"จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว..."

อ้อ กระทู้อย่าเข้าอ่านไม่ขยับรึไง
ก็ล็อคอย่างกะกลัวใครเข้ามาด่า

เผอิญกระทู้นี้ ก็ไม่มีใครเชื่อข่าวโง่ๆ พวกนี้ซะด้วย
อ้ายอี พวกตอแหล จอมบิดเบือนบีบน้ำตา ใกล้รับกรรมละ
คุณก็เอาตัวให้รอดนะ
จะกลายเป็นว่า คนไกลไม่ต้องมาละเดี๋ยวจะตามไปอยู่ด้วย
ไม่ใช่แค่ชาตินี้ แต่คงได้อีกหลายชาติ หรือคงได้อยู่ร่วมกันตลอดไป..

พวกลาวาแดง มาทั้งบกน้ำอากาศ แล้วไง
เอาเงินแล้วหายจ้อยทิ้งขยะไว้ดูต่างหน้า เหลือแต่พวกรับจ้างโดยตรงก็หวังเงินกันต่อไป หลอกกันไปหลอกกันมา...

 

ถึงจะถูกพวกแดงถ่อย ปาระเบิดใส่เป็นว่าเล่น
แต่ศาลก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป
พวกมันจะรับศาลรธน.หรือไม่ จะทำตัวเหนือกฏหมาย ก็ดูว่าจะไปได้อีกกี่น้ำ

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ชะตา เลือกตั้ง 2 ก.พ. โมฆะหรือไม่ 21 มี.ค. นี้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
วันนี้ (19 มีนาคม 2557) ศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายกรัฐมนตรี หรือผู้แทน เข้าชี้แจงตามคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้วินิจฉัยว่า การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และในช่วงบ่ายต้องรอลุ้นกันว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยปมเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะภายในวันนี้เลยหรือไม่
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ตัดสินใจนัดลงมติและอ่านคำแถลงในวันที่ 21 มีนาคมนี้ เวลา 11.00 น.

����Ѱ�����٭ �Ѵ����е� ���͡���� 2 �.�. ����������� 21 ��.�. ���



เถื่อนไม่เคารพกติกา เพื่อไทยต้านศาลสั่งเลือกตั้งโมฆะ! | ไทยโพสต์
| ไทยโพสต์
http://www.thaipost.net/news/190314/87717

 

วันศุกร์ที่เป็นสุข...
ผลจากคดีนี้ ทำให้เห็นผลอีกหลายๆคดีที่จะตามมา
และน่าจะมีคดี ฟ้องค่าเสียหายในการเลือกตั้งสามพันกว่าล้านด้วย

มติศาลรธน. 6 ต่อ 3 เลือกตั้งโมฆะ
เหตุ 28 เขตไม่ได้ใช้สิทธิวันเดียวกัน ขัด รธน.

โฆษกศาลรธน. เผย ผลวินิจฉัยเลือกตั้งโมฆะ 6:3 เหตุ 28 เขตไม่ได้เลือกวันเดียวกัน

วันนี้ (21มี.ค.) นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงศ์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่าศาลรัฐธรรมนุญมีมติวินิจฉัยว่ามติ 6:3 สรุปให้เลือกตั้ง 2 ก.พ.ไม่ชอบจากเหตุเลือกตั้งไม่มี 28 เขต.ซึ่งต้องเลือกตั้งภายหลังทำให้เลือกตั้งไม่เป็นวันเดียวกันขัดรธน.ม. 108

�������Ѱ�����٭ 6 ��� 3 ���͡�������� �˵� 28 ࢵ����������Է���ѹ����ǡѹ �Ѵ ø�. - Politics - Manager Online

 

แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน

ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น!!!
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

ความระทมจะถมทับนับเทวษ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤตด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพฯ....

..
เคยมีคนบอกว่า ถ้ายิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ น้ำจะท่วม
ตอนนั้นยังฮากัน เพราะคิดว่าสายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ จะมีนัยยะลึกซึ้งกว่านั้น
ตอนนี้ พระภิกษุผู้ใหญ่ละสังขารกันมาก
และไม่แน่ ฟ้าฝนฤดูร้อนนี้ อาจจะมีความหมายตรงๆก็ได้ รอดูอีกที

 

ยังไร้เงา"ยิ่งลักษณ์-ทนาย"เข้าแจง ป.ป.ช.

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี หรือทนายความส่วนตัว ว่าจะเดินทางไปชี้แจงเอง หรือส่งเอกสารไปชี้แจง แต่หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะให้ทนายความเข้ามาส่งเอกสาร ก็สามารถทำได้ แต่ไม่สามารถให้ทนายความเข้าชี้แจงแทนได้ โดย ป.ป.ช.จะให้ช่วงเวลาราชการยื่นชี้แจงได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งสถานที่นัดหมายยังเป็นที่สนามบินน้ำ
ขณะที่สื่อมวลชนจำนวนมากรอติดตามความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างใกล้ชิด ทั้งที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และที่ ป.ป.ช.
�ѧ�����������ѡɳ�-��������ᨧ �.�.�. - Manager Online


ยิ่งลักษณ์ถึงปปช.เข้าชี้แจงทุจริตจำนำข้าวแล้ว
"ยิ่งลักษณ์"หน้าเครียดเดินทางเข้าชี้แจงคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวต่อ ป.ป.ช. แล้ว ทนายความขนเอกสาร 3 ลังยื่นประกอบ

เมื่อวันที่ 31 มี.ค.เวลาประมาณ 14.20 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ย่านสนามบินน้ำ เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว.....ท่ามกลางสื่อมวลชนที่เดินทางมารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก
โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และเดินเข้าไปภายในอาคาร ป.ป.ช.ทันทีที่เดินทางมาถึงขณะที่ ทีมทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เตรียมเอกสารจำนวน3 ลังเพื่อประกอบการชี้แจงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ใช้เวลาในการชี้แจงข้อกล่าวหาประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ก่อนหน้านี้ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ได้เตรียมห้องรับรองให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในกรณีที่เดินทางมาชี้แจงข้อกล่าวหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งหลังจากการชี้แจงแล้ว ป.ป.ช.จะนำคำชี้แจงต่างๆเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/QxxQMB

http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87/286713/%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%8A-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7

 

เจตนาชั่ว ใช้ ม.7 ดึงเบื้องสูงชนศาล รธน.

เมื่อปี 2549 นช.ทักษิณ ชินวัตร และเหล่าบริวาร เคยล้อเลียนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็น “มาร์ค ม.7” กรณีที่นายอภิสิทธิ์สนับสนุนให้ใช้ช่องทางตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ ในการหาทางออกให้บ้านเมือง โดยเยาะเย้ยนายอภิสิทธิ์ว่าต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องชนะการเลือกตั้ง พร้อมกับโจมตีการใช้มาตรา 7 ว่า เป็นวิธีการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุดผู้รับใช้ระบอบทักษิณจนได้รับปูนบำเหน็จให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงท่าทีว่าจะใช้มาตรา 7 เสียเอง หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยสถานภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาไว้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557 แล้วว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย พร้อมกับสั่งให้คืนตำแหน่งเลขาธิการ สมช.แก่นายถวิลภายใน 45 วัน

เหมือนนายชัยเกษมจะรู้ชะตากรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงให้สัมภาษณ์นักข่าวไว้ล่วงหน้าว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีพ้นสภาพและคณะรัฐมนตรีถูกถอดถอน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 180 และศาลฯ ไม่ให้รัฐบาลอยู่รักษาการ ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง นายชัยเกษมจะเสนอทางออกให้รัฐบาล โดยใช้มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย เพราะรัฐบาลไม่มีทางออกแล้ว

เมื่อถูกถามว่า กระทำดังกล่าวจะถือว่าเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่ นายชัยเกษมอ้างว่า การใช้มาตรา 7 เป็นการใช้เฉพาะกรณีที่จำเป็นจริงๆ และเห็นว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัยที่เกินรัฐธรรมนูญ ก็มีความจำเป็น

การแสดงท่าทีว่าจะใช้มาตรา 7 ของนายชัยเกษม สะท้อนว่า ระบอบทักษิณกำลังอยู่ในภาวะจนตรอก จึงยอมเลียน้ำลายที่ตนเองถ่มถุยลงพื้นกลับมากลืนลงคอใหม่ นั่นเพราะนอกจากเคยเยาะเย้ยถากถางนายอภิสิทธิ์ว่าเป็น “มาร์ค ม.7” ตั้งแต่ปี 2549 แล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เครือข่ายระบอบทักษิณและบริวารเพิ่งจะเรียงหน้ากันออกมาโจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ที่ประกาศว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์สิ้นสภาพความเป็นรัฐมนตรี พวกตนก็จะอ้างความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของมวลมหาประชาชนเสนอทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ

แต่แล้ว เพียงไม่กี่วันผ่านไป เครือข่ายบริวารของ นช.ทักษิณ ก็ประกาศจะช่วงชิงโอกาสใช้มาตรา 7 เสียเอง โดยแนวทางนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากนายโภคิน พลกุล หนึ่งในทีมนิติบริกรของ นช.ทักษิณด้วย

หลังจากนายชัยเกษมประกาศท่าทีดังกล่าวออกไป จึงถูกรุมยำเละ ทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์และ กปปส.ว่า กลืนน้ำลาย จนตรอก โดยเฉพาะนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า การใช้มาตรา 7 ในการทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อขอพระราชวินิจฉัยแนวทางการแก้ปัญหานั้น เป็นการแสดงความเห็นที่ไม่สุจริตและต้องการดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง ทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพราะรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่ใครจะไปใช้มาตรา 7 เพื่อขอทูลเกล้าฯ พระราชทานความเห็นแต่อย่างใด เรื่องนี้ถือว่าพรรคเพื่อไทยคิดเกินขอบเขตที่จำเป็น เกินสิ่งที่ประชาชนจะรับได้ และขอให้นายชัยเกษมเลิกใช้ความรู้ทางกฎหมายรับใช้นักการเมืองแบบไม่ลืมหูลืมตา

นายชวนนท์บอกอีกว่า นายชัยเกษมพูดเพื่อข่มขู่คุกคามศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการอ้างมาตรา 7 เพื่อเอามันทางการเมืองและขู่ศาลรัฐธรรมนูญว่า หากตัดสินไม่เป็นคุณกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รัฐบาลจะดำเนินการเองทั้งที่ไม่สามารถทำได้ จึงขอให้เลิกกระทำการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทเพื่อหาทางออกทางการเมืองให้ตัวเองเพราะเป็นเรื่องที่ผิดทั้งสาระและหลักการ

ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่านายชัยเกษมเสนอให้ใช้มาตรา 7 เป็นการข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญล่วงหน้า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 214 ไม่ได้ทำเกินอำนาจอย่างที่มีการกล่าวหา อีกทั้งเมื่อตัดสินแล้วยังมีผลผูกพันทุกองค์กร จึงขอให้ทุกฝ่ายรอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ หากเห็นว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือมีการกลั่นแกล้งให้ใครได้รับความเสียหาย ก็ควรจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ แต่พฤติกรรมของนายชัยเกษมและรัฐบาลเป็นการหวงอำนาจหวังช่วยฝ่ายตัวเองเพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ในอำนาจต่อ

เมื่อโดนโจมตีหนักเข้า นายชัยเกษมจึงปรับท่าทีใหม่ โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ว่า ยังไม่มีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรา 7 เพราะช่องทางกฎหมายยังไม่มีและเป็นเรื่องนอกรัฐธรรมนูญ แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีพ้นสภาพก็ต้องดูว่า ครม.พ้นด้วยหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ให้บ้านเมืองเกิดสุญญากาศ และประเทศขาดรัฐบาลไม่ได้ นอกจากมีการปฏิวัติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 เมษายน ในแถลงการณ์ของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของรัฐบาล ตอนหนึ่งระบุชัดเจนว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 266 กรณีการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี และวินิจฉัยเกินเลยไปถึงขนาดว่าหากความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงแล้ว ครม.ทั้งคณะจะต้องพ้นจากตำแหน่งไปตามมาตรา 180 โดยจะอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่ไม่ได้ ครม.จะต้องแก้ไขปัญหามิให้เกิดสุญญากาศ

แถลงการณ์ ศอ.รส.อ้างว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเสียเอง ครม.ก็ชอบที่จะทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยว่า ครม.ต้องพ้นจากการอยู่ในตำแหน่งตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกินจากรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะ ครม.ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง การจะพ้นไปก็สมควรที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พ้นไป มิใช่ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ชี้ขาดเสียเอง โดยในระหว่างทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยนั้นให้กราบบังคมทูลด้วยว่า ครม.จะคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามมาตรา 181 การทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยเช่นนี้ ก็เพื่อให้เกิดข้อยุติอันจะนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้านเมือง โดยมิต้องเกิดการใช้กำลังของกลุ่มคน 2 กลุ่มเข้าก่อเหตุร้ายต่อกัน และป้องกันมิให้คณะรัฐมนตรีกระทำผิดตามมาตรา 181 ด้วย

นายชัยเกษมในฐานะรอง ผอ.ศอ.รส.กล่าวยืนยันว่าข้อเสนอการใช้มาตรา 7 มีวัตถุประสงค์นำเสนอขึ้นหากว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจนอกกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงจะพึ่งมาตรา 7 เพราะนี่คือแนวทางที่ทาง ศอ.รส.คิดว่าดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง
แถลงการณ์ของ ศอ.รส.และคำพูดตอกย้ำของนายชัยเกษม ทำให้เห็นว่า นช.ทักษิณกำลังกอดมาตรา 7 ไว้กับอกอย่างเหนียวแน่น เพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง โดยอ้างเหตุผลข้างๆ คูๆ ว่าเพื่อความสงบสุขและไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง

แต่เมื่อดูถึงเจตนาการใช้มาตรา 7 ของเครือข่ายระบอบทักษิณแล้วเป็นการใช้ที่ต่อหลักกฎหมาย และเป็นการระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาทเป็นอย่างยิ่ง

นั่นเพราะ นี่ไม่ใช่การใช้มาตรา 7 เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการใช้เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัยว่า ครม.จะคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ครม.พ้นสภาพไปแล้ว เท่ากับว่ารัฐบาลกำลังจะขอให้มีพระบรมราชวินิจฉัยที่ขัดแย้งกับศาลรัฐธรรมนูญ

นี่คือเจตนาอันชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง?

ਵ�Ҫ��� ��� �.7 �֧����ͧ�٧����� ø�. - Astv Weekend - Manager Online

 

“สนธิ” เชื่อ “ประยุทธ์” เมินทำรัฐประหาร เหตุลูกน้องไม่เอาด้วยและไม่มีสิทธิ์ตั้งนายกฯเอง เลยเลือกอยู่เฉยรอใช้เงินหลังเกษียณดีกว่า ฟันธงมาตรา 7 เหลว “ในหลวง” ทรงไม่เอาด้วยแน่ เพราะจะทำประเทศแบ่งเป็นสองพวกทันที พร้อมซัด “แม้ว” ผุดแผนอำมหิตดึงพระเจ้าอยู่หัวลงมายุ่งการเมือง

วันนี้ (18 เม.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โฟนอินเข้ารายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ทางเอเอสทีวี โดยกล่าวว่า เรื่องทหารทำรัฐประหาร อย่ามองแค่ชั้นเดียว ถ้าไม่จำเป็นตนไม่อยากให้พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เลย เขาคงอยากเกษียณไปแล้วได้ใช้เงินสบายๆ แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกเดียวที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการ ถ้ารัฐประหารได้แล้วแต่งตั้งคนเข้ามาเป็นนายกฯได้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำ เพียงแต่ว่าลูกน้องฟังเขาหรือเปล่า ลึกๆ อาจมี 2 เงื่อนไข คือ 1. ลูกน้องไม่เอาด้วยและกลัวถูกลูกน้องตลบหลัง 2. ถ้าทำรัฐประหารได้แต่ไม่มีสิทธิ์ตั้งคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีตามใจชอบ เขาก็ไม่เอา เลยเลือกอยู่เฉยๆ ดีกว่า หลังเกษียณจะได้บินไปเมืองนอกใช้เงิน ฉะนั้นอยากให้มองหลายๆ ชั้น

นายสนธิ กล่าวต่อว่า กรณีมาตรา 7 ไม่ต้องอธิบายด้านกฎหมายเลย ตนฟันธงว่าตัดทิ้งไปได้เลย เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เสนอขึ้นไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เอาด้วย เพราะถ้ารองประธานวุฒิสภาเป็นคนทูลเกล้าฯเสนอชื่อนายกฯ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯลงมา คนจะมองว่าพระองค์เข้าข้าง กปปส. เท่ากับประเทศไทยแบ่งเป็นสองพวกทันที พระองค์ท่านไม่ทำหรอก ขณะเดียวกันหากฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสนอขึ้นไป ยิ่งทำไม่ได้

เกมหลังสงกรานต์ดูให้ดีๆ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และอีกหลายคน ไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง จากนั้นใช้แผนดึงพระเจ้าอยู่หัวลงมายุ่งการเมือง มีการเดินหน้าขอนายกฯมาตรา 7 ศอ.รส. ก็บอกว่าถ้านายกฯพ้นสภาพจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็จะเสนอขอพระราชทานคำวินิจฉัยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แผนนี้อํามหิต เป็นการทำลายพระเจ้าอยู่หัวโดยตรง

�ʹ�Ԕ �Ѵ ����ǔ �شἹ����Ե����� �����ǧ� - ������ҵ�� 7 ���� - Politics - Manager Online

 

เมื่ออภิสิทธิ์จะถูกหลอกไปฆ่ากลางอากาศ

มีหลายท่านตั้งคำถามกับผมมามากว่าการที่คุณอภิสิทธิ์ ไปคุยกับ33พรรค ที่กกต. จะเป็นอย่างไร ผมตอบตามหลักยุทธศาสตร์การเมืองว่า โดยจะมีอดีตผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์(ผกค.)1ใน3คนที่ฝังตัวในปชป.เดินทางประกบไปด้ว...ย คือการ "ลากไปฆ่ากลางอากาศ"

หากผลออกมาว่าตกลงเลือกตั้งใน3-6เดือน ไม่ปฎิรูปก่อน มวลมหาประชาขนก็จะรุมยำ ต่อต้านอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ หากตกลงไม่ได้หมาหางด้วยก็จะเอาเทปที่อภิสิทธิ์โบ้ยไม่ร่วมว่าโจมตีไม่เป็นประชาธิไตย เขาจึงรีบให้ช่อง 11-9 ถ่ายทอดประจาน และจะมีพวกเดียวกันโจมตีซ้ำแล้วถามว่าไปทำไม สรุป งานนี้ไปก็เหมือนถูกหลอกไปฆ่า มีแต่เสียกับเสีย เป็นเกมส์ลบไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ที่สำคัญจะทำให้มวลมหาประชาชน หวาดระแวงอภิสิทธิ์-ปชป.มากขึ้น

หลักนี้เคยใช้ในการแบ่งแยกพธม. ในการตั้งพรรคการเมืองใหม่ เมื่อ 25 พฤษจิกายน 2552 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาแล้ว จนทำให้พธม.ต้องอ่อนกำลังจนถึงวันนี้ อันเป็นกลยุทธ์แบ่งแยกศัตรู และในปี53ในการเจรจาบนโต๊ะกับแกนนำเสื้อแดงกับอภิสิทธิ์ ผลออกมาก็เป็นลบ เช่นกัน เรื่องนี้มันจะเป็นเวรกรรมของพรรคและของคุณอภิสิทธิ์ เหมือนที่เคยเขียนไว้ในบความผ่านๆมาที่จะมีการหลอกไปฆ่าหรือไม่ นักเรียนอังกฤษต้องพิจารณาดูเอาเอง

" ทุกสงคราม ทุกการเมือง มิได้เอาชนะเด็ดขาดด้วยสรรพกำลัง แต่เอาชนะด้วยปัญญาทั้งสิ้น "

เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
21 เมษายน 2557

..

ที่ประชุมป.ป.ช. มีมติไม่ไต่สวนพยานคดีจำนำข้าวเพิ่ม 2 ปากตามทีมทนายยิ่งลักษณ์ร้องขอ ชี้มีข้อมูลครบถ้วนแล้ว คาดลงมติคดีต้นเดือนพ.ค.

นาย สรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติไม่ให้ไต่สวนพยานคดีจำนำข้าวตามที่ทีมทนายความนายกฯขอให้สอบเพิ่มเติม 2 ปากคือ นาย อำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. และนาย สมชัย สัจจพงศ์....... อ่านต่อได้ที่ : ปปช.จ่อลงมติคดี"ปู"โกงจำนำข้าวต้นเดือนพ.ค. - โพสต์ทูเดย์ ข่าวการเมือง

 

ใกล้ละ
ยิ่งลักษณ์และครม.จะไปเพราะคดีทุจริตจำนำข้าว หรือกรณีย้ายคุณถวิลดี...



“ส.ว.คำนูณ” ชี้เป็นไปตามคาด ศาล รธน.ขยายเวลา “ยิ่งลักษณ์” ยื่นแจงคดี “ถวิล” แต่เหนือคาดระบุออกไต่สวน 6 พ.ค.เพียง 4 ปาก เชื่อวินิจฉัย 7-9 พ.ค.มีสูงมาก เช่นเดียวกับ 2 ม็อบเตรียมพร้อมชุมนุมใหญ่

วันนี้ (23 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00น. เว็บไซต์เฟซบุ๊ก “คำนูณ สิทธิสมาน” ของนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ระบุถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติอนุญาตให้ขยายเวลา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ยื่นคำชี้แจงว่า เป็นไปตามคาด ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งขยายเวลายื่นคำชี้แจงให้นายกฯ ถึงวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม แต่เหนือที่คาดคือศาลฯ นัดออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนวันอังคารที่ 6 พฤษภาคม โดยกำหนดพยานเพียง 4 ปาก 1. คือนายกฯ 2. คือ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตเลขาฯ สมช. 3. คือนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ผู้ร้อง และ 4. คือนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาฯ สมช. แนวโน้มนัดแถลงความเห็นส่วนตัวและลงมติมีคำวินิจฉัยในวันพุธที่ 7 หรือภายในก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม ยังมีสูงมาก เป็นไปได้สูงเช่นกันที่การนัดชุมนุมใหญ่ของทั้งสองฝ่ายจะเป็นวันอังคารที่ 6 พฤษภาคม

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000045185

 

3 ขั้นตอนวันเผด็จศึก
5 พ.ค. 13 พ.ค. 14 พ.ค. 57
.... อ่านต่อได้ที่ : 3ขั้นตอนวันเผด็จศึก - โพสต์ทูเดย์ ข่าวการเมือง
3ขั้นตอนวันเผด็จศึก - โพสต์ทูเดย์ ข่าวการเมือง

 

ความสำคัญของวันฉัตรมงคล

วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"เนื่องจากยังมิได้ทรงผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย

ดังนั้นรัฐบาลไทยและ พสกนิกร จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พสกนิกรชาวไทยจึงได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันฉัตรมงคล เพื่อน้อมรำลึกถึงวันสำคัญนี้

ความเป็นมาของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

การจัดพระราชพิธีบรม ราชาภิเษกนั้น มีหลักฐานปรากฎในหลักศิลาจารึก วัดศรีชุมของพญาลิไทว่า เริ่มต้นมาตั้งแต่ครั้งพ่อขุนผาเมืองได้อภิเษกพ่อขุนบางกลางหาว หรือ พ่อขุนบางกลางท่าว ให้เป็นผู้ปกครองเมืองสุโขทัย

จากนั้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยพระมหากษัตริย์ที่ยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะไม่ใช้คำว่า "พระบาท" นำหน้า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และคำสั่งของพระองค์ก็ไม่เรียกว่า "พระบรมราชโองการ" และอีกประการหนึ่งคือ จะยังไม่มีการใช้ นพปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตร 9 ชั้น

ความเป็นมาของพระราชพิธีฉัตรมงคล

ก่อนหน้ารัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชพิธีฉัตรมงคลถือเป็นพิธีของเจ้าพนักงานในพระราชฐาน ที่มีหน้าที่รักษาเครื่องราชูปโภคและพระทวารประตูวัง ได้จัดการสมโภชสังเวยเครื่องราชูปโภคที่ตนรักษาทุกปีในเดือนหก และเป็นงานส่วนตัว ไม่ถือเป็นงานหลวง

จนกระทั่ง สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงกระทำพิธีฉัตรมงคลขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2393 โดยมีพระราชดำริว่า วันบรมราชาภิเษกเป็นมหามงคลสมัยที่ควรแก่การเฉลิมฉลองในประเทศที่มีพระเจ้าแผ่นดิน จึงถือให้วันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล และควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ แต่เนื่องจากเป็นธรรมเนียมใหม่ ยากต่อการเข้าใจ อีกทั้งเผอิญที่วันบรมราชาภิเษกไปตรงกับวันสมโภชเครื่องราชูปโภคที่มีแต่เดิม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงอธิบายว่า วันฉัตรมงคลเป็นวันสมโภชเครื่องราชูปโภค จึงไม่มีใครติดใจสงสัย

ดังนั้นจึงได้มีพระราชดำริจัดงานพระราชกุศลพระราชทานชื่อว่า "ฉัตรมงคล" นี้ขึ้น โดยได้มีการเฉลิมฉลองด้วยการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดเจริญพุทธมนต์ ในวันขึ้น 13 ค่ำเดือน 6 รุ่งขึ้นมีการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ด้วยเหตุนี้จึงถือว่าการเฉลิมฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคล เริ่มมีในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรก

ต่อมาในสมัยรัชกาล ที่ 5 วันบรมราชาภิเษกตรงกับเดือน 12 จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานฉัตรมงคลในเดือน 12 แต่ไม่ได้รับการยินยอม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงแก้ไขด้วยการออกพระราชบัญญัติว่าด้วยตราจุลจอมเกล้าสำหรับตระกูลขึ้น ให้มีพระราชทานตรานี้ตรงกับวันคล้ายบรมราชาภิเษก ท่านผู้หลักผู้ใหญ่จึงยินยอมให้เลื่อนงานฉัตรมงคลมาตรงกับวันบรมราชาภิเษก แต่ยังให้รักษาประเพณีสมโภชเครื่องราชูปโภคอยู่ตามเดิม รูปแบบงานวันฉัตรมงคลจึงเป็นเช่นนี้จนถึงปัจจุบัน

..
แล้วเจอกันวันเผด็จศึก
บัญชีวันเผด็จศึก ธีราภา พร้อมพันธ์
ธ.กรุงเทพ กระแสรายวัน 867-300-2758

 

พรุ่งนี้ เที่ยง ตัดสินคดีโยกย้ายคุณถวิลโดยมิชอบ..
..

ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนสถานภาพนายกฯ แต่งตั้ง “ถวิล” มิชอบ “ยิ่งลักษณ์” มาให้ปากคำด้วยตัวเอง ยัน แต่งตั้งตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีเจตนาช่วยเครือญาติ อ้างรัฐบาลชุดอื่นๆ ก็เคยทำแบบเดียวกัน ชี้ อำนาจนายกฯทำได้ ตร. คุมเข้ม รปภ. ส่งหน่วยอีโอดีตรวจระเบิด ล่าสุดศาลมีคำสั่งนัดตัดสินสถานภาพนายกฯ พรุ่งนี้เที่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (6 พ.ค.) เวลา 10.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการไต่สวนพยาน 4 ปาก ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม, พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมและอดีตเลขาธิการ สมช., นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. ในคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นสมาชิกวุฒิสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา182 วรรคหนึ่ง (7) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่ จากกรณีแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางมาให้ปากคำด้วยตัวเอง โดยจะมาถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญในเวลา 09.30 น. ขณะที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะถ่ายทอดสดในการไต่สวนพยานทั้ง 4 ปาก

ต่อมาเวลา 09.30 น. น.ส.ยิ่งลัษณ์ ได้เดินทางเข้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม(สป.กห.) จากนั้นเวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนายความ เดินทางออกจาก สป.กห. ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้แจงถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลัษณ์ สิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีการแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล โดยมิชอบ ซึ่งโดยหลังการชี้แจงเสร็จสิ้น นายกฯ จะกลับไปเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.)

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยังได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 5 กองร้อย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด (อีโอดี) มาดูแลรักษาความปลอดภัยรอบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันทีมรักษาความปลอดภัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมาตรวจสถานที่ไว้ล่วงหน้า บรรยากาศเป็นไปด้วยความปกติเรียบร้อย ยังไม่มีมวลชนกลุ่มใดเดินทางมาสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

โดย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสมช. กล่าวก่อนให้ถ้อยคำว่า วันนี้ตนมาในฐานะพยานไม่ได้มาต่อสู้ในคดีของตนเอง ซึ่งในข้อเท็จจริง ตนได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ไปแล้ว รวมทั้งยังให้คำชี้แ...จงต่อศาลปกครองจนมีคำพากษา ซึ่งคำพิพากษาดังกล่าวไม่สามารถก้าวล่วงได้ อย่างไรก็ตามการพิจารณาคำร้องดังกล่าวขึ้นอยู่กับคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าจะซักถามตนในประเด็นใดบ้าง ซึ่งอาจจะมีบางประเด็นที่อยู่นอกเหนือในสำนวนของศาลปกครองที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคำร้อง ตนก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ส่วนตัวแล้วไม่รู้สึกกังวลที่มาในฐานะพยานฝั่งผู้ร้องแม้ว่าผู้ถูกร้องจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม ซึ่งการชี้แจงของตนอาจจะเป็นข้อมูลที่ให้ประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายก็ได้


��� ø�.�Ѵ����е�������� ��ٔ ����§���觹�� ������� ����Ŕ �Ԫͺ ���ҵ���������ӹҨ�� - Politics - Manager Online

 

หนึ่งคดีผ่านไป ยังไม่สูญญากาศนะ
รอคดีทุจริตโกงจำนำข้าว(นี้น่าจะหนัก)

ถวิล เปลี่ยนศรี ชายผู้ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

วันนี้..

12.20น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเริ่มอ่านคำวินิจฉัย

12.35น. ศาล รธน. ชี้มีอำนาจในการวินิจฉัยคดีนี้ เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ยังถือว่าอยู่ในการปฎิบัติหน้าที่

13.00น. ศาลรธน. ชี้ "ยิ่งลักษณ์" มีส่วนร่วมย้ายถวิล โดยลงมติอนุมัติ และได้ร่วมประชุมกับ ครม.ด้วย

13.14น. ศาล รธน.ชี้โยกย้าย ถวิล มีความเร่งรีบ พิรุธอย่างโจ่งแจ้ง กระทำรวบรัดโดยปราศจากความจำเป็น ใช้หนังสือโยกย้ายเท็จ ปกปิดกระบวนการโยกย้าย มีเอกสาร-ภาพถ่ายระบุเท็จ

13.25น. การย้ายนายถวิลปรากฎชัดว่า เป็นการก้าวก่าย แทรกแซง แต่งตั้ง โยกย้าย เนื่องด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่า พล.ต.อ เพียวพันธ์ เป็นพี่ชายคุณหญิง พจมาน เป็นเครือญาติของ นางสาวยิ่งลักษณ์ เชื่อได้ว่า การกระทำครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ หรือประชาชน แต่เป็นการทำเพื่อพวกพ้อง เป็นการกระทำอันขาดคุณธรรม จริยธรรม

13.30น. ศาลรน. มีมตินายก ยิ่งลักษณ์ ก้าวก่ายแทรกแซงโยกย้ายถวิล มีผลให้ความเป็นนายกสิ้นสุดลงเฉพาะตัว

13.40น. มติศาลรธน. "ยิ่งลักษณ์" สิ้นสภาพนายกฯ เป็นความผิดเฉพาะตัว

13.45น. ศาลรธน. ชี้ ครม. ทุกคนที่ร่วมประชุม และลงมติโยกย้าย นายถวิล เป็นเหตุให้รัฐมนตรีสิ้นสุดลงไปด้วย ส่วน ครม.คนอื่นยังคงอยู่รักษาการจนกว่าจะมีครม.ใหม่

รายชื่อครม. 9 คนที่ต้องสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีไปด้วย สุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล ,เฉลิม อยู่บำรุง ,กิตติรัตน์ ณ ระนอง,ประชา, ยุทธศักดิ์, สันติ, อนุดิษฐ์, ศิริวัฒน์และ ปลอดประสพ สุรัสวดี

ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ยิ่งลักษณ์พ้นนายกรัฐมนตรี

 

คำนูณ คาดปปช.ตัดสินยิ่งลักษณ์ปมจำนำข้าวพรุ่งนี้

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว คำนูณ สิทธิสมาน ระบุว่า ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดีสำคัญเที่ยงวันนี้(7 พฤษภาคม) ขณะที่องค์คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีจำนำข้าว ก็มีมติในที่ประชุมแล้วเช่นกัน เหลือเหลือเพียงแค่การขอมติจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทั้งชุด (ปปช.) เท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ (8 พฤษภาคม) หรือไม่ก็สัปดาห์หน้า

http://www.ryt9.com/s/iqry/1891713



ป.ป.ช.ชี้มูลถอดถอน'ปู'สังเวยจำนำข้าว

ป.ป.ช. มีมติ 7 ต่อ 0 ชี้มูลถอดถอน 'ยิ่งลักษณ์' สังเวยปมจำนำข้าว ส่งไม้ต่อวุฒิสภาถอนถอนตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีต่อไป พร้อมเดินหน้าไต่สวนคดีอาญาต่อ

8 พ.ค. 57 เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ชุดใหญ่ โดยมีวาระที่องค์คณะไต่สวนกรณีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จะรายงานสรุปสำนวนข้อเท็จจริงให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาลงมติชี้มูล โดยใช้เวลาพิจารณานานกว่า 6 ชั่วโมง

ต่อมาเวลา 16.00 น. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยนายวิชา มหาคุณ และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยนายปานเทพ แถลงว่า สำหรับคดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับคำร้องถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องปฏิบัติหน้าที่มิชอบในโครงการรับจำนำข้าวมาจากประธานวุฒิสภา ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องร้องเรียนในคดีอาญาเข้ามาอีกด้วย จึงได้มีการแต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งชุดเป็นองค์คณะไต่สวน โดยองค์คณะไต่สวนเห็นว่า มีข้อมูลเพียงพอที่จะดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับการถอดถอนได้แล้วจึงรวบรวมผลส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาวันนี้ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่ามีมูลเพียงพอ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ให้ส่งเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อไป ส่วนการไต่สวนคดีอาญาโครงการจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงดำเนินการต่อไป

อ่านต่อ.. http://www.komchadluek.net/detail/20140508/184268.html

 

ตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่กลายเป็นที่จับตามองทันที หลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญได้ ในวันที่ 2 ถึง 10 พ.ค.นี้ ท่ามกลางความคลุมเครือในบ้านเมืองต่อสถานภาพของนายกรัฐมนตรีที่ต้องสิ้นสุดลงหรือไม่
หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินความผิดในคำร้องโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมิชอบ
เพราะตามรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ประธานวุฒิสภาคนใหม่ สามารถทูลเกล้าฯ ถวายชื่อนายกรัฐมนตรีได้ หากไม่มีประธานรัฐสภา จุดนี้เองกลายเป็นเกมช่วงชิง และจุดผันอำนาจการเมือง

มุมมองของนายตระกูล มีชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นว่ายังอีกไกล ถ้าจะให้ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายชื่อนายกรัฐมนตรีในสภาวะสุญญากาศ เพราะยังมีข้อถกเถียงกันทางกฎหมายว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ หลังบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดให้นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ผู้ที่จะมารับตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ไม่ว่าจะมาจากสายสรรหาหรือเลือกตั้ง ล้วนมีบทบาทสำคัญในการอำนาจคุมเกมในสภาอย่างปฏิเสธไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้มองว่าประธานวุฒิสภาคนใหม่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางทางการเมืองจากนี้ไป โดยเฉพาะช่วงหลังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีความชัดเจนในอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า
ล่าสุด ตัวเต็งที่ได้รับแรงสนับสนุนจากฝ่ายสรรหา คือนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ที่ถือว่ามีประสบการณ์ตรงด้านกฎหมายและมีลูกล่อลูกชน สามารถรับมือเกมป่วนของที่ประชุมวุฒิสภา ได้ดีคนหนึ่ง ดูจะมีลุ้นที่สุด หากเปรียบเทียบกับคะแนนที่มีอยู่ในมือเป็นกอบเป็นกำมากกว่านายจองชัย เที่ยงธรรม ส.ว.สุพรรณบุรี ที่เสนอตัวเป็นคนกลางเข้ามาเป็นกรรมการไกล่เกลี่ยระหว่าง ส.ว.เลือกตั้งและ ส.ว.สายสรรหา
นอกจากนั้นยังปรากฏชื่อของ พลตำรวจเอกจงรัก จุฑานนท์ ส.ว.สรรหา นายศรีเมือง เจริญศรี ส.ว.มหาสารคาม ที่ได้แรงสนับสนุนจากฟากฝั่งพรรคเพื่อไทย

http://www.thairath.co.th/content/419624


สัมภาษณ์สด นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา
เรื่องโดย Nation Channel
วันที่ 10 พฤษภาคม 2557 10:00 น.

ว่าที่ประธานวุฒิสภา เล็งนัดประชุม ส.ว. นอกรอบผ่านระบบIT เพื่อแก้วิกฤตชาติ ลั่นหลังโปรดเกล้าฯ จะนำสถาบันวุฒิสภาร่วมแก้วิกฤต พร้อมให้คำแนะนำฝ่ายบริหารแบบตรงไปตรงมา หวังยุติปัญหาบ้านเมือง
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ฐานะปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา กล่าวภายหลังได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่ ว่า ตนขอขอบคุณส.ว.ที่ให้ความไว้วางใจ และยืนยันว่าจะทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานวุฒิสภาภายหลังจากที่ได้รับโปรดเกล้าฯ อย่างเต็มกำลัง โดยจะทำหน้าที่เป็นประธานวุฒิสภาของสมาชิกทุกคนไม่แบ่งแยก และถือว่าสมาชิกแห่งวุฒิสภามีสถานะเท่าเทียมกัน พร้อมทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง อิสระ และเสรี ทั้งนี้ตนหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในการนำสถาบันวุฒิสภาเป็นเสาหลักของประเทศ โดยตนได้ตั้งปณิธานให้สถาบันวุฒิสภาเป็นสถาบันที่ฝ่ายบริหารให้การเคารพนับถือ และพร้อมให้คำแนะนำกับฝ่ายบริหารไม่ว่ามาจากพรรคการเมืองใดด้วยความตรงไปตรงมา และกล้าหาญ และพร้อมให้คำแนะนำก่อนเกิดปัญหาบ้านเมือง

“ผมไม่อาจอยู่เฉยให้ปัญหาลุกลามไปภายใต้การตัดสินใจของผู้นำมวลชน 2 ฝ่ายแล้วให้ประเทศชาติเป็นเดิมพัน จากนาทีนี้ไปทุกคนต้องช่วยหาทางออกให้กับประเทศและผมต้องรบกวนให้ ส.ว.เตรียมความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะเข้าร่วมการประชุมนอกรอบผ่านระบบไอทีเพื่อร่วมแก้วิกฤต และมีเป้าหมาย คือ การคืนความสุขกับประเทศไทย” นายสุรชัย กล่าว

ฟังสัมภาษณ์สด นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา
สัมภาษณ์สด นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา : เนชั่นแชนแนลสถานีข่าว 24 ชม.

 

เมื่อคืนฝนตกหนัก มวลชนกปปส.ที่ปักหลักพักค้างคืนตามฟรีทีวี ตามช่องต่างๆได้รับการเปิดอาคารต้อนรับกลางดึก ยกเว้นช่อง3 ของนายอสรพิษ โดยมวลมหาประชาชนจะกลับสวนลุมวันนี้ ก่อนเดินทางไปปักหลักที่หน้าทำเนียบในวันจันทร์ที่12 พ.ค.
ส่วนมวลชนเสื้อแดงที่ถนนอักษะได้รับพิษจากฟ้าฝนกระหน่ำเช่นกัน ที่ว่าจะชุมนุมยืดเยื้อไม่กลับบ้าน ทยอยกลับบ้านบางส่วนแล้ว

คนเสื้อแดง-นปช.ทยอยปักหลักถนนอักษะ-แกนนำเผยชุมนุมยาว1เดือน
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
เมื่อเวลา 12.11 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ ถนนอักษะ ซึ่งเป็นสถานที่นัดชุมนุมใหญ่ของ กลุ่ม นปช. ขณะนี้ มวลชนจากทั่วทุกพื้นที่ ได้ทยอย เข้าในพื้นที่ถนนอักษะแล้ว โดยในพื้นที่มีการติดตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมกับเต็นท์ที่พักอาศัยของมวลชนคนเสื้อแดง ที่บางคนทยอยมาปักหลักพักค้างคืนกันตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ส่วนบริเวณรอบพื้นที่ มีการประสานรถสุขาเคลื่อนที่ มาเพื่อให้ผู้ชุมนุมได้ใช้บริการ สำหรับการเปิดเวทีที่ถนนอักษะนั้น จะมีแนวร่วมขึ้นทำกิจกรรมบนเวทีก่อน
คนเสื้อแดง-นปช.ทยอยปักหลักถนนอักษะ-แกนนำเผยชุมนุมยาว1เดือน

ฝนเทถนนอักษะเสื้อแดงกระเจิง ....
"ณัฐวุฒิ"ขอฟรีทีวีถ่ายทอดสดแดงเหมือนกปปส.ขณะที่ฝนตกหนักผู้ชุมนุมแยกย้ายหาที่หลบบางส่วนทยอยกลับ....
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่เวทีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณถนนอักษะ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า เรียกร้องให้ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 5 7 9 เหล่านั้นถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มนปช.ควบคู่ไปกับ.......
....................................................
ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมล่าสุด เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ผู้ชุมนุมต่างกระจายแยกย้ายกันหาที่หลบฝน บางส่วนเดินต่างทยอยกลับ ส่งผลให้การชุมนุมบางตาลงทันที ด้านการจราจรรอบถนนอักษะติดขัดได้รับผลกระทบจากฝนที่กระหน่ำลงมา
อ่านต่อได้ที่ : ฝนเทถนนอักษะเสื้อแดงกระเจิง - โพสต์ทูเดย์ ข่าวการเมือง

 

ใครจำเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 35 ได้
คงจดจำวีรกรรมที่ได้รับการขนานนามว่า วีรบุรุษประชาธิปไตย ในตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนแรก คุณอาทิตย์ อุไรรัตน์ ได้อย่างไม่มีวันลืม
และคาดหวังว่า นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา จะเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย ในตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนที่สอง ด้วยการสรรหาและเสนอชื่อนายกคนดีที่จะได้ขี่ม้าขาวมาช่วยประเทศอีกครั้ง...


ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์
(9 พฤษภาคม พ.ศ. 2481-) อดีตประธานรัฐสภา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตรองหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม[1] ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต และเป็นกรรมการที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
...
ในปี พ.ศ. 2533 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ต่อจากนั้นในปี พ.ศ. 2535 จึงได้เข้ารับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรมที่มี ณรงค์ วงศ์วรรณ เป็นหัวหน้าพรรค[2] ซึ่งในช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรักษาการประธานรัฐสภา เมื่อปี พ.ศ. 2535 ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้น ดร.อาทิตย์ ได้รับฉายาว่า "วีรบุรุษประชาธิปไตย" ด้วยเป็นผู้นำชื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาการ ขึ้นทูลเกล้าฯ เป็น นายกรัฐมนตรี อีกสมัย แทนชื่อ พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ถือกันขณะนั้นว่าเป็นตัวแทนของฝ่ายคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) เพราะหากขึ้นดำรงตำแหน่ง อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายต่อเนื่องได้

อาทิตย์ อุไรรัตน์ - วิกิพีเดีย

 

20 พ.ค. ทหารประกาศกฎอัยการศึกล่ะ

ตอนไปชุมนุมหน้ารัฐสภาวันที่ 16 พ.ค.
ก็ได้ยินวงในว่าทหารจะออก 19 20 21 อยู่เหมือนกัน
และขอให้ทุกคนระวังตัวให้ดี เพราะไอ้หน้าเหลี่ยมมันคงไม่ยอมง่ายๆ

แวะไปก็อปมาจากน้องมินต์

 

ขบวนการตอแหล บิดเบือน ปลิ้นปล้อนกลับกลอก.. ยุแยง สังฆเภท.. ต่อสังคม
กำลังจะถูกสะสาง...
ใครยังคงโกหกตัวเองได้ เตรียมตัวไว้ให้ดี

 

ทหารเข้าคุมเข้มตามจุดสำคัญ ของจังหวัดต่างๆ...
เฝ้าระวัง แดง เขมร พม่า ที่จะมาช่วยแม้ว ...เต็มที่

ทหารคุมเข้มเชียงใหม่ ผู้นำท้องถิ่นเข้าประชุมในค่ายทหาร - Kapook - กระปุก
hilight.kapook.com/view/102412‎แคช
1 ชม.ก่อน ... ทหารคุมเข้มเชียงใหม่ ผู้นำท้องถิ่นเข้าประชุมในค่ายทหาร ... ผู้บัญชาการค่ายมลฑลที่ 33
เชียงใหม่ หรือค่ายกาวิละ ได้เชิญผู้นำท้องถิ่นของจังหวัดมาร่วมประชุมและชี้แจงกรณี ...
เชียงใหม่ ก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก และค่อนข้างแปลกใจที่ พล.

คุมเข้ม! กำลังทหารเริ่มเฝ้าระวังวิทยุชุมชนการเมืองเสื้อแดงลำปางแล้ว ...
- Local - Manager Online
1 วันก่อน ... คุมเข้ม! กำลังทหารเริ่มเฝ้าระวังวิทยุชุมชนการเมืองเสื้อแดงลำปางแล้ว ... ประจำจังหวัด
ลำปาง ได้ขอความร่วมมือทุกส่วนให้ปฏิบัติตามประกาศของ กอ.รส.

ทภ.2 คุมเข้มอีสานรับกฎอัยการศึก ตั้ง 8 ด่านตรวจถนนหลัก สกัดขนอาวุธเข้า ...
- Local - Manager Online
16 ชม.ก่อน ... ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทีมโฆษก ทภ.2 แถลงคุมเข้มรับกฎอัยการศึก ตั้ง “กอ.รส. ... พร้อมตั้ง
ด่านตรวจร่วมพลเรือน ทหาร ตำรวจ ถนนสายหลัก ประเดิม 8 จุด ถ. ... ประการที่สองมวลชนที่
มีความคิดเห็นแตกต่างกันจะมีการพบปะพูดคุยและขอร้องประสานกับแกนนำของมวลชนว่า ขอ
ให้อยู่นิ่ง ... สำหรับการดูแลตามสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด ...

ทหารพรึบทั่วประเทศ-คุมเข้มสถานีโทรทัศน์ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
www.thairath.co.th/content/423967‎แคช
22 ชม.ก่อน ... กำลังทหาร เข้าคุมพื้นที่สำคัญของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ... NBT จังหวัดเชียงใหม่
เจ้าหน้าที่ยังมาทำงานตามปกติ แต่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ...

ทหารตากคุมเข้มด่านชายแดนแม่สอด - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค
www.posttoday.com/กทม.../ทหารตากคุมเข้มด่านชายแดนแม่สอด
4 ชม.ก่อน ... แม่สอด จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ... ทหาร ไว้ตามจุด
ต่างๆ ตามช่องทางชายแดนเพื่อตรวจเข้มบุคคลที่มีการเข้าออกนอก ...

ทหารพิษณุโลกคุมเข้มสาธารณูปโภค - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค
www.posttoday.com/กทม.../ทหารพิษณุโลกคุมเข้มสาธารณูปโภค
1 ชม.ก่อน ... พิษณุโลก-ทหารส่งกำลังคุมเข้มสาธารณูปโภคและสถานที่สำคัญ ... บรรยากาศโดยทั่วไป
ประชาชนชาวพิษณุโลก ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ... แต่การดำเนินชีวิตของชาวพิษณุโลกและ
จังหวัดใกล้เคียงก็ยังคงเป็นปกติ ไม่ต่างจากสถานการณ์ก่อนหน้าที่ประกาศกฎอัยการศึก ...
ทั้งหมด, กรุงเทพฯ, กระบี่, กาญจนบุรี, กาฬสินธุ์, กำแพงเพชร, ขอนแก่น, จันทบุรี ...