มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของผีสางครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย LLL57, 8 กรกฎาคม 2015.

  1. LLL57

    LLL57 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    อยากที่ผมเคยศึกษามาในระดับหนึ่ง (ไม่รู้เพียงพอมั้ย) เห็นว่า 31 ภพภูมิ ไม่ได้กล่าวถึงภพภูมิของผีเหมือนอย่างที่คนมีประสบการณ์ทางวิญญาณมาเล่าสู่กันฟังเลยครับ

    มีคนเล่าถึงผีเปรตบ้าง ปอบบ้าง วิญญาณพยาบาทบ้าง

    ถามที่เคยอ่านมา เมื่อมนุษย์ตายลง จิตก็จะดับวูบแล้วจุติใหม่ไปยังภพภูมิต่อไปที่เหมาะสมต่อตนเอง จิตดีความดีมากก็ไปยังส่วนของสุคติภูมิ เป็นเทวดาบ้าง พรหมบ้างแล้วแต่บารมี จิตเสื่อมทรามก็ไปยังทุคติภูมิ เป็นเดรัจฉาน เปรต อสูรกาย สัตว์นรก แล้วแต่กำลังของกรรมชั่ว ทำดีมีศีลเป็นปกติ ก็เกิดใหม่เป็นมนุษย์

    ต่างภพต่างภูมิ ดูแล้วไม่น่าจะเกี่ยวโยงมายุ่งเรื่องของกันและกันได้มากมายนัก เพราะต่างดวงจิตก็มีกรรมวาระที่ต้องชดใช้เป็นปกติ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ผีหวงที่ งูเจ้าที่ อสูรตามอาฆาต หรือเจ้ากรรมนายเวร ต่างๆ นานา ทำไมเขาถึงมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์มากนักครับ

    อย่างผีเปรตที่ตามสภาพต้องได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ต้องมีเครื่องมือลงทัณฑ์ต่างๆ มีสภาพร่างกายพิลึกพิลั่น พิกลพิการ ไม่สามารถบำเพ็ญจิต หรือกุศลเพื่อให้พ้นจากความทุกข์ได้ ไม่นึกไม่ออกว่า จะมีอำนาจจิตมาคุกคามมนุษย์ที่มีกายหยาบได้ยังไง?

    หรืองูเจ้าที่ ที่ออกข่าวมาล่าสุด ที่สามารถบันดาลฝัน รู้ภาษามนุษย์ ล่วงรู้โชคชะตาของลูกในไข่ตนเอง? ถ้าเกิดเป็นเดรัจฉาน สติปัญญา น่าจะเหมือนอยู่ในหมอก ในฝน ไม่น่าจะกำลังสมาธิในจิตมากพอที่จะทำอภินิหารย์อะไรได้นี่ครับ?

    แล้วผีหวงที่ ผีหื่น ผีโลภ ผีแค้น อะไรมากมายที่คนมักจะเล่าสู่กันฟังมาเนืองๆ พวกเขาเหล่านี้ ไม่ต้องไปใช้กรรมที่ภพภูมิอื่นหรือครับ ทำไมมีกำลังจิตมากพอจะมาไล่คุกคามคน มาไล่ที่ หวงนู้น หวงนี่ได้ด้วยครับ ถ้าเป็นกุมาร พญานาค ผมยังพอนึกออกว่า อาจจะเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา ที่มีที่สิงสถิตย์เป็นวัตถุ หรือวิมานเป็นต้นไม้ แต่พวกผีนี่ เป็นอะไรแบบไหนครับ ท่านพญายมไม่มาตามลงนรกเหรอครับ? อยู่เป็นภัยกับคนเป็นอยู่เป็นเนืองๆ แบบนี้? แถมกำลังจิตก็แข็ง บันดาลโรคภัยให้คน บางตนถึงกับฆ่าให้ตายได้? ดูไม่สมทั้งเหตุผล ทั้งธรรมชาติ รวมถึงกฏแห่งกรรมตามที่ผมเข้าใจเลยครับ...

    ขอบคุณที่อ่านครับ หากท่านใดรบกวนแบ่งความรู้ให้ข้าพเจ้า จะเป็นกุศลเป็นอย่างยิ่ง ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองครับ
     
  2. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    สรุป ถามว่า หนึ่ง เปรตได้รับทุกขเวทนาแล้ว มามีอำนาจคุกคามคนได้ยังไง
    สอง งูเจ้าที่ เป็นสัตว์เดรัจฉานจะมีสมาธิและทำอิทธิฤทธิ์ได้ยังไง
    สาม ผีอยู่ภพไหน และมีกำลังอำนาจทำร้ายคนได้ยังไง

    ถ้าจะให้ตอบคำถามแล้ว คนตอบได้รับกุศล ก็คือตอบแล้วคนอ่านได้ทำกุศล หรือมีจิตกุศล

    ตอบแบบแรก เรื่องสามเรื่องท่าน จขกท ไม่ได้ประสบด้วยตนเอง เป็นการฟังและการอ่านตามสื่อต่างๆ เรื่องเล่านั้นจึงไม่ใช่ประสบการณ์ตรงของท่าน และไม่มีอะไรพิสูจน์จริงหรือเท็จ หมายความรวมถึงความรู้ตามพระไตรปิฎกด้วย ก็เป็นเรื่องเล่า ซึ่งท่าน จขกท ก็ไม่ได้ประสบด้วยตัวเอง

    ท่าทีที่ควร คือ อย่าเชื่อโดยไม่ไตร่ตรองไคร่ครวญ และพิจารณาเรื่องนั้นโดยแยบคาย วัตถุประสงค์ของเรื่องภพภูมิ คืออะไร นัยยะแรก สะท้อนระดับจิต สะท้อนกิเลส กรรม และวิบากกรรม ในปัจจุบันโดยไม่ต้องสัมผัสภพภูมิตามที่บุคคลในคำบอกเล่าประสบหรือบุคคลในท้องเรื่องพระไตรปิฎกกำหนด เมื่อทราบระดับจิต กิเลส กรรม และวิบากกรรม ก็จะทราบว่า ภพที่รูปและนามของคนเราอาศัยอยู่ อาศัยในภพใดด้วยตัณหาอุปาทานใด เห็นการเวียนว่ายตายเกิดของรูปและนามในหนึ่งวันว่าเวียนว่ายไปกี่ภพ เห็นภพต่างๆเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็ให้เกิดความหน่าย คลายความกำหนัด เบื่อหน่ายการเกิด

    แบบที่สอง ศึกษาวิธีที่มีการบอกว่า จะเห็นภพภูมิได้ ศึกษาฌาณ ปฏิบัติให้ถึงฌาณเพื่อตาทิพย์ หูทิพย์ ญาณหยั่งรู้อดีต อนาคต การจุติและอุบัติของสัตว์โลก อิทธิวิธีต่างๆ ซึ่งสุดท้ายต้องละทิ้งหรือหาวิธีต่อยอดเพื่อหลุดพ้นเท่านั้น

    เพื่อคลายความสงสัยในเบื้องต้น จะได้พิจารณาตามตอบแบบหนึ่ง และสอง ซึ่งไม่ควรเชื่อ ควรอ่านหูไว้หู

    เปรต ไม่ได้ตั้งใจให้ใครตกใจ แต่พยายามสื่อให้คนช่วยอุทิศกุศลผลบุญ ส่วนคนที่เข้าช่องสัมผัสได้กลัวไปเอง

    งู ทำไมจะมีอำนาจไม่ได้ คือสัตว์เดรัจฉานก็มีได้ ดูนกพระโพธิสัตว์ ยังอธิษฐานให้ไฟป่าหยุด ดับลงได้เลย อ่านชาดกหลายเรื่องดูนะครับ ส่วนที่เค้าเล่างูเจ้าที่ ไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่นะครับ

    ผี หรือโอปปาติกะที่อยู่ในภพใกล้โลกมนุษย์ ก็คล้ายคนที่สามารถทำร้ายกันได้ เค้าทำร้ายกันทางใจโดยผ่านทางรูปละเอียดหรือกายละเอียด ซึ่งโดยมากมีเวรมีกรรมต่อกัน จองเวรกัน ที่ไม่ไปภพภูมิอื่นเพราะกุศลและอกุศลไม่พอจะไปที่ภพอื่น แต่ไม่มีบุญเกิดเป็นคนอีก ส่วนใหญ่เป็นประเภทคนที่ตายโหง คือตายไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวแต่ติดโลกเดิมมาก จึงยังวนเวียนอยู่ อีกอย่างภพนอกจาก31ภพใหญ่ๆ ยังมีภพเล็กภพน้อยอีกมากนะครับ ซึ่งกระจายไประหว่างโลกมนุษย์กับจาตุมฯ เรื่องผีขออธิบายย่นย่อแค่นี้นะครับ เพราะมันมีหลายกรณีมาก
     
  3. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เท่าที่บรรยายมาดูเหมือนจะยังศึกษาไม่ถึงระดับหนึ่ง
    น่าจะประมาณระดับ 0.001
    ขอตอบคร่าว ๆ แล้วกัน จะเอาถึงเข้าใจก็พิมพ์ไม่ไหว

    1. เปรตมีเครื่องลงทัณฑ์ต่าง ๆ จริง แต่มีอิสระ ไม่ได้ได้อยู่ในนรก ไม่มีความจำเป็นจะต้องนอน ไม่แน่ว่าจะต้องกิน มหิทธิกาเปรตมีอำนาจจิตมหาศาล

    2. สัตว์เดรัจฉานไม่มีปัญญาจะได้มรรคผล แต่ฝึกสมถะได้

    3. ผีเป็นคำรวม ๆ เรียกทุกภูมิที่คนทั่วไปในยุคนี้มองไม่เห็น บางทีคนเหมือนกันถอดกายในออกมาก็โดนเหมาว่าเป็นผี ผีหวงที่ ผีหื่น ผีโลภ ผีแค้น เป็นอารมณ์ของผี ไม่ใช่ชนิดของผี

    4. คุณสับสนระหว่างยมฑูตกับนายนิรบาล
     
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เรื่องของชีวิตหลังความตายคงจะมีอะไรมากกว่าที่เราจะเข้าใจได้หมด คำถามของคุณจะเน้นไปที่จิตวิญญาณที่อยู่ตามภพภูมิต่างๆ มีอำนาจมาทำร้ายมนุษย์ได้อย่างไร รวมถึงเรื่ิองของความสมเหตุสมผลกับความรู้ที่เคยได้ฟังมา แต่ถ้าเราเชื่อว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ทำกรรมอะไรไว้ก็ได้ผลของกรรมนั้นจะไม่เป็นปัญหาเลย ถึงจะเกิดจากวิญญาณในภพภูมิไหนก่อให้เกิดเรื่องราวอะไรกับเราก็ไม่พ้นกฎแห่งกรรมหรอกครับ อย่างเช่นเราเบียดเบียนสัตว์เอาไว้มาก พอถึงเวลาที่เรารับกรรมเราอาจจะมีโรคมากแบบนี้ ปัจจัยหรือตัวแปรที่ทำให้เรามีโรคมากมันอาจจะมีมากมายนับไม่ถ้วน อย่างเช่นยีนของพ่อ แม่ วิธีการกิน อุบัติเหตุ และอะไรต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงเรื่องของวิญญาณที่คุณสงสัย แต่สุดท้ายมันส่งผลว่าเรามีโรคมาก กฎของกรรมมีวิธีการทำงานที่เที่ยงตรงอยู่แล้วครับ ลองมองว่ากรรมเป็นเหมือนพลังงานชนิดหนึ่งที่ส่งผลกับเรา ถ้ากรรมดีก็ส่งผลในเชิงบวก เบา สบาย ผ่อนคลาย กรรมชั่วก็ส่งผลตรงกันข้าม ถ้าพลังส่วนนี้หนาแน่นมากๆ มันก็จะส่งผลทางกายภาพ อย่างเจ้ากรรมนายเวรก็อาจจะเป็นพลังงานที่ส่งผลลบต่อเราเข้ามารวมกันอย่างหนาแน่นและส่งผลลัพธ์ทางกายภาพ จะเห็นว่าหลายคนใช้วิธีอุทิศบุญ เบิกบุญ กรวดน้ำ เป็นวิธีการต่างๆ ที้ทำให้พลังงานที่ส่งผลบวกมาหักล้างกันเท่านั้นเองผมมองแค่นี้ แต่ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียดส่วนลึกคงต้องศึกษาต่อไป
     
  5. LLL57

    LLL57 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณทุกคำตอบเพื่อเป็นธรรมทานครับ อย่างว่า ผมเองก็ศึกษาในระดับที่สามารถหาอ่านได้ง่ายๆ เพื่อดับความสงสัยของตัวเองนั่นแหละครับ แต่ที่อ่านจากที่ท่านตอบมากก็ทำให้เข้าใจมากขึ้นนะครับ เพราะส่วนอ้างอิงก็ได้จากแหล่งข้อมูลที่หาได้ง่าย ไม่ได้เกิดจากการลงมือปฏิบัติ ซึ่งถ้าจะให้ผมไปโยงกับโลกอื่นมากขึ้น ในตอนนี้ก็คงจะไม่ไหวเป็นแน่ ขอเอาเรื่องทางโลกให้จบๆ ไปก่อนแหละครับ เพราะงั้นความรู้ใหม่ที่ผมได้มาจากพวกท่าน คงจะขออ้างอิงไว้นั่นแหละครับ เพราะผมก็รู้สึกว่าไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องมาหลอกกัน แล้วก็ดูสมเหตุสมผลดีครับ

    อนึ่งสำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมขอรับไว้นะครับ เรื่องการปฏิบัติ สมาธิ พิจารณาธรรม ผมก็แค่เด็กน้อยเท่านั้นครับ เป็นคนที่ปล่อยตัวไปตามอารมณ์ และไหลไปตามกระแสต่างๆ บางครั้งก็เกิดอารมณ์อยากจะปฏิบัติสวดมนต์ภาวนา บางครั้งก็นึกกลัวขึ้นมาเฉยๆ อย่างไรก็ตามแต่ ขอขอบคุณเป็นอย่างมากครับ

    อนุโมทนาในธรรมทาน และขอบุญกุศลจงรักษา ทั้งผู้ที่อ่าน และผู้ที่เข้ามาตอบทุกท่านครับ
     
  6. Jsus Christ

    Jsus Christ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +82
    กรรม และ วิบากแห่งกรรม เป็นอจินไตย เหมือน แหที่ปูคลุมพื้นที่ 100 ไร่ ก็หาความเกี่ยวโยงของปมต้นเหตุไม่เจอแล้ว แต่ยังส่งผลถึงกันอยู่
    แล้วนี่ เกิดมาแล้ว กี่อสงไขยหละนี่ แหคลุมพื้นที่ขนาดเท่าไหร่แล้ว มีกี่ปม แล้ว ... นับหมด เหรอ

    พระพุทธเจ้า จึงไม่ให้สาวถึง สิ่งที่เป็นอจินไตย เพราะหาที่สิ้นสุดไม่ได้ และเปล่าประโยชน์ จึงให้อยู่กับปัจจุบันขณะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2015
  7. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
     
  8. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    โมทนาสาธุครับ
     
  9. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    สิ่งที่ จขกท.กล่าวมา มันก็อยู่ใน 31 ภูมินี่แหละครับ ถ้าจะพูดถึงผีที่มารังควาญ สร้างความเดือดร้อนให้มนุษย์ ผีพวกนี้จัดอยู่ในประเภทของอสุรกายทั้งหมด ซึ่งเราจะต้องไปศึกษาดูอีกทีว่าอสุรกายมีกี่แบบ ทั้งที่มีฤทธิ์และไม่มีฤทธิ์ แยกย่อยลงไปอีกเท่าไหร่

    อบายภูมิ 4 ประกอบไปด้วย นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน พวกเปรตนั้นมักไม่ค่อยสร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับมนุษย์ มีแต่จะมาขอส่วนบุญ ขอความช่วยเหลือทั้งนั้น แต่พวกอสุรกายนี่แหละที่ตัวดี บางตัวมีบุญอยู่บ้างจนทำให้ตนเองมีฤทธิ์ เก่งกล้าสามารถจนเล่นงานมนุษย์ได้ แต่อสุรกายที่นิสัยดีๆก็มี ที่ จขกท.พูดว่าผีหวงที่ ผีหื่น ผีโลภ ผีแค้น พวกนี้เป็นอสุรกายทั้งนั้น
     
  10. สรวงพิมาน

    สรวงพิมาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2017
    โพสต์:
    326
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +267
    การที่เราๆ ท่านๆ ตายจากความเป็นคน แล้วต้องเกิดเป็นผี แทนที่จะได้ไปเกิดในสุคติภพ เสวยผลบุญอย่างมีความสุข ก็เพราะ 2 เหตุใหญ่ๆ คือ...สมัยเป็นคน กาย วาจา ใจ มีแต่อวิชชา และมิจฉาทิฐิมากเป็นปกติวิสัย

    หรือ ขณะตาย บังเอิญว่า จิตสุดท้ายกำลังดำมืด ด้วยการครอบงำของ โลภะ โทสะ โมหะ

    สรุปว่า ตอนเป็นคน มีความเจริญในธรรม หรือมืดบอดในธรรมแค่ไหน ตายไปแล้ว ก็เท่าเดิม

    โดยภูมิ หรือมิติของผี ( และเทวดา ) ซ้อนอยู่กับภูมิมนุษย์ ส่วนการที่ผีบางตน แสดงฤทธิ์ได้ ก็เพราะกำลังจิตของผีนั้น ที่มีความกล้าแข็ง ที่มาจากความรู้สึกในด้านลบทั้งหลาย

    เช่น แรงอาฆาต พยาบาท จองเวร เกลียด โกรธ ความถือมั่น ยึดติด ที่มีมากเกินระดับธรรมดา เปรียบเหมือนคนที่มีนิสัยก้าวร้าว รุนแรง โทสะจริต โลภะจริต โมหะจริตมาก ผีก็ไม่ต่างจากคน

    อย่างเช่นเรื่องนี้ http://palungjit.org/threads/วิญญาณยึดติด.611331/ เพราะจิตที่หวงแหนสิ่งของ ตายแล้ว จึงมาเกิดเป็นผีเฝ้าของสิ่งนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...