ความดีของคุณ เทียบกับความดีของ"ปุณณะ"และ"เมียของปุณณะ" ได้ไหม

ความดีของคุณ น้อยกว่าความดีของ"ปุณณะ"และ"เมียของปุณณะ" ไหม?

รู้จักปุณณะหรือเปล่า ถ้าไม่รู้จักหรือแค่คุ้นชื่อ ก็บอกได้เลยว่าปุณณะคือบุคคลผู้มีโอกาศได้ทำบุญกับพระอรหันต์ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติมาใหม่ๆ

และเป็นที่มาของเรื่อง ขี้ไถกลายเป็นทอง

ลองศึกษาปฏิปะทาและคุณความดีของปุณณะดูว่า เทียบกับของคุณแล้ว แตกต่างกันมากน้อยสักเท่าไหร่


เพราะเหตุใดคุณจึงไม่มีโอกาศได้ทำบุญกับพระอรหันต์ที่ออกจากนิโรธสมาบัติแล้วขี้ไถกลายเป็นทองบ้าง

อย่าให้คำตอบว่าเพราะคุณมีกรรมมาขัดขวางเด็ดขาด เพราะตามบันทึก บุญจากการทำบุญกับพระอรหันต์ที่ออกจากนิโรธสมาบัติ รุนแรงมากจนสามารถฝ่ากรรมที่ขัดขวางได้ทุกกรรม เช่นนี้ท้าวสักกะเทวราชจึงปลอมตัวมาทำบุญกับพระมหากัสสปะ และพระกัสสปะได้กล่าวว่า" มหาบพิตร ท่านจะปล้นสมบัติจากคนจนเสียแล้วหรือ"

ถ้าพิจารณาไตร่ตรองแล้วคุณดีเทียบเท่าหรือดีกว่าปุณณะเสียอีก ก็คงมีคำตอบตอบที่เป็นไปได้สองอย่าง
1 ก็ไม่เกิดในสมัยพุทธกาลเองนี่หว่า
2 ตำรา( พระไตรปิฎก) โกหก

 

ปุณณะกับเมียไม่รู้จัก

ถ้าจะให้เทียบเรื่องความดีคงยาก

วิธีชีวตคนละแบบทำมาคนละอย่าง

ส่วนเรื่องทำบุญกับพระอรหันต์ที่ออก

จากนิโรธสมาบัติเข้าใจว่า คงต้องมี

บุพเพกันมา แต่ถ้าจะทดลองให้เกิด

ขึ้นจริงในชาตินี้ จะได้รู้ว่าพระไตรปิฏก

โกหกหรือไม่ ต้องพึ่งซาตานคลั่งบวช

จนเป็นพระอรหันต์แล้ว yimm เข้านิโรธสมาบัติ

แต่ออกจากนิโรธเมื่อไรอย่าลืมมาโปรด

ก็แล้วกันจะลองไถนาสักที.

 

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ

บทความที่นำมาเสนอดีนะครับ ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ที่ได้เห็นข้อความการเปรียบเทียบ ผมเคยมีความคิดที่มองไปถึงคนเก่าๆในอดีต แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยแน่ใจ เกี่ยวกับเรื่องการเปรียบเทียบของคน พ่อแม่พี่น้องมักจะเอาลูกหลานของตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าทางด้านการเรียนบ้าง ขยันทำงานบ้านบ้างเป็นต้น แต่ไม่ค่อยได้มองเลยว่าลูกหลานของตัวเองมีจุดดีจุดเด่นตรงไหน ถ้ามองกลับกันถ้าเราเป็นคนที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าทางด้านโน้น ทางด้านนี้ เราจะคิดยังไง มันคงจะทำให้ชีวิตของคนที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบดีขึ้นหรอกนะ น้อยคนที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการกลับตัว แต่ความเป็นจริงส่วนใหญ่ เมื่อได้ยินดังนั้นเถียงกลับทันที หรือไม่ก็เงียบไปสักพัก แล้วก็คิดในใจ เอาแบบนั้นก็ได้เดี๋ยวจะเลวให้ได้ดั่งใจคนเปรียบเทียบเลย

ผมค่อนข้างโชคดี ไม่ค่อยได้โดนเปรียบเทียบกับคนอื่น ทั้งในด้านการเรียนและในด้านงานบ้านตอนที่อยู่ในช่วงของวัยรุ่น อาจจะโชคดีที่ว่าชาติก่อนคงทำบุญมาบ้างพอสมควร เลยทำให้รู้หน้าที่ของตัวเองว่าจะต้องทำอย่างไรในช่วงวัยดังกล่าว แต่ก็จะได้ยินผู้ปกครองของเด็กคนอื่นเอาผมไปเปรียบเทียบกับลูกหลานเค้า เราฟังเองแล้วก็เหนื่อยแทน ทำไมต้องเอาเราไปเปรียบเทียบด้วยหว่า คนเรามีดีไม่เหมือนกัน ถ้าดีเหมือนกันหมดทุกคนทุกอย่างก็ง่ายต่อการควบคุมคนที่เริ่มตั้งแต่ชุมชนจนไปถึงระดับประเทศ ปัจจุบันนี้ก็คงมีแต่ความสุขกายสบายใจ

การเปรียบเทียบที่ดีคือ ให้ตัวเองเป็นคนเปรียบเทียบกับตัวเอง ว่าปัจจุบันเราดีแล้วหรือยัง ถ้ายังดีไม่พอ ก็ทำดีเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ

ผมจึงจำขึ้นใจเอาไว้เลยว่า เมื่อมีลูกมีหลาน การสอนก็อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น ให้สอนด้วยเหตุและผลจะดีกว่า

อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

มีคำตอบอีกหลายข้อครับ ไม่ใช่แค่๒ข้อที่ท่านจขกท"บัญญัติ"เอาเองหรอก ในบรรดาหลายข้อนั้นมีข้อหนึ่งที่จะขอนำมาลงไ้ว้เป็นข้อพิจารณาแก่สาธุชนคนดีทั้งหลายคือ..

บุคคลใดไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ชักชวนแนะนำให้ชนทั้งหลายเสื่อมศรัทธาในพระไตรปิฏกเขาผู้นี้ชื่อว่า"ขุดตนแล้วจากประโยชน์ทั้งปวง" ..ทั้งยังประโยชน์ที่บุคคลอื่นจะได้รับให้เสียหายไปด้วย เพราะหลงเชื่อตามโดยง่ายดาย คนเช่นนี้เป็นพาลที่ควรหลีกห่างเพื่อความเป็นมงคลแก่ตนถ่ายเดียว...ถ้อยคำของบุคคลเช่นนี้ "ไม่ควรแก่การเพ่ง"ตลอดกาล

นี้คือตัวอย่างหนึ่งของ"กับดักในสังสารวัฏ" พึงระวังรักษาตนให้ปลอดภัยครับ..