 ปี จะได้หรือไม่เพียงไร คิดเล่นๆไม่เสียหลาย เพราะถ้าเป็นจริงขึ้นมา ท่านจะได้มีทางออกในการแก้ปัญหาได้ก่อนใครๆ ความจริง ในช่วง 50 ปีก่อน คนส่วนใหญ่ไม่มีผู้คนสนใจสิ่งต่างๆ ดังกล่าวมากนักบ้านเรือน และที่ทำงาน แทบจะไม่มีใครรู้จักเครื่องปรับอากาศ ยังไม่มีโทรทัศน์ให้ดูใน

    ประเทศไทย ไม่มีวิทยุสื่อสารเหมือนในปัจจุบัน มีแต่ระบบโทรเลขและโทรศัพท์เท่านั้นโทรศัพท์มือถือในสมัยนั้นก็ยังไม่มี เพิ่งจะมีมาไม่ถึง 40 ปี เห็นจะได้
    ในอดีต เราเคยอยู่กันได้ แต่ปัจจุบัน เราถูกสิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก
    ล่อหลอกจนเสียสมดุลในทางธรรมชาติไปค่อนข้างมาก การมีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนในอดีตนั้น คาดว่าจะมีผู้คนขอตายดีกว่าอยู่อย่างทรมาน เป็นจำนวนไม่น้อย มิฉะนั้น ก็จะเสียสติสัมปชัญญะไปเป็นจำนวนมากได้ ดังนั้น การเตรียมใจ เตรียมร่างกาย เพื่อรับสถานการณ์ในอนาคต จึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่คาดว่า


    เรื่องมหันตภัยที่ร้ายแรงน่าจะเกิดในปี2551 มากกว่าปีอื่นๆ น่าจะเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ดังนั้น ผู้เขียนจึงเห็นว่า การเตรียมความพร้อมในปัจจุบัน ก่อนเหตุการณ์ร้ายแรงของโลกและของประเทศจะเกิดมีผลต่อพวกเรา ในปี 2551 เป็นต้นไป จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรประมาท นั่นคือ อย่าผลัดวันประกันพรุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ ต้องเริ่มอย่างจริงจังได้แล้ว

    ตัวอย่างเช่น

    1. ให้รีบหาพื้นที่ ที่สามารถปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ทำไร่นาสวนผสม หรือสวนเกษตรผสมผสาน ฝึกตนให้มีชีวิตตามระบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่ไม่ต้องพึ่งพาและไม่ต้องพึ่งพิงบุคคลภายนอก หรือชุมชนอื่น แล้วปลูกบ้านพักอาศัยในพื้นที่ดังกล่าว โดยหาเพื่อนบ้านที่ดีๆ ไปอยู่ร่วมในชุมชนเดียวกัน ถ้าได้เพื่อนบ้าน หรือบริวารที่มีความสามารถในด้านการเกษตร หมอดิน (ผู้สามารถพัฒนาดินเสีย ให้เป็นดินดีได้) ผู้มีความสามารถในการแปรรูปและเก็บรักษาอาหารได้นาน ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีเมตตากรุณาเป็นเนืองนิจ มาเป็นเพื่อนบ้าน ท่านอยู่รอดปลอดภัยแน่


    2. ให้หาประสบการณ์จากชุมชนช่วยตนเอง อาทิ ชุมชนที่พลตรีจำลอง ศรีเมืองหรือ กลุ่มสันติอโศก ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เพื่อสัมผัสชีวิตจริงที่ชุมชนนั้นๆ จะอยู่รอดปลอดภัยในศตวรรษที่ 21 หรือเกินกึ่งพุทธกาลได้ โดยไม่ลำบากมากนัก


    3. ให้รีบหาความรู้ทั้งในหลักการ ทฤษฎี และทดลองปฏิบัติ ในเรื่องการแปรรูปอาหาร การเก็บและรักษาถนอมอาหาร โดยไม่ต้องพึ่งพาตู้เย็น ไม่ต้องพึ่งพาระบบไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน (อนาคตจะไม่มีไฟฟ้าให้ใช้)

    4. ให้หาความรู้และทดลองใช้พลังงานทดแทน เช่น ใช้พลังงานแสงอาทิตย์กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด เพื่อทดแทนกระแสไฟฟ้าในปัจจุบัน


    5. ให้เตรียมใช้น้ำมันจากพืชประเภทต่างๆ ทดแทนน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมที่มาจากใต้พื้นพิภพที่สะสมมาจากฟอสซิล ต่างๆ


    6. ให้เตรียมแท๊งค์น้ำขนาดใหญ่ อย่างน้อย 2 แท๊งค์ต่อครอบครัว เพื่อรองรับน้ำดื่มสะอาดใส่ไว้ให้เต็มตลอดเวลา และเปลี่ยนถ่ายล้างแท๊งค์น้ำเป็นครั้งคราว (อย่าประมาท อนาคตจะไม่มีน้ำประปาให้ใช้สะดวกและมากเหมือนในปัจจุบัน)


    7. ให้ฝึกสมถภาวนา หรือวิปัสสนาภาวนา ถนัดสายไหน ฝึกตามถนัด ฝึกตามจริต ไม่มีวิธีใดวิธีเดียวที่ถูกต้องที่สุด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ท่านตรัสสอนแล้วว่ามีถึง 40 วิธี ในการฝึกจิต หรือ ฝึกสมาธิ และฝึกปัญญา แต่ละคนมีความถนัดและจริตที่แตกต่างกัน วิธีใดก็ตาม ถ้าทำให้ท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2007
  7. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877

    อาจจะเร็วกว่านั้น

    (nogood)(nogood) ล่าสุด

    Greenland Ice Study: Could Higher Sea Level Come Sooner Than Expected?

    ScienceDaily (Oct. 21, 2007) — By studying 120,000-year-old layers in the ice of Greenland, researchers have determined that the ice cover seems to be able to survive a warmer climate better than was previously believed. But at the same time they have found signs that the changes that are nevertheless happening will occur at an unexpectedly rapid rate. The level of the global seas may therefore rise faster than was previously thought.
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วอนจีนเลิกสร้างเขื่อนอิรวดีใกล้แนวแผ่นดินไหว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 ตุลาคม 2550 08:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>กลุ่มอนุรักษ์ฯ กล่าวว่า เขตป่าสงวนก๋ากะเบ๊าะ (Hkakabo) ในกะฉิ่น ป่าต้นน้ำผืนนี้จะถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมดหากปล่อยให้บริษัทจีนสร้างเขื่อนมี๊ตโสนขึ้นมา </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​

    กลุ่มอนุรักษ์สภาพแวดล้อมได้เรียกร้องให้ทางการจีนหยุดยั้งบริษัทจีนจำนวนหนึ่งที่กำลังทำการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในรัฐกะฉิ่น (Kachin) ทางตอนเหนือของพม่า โดยระบุว่าจะส่งผลกระทบต่อลำน้ำที่ยิ่งใหญ่สายนี้เป็นอย่างมาก

    นอกจากนั้นเขื่อนขนาดใหญ่ที่กำลังจะก่อสร้างขึ้นมาก็ยังอยู่ใกล้แนวเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) หรือแนวร้าวของเปลือกโลก เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวอีกด้วย

    กลุ่มเครือข่ายพัฒนารัฐกะฉิ่น (Kachin Development Networking Group) กล่าวว่า เคยเกิดกรณีเขื่อนร้าวขึ้นในพม่ามาก่อน หลังจากเกิดแผ่นดินไหวบริเวณใกล้เคียง ทำให้น้ำรั่วจากเขื่อนไปท่วมบ้านเรือนราษฎรหลายพันหลัง มีผู้เสียชีวิตด้วย

    ปัจจุบันบริษัท China Power Investment Corp กับ บริษัท China Southern Power Grid ได้เข้าไปตั้งค่ายที่พักคนงานขึ้นที่ไซต์งานก่อสร้างเขื่อนมี๊ตโสน (Myitsone) แล้ว เขื่อนแห่งนี้จะสร้างผลกระทบต่อชนชาติกะฉิ่นราว 10,000 คน

    "เราขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลจีนให้ช่วยหยุดยั้งการสร้างเขื่อนแห่งนี้" โฆษกคนหนึ่งของกลุ่มที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี

    ทางการพม่าได้ร่วมกับหุ้นส่วนจากจีนก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้เพื่อผลิตไฟฟ้าส่งจำหน่ายให้แก่จีน โดยคาดว่าจะมีรายได้ปีละประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    เขื่อนในพม่าขึ้นชื่อในเรื่องการไร้มาตรฐานความปลอดภัย แผ่นดินไหวเมื่อปี 2549 ทำให้เขื่อนรั่วหลายแห่ง ส่งน้ำลงไปท่วมบ้านเรือน สะพาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โรงปั่นไฟของเขื่อนเองก็ถูกทำลาย แต่มีข่าวคราวเรื่องนี้ออกสู่โลกภายนอกน้อยมาก

    กลุ่มนี้กล่าวอีกว่าเขื่อนแห่งใหม่ที่จะสร้างกั้นลำน้ำอิรวดีนี้ ตั้งอยู่ห่างจากแนวเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) ไม่ถึง 100 กม. ซึ่งนับว่าอยู่ในรัศมีอันตรายใกล้แนวเลื่อนของเปลือกโลก ในอาณาบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยๆ

    นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ระบอบทหารพม่าต้องการสร้างเขื่อนดังกล่าวนอกจากจะผลิตไฟฟ้าขายแล้ว ยังเพื่อเหตุผลด้านความมั่นคงอีกด้วย โดยอ่างเก็บน้ำของเขื่อนจะช่วยขับไล่กองกำลังอาวุธชนกลุ่มน้อยในกะฉิ่นออกจากพื้นที่ด้วย.

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9500000125897
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    โศกนาฏกรรมวันที่ 11 กันยาทำให้เด็กแรกเกิดน้ำหนักน้อย

    หลังจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรรมวันที่ 11 กันยาพบว่าเด็กแรกเกิดทั่วนิวยอร์กหลังเดือนนั้นมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ ซึ่งคาดว่าอาจแป็นผลจากความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้
    วารสาร Human Reproduction รายงานว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์พบอัตราเสี่ยงที่เด็กแรกเกิดจะมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติเป็นสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ครับ
    นักวิจัยในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่าแม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว 1 เดือนก็ยังพบอัตราเสี่ยงมากอยู่ อย่างไรก็ตามทางสหรัฐได้รายงานว่าอาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
    นักวิจัยบางคนกล่าวว่าการปลดปล่อยฮอร์โมนบางชนิดอาจส่งผลให้เด็กโตไม่เต็มที่
    การศึกษาในเมืองนิวยอร์กนี้ใช้ข้อมูลจากประชากรมากกว่า 1.6 ล้านคน โดยสำรวจเด็กที่เกิดระหว่างปี 1996 ถึง 2002
    นักวิทยาศาสตร์จึงได้ทำการทดลองโดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่ม ๆ ขึ้นอยู่กับระยะห่างของครอบครัวจากบริเวณเกิดเหตุ
    เมื่อหลายเดือนผ่านไป
    นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการเปรียบเทียบน้ำหนักระหว่างเด็กที่คลอดก่อนเกิดเหตุการณ์กับเด็กที่คลอดหลังเกิดเหตุการณ์ 7 วัน พบว่าเด็กที่คลอดหลังเกิดเหตุการณ์มีน้ำหนักน้อยกว่า 2 กก.ซะอีก ซึ่งโดยปกติเด็กแรกเกิดควรมีน้ำหนักประมาณ 2.5 กก. ครับ เมื่อลองคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วพบว่าเด็กที่มีน้ำหนักระหว่าง 1.5-2 กก. มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 67% และ 44% มีน้ำหนักน้อยกว่า 1.5 กก.ครับ
    ในเดือนธันวาปี 2001 พบว่าเด็กมีน้ำหนักน้อยกว่า 1.5 กก.มีจำนวนมากกว่าปกติคิดเป็น 36% ต่อมาในเดือนมกราคมจำนวนเด็กที่มีน้ำหนักน้อยค่อยลดลงเป็น 22% ครับ
    จากการศึกษาพบว่าผลกระทบนี้ไม่ได้เกิดแค่ใจกลางเมืองนิวยอร์กอย่างเดียว แต่ยังเกิดขึ้นบริเวณรอบ ๆ หรือแถวชานเมืองอีกด้วยซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจำนวนเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักน้อยในบริเวณชานเมืองด้วยกันพบว่า
    มีอัตราเสี่ยงคิดเป็น 46% ก่อนเดือนมกราคม ปี 2002
    ผลจากความเครียดที่ต่างกัน
    นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้ทำให้หญิงสาวที่ทำงานอยู่ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุหรือที่ตึก Twin Towers ตกใจ ความเครียดที่เกิดขึ้นมากน้อยในแต่ละคนก็ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ไม่เหมือนกัน ในรายที่เครียดมากกว่าหรือยาวนานกว่าก็จะรบกวนการเจริญเติบโตของเด็กในครรภ์มากไปด้วย
    ศาสตราจารย์ Brenda Eskenazi ผู้นำทีมการศึกษานี้กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้เด็กแรกเกิดมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติน่าจะเป็นความเครียดที่เกิดขึ้นในช่วงแรก ๆ ที่มารดาตั้งครรภ์ ผลเสียที่เห็นได้ชัดหลังเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับประชากรเด็กในเมืองนิวยอร์ก ส่วนผลเสียระยะยาวนั้นลุกลามจากในเมืองไปจนถึงชานเมือง จึงเห็นได้ว่าระดับความเครียดส่งผลเสียต่อเด็กแรกเกิดไม่เท่ากัน แต่ผลเสียระยะยาวที่เกิดขึ้นหลังวินาศภัยครั้งนี้กลับสร้างความเครียดไปทั้งในเมืองและชานเมือง
    ดร. Virginia Beckett จากวิทยาลัย Royal College of Obstetricians บอกว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก แต่สิ่งที่เธอยังไม่แน่ใจนักก็คืออายุของเด็กแรกเกิดจริง ๆ ที่คิดเป็นสัปดาห์และวิธีการคลอดเด็กซึ่งอาจเป็นการคลอดตามธรรมชาติหรือโดยการผ่ามดลูกออกที่อาจส่งผลต่อน้ำหนักเด็กได้ เธอจึงบอกต่อว่าตอนนี้เธอยังไม่คิดว่าเธอเข้าใจกระบวนการที่ความเครียดส่งผลต่อน้ำหนักเด็กแรกเกิดทั้งหมดแม้จะทราบว่าเด็กในครรภ
    ์สามารถตอบสนองต่อฮอร์โมนความเครียดที่มีชื่อว่า คอร์ติซอล ในกระแสเลือดมารดาได้
    อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ Andrew Shennan ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติแพทย์ได้อธิบายว่าความเครียดไม่มีผลโดยตรงต่อมารดาและตัวอ่อนในครรภ์ แต่การที่จะศึกษาผลของความเครียดต่อการตั้งครรภ์อย่างแม่นยำยังคงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอยู่ครับ

    ที่มา http://news.bbc.co.uk/2/hi/health/7037842.stm
     
  10. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    Magnitude 7.1 - SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA

    2007 October 24 21:02:51 UTC


    JAKARTA, Indonesia (AP) -- A powerful earthquake rocked western Indonesia early Thursday, sending panicked residents fleeing from their homes and briefly triggering a tsunami warning.
    <!--startclickprintexclude--><!-- PURGE: /2007/WORLD/asiapcf/10/24/indonesia.earthquake.ap/art.car.afp.jpg --><!-- KEEP --><!----><!--===========IMAGE============-->[​IMG]<!--===========/IMAGE===========--><!--===========CAPTION==========-->A crack caused by a quake in September breaks the pavement along a road in North Bengkulu, Indonesia.<!--===========/CAPTION=========-->


    [​IMG]


    <!-- /PURGE: /2007/WORLD/asiapcf/10/24/indonesia.earthquake.ap/art.car.afp.jpg --><!--endclickprintexclude-->The quake had a preliminary magnitude of 7.1 and struck 135 kilometers (85 miles) west of Bengkulu, a coastal town off Sumatra island, the U.S. Geological Survey said.
    It hit 30 kilometers (18 miles) beneath the ocean floor.
    <!--startclickprintexclude-->[​IMG]

    <!-- ADSPACE: asia/intg_story/lft.180x150 --><!-- CALLOUT|http://ads.cnn.com/html.ng/site=cnn_international&cnn_intl_pagetype=intg_story&cnn_intl_position=180x150_lft&cnn_intl_rollup=asia&page.allowcompete=yes&params.styles=fs|CALLOUT -->
    <IFRAME id=896528 style="VISIBILITY: visible; POSITION: relative" name=896528 marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://ads.cnn.com/html.ng/site=cnn_international&cnn_intl_pagetype=intg_story&cnn_intl_position=180x150_lft&cnn_intl_rollup=asia&page.allowcompete=yes&params.styles=fs&tile=7983620723911&domId=896528" frameBorder=0 width=120 scrolling=no height=90></IFRAME>​




    <!--endclickprintexclude-->The Japan Meteorological Agency said there was a small possibility it could trigger a destructive, local tsunami.
    But the feared wave never came, and Indonesian authorities later lifted the alert.<!--startclickprintexclude--> E-mail to a friend [​IMG]<!--endclickprintexclude-->
    Copyright 2007 The Associated Press. All rights reserved.This material may not be published, broadcast, rewritten, or redistributed.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2007
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2007
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อินโดนีเซียยกเลิกเตือนภัยคลื่นยักษ์หลังแผ่นดินไหวรุนแรงในสุมาตรา

    [​IMG]

    จาการ์ตา 25 ต.ค. - ทางการอินโดนีเซียยกเลิกประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์ที่อาจเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวรุนแรง 7.1 ริกเตอร์ในมหาสมุทรอินเดียนอกชายฝั่งเกาะสุมาตราเมื่อเช้ามืดวันนี้แล้ว หลังจากที่ไม่มีสัญญาณภัยพิบัติรุนแรง

    สำนักงานเฝ้าระวังทางธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุว่าเหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 04.02 น. ห่างจากเมืองเบ็งกูลูไปทางทิศตะวันตกประมาณ 135 ก.ม. ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกจากพื้นไปอีก 30 ก.ม. ส่วนเจ้าหน้าที่จากศูนย์เตือนภัยคลื่นยักษ์แปซิฟิกของสหรัฐแจ้งเตือนไปยังทางการอินโดนีเซียว่าแผ่นดินไหวอาจทำให้เกิดคลื่นยักษ์ขนาดเล็กในวงจำกัด ซึ่งทางการอินโดนีเซียได้ประกาศเตือนภัยทันที แต่ก็ยกเลิกในเวลาต่อมา โดยไม่มีรายงานความเสียหายใด ๆ จากเหตุแผ่นดินไหว

    อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่เรียกว่าวงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาทั้งแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดเสมอ บริเวณดังกล่าวเพิ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 8.4 เมื่อเดือนก่อน มีผู้เสียชีวิต 25 คน บ้านเรือนเสียหายหลายพันหลัง.-สำนักข่าวไทย

    [ 2007-10-25 : 09:40:07 ]

    พายุพัดถล่มอ่าวเม็กซิโกคนงานบริษัทน้ำมันเสียชีวิต 18 ราย

    [​IMG]

    วิลลาเฮอร์โมซา 25 ต.ค.- พายุคลื่นลมแรงในอ่าวเม็กซิโก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย จากอุบัติเหตุแท่นขุดเจาะน้ำมันชนกระแทกกัน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายไปอีก 7 คน บริษทัทน้ำมันเปเม็กซ์ของทางการเม็กซิโก เปิดเผยว่า คนงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง ได้รับการช่วยเหลือได้ 61 คน หลังแท่นขุดเจาะน้ำมัน 2 แท่นชนกระแทกกัน เพราะถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัด อุบัติเหตุครั้งนี้ นอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 รายแล้ว ยังทำให้มีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติรั่วไหลลงสู่ทะเลด้วย

    นายคาร์ลอส โมราเลส ผู้บริหารของเปเม็กซ์ เปิดเผยว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดของบริษัท ขณะที่คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก เพราะสภาพอากาศที่เลวร้ายส่งผลให้การค้นหาคนงานที่สูญหายเป็นไปอย่างยากลำบาก นอกจากนี้ ทางการยังต้องปิดบริการท่าเรือพาณิชย์ 3 แห่งในอ่าวเม็กซิโกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 สำหรับปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันและก๊าซนั้น ทางบริษัทแจ้งว่า คงจะต้องใช้เวลาแก้ปัญหาราว 5 วัน แต่ก็ระบุว่าปริมาณการรั่วไหลนั้น ไม่ได้มากอย่างที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น.
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เลข เวลา กรรม สัจจะธรรม ****

    ๒๕:๕๐
    เหลือหนึ่งปี
    สะสมการกระทำด้วย "สัจจะ"

    ๒๕ : ๕๑
    กรรมปรากฏ
    เริ่มก่อกรรม เริ่มก่อการ

    ๒๕ : ๕๒
    ๗ : ๗
    ตัวกระทำมีผลตอบแทน
    หลักสัจจะธรรม ปรากฏ

    ๒๕ : ๕๓
    ครบ ๔๐ ปี ที่ไม่เห็น รุ้งคู่ท้องฟ้า
    น้ำเต็มโลก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เมตตาตน ****

    ที่แล้วก็แล้วกันไป
    ขอให้ตั้งต้นใหม่ เริ่มชีวิตที่ดีด้วย "สัจจะ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ทำบุญได้บาป ****

    ทำบุญตักบาตร ถวายเงินเป็นปัจจัยให้....พระสงฆ์รูปหนึ่ง
    พระสงฆ์รูปนั้น...ฉันอาหารที่ได้รับ
    เมื่อมีแรง...จึงนำเงินพาไปเที่ยวกับสีกาคนเดิม
    ตามที่เป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์...มั่วคาวโลกีย์

    แล้วที่เราทำไปนั้น...จะได้บุญอีกหรือ !!!!

    ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท...พิจารณา
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** การกระทำ ****

    การกระทำไหน...ส่งผลให้เป็นทุกข์ ทั้งผู้อื่น หรือตนเอง
    ผลการกระทำนั้น....ย่อมส่งผลตอบแทน ที่เป็นทุกข์ต่อผู้กระทำ อย่างแน่นอน

    เป็นไปตาม... "หลักสัจจะธรรม"
    ....... การกระทำมีจริง ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน .......

    แล้ว เราจะทำในสิ่งที่เบียดเบียนผู้อื่นให้เป็นทุกข์ อีกทำไม ???

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** นิพพาน ****

    นิพพาน...คือ สิ่งไม่ตาย ไม่สูญสลาย คงอยู่ตลอดไป
    ในโลก ในจักรวาล...สิ่งที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย และคงอยู่ตลอดไป....คือ "ตัวกระทำ"

    "ตัวกระทำ" คือ ผลการกระทำจากสัจจะ จากสัญญาใจตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร"
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ทำดี ****

    คน ๒ คน...ตั้งใจทำดีเหมือนกัน
    มีเจตนาทำดี... เหมือนกัน
    แต่ผลการกระทำ....ไม่เหมือนกัน

    คนหนึ่ง...มีผลการกระทำแบบ "ตามใจ"
    คือ ทำบ้าง ลืมตัวบ้าง นึกได้ก็ทำ เผลอตัวหลายครั้ง ขี้เกียจก็ไม่ทำ อยากทำจึงทำ
    ผลการกระทำ ในแต่ละวินาทีที่ผ่านไป...จึงไม่เที่ยง
    ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง...สลับกันไป

    อีกคนหนึ่ง... มีผลการกระทำด้วย "สัจจะ"
    คือ ตั้งใจทำดีในสิ่งหนึ่งที่เป็นไปได้จริง ในเวลาที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน
    ผลการกระทำ ที่ผ่านไปแต่ละวินาที....จึงเต็มไปด้วยความตั้งใจจริง ควบคุมอย่างจริงจัง
    ผลการกระทำที่ได้... จึงสามารถทำได้จริงตามตั้งใจ.... เกิดเป็น "กรรมเที่ยง"

    สองคน...ผลการกระทำต่างกันโดยสิ้นเชิง
    - คนหนึ่ง....ผลการกระทำไม่เที่ยง....กรรมจึงไม่เที่ยง...
    ชีวิตอนาคต จึงต้องพบทุกข์ๆ สุขๆ สลับไปเรื่อย ไม่รู้จบ
    - อีกคนหนึ่ง...ผลการกระทำเที่ยงด้วย "สัจจะ"...กรรมจึงเที่ยง
    ชีวิตต่อไป...จึงค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อย ... เพราะ นิสัยจะค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
    อนาคตชีวิต ก็จะมีความสุขมากกว่าความทุกข์
    เพราะ เขาจะควบคุมตนเองให้กระทำความดีอย่างจริงจัง ด้วย "สัจจะ"


    ขอเชิญทุกท่านมีส่วนร่วมใน
    .......โครงการ "สัจจะทำดีวันละข้อ ถวายพ่อหลวง".......

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    คนไทยผจญทุกขภาวะ สารพัดโรครุมเร้า อีสานหอยแครงทำพิษ

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 ตุลาคม 2550 15:52 น.


    ถอดรหัส “ทุกขภาวะ” คนไทย ถูกโรคร้ายรุมสกรัม ภาคใต้อ่วมมาลาเรีย อีสานหอยแครงทำเหตุ กินสุกๆ ดิบๆ อหิวาต์ถามหา แนะลวก 10 นาที ปลอดภัย ห่วงฟาสต์ฟูดระบาด แถมหนี้พุ่ง เครียดหนัก ส่วนเหนือสุดรันทด คนแก่เต็มเมือง แบกภาระเลี้ยงเด็ก ดูแลผู้ป่วยเอดส์ ภาคกลางแสนช้ำโรงงานก่อพิษมะเร็ง สสส.จับมือภาคี 4 ภาค แก้ทุกข์เปิดงานสร้างสุข 4 ภาค เสนอปกเขียวพรรคการเมืองคลอดนโยบายรูปธรรม

    วันนี้ (25 ต.ค.) ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนา “ถอดรหัส ทุกขภาวะคนไทยปี 2550” เพื่อนำไปสู่การจัดงานสร้างสุข 4 ภาค แก้ปัญหาทุกขภาวะต่างๆ โดย นายสุพจน์ สงวนกิตติพันธุ์ ประธานสถาบันประชาคมภูเก็ต กล่าวว่า ข้อมูลทีมวิชาการงานสร้างสุขปี 2550 พบว่า ในภาคใต้ขณะนี้โรคมาลาเรียที่เคยระบาดเมื่อ 10 ปีก่อน กลับมาอีกครั้ง และน่าห่วง โดย 2 ปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปี 2550 พบมากถึง 2,000 ราย เมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตพบ 75 ราย สงขลา 1,000 ราย หน่วยงานที่รับผิดชอบต่างเห็นว่า โรคนี้ไม่ใช่ปัญหาของพื้นที่ภาคใต้ ทำให้การจัดงบประมาณเพื่อป้องกันน้อยลง ทั้งการแจกมุ้ง อุปกรณ์กันยุง หรือให้ความรู้ประชาชนเพื่อป้องกัน ทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น ขณะที่บุคลากรของสถานีอนามัย 253 แห่ง ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้มีแนวโน้มลดลง

    “ในโรงพยาบาล 3 จังหวัดชายแดนใต้ การให้บริการก็ลดลง การตรวจโรคลดลง 25% ทันตกรรมลดลง 50% ที่น่าตกใจ คือ การให้ข้อมูลการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค ลดลงถึง 70% กิจกรรมเยี่ยมบ้านลดลง 60% ปัจจัยสำคัญเชื่อว่ามาจากปัญหาความไม่สงบ สถานีอนามัยเองตกเป็นเป้าการโจมตี มีอนามัย 4 แห่ง ถูกเผาและปิดทำการอยู่ขณะนี้ ผลสำรวจสะท้อน ว่า ความรุนแรงในพื้นที่ ทำให้โรคภัยไข้เจ็บยิ่งเพิ่มและรุนแรงมากขึ้น บางพื้นที่เจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานไม่ได้ หากยังเป็นเช่นนี้ อนาคตอันใกล้ ประชาชนจำนวนมากอาจตายรายวันจากโรคร้าย ไม่ต่างจากการตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในพื้นที่” นายสุพจน์ กล่าว

    นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด และหอบหืด จนต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น มีแนวโน้มป่วยเรื้อรังสูง แต่ที่น่าห่วง คือ ปัญหาความเครียดที่เพิ่มขึ้น เครียดจากภาวะไม่ปลอดภัย โดยเรื่องนี้กระทบขวัญกำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ อาทิ รู้สึกไม่ปลอดภัย ห่วงบุคคลในครอบครัว และกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน คือ ไม่กล้าออกไปปฏิบัติศาสนกิจ และไม่กล้าออกไปไหนในเวลากลางคืน

    ด้านนพ.ไพบูลย์ อัศวธนบดี รองประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ งานสร้างสุขภาคอีสาน กล่าวว่า ขณะนี้เกิดการระบาดของโรคอหิวาตกโรคในภาคอีสาน ในช่วงเดือน ก.ค.- ต.ค.พบผู้ป่วยกว่า 200 ราย ที่ขอนแก่น 200 ราย มหาสารคาม 22 ราย พบเชื้อชนิดเดียวกัน คือ Vibrio Cholera ogawa ที่เป็นเชื้อค่อนข้างรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 1 คน แต่เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่แล้ว ส่วนใหญ่รักษาหาย เมื่อตรวจสอบสาเหตุที่มีการแพร่ระบาด เนื่องมากจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนอีสาน โดยเฉพาะการทานส้มตำของคนอีสาน ที่เรียกว่า ตำป่า ตำซั่ว หรือตำสารพัด ผสมกับอาหารกึ่งสุกและดิบ การสอบประวัติและสุ่มตัวอย่าง เชื้อน่าจะมาจากหอยแครง ที่มาจากสมุทรสาคร และสุราษฎร์ธานี ซึ่งชาวอีสานชอบทานหอยแครงลวกและยำหอยแครง ที่เชื้อโรคยังไม่ตาย ซึ่งการรับประทานหอยแครงที่ปลอดภัยควรจะลวกอย่างน้อย 10 นาที อีกทั้งปัญหาโลกร้อน ก็เป็นปัจจัยเสริมให้เกิดโรค เพราะอุณหภูมิเพิ่มขึ้นทำให้การแตกตัวของเชื้อโรคมากขึ้น นำไปสู่การระบาดของโรคนี้ได้

    นพ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนโรคไม่ติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง คือ เบาหวาน หัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง จังหวัดที่ติดอันดับมีผู้ป่วยโรคเบาหวานมากที่สุด 3 อันดับ คือ 1.นครราชสีมา 2. บุรีรัมย์ 3.สุรินทร์ ซึ่งเกี่ยวกับการทานอาหารฟาสต์ฟูดของคนอีสาน ที่ทานมากขึ้น 33% โดยทานมากวันเสาร์-อาทิตย์ พฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกเรื่องคือ คนอีสานยังคงเป็นแชมป์ดื่มเหล้า มากถึง 43% สูงกว่าภาพรวมประเทศซึ่งอยู่ที่ 38.33% การสูบบุหรี่ก็เช่นกันคนอีสานสูบ 19.49% ขณะที่ภาพรวมประเทศ คือ 17.24% ทั้งยังพบปัญหาผลพวงจากนโยบายพัฒนาที่ผิดทาง กระตุ้นคนอีสานใช้เงินมากจนเป็นหนี้สิน ส่งผลให้ปัจจุบันคนอีสานมีปัญหาเรื่องโรคเครียดสูงมีความวิตกกังวลถึง 22%

    ขณะที่ นายสุวิทย์ สมบัติ เลขานุการคณะกรรมการอำนวยการงานสร้างสุข กล่าวว่า ข้อมูลที่น่าตกใจ คือ หลายจังหวัดในภาคเหนือกำลังกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคนชราโดยเป็นภาคที่มีคนชราสูงอันดับ 1 ของประเทศ ประมาณ 13.7% ขณะที่ค่าเฉลี่ยของประเทศคือ 10.8% โดย 3 จังหวัดที่มีผู้สูงอายุมาก คือ 1.ลำพูน 2.เชียงใหม่ 3.ลำปาง เป็นผู้สูงอายุที่ต้องยู่คนเดียว 8.8% จากตัวเลขนี้ทำนายได้ว่าอีก 15-20 ปี จะมีผู้สูงอายุมากกว่าวัยเด็กและวัยทำงาน เรื่องนี้เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมผู้สูงอายุรวดเร็ว ทำให้อัตราภาระพึ่งพิงสูงขึ้น ต้องเผชิญปัญหาทางสุขภาพกายและใจที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเช่นกัน

    “ที่สำคัญคือ ผู้สูงอายุในภาคเหนือ ไม่ได้อยู่อย่างมีความสุข เนื่องมาจากปัญาโรคภัยไข้เจ็บ ภาระการเลี้ยงดูผู้ติดเชื้อ และลูกหลาน บางรายอายุ 70 ปี มีโรคประจำตัวรุมเร้า แต่ก็ต้องดูแลลูก หลานที่ป่วยด้วยโรคเอดส์ แม้ว่า ผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ในภาคเหนือมีแนวโน้มลดลง แต่ยังสูงอันดับหนึ่งของประเทศ จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือเชียงราย 1,260 ราย เป็นผู้ติดเชื้ออายุมากกว่า 50 ปี 795 คน ตามด้วยเชียงใหม่ 880 ราย ซึ่งปัญหาผู้สูงอายุถือเป็นระเบิดเวลาที่ระเบอดได้ทุกเมื่อ เป็นภาระให้ผู้บริหารท้องถิ่นต้องดูแลโดยรัฐพยายามสร้างสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้” นายสุวิทย์ กล่าว

    นายสุวิทย์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สถิติการฆ่าตัวตายลดลง แต่ก็สูงกว่าภาคอื่น สาเหตุหนึ่งมาจาก ความวิตกด้านสุขภาพ โดยเฉพาะโรคเอดส์ โรคซึมเศร้า ติดสารเสพติด การหย่าร้าง ขาดความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งมีการหย่ามากขึ้น ส่วนการเจ็บป่วยจากสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ยังสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ

    นางรัตนา สมบูรณ์วิทย์ ประธานจัดงานงานสร้างสุข ภาคกลาง กล่าวว่า การมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ทำให้ประชาชนต้องทนช้ำกับการพัฒนาอุตสาหกรม มีโรคต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะโรคมะเร็งซึ่งภาคกลางมีผู้ป่วยโรคมะเร็งสูงกว่าทุกภาค พบในเพศหญิงสูงกว่าเพศชาย ผลการศึกษาของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าประชากร 513,408 คน โดยเฉพาะเขตเมืองที่ระยองเป็นมะเร็งสูงถึง 182.45 ต่อแสนประชากร รองลงมาคืออำเภอแกลง 112.8 ต่อแสนประชากร อำเภอบ้านค่าย 109.2 ต่อแสนประชากร และอำเภอวังจันทร์ 64.15 ต่อแสนประชากร เมื่อจำแนกเป็นรายประเภท พบว่ามะเร็งปอดมากที่สุด รองลงมาคือมะเร็งตับ และมะเร็งหลอดอาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลพ่วงมาจากความเจริญทางอุตสาหกรรม และแม้ว่าจะมีการใช้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ มาตรา 10 เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบจากอุตสาหกรรม ก็ยังไม่รับการแก้ปัญหาใดๆ

    ด้านนพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานจัดงานวิชาการสร้างสุข 4 ภาค กล่าวว่า การสร้างเสริมสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาชีวิตไม่ให้ตายก่อนวัยอันควร มีอายุยืนยาว แต่ภาคใดจะมีสุขภาพดีกว่ากันคงเปรียบเทียบได้ยาก รายงานทุกขภาวะของ 4 ภาค เป็นส่วนหนึ่งจากงานสร้างสุข 4 ภาค ที่ สสส.ร่วมกับภาคีจัดขึ้นเป็นปีที่ 5 โดยรวบรวมทุกข์คนไทยรายภาค และทางออกสู่สุขในชื่อ “สุขภาวะยั่งยืน ด้วยวิถีชีวิตพอเพียง” แต่สำคัญที่สุดคือ ความร่วมมือระดับนโยบายท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ที่เห็นปัญหาและแปรทิศทางการบริหารนโยบายด้านสุขภาพตรงจุดมากขึ้น ซึ่งแต่ละภูมิภาคจะจัดทำสมุดปกเขียวเพื่อสังคมสุขภาวะ สรุปสถานการณ์ปัญหาสุขภาพ ข้อเสนอเชิงนโยบายที่เป็นรูปธรรม เสนอต่อพรรคการเมืองช่วงเลือกตั้งนี้ สำหรับงานสร้างสุข 4 ภาค จัดขึ้นที่ภาคใต้ จ.ภูเก็ต 2-4 พ.ย.ภาคเหนือ จ.แพร่ 10-11 พ.ย. ภาคอีสาน จ.มหาสารคาม 16-18 พ.ย.ภาคกลาง จ.สุพรรณบุรี 10-12 ม.ค.
     
  20. somsannannom

    somsannannom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ได้สิครับ .... มากน้อยคุณกำหนดเอง
    เช้าตรู่ ผมตื่นแต่เช้า อาบน้ำทำตัวทำใจให้สะอาด
    ไปที่หน้าตลาด ซื้ออาหาร น้ำ ขนมอะไรก็แล้วแต่ตามที่ญาติผู้ล่วงลับชอบ
    เมื่อพระท่านมา ก็ตั่งจิตมั่นในการทำบุญใส่บาตรเพื่อคงไว้ซึ่งศาสนาพุทธ
    เวลาใส่ก็บาตรพระก็ใส่ด้วยจิตที่มุ่งมั่นในจิตอันเป็นกุศล
    พระท่านให้พร หรืออาจจะไม่ได้ให้ แต่ที่รู้ๆใจตอนนี้อิ่มเอมจากการกระทำที่จิตคิดในทางดี ความคิดก็มองโลกในแง่ดี แค่นี้ก็ถือว่าเป็นบุญโขแล้วครับ
    สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
    มิได้คิดคัดคาน แต่ไม่อยากให้คนใส่บาตรมีความคิดในทางลบ
    เดี๋ยวจะหันไปไหว้เจ้ากันหมด เคยได้ยินป่าวครับ
    "ทำบุญสูญปล่าว ไหว้เจ้าดีกว่า กลับมาได้กิน"
     

แชร์หน้านี้

Loading...