พระราชินีทรงเผย “ในหลวง” ทรงมีพระพลามัยแข็งแรงขึ้น-ทรงย้ำคนไทยเห็นคุณค่าข้าว

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 11 สิงหาคม 2009.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พระราชินีทรงเผย “ในหลวง” ทรงมีพระพลามัยแข็งแรงขึ้น-ทรงย้ำคนไทยเห็นคุณค่าข้าว
    Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 สิงหาคม 2552 20:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสตอบผู้เข้าเฝ้าฯถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ทรงเผยในหลวงทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้น แม้จะทรงงานหนักมาตลอดในระยะเวลาที่ผ่านมา ทรงโสมนัสที่เห็นชาวบ้านมีความสุข พร้อมทรงปลื้มพระทัยที่ต่างชาติชื่มชมผลงานศูนย์ศิลปาชีพ ทรงฝากคนไทยอนุรักษ์โขน เพราะเป็นสิ่งที่มีค่าหลายอย่างในสังคมไทย ทรงชื่นชมเด็กไทยเก่ง มีความสามารถ จากการได้รับรางวัลหลายประเภท ในการแข่งขันระดับโลก ทรงย้ำข้าวเป็นอาหารที่มีประโยชน์ที่สุด อยากให้คนไทยรับประทานข้าวให้มาก

    คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัส เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

    เวลา 17.45 น.วันนี้ (11 ส.ค.) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอาทิตยาทรกิตติคุณ และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

    ทั้งนี้ คณะบุคคลที่จะเข้าเฝ้าฯ ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ ข้าราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจ ผู้แทนรัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ สภา สถาบัน สมาคม ชมรม มูลนิธิ ลูกเสือชาวบ้าน และประชาชนทั่วไป รวมทั้งสิ้น 461 คณะ จำนวน 15,865 คน

    เมื่อเสด็จฯ ถึง ได้เสด็จฯ ขึ้นที่ประทับ ท่านผู้หญิง มนัสนิตย์ วณิกกุล ราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กราบบังคมทูลรายงานสรุปคณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ

    “ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชวโรกาสเบิกคณะบุคคล ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน และผู้แทนมูลนิธิ สมาคม สโมสร องค์กรต่างๆ รวม 461 คณะ จำนวน 15,865 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2552

    ลำดับต่อไป ขอพระราชทานเบิก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามผู้ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ ที่นี้ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”

    จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามของผู้เข้าเฝ้าฯ

    “ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในอภิลักขิตมหามงคลสมัย คล้ายวันพระราชสมภพของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ในวันที่ 12 สิงหาคม ศกนี้

    ข้าพระพุทธเจ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี คู่สมรส และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความชื่นชมโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง จึงใคร่ขอพระราชทานพระราชวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ด้วยความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้

    นับแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถของชาติไทย ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ตามหลักราชธรรมโดยสมบูรณ์ อันนำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกร ทรงเป็นคู่พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเวลานานกว่า 59 ปี ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนี้ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้พระราชทานหลักธรรมต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอาณาประชาราษฎร์ให้ตั้งมั่นอยู่ในสุจริตธรรม และสัมมาปฏิบัติธรรมค้นคิด และพัฒนาโครงการต่างๆ เป็นอเนกประการ เพื่อแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร ตลอดจนพัฒนาผืนแผ่นดินไทย ให้คงความอุดมสมบูรณ์ อาทิ โครงการศิลปาชีพ โครงการป่ารักน้ำ โครงการฟาร์มตัวอย่าง โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ และอื่นๆ อีกมาก ล้วนก่อเกิดจากพระปรีชาสามารถ และสายพระเนตรอันกว้างไกล เกิดผลดีในด้านส่งเสริมอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น พร้อมกับธำรงรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ แหล่งต้นนำลำธาร และทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่ออาณาประชาราษฎร์ทุกภูมิภาคของประเทศ

    ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงสนพระราชหฤทัยในความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎร ทั้งผู้ป่วยเจ็บ ทุพพลภาพ ยากไร้ ขาดที่พึ่ง ผู้พิการ ผู้เคราะห์ร้ายจากภัยสังคม ได้ทรงพระเมตตารับไว้ในพระราชานุเคราะห์ เพื่อให้พ้นจากความทุกข์ยากลำเค็ญ พระมหากรุณาธิคุณล้วนเป็นที่ประจักษ์แจ้ง และก่อให้เกิดความสำนึก ซาบซึ้ง ทั้งในหมู่ผู้ทุกข์ยาก และมวลพสกนิกรทั้งหลายโดยถ้วนหน้า

    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงตรากตรำพระวรกาย เสด็จพระราชดำเนินไปยังท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกล ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และด้วยน้ำพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยความรัก เอื้ออาทรต่อพสกนิกร โดยมิทรงย่อท้อต่อความยากลำบาก หรืออุปสรรคใดๆ ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ และเพื่อสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าแก่ประเทศชาติ ตลอดมา

    อาณาประชาราษฎร์ต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม และล้วนมีความจงรักภักดีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเป็นที่เคารพรักเทิดทูนอย่างยิ่งของปวงชนชาวไทย และเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญพระเกียรติคุณ ทั้งในมวลหมู่พสกนิกรชาวไทย และชาวต่างประเทศ

    เนื่องในศุภมงคลวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2552 นี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระราชวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช และสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลพิภพ และพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า อีกทั้งพระราชกุศลผลบุญที่ได้ทรงบำเพ็ญอยู่เสมอมา โปรดอภิบาลประทานชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพระเจริญ พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลทั่วทุกทิศานุทิศ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ สถิตเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและพสกนิกรชาวไทยตลอดจิรัฐิติกาล เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”

    ต่อจากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสตอบ

    “ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐบาล และท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้แทนของข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร รัฐวิสาหกิจ ผู้แทนขององค์กรทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งทำหน้าที่ตลอดมา ช่วยเหลือสังคมไทยให้ดำเนินกิจการต่างๆ ไปได้ด้วยดี ผู้แทนสถาบันการศึกษา และประชาชนจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมจำนวนประมาณ 160,000 คน ที่ได้มาชุมนุมกันอยู่ ณ บริเวณศาลาดุสิดาลัย แห่งนี้ เพื่อร่วมอวยพรแก่ข้าพเจ้า เนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิดปีที่ 77

    โดยท่านนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย กล่าวอวยพรด้วยใจความที่ทำให้ข้าพเจ้าอายุ 77 นี้ เกิดกำลังวังชา เกิดกำลังใจที่จะทำงานช่วยเหลือประชาชนต่อไป

    หลายปีมานี้ มีผู้มาอวยพรข้าพเจ้ามากขึ้นเป็นลำดับ ก็มีผู้มีน้ำใจหลายท่านเช่นเดียวกันที่นำอาหารมาช่วยข้าพเจ้า สำหรับเลี้ยงแขก ข้าพเจ้าขอขอบใจทุกท่าน และขอให้กุศลจากการเลี้ยงอาหารประชาชนในครั้งนี้ ส่งให้ผู้ที่เป็นเจ้าภาพอาหาร และน้ำดื่มทุกราย มีกินมีใช้มีเหลือแจกผู้อื่นเช่นนี้ตลอดไป

    ในโอกาสนี้ข้าพเจ้ายังต้องขอบใจทุกท่าน ที่บำเพ็ญสาธารณกุศล และสาธารณประโยชน์ เพื่อให้เป็นกุศลแก่ข้าพเจ้า เช่น คณะแพทย์ที่จัดทำโครงการผ่าตัดหัวใจช่วยเหลือประชาชนจำนวน 500 ราย และโครงการผ่าตัดหัวใจเด็ก เพื่อช่วยชีวิตเด็กตามตะเข็บชายแดนจำนวน 800 ราย ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ จะเป็นโครงการต่อเนื่องไป จนถึงเมื่อข้าพเจ้ามีอายุ 80 ปี ขอบใจสภาสังคมสงเคราะห์ ที่ดำเนินโครงการน้ำพระทัยพระราชทานอยู่อย่างเข้มแข็งตลอดมา

    นอกจากนี้ ยังมีผู้บวชพระ บวชเณร จัดเทศน์มหาชาติ ปลูกต้นไม้ จัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่ข้าพเจ้า ขอบใจผู้ที่ส่งบัตรอวยพรวันเกิดให้ข้าพเจ้า ซึ่งก็มีเด็กนักเรียนรวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ตลอดจนผู้ที่อวยพรข้าพเจ้า ผ่านทางสื่อมวลชนทุกแขนง บ้างก็ประพันธ์บทร้อยแก้วร้อยกรองอย่างไพเราะ บ้างก็รำอวยพร ข้าพเจ้าได้ชมแล้วรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีของทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

    ขณะนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และข้าพเจ้า พักอยู่ที่วังไกลกังวล หัวหิน ที่นั่นอากาศดี เหมาะแก่พระสุขภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านสบายดีขึ้น ทรงพยายามออกพระกำลัง โดยทรงพระดำเนินที่เฉลียงทุกวัน ทำให้ทรงแข็งแรงขึ้น เพราะปีนี้ พระชนมายุจะ 82 แล้ว ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ดั่งที่ประชาชนเห็นในข่าวโทรทัศน์ เช่น เสด็จฯออกทรงรับแขกบ้านแขกเมือง หรือมีคณะบุคคลต่างๆ มาเฝ้าฯ บางครั้งก็เสด็จฯออกไปทอดพระเนตรโครงการอะไรใกล้ๆ หัวหินบ้าง จะให้ทรงตรากตรำเดินทางไกล หรือตากแดดตากฝนทั้งวันเหมือนสมัยที่ทรงงานมาแล้วหลายสิบปีก่อนนั้น คงไม่ไหว

    หลายสิบปีก่อนนี้ เสด็จฯไปเยี่ยมประชาชนทุกภาคของประเทศ ทรงขับรถเอง หนทางก็เรียกว่า กันดารไม่ใช่น้อย บางครั้งก็ทรงขับรถข้ามแม่น้ำ นี่เป็นจังหวัดนราธิวาส ทรงขับรถเพื่อไปดูให้เห็นจริงจัง ถึงการอยู่กินของราษฎรตามเขตชายแดนต่างๆ แต่พระองค์ท่านก็ยังทรงติดตามงานต่างๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องฝน เรื่องปริมาณน้ำในเขื่อน ทรงห่วงประชาชนมาก เกรงว่าจะมีน้ำท่วมอีก ถ้าพอจะหาแนวทางอะไรช่วยป้องกันได้ ก็จะมีพระราชดำริให้เตรียมการกันเอาไว้ก่อน

    ประเทศไทยของเราเป็นประเทศเกษตรกรรม คนไทยส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ การเพาะปลูกของชาวนาชาวไร่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในเขตของชลประทาน ก็ต้องพึ่งพาอาศัยฝนฟ้าจากธรรมชาติเป็นหลัก ปีใดฝนดีผลผลิตก็ดี ปีใดฝนแล้งพืชก็แห้งตาย ฝนมากไปน้ำก็ท่วม ปัญหาของแต่ละภาคไม่เหมือนกัน ภาคเหนือเป็นดอยสูงสลับซับซ้อน มีชาวเขาหลายเผ่าอาศัยอยู่ ดั้งเดิมเขาปลูกฝิ่น เพราะเขาบอกเขาไม่รู้จะทำมาหากินอะไร หรือบางครั้งก็ทำไร่เลื่อนลอย ทำให้เกิดปัญหายาเสพติด และป่าไม้ถูกทำลาย บางครั้งชาวเขาเขาก็กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เอง ว่า เมื่อพ่อบอกว่าปลูกฝิ่นไม่ดี เขาจะทำตาม ก็จะเลิกปลูกฝิ่น จะทำการเพาะปลูกอย่างที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งผู้เชี่ยวชาญไปสอนเขา แต่เขาพูดว่า ขออนุญาตพ่อได้ไหมให้มีที่ปลูกฝิ่นสักนิดหนึ่ง ไม่ใช่อะไรหรอก เวลาปวดฟัน ปวดท้อง มันนานกว่าที่จะลงไปหาหมอที่ข้างล่าง ถ้าเขามีฝิ่น เขาปวดฟันนอนไม่หลับเขาเสพฝิ่นหน่อยเดียวก็ค่อยยังชั่ว พระเจ้าอยู่หัว รับสั่งบอก อนุญาต อนุญาตให้ปลูกฝิ่นได้เล็กน้อย สำหรับแก้เจ็บปวดอะไรเช่นนั้น

    ส่วนภาคอีสานเป็นที่ราบสูง ปัญหาใหญ่คือ การขาดแคลนน้ำที่จะใช้เพาะปลูก และดินเป็นดินทราย ภาคใต้มีฝนตกชุกแทบทั้งปี แต่เนื่องจากภูมิประเทศมีลักษณะแคบยาว ด้านหนึ่งเป็นภูเขา ด้านหนึ่งเป็นทะเล ที่ราบตรงกลางบางส่วนเป็นพรุไปเสียหลายแสนไร่ ปลูกพืชเศรษฐกิจอะไรก็ไม่ค่อยได้ เพราะในพรุมีน้ำเปรี้ยวขังอยู่ ถ้าฝนตกมากน้ำเปรี้ยวในพรุไหลล้นออกมา ทำให้ดินข้างนอกเปรี้ยวตาย ถ้าฝนน้อยไปน้ำเค็มจากทะเลซึมเข้ามา กลายเป็นมีน้ำ 3 รสด้วยกัน คือ ทั้งจืด ทั้งเปรี้ยว และทั้งเค็ม

    ส่วนภาคกลางของเราโชคดี แม้ว่าโชคดีที่มีภูมิประเทศเป็นที่ราบ น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ แต่เนื่องจากเป็นทางผ่านที่น้ำมาจากภาคเหนือ และไหลลงสู่ทะเล ปีไหนฝนชุกมาก ภาคกลางจะมีน้ำท่วม ซ้ำท่วมแล้วไม่ลดลงเร็วเหมือนภาคอื่น เพราะมีน้ำทะเลหนุน กลายเป็นน้ำท่วมขัง บางพื้นที่ต้องจมน้ำอยู่ตั้งหลายเดือน เช่น บ้านเดิมของข้าพเจ้า บ้านของพ่อแม่ข้าพเจ้าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เทเวศร์ เห็นเป็นประจำที่น้ำท่วมตลอด บางทีท่วมเข้าไปในบ้านด้วยซ้ำไป พื้นเสียหมดเลย น้ำท่วมมีปลา มีงูมาว่ายอยู่ในบ้าน ต้องย่ำน้ำกันในบ้านนั้นเอง เป็นของธรรมดา บัดนี้ก็สมัยใหม่ขึ้น ก็ค่อยยังชั่วขึ้น

    ข้าพเจ้าเป็นพระราชินีมา 59 ปี ได้ตามเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปเยี่ยมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทำให้ได้เห็นว่าทรงงานอะไร อย่างไร และที่ไหนบ้าง และได้เห็นว่าทุกครั้งที่เสด็จฯ ไปเยี่ยมราษฎร จะทรงขับรถเอง และก็มีแผนที่อยู่ใกล้พระองค์เสมอ ทรงจะไปทุกหนทุกแห่ง พระองค์ท่านทำงานเกี่ยวกับเรื่องดิน และเรื่องน้ำ มาตลอดหลายสิบปี จนทรงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญไปแล้ว

    ปี 2512 ระหว่างประทับที่ชาวเขา ก็ทรงงานช่วยเหลือชาวเขาที่เขาปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย ให้เปลี่ยนมาปลูกพืชผักผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวแทน ทรงดูแลเรื่องการตลาดให้ด้วย โดยมี ม.จ.ภีศเดช รัชนี เป็นผู้ช่วย จนเกิดเป็นโครงการหลวงถึงทุกวันนี้

    ม.จ.ภีศเดช รัชนี นี่เป็นนักเรียนอังกฤษเก่า เพราะฉะนั้นการปีนเขา ขึ้นไปเดินบนยอดเขาต่างๆ นี่เป็นเรื่องเล็ก และเป็นผู้ที่ทรหดอดทน ไปเยี่ยมชาวเขาเผ่าต่างๆ จนเขาไว้วางใจ ไว้วางใจว่าท่านต้องช่วยเขาได้แน่นอน และเขาก็เริ่มลดการปลูกฝิ่น มาปลูกผลไม้ ผัก ดอกไม้ ตามโครงการหลวงถึงทุกวันนี้

    ท่านภีศเดช ท่านเสด็จไปตามดอยต่างๆ ไม่ทราบว่ากี่ร้อยครั้ง และเมื่อมาเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงตามเสด็จฯ ขึ้นไปบนดอยโดยรถพระที่นั่ง หรือเฮลิคอปเตอร์ ทรงพระดำเนินต่อไปอีกหลายกิโลเมตร ตอนนั้นข้าพเจ้าอายุยังน้อยอยู่ ยังเดินตามไปได้ถึงจะเหนื่อยอย่างไรก็พอทนไหว ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ไม่ไหวแล้ว

    ที่ภาคอีสาน ภูพานราชนิเวศน์ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2519 ก็ทรงใช้เป็นศูนย์กลางในการเสด็จฯ ออกไปทอดพระเนตร ว่า พื้นที่ตรงไหนเหมาะจะสร้างอ่างเก็บน้ำ หรือคลองส่งน้ำบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะทรงศึกษาจากแผนที่มาก่อน ที่เหนื่อยมาก คือ ภาคใต้ ทักษิณราชนิเวศน์ สร้างเสร็จใน พ.ศ.2516 เมื่อแรกเสด็จฯ เสด็จฯ โดยรถไฟผ่านสถานีต่างๆ มีประชาชนมาคอยรับเต็มไปหมด ถึงแม้จะดึกดื่น ตี 2 ตี 3 ข้าพเจ้าแอบดูที่ในห้องที่ตัวอยู่ เปิดม่านดูนิด เห็นประชาชนมาแน่นขนัด แต่ไม่มีเสียงอะไรเลย เงียบกริบ ต่างคนต่างยืนระวังที่จะไม่ให้รบกวนไม่ให้ปลุกพระบรรทม ก็ซาบซึ้งในความหวังดีของประชาชนเหลือเกิน แต่ก็อุตส่าห์มากันแน่น โดยที่ไม่ได้เห็นพระองค์ เพียงแต่ได้เห็นรถไฟที่ประทับอยู่ ประทับหลับอยู่ในรถไฟ แต่ที่แท้ก็ไม่ทรงหลับอะไรจริงๆ เท่าไร ทรงแอบมองเขาอยู่

    ที่ภาคใต้ ต้องใช้คำว่า ทรงลุยงานมาโดยตลอด อย่างท่านทั้งหลายคงเคยเห็น ภาพที่พระองค์ท่านประทับเรือไปในเขตพรุ น้ำในพรุนั้นใสแจ๋ว มองด้วยตาจะนึกว่า น้ำสะอาดใส มีน้ำมากดี แม้แต่วัวที่ชาวบ้านเลี้ยง ก็ยังหลงลงไปกินน้ำ แต่กินแล้วปากเปื่อยเป็นแผลนานเชียว เพราะน้ำนั้นมีฤทธิ์เป็นกรดกำมะถัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะเสด็จฯไปกับผู้เชี่ยวชาญของกรมชลประทาน และข้าราชการอีกหลายคน พยายามคร่ำเคร่งหาวิธีแก้ไขน้ำเปรี้ยวและดินเปรี้ยว ทรงหาวิธีระบายน้ำเปรี้ยวออกทะเลไป แรกๆ ก็ระบายลงคลองธรรมชาติ ก็เกิดปัญหาปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงในคลองตายไป ก็เลยมีคำว่า ปลาร้องไห้ เพราะว่าเลี้ยงไว้ไม่เท่าไรปลาก็ตายหมด เพราะน้ำเปรี้ยวมันลงมา ทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นทุกข์พระทัย เพราะทรงสงสาร ห่วงประชาชนผู้มีอาชีพเลี้ยงปลา แต่เดี๋ยวนี้น้ำหายเปรี้ยวแล้ว

    ทรงขับรถเองตลอด ไม่ว่าจะเสด็จฯ ไปเยี่ยมราษฎรที่ไหน พร้อมกับแผนที่ประจำพระหัตถ์ตลอดเวลา ตอนหลังก็ขุดคลองระบายน้ำเปรี้ยว แถมมีประตูระบายน้ำเอาไว้จัดการกับน้ำ 3 รส ข้าพเจ้าเองก็อ่านอย่างนั้นไม่เข้าใจเท่าไร กักน้ำจืดไว้บ้าง กักน้ำเปรี้ยว น้ำเค็มไว้บ้าง เปิด-ปิด ตามวิธีการของพระองค์ จนเดี๋ยวนี้น้ำเปรี้ยวในพรุลดลงไปมากแล้ว ดินเปรี้ยวจัด พระองค์ทรงใช้วิธีของท่านที่เรียกว่า แกล้งดิน จนดินคลายความเปรี้ยวลง ที่ดินเปรี้ยว เพราะดินในเขตชายทะเลภาคใต้เป็นดินตะกอนน้ำทะเล มีสารประกอบกำมะถันอยู่ในตัวตามธรรมชาติ ถ้าดินแห้งจะมีฤทธิ์เป็นกรดกำมะถัน ถ้ามีน้ำแช่ขังอยู่ เช่น ได้ทดลองตามโครงการแกล้งดิน ได้นำไปแก้ปัญหาดินเปรี้ยวในภาคใต้ได้ จนสามารถปรับปรุงที่นาที่ถูกทิ้งร้างมา 20-30 ปี ให้นำมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าแสนไร่ เช่น นราธิวาส ปรับได้ 2 หมื่นกว่าไร่ นครศรีธรรมราช 2 หมื่นกว่าไร่ ปัตตานี หมื่นกว่าไร่ เป็นต้น พื้นที่นอกเขตพรุและในเขตพรุบางส่วน ชาวบ้านใช้ประโยชน์ได้มาก เมื่อก่อนปลูกข้าวได้แค่ไร่ละ 4-5 ถัง เดี๋ยวนี้เพิ่มเป็น 50 ถังแล้ว ยังปลูกพืชผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์อะไรต่อมิอะไรได้หลายชนิด

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นชาวบ้านมีความสุข ก็รับสั่งว่าชื่นใจ แต่กว่าชาวบ้านจะแจ่มใสอย่างนี้ ทรงเหนื่อยอยู่หลายปี มีผู้สนใจวิธีการของพระองค์ท่าน ก็ไปศึกษาที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จ.นราธิวาส ซึ่งทรงตั้งขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ.2525

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นี่โปรดแผนที่มากที่สุด เวลาเสด็จฯไปเยี่ยมราษฎร ทรงขับรถเอง แล้วก็มีแผนที่ติดพระองค์เสมอ และทรงใช้ประโยชน์จากแผนที่อย่างเต็มที่ อย่างเสด็จฯ ไปคุยกับราษฎร ก็จะรับสั่งถามว่ามาจากที่ไหน บ้านช่องเขาอยู่ที่ไหน เขาก็จะบอกว่าเขาอยู่ที่นั่นที่นี่ เดี๋ยวนี้มีหมู่บ้านใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว และคนก็อยู่เย็นเป็นสุขขึ้น ก็จะทรงทำแผนที่เทียบกับแผนที่ปัจจุบัน และทำเครื่องหมาย เวลาขับรถไปตามพื้นที่ไหนๆ ทรงซักถามชาวบ้าน ชื่อหมู่บ้าน ชื่อถนน แม่น้ำลำคลอง ว่า ถูกต้องตรงตามแผนที่หรือไม่ มีหมู่บ้านเพิ่มขึ้นมาใหม่ไหม แหล่งน้ำอยู่ตรงไหนบ้าง ไกลไหม จะทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตร เวลาประทับลงเรือที่ภาคใต้ ก็ทรงมีขวดน้ำไว้ พอประทับ เรือวิ่ง ท่านก็เอาขวดน้ำช้อนน้ำขึ้นใส่ขวดแล้วไปทดสอบความเปรี้ยวของแต่ละแห่งทุกครั้ง

    (ทรงพลิกหน้ากระดาษ) แหม เขามีรูปเยอะ

    ทุกโครงการพระราชดำรินั้น จะทรงสั่งการติดตามผลอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา อย่างโครงการมูโนะ ทรงได้รับคำร้องจากประชาชนทั้งไทยอิสลาม ทั้งไทยพุทธ เป็นจำนวนไม่น้อย ว่า เขานี่ไม่มีที่ดินทำกินเลย ยากจนยังไง ลำบากยังไง ก็ทรงปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่ทรงรู้จักหลายคน ก็ทรงตั้งขึ้นว่าเป็นโครงการมูโนะ เป็นโครงการชลประทานเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน ปัญหาน้ำเปรี้ยวจากพรุโต๊ะแดง และป้องกันน้ำเค็มไหลเข้าพื้นที่เพาะปลูก ครอบคลุมพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และตากใบ เป็นพื้นที่ประมาณ 110,000 ไร่ เพื่อให้ประชาชนมีทางทำมาหากิน และโครงการมูโนะนี่ทรงทดลองจัดตั้งหมู่บ้านปศุสัตว์และเกษตรมูโนะขึ้น เป็นหมู่บ้านตัวอย่างในการพัฒนาอาชีพ ชาวบ้านทั้งไทยพุทธ และ มุสลิม ที่ไม่มีที่ทำกินได้มาขอความช่วยเหลือ ก็ทรงส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงโค เป็ด ไก่ ทำไร่นาสวนผสม ข้าพเจ้าก็ให้ทำงานศิลปาชีพด้วย ขณะนี้มีสมาชิกโครงการอยู่ 36 ครอบครัว

    สมัยเมื่อ 36 ปีที่ผ่านมา ที่จะเข้าไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ต้องลุยฝน ลุยโคลน แม้แต่ลุยทากเป็นประจำ แต่พระองค์ท่านก็ทำอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย บางครั้งก็ทรงขับรถข้ามแม่น้ำเพื่อจะไปอีกฝั่ง ไปเยี่ยมราษฎรอีกฝั่ง

    ภาคกลางที่ทรงห่วงมาก ก็ปัญหาเรื่องน้ำท่วม ปัจจุบันนี้ประชาชนก็คงคุ้นเคยกับศัพท์คำหนึ่งที่ทรงใช้ ที่เกี่ยวกับการเก็บกักน้ำแล้ว คือ คำว่า “แก้มลิง” โครงการแก้มลิงนี้มีอยู่ทั่วไปในภาคกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้ๆ ทะเล ได้ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก และบางที่ก็ช่วยให้มีน้ำใช้ในฤดูแล้งด้วย ผลงานสำคัญตามพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งในภาคกลาง ก็เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นต้น

    ข้าพเจ้าเองได้ยินมาว่า ตั้งแต่สร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เสร็จมา กรุงเทพฯ ยังไม่เคยมีน้ำท่วมใหญ่เลย นับว่าประหยัดเงินของชาติในการแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ไปได้มาก ถ้านับรวมๆ หลายปีก็น่าจะคุ้มค่าก่อสร้างเขื่อนแล้ว จากนี้ไปก็เป็นกำไรของประเทศชาติเท่านั้น

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีโครงการพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการทั่วประเทศ ทรงมุ่งให้ราษฎรให้กินดีอยู่ดีขึ้นทุกภาค งานที่ทรงทำนี่ทำโดยไม่มีวันหยุดมาเกือบ 60 ปีแล้ว ทรงทำโดยไม่เบื่อหน่าย เพราะเป็นงานที่ทรงทำด้วยความรักที่มีต่อประชาชน ในห้องทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีแต่แผนที่ประเทศไทยทุกภาคเต็มไปหมด เพราะว่าโปรดเรื่องแผนที่มาก แล้วก็ โดยที่ทรงสนพระทัยแผนที่นี่ก็ทรงสามารถติดต่อกับประชาชนที่มาเฝ้าฯ กันเป็นหมื่นๆ คนได้ จะทรงถามว่าเขาอยู่ที่ไหน หมู่บ้านชื่ออะไร เป็นหมู่บ้านกี่หลังคาเรือน แล้วเวลานี้มีหมู่บ้านที่ติดกันเพิ่มขึ้นใหม่หรือไม่ ก็ทรงได้ข้อมูลใหม่ๆ แล้วก็ทรงดูแลความเจ็บป่วยของประชาชน พวกที่ลูกมากยากจน ขาดการศึกษา อันนี้ข้าพเจ้าก็เลยโชคดี พวกที่ลูกมากแล้วก็ยากจนนี่ ข้าพเจ้าก็ชวนเขามาที่ภาคกลาง มาอยู่ที่ในวังหลวง แล้วก็มาฝึกศิลปาชีพ การฝีมือต่างๆ การทำโลหะอะไรต่างๆ ซึ่งได้ผลดีมาก แล้วก็ขณะนี้ก็แสดงอยู่ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม

    ข้าพเจ้าปลื้มใจมาก เพราะว่ามีเพื่อนต่างชาติไปดู แล้วเขาก็ชม ข้าพเจ้าก็คิดว่าเขาคงชมด้วยใจจริง เห็นฝีมือของชาวบ้านที่ทำศิลปาชีพสวยงามมาก เขาบอก นี่เป็นฝีมือหนึ่งของโลกนี่ จากเด็กที่ยากจน พ่อแม่มีลูก 8-9 คน ข้าพเจ้าก็จะเอามาครอบครัวละ 2 คน แล้วก็มาอยู่ที่ในวังหลวง พอเช้าขึ้นมาก็เอารถมารับมาที่โรงงาน ที่สวนจิตรลดา ฝึกงานต่างๆ สอนเขา เงินเขาทุกวันที่เขามาทำงานฝึกงานกับเรา และเขาก็เก็บเงิน และส่งไปให้พ่อแม่ ก็มีความสุขมาก และเดี๋ยวนี้พวกที่ยากจนที่สุด จบ ป.3 บางทีไม่จบประถม 4 เลย จบ ป.3 บางคนก็ไม่ได้เรียนเลย กลายเป็นคนที่เรียกว่า ชาวต่างชาติมาดูแล้วบอกว่า นี่ มือหนึ่งของโลก

    อันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจที่สุด และภาคภูมิใจในมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพที่ข้าพเจ้าตั้งมา ถ้าเผื่อข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ จะไม่มีวันได้รู้ว่า คนไทยของเรา หรือผู้ที่อยู่ในประเทศไทยของเรา เป็นคนที่เก่งเช่นไร ถ้าได้โอกาสในชีวิตแล้ว เขาจะพุ่งไปไกล ทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่มีที่เรียกว่า ไม่รู้จะทำอะไร ทำไม่ได้ อะไรเช่นนี้ คนไทยนี่เก่งจริงๆ ไม่ว่าจะหยิบที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง เก่งทั้งนั้น เป็นคนที่ คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจว่า มีเพื่อนร่วมชาติที่เก่ง ขอโอกาสสักนิดเดียวเท่านั้น เขาไปลิ่วทีเดียว กลายเป็นมือหนึ่งของโลก

    ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่า ข้าพเจ้าได้รับเชิญจากเพื่อนว่า ขอให้ไปสหรัฐอเมริกาอีก ข้าพเจ้าก็คิดอยากจะไป เพราะว่าไปทีไร ทางสหรัฐอเมริกาได้ให้ความเอาใจใส่และดูแลอย่างดีเลิศ ดีมากเลย มิหนำซ้ำในรัฐสภาเขาจะพูดถึงว่า ประเทศไทยคนไทยเก่งมาก เป็นคนที่เก่ง และพระเจ้าแผ่นดินเป็นคนที่มีความสามารถ และพระราชินีของท่านกำลังจะมา เขาพูดกันในสภาว่า next a welcome her น่ารักมากคนอเมริกัน น่ารักจริงๆ ข้าพเจ้ายังปลื้มมาก คือ ไม่เคยคิดถ้าท่านยังสงสัยอยู่ให้ท่านไปที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ไปดูผลงานที่คนไทยที่จบแค่ ป.3 หรือไม่ได้เรียนเลย ที่เขาสามารถประดิษฐ์อย่างแกะสลัก โหสวยงามเหลือเกิน ชิ้นเบ้อเร้อสวยงามมาก แกะสลักเป็น 3 ยุคด้วยกัน อยู่ไหนก็ไม่รู้ จรุงจิตต์จ๋า 3 ยุค 3 ยุคด้วยกัน แหมชื่อยาก

    ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ - 4 ยุคคะ

    สมเด็จพระนางเจ้าฯ - 4 ยุคหรอแค่ 3 ก็แย่แล้ว อันนี้เป็น ข้าพเจ้าไม่ได้รู้เอง พรรคพวกข้าพเจ้าไปอ่านมาว่า ข้อมูลจากหนังสือไตรภูมิ เทพฤๅษี และคนธรรพ์เฝ้าพระอิศวร อยากทราบว่า แก้ว 9 ประการเกิดขึ้นได้อย่างไร พระอิศวร บอกให้ไปถามพระฤๅษีชื่อ อังคต เพราะเป็นฤๅษีอายุยืนที่สุด ตั้งแต่สร้างโลกมา ฤๅษีอังคตเกิดในยุคกฤติยุค ยุคนี้ข้าพเจ้าเพิ่งทราบ และเพิ่งเคยได้ยินว่า กฤติยุคเป็นยุคที่บริบูรณ์ไปด้วยคุณงามความดี ที่ข้าพเจ้าต้องทราบเพราะว่า ชาวศิลปาชีพของข้าพเจ้าเอง เด็กที่เอามาตั้งแต่เล็กๆ เป็นผู้แกะสลักใช้เวลานานมากเลย แกะสลักยุคต่างๆ บนไม้สัก

    ยุคที่ 2 ชื่อว่า ไตรดายุค เป็นยุคที่มีความดี 3 ส่วน ความไม่ดี 1 ส่วน ยุคที่ 3 ชื่อ ทวาปรยุค เป็นยุคที่ความดีและความไม่ดีเสมอกันครึ่งต่อครึ่ง พอมาถึงยุคนี้เป็นยุคที่ข้าพเจ้าอยู่ ใจหายใจคว่ำ ชื่อว่า กลียุค แหมไม่ค่อยดีเลยนะ กลียุค เป็นยุคที่มีความดีส่วนเดียว ความไม่ดี 3 ส่วน แล้วเขาบรรยายต่อไปว่า กลียุค คือ ยุคปัจจุบันที่พวกเรา ที่ข้าพเจ้ากับพวกท่านทั้งหลายอยู่ คือ กลียุค ต่อจากกลียุค เขาก็บอกจะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก มีลมหอบ แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ข้าพเจ้าก็ไม่อยากรู้แล้วต่อไป เขาเขียนว่า ใครอยากรู้มากกว่านี้ให้อ่านจากหนังสือไตรภูมิพระร่วง แต่หวังว่าคงจะไม่เกิด

    ผลงานศิลปาชีพ ถึงจะอยู่กลียุคก็ยังมีผลงานของศิลปาชีพ เป็นนักศิลปาชีพฝีมือ ที่ชาวต่างประเทศบอก ระดับ 1 ของโลก ก็ยังภูมิใจถึงจะอยู่ในกลียุคก็ตาม ดั่งที่ข้าพเจ้าได้นำภาพส่วนหนึ่งมาให้ท่านดู ให้ท่านทั้งหลายชม แล้วยังมีจัดแสดงอยู่ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ท่านที่ประสงค์จะชมของจริงยังไปชมได้ ทุกครั้งที่ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ออกนอกประเทศ ข้าพเจ้าจะให้จับสลากกัน ให้คณะศิลปาชีพเด็กหนุ่มสาวของข้าพเจ้า จับสลากกัน แล้วให้ส่วนหนึ่งได้ตามเสด็จได้ ตอนที่ข้าพเจ้าได้รับเชิญจากประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ให้ไปแสดงผลงานศิลปาชีพบนหอไอเฟล ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งในประธานาธิบดีและมาดาม ที่ให้โอกาสศิลปาชีพได้ไปแสดงผลงานที่งดงามที่หอไอเฟล มียอดผู้เข้าชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติครั้งนั้น ประมาณ 150,000 คน แหม จัดข้างบนแล้วสวย และปลื้มใจ และก็ภรรยาประธานาธิบดีก็ไปจับมือกับเด็กศิลปาชีพที่ไปกับข้าพเจ้า จับมือทุกคน หลังจากได้ดูฝีมือการทำงานของเขา และไปจับมือทุกคนบนหอไอเฟลนั้น ทำให้ปลื้มมาก

    โรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดาขณะนี้ มีนักเรียนที่ยากจน แต่ไม่ได้ยากจนสติปัญญาเลย ยากจน 700 คน มีครู 50 คน และก็จำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพต่างๆ ที่สวนอัมพร ระหว่าง 18 กรกฎา ถึง 2 สิงหานี้ และน่าปลื้มใจที่คนไทยทั้งหลายก็ช่วยกันไปสนับสนุน ไปดู ไปซื้อของ เท่าที่จะซื้อได้ และก็ที่ฮิตมาก คือ ที่พัทลุง เขาคิดทำเอาผักต่างๆ มาทำเป็นข้าวเกรียบ พอทอดข้าวเกรียบผัก คนมาเข้าคิวยาวเชียว ว่า อร่อยมาก อันนี้ ข้าพเจ้าปลื้ม ทอดข้าวเกรียบขายนี่ก็ตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนคนทอดเหนื่อย และตะโกนบอกคนที่เข้าคิว วันนี้อย่ามาซื้อเลย ไม่อร่อยหรอก ข้าวเกรียบ ไล่คนไปเสียอีก ข้าพเจ้าบอกทำไมอย่างนั้น ไม่พยายามฝืนใจ เหนื่อยก็เหนื่อย ก็สู้ เขาบอกสู้มาจนเช้าแล้ว จนใกล้ค่ำแล้ว เลยบอกว่าอย่าเข้าคิวเลย ไม่อร่อยหรอกวันนี้ ไม่อร่อย แต่ประชาชนก็มาช่วยเหลือ เพราะเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพนี่เป็นฝีมือของชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา ที่ยากจน

    เหมือนกับว่าคนไทยมาช่วยคนไทยด้วยกัน เงินทองก็จะได้หมุนเวียนกลับไปสู่คนไทยมากขึ้น อีกทั้งเป็นการหมุนเวียนไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง ทั่วประเทศ หลายแสนครัวเรือน ข้าพเจ้าปลื้มมากที่ท่านทั้งหลาย ประชาชนทั้งหลาย ได้ไปชมงานศิลปาชีพที่สวนอัมพร แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ที่ชื่นชมศิลปาชีพจริงๆ อย่างเขาไปนี่เขาแต่งกายด้วยผ้าของศิลปาชีพที่เขาซื้อเมื่อปีที่แล้ว หรือถือกระเป๋าของศิลปาชีพ หรือตะกร้าศิลปาชีพ เมื่อพบกันก็ชื่นชมซึ่งกันและกัน ชวนกันอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ๆ เจ้าหน้าที่ศิลปาชีพเห็นแล้วก็ชื่นใจ เพราะจำได้ จำได้แต่ละคนว่าคุ้นหน้า มาอุดหนุนเสมอ จนกระทั่งคุ้นหน้ากัน

    ผลิตผลจากเกษตรก็เหมือนกัน ข้าพเจ้าก็ได้สร้างฟาร์มตัวอย่างในหลายจังหวัด เพราะบางทีบางจังหวัดไม่ปลอดภัยที่จะไปซื้อข้าวของที่ตลาด เช่น ขี่มอเตอร์ไซค์ไป ไปจ่ายของที่ในตลาด ก็มักจะเสียชีวิตเสมอ ก็เลยช่วยกันคิดว่าอย่าเลย เราสร้างเป็นคล้ายๆ ตลาดของศิลปาชีพ ที่ในหมู่บ้านต่างๆ ก็แล้วกัน จะได้ใช้จ่ายกันได้ดี และไม่ต้องเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วย อย่างพัทลุงนี่ ทำข้าวยำผักใต้อร่อยที่สุด ข้าพเจ้ายังไปชิมที่พัทลุง ที่โครงการศิลปาชีพที่พัทลุง เก่งมาก และเดี๋ยวนี้เป็ดอี้เหลียง ซึ่งทางเมืองจีนให้ข้าพเจ้า ตอนที่ข้าพเจ้าไปแทนพระองค์ที่เมืองจีน เป็ดอี้เหลียง เดี๋ยวนี้ก็มาทำลาบเป็ด ทำเท่าไรก็หมดเท่านั้น ดอกไม้ทอดจากพัทลุง หมูจินหัวแดดเดียว ข้าวสารหลายชนิด ข้าพเจ้าก็เที่ยวไปดูตามที่เขาเอาออกมาแสดงจังหวัดต่างๆ ข้าวสังข์หยด และข้าวเกรียบรสต่างๆ ที่ชาวบ้านทำจากผักต่างๆ เราก็เอามาทำรับประทานกัน

    ทีนี้ขอคุยอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องโขน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้มีการจัดแสดงโขนชุดพรหมมาศ เรื่องโขน สมเด็จเจ้าฟ้า ลูกสาวข้าพเจ้า สมเด็จพระเทพฯ เป็นห่วงเหลือเกินว่า โขนไม่ค่อยแสดง เพราะเสื้อผ้าก็ทรุดโทรมเก่า ไม่ได้แสดงแล้ว ทั้งๆ ที่มีคนที่ฝีมือดีที่จะแสดงโขนได้ แต่ก็แสดงไม่ได้เนื่องจากเงินจำกัด แล้วเสื้อผ้าก็เก่า ก็พระราชทานสร้างชุดโขนขึ้นใหม่อีก แล้วก็มีการซ้อม พวกครูโขนที่เก่งต่างๆ ก็ซ้อมลูกศิษย์ แล้วก็แสดงให้ประชาชนดูเมื่อเร็วๆ นี้เอง

    สมเด็จพระเทพฯ เล่าเป็นห่วงมาก ว่า โขนเป็นของที่วิเศษ อย่างที่อินโดนีเซียเขายังรักษาของเขาไว้ แต่ของเรานับวันเสื้อผ้ามันแพง นับวันจะไม่ได้แสดงก็กลัวว่าจะหายไปจากความนิยมของคนไทย ข้าพเจ้าก็ปรึกษากับอาจารย์สมิทธิ ศิริภัทร แล้วอาจารย์สมิทธิ ก็ไปรวบรวมผู้รู้หลายคน ศึกษาค้นคว้า จัดสร้างเครื่องแต่งกายของโขน หัวโขน เครื่องประดับต่างๆ คราวนี้งดงามมาก เครื่องแต่งกายโขนเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วสวยงามเหลือเกิน นับว่า คุ้มค่าในการรอคอยจริงๆ แสดงโขนเมื่อเร็วๆ นี้ ท่านทั้งหลายบางคนคงได้ชมแล้ว เห็นว่าประชาชนมาชมกันแน่นขนัด จนเพิ่มรอบการแสดงแล้วก็ยังไม่เพียงพอ ยังมีผู้ขอร้องให้จัดแสดงอีก น่ารักที่ลูกพาคนแก่ พ่อแม่หรือปู่ย่าตายายที่แก่ๆ ไปดูโขนที่ทำขึ้นใหม่ สำเร็จใหม่นี้ เห็นว่าสวยงามมากเลย อุปกรณ์การแสดงก็เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายชื่นใจ หายเหนื่อย เพราะได้รับคำชมจากประชาชนมากเลย เขามีรูปเสื้อผ้าโขนที่สร้างขึ้นใหม่

    การแสดงโขนครั้งนี้ไม่ใช่จะประสบความสำเร็จเพียงแค่ได้เผยแพร่ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยเราเท่านั้น แต่ยังเกิดสิ่งที่มีคุณค่าเพิ่มขึ้นมาอีก คือพวกเราได้สร้างช่างฝีมือรุ่นใหม่เอี่ยมขึ้นมา รุ่นใหม่ที่เข้าใจถ่องแท้ถึงศิลปะการสร้างเครื่องแต่งกายโขน และได้เห็นความผูกพันอย่างใกล้ชิดแบบสังคมไทยสมัยโบราณ ลูกหลานจูงพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย คนแก่ในบ้าน ไปดูโขนครั้งนี้ ได้เห็นการแสดงความรัก เอื้ออาทรต่อกันในครอบครัว ก็เป็นภาพที่สร้างความสุขใจแก่ผู้พบเห็นทุกคน และเสียงที่เรียกร้องว่า ให้จัดการแสดงโขนขึ้นอีกนั้น ข้าพเจ้าก็รับฟัง และกำลังตรึกตรองว่า จะเลือกตอนไหนมาจัดแสดงใหม่ แต่ก็ต้องฝึกซ้อมนานหน่อย ขอให้ นี่เขาสั่งให้ข้าพเจ้าพูดว่า ขอให้แฟนๆ โขนคอยติดตามข่าวต่อไป เขาสั่งมา อย่าลืมรับสั่งตรงนี้ให้ได้ โฆษณาไปในตัวรับรองว่า ต่อไปต้องมีให้ชมแน่นอน ในโอกาสนี้ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณกรุงเทพมหานคร และสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมกันจัดนิทรรศการโขนชุดพรหมมาศ ที่หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร ซึ่งประชาชนได้ชมความงดงามของเครื่องแต่งกายโขนทุกชนิด หัวโขน เครื่องประดับต่างๆ พร้อมทั้งอุปกรณ์การแสดงที่สำคัญ มีช้างเอราวัณเป็นต้น ทีนี้ใครเป็นผู้เชี่ยวชาญการโขนขอช่วยแนะนำข้าพเจ้าว่า คราวหน้าจะเอาตอนไหนมาแสดงดี ได้ช่วยกัน

    ต่อไปจะขอเล่าเรื่อง แนวปะการังเทียมที่ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ชาวประมงบ้านละเวง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี มาหาข้าพเจ้า และขอร้องให้ช่วยเหลือเพราะว่าเขามีอาชีพอยู่อย่างเดียวคือ ออกเรือไปเป็นเรือเล็กๆ เพราะเป็นคนจนมาก ออกเรือแล้วไปตกปลา จับปลาได้ก็มาขาย ได้เงินเลี้ยงชีพ และปลาที่เหลือก็รับประทาน

    ทีนี่เรื่องปลาในเขตน้ำตื้นร่อยหรอจนแทบไม่มีเหลือแล้ว ข้าพเจ้าเองจนปัญญา ก็ปรึกษากันกับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ได้รับคำแนะนำว่า ให้ลองทดลองสร้างแนวปะการังเทียมขึ้น อันนี้เป็นความคิดที่เรียกว่า ข้าพเจ้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย ได้อาศัยราษฎรเนี่ย ได้รับความรู้ต่างๆ ขึ้นมา ให้สร้างปะการังเทียมขึ้น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ ข้าพเจ้าก็ได้เปิดโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลขึ้น ใน พ.ศ.2544

    ที่ จ.นราธิวาส มีหน่วยงานหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือสนับสนุนโครงการนี้ เป็นโครงการที่น่าชุ่มชื่นใจ เพราะว่าเป็นการยกระดับชีวิตของคนที่ยากจน และแทบจะไม่มีหวัง ยากจ๊น ยากจน ผู้สนับสนุนโครงการนี้ เช่น กรมประมง กองทัพเรือ การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง อย่างการรถไฟแห่งประเทศไทย บริจาคตู้รถไฟที่ชำรุด ข้าพเจ้าเห็นแล้วก็งงว่า เอ๊ะ ไอ้รถตู้รถไฟมันจะมาทำช่วยให้ปลาชื่นชมได้ยังไง ก็งง ตอนนั้นไม่มีความรู้อะไรทั้งสิ้น แต่การรถไฟฯ เขาบริจาคตู้รถไฟที่ชำรุด

    กรมทางหลวงก็บริจาคท่อคอนกรีต เป็นต้น ต่อมากรุงเทพมหานครก็ยังช่วยบริจาครถขนขยะที่ชำรุดอีกด้วย เนี่ย ข้าพเจ้าได้เรียน เป็นพระราชินีไม่รู้เรื่องอะไรเลย ได้เรียนจากความต้องการของประชาชน และได้เรียนที่ท่านทั้งหลายได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และก็ทิ้งลงไปในทะเลที่เขากะแล้วว่า ที่ตรงนี้ทิ้งได้ ปะการรังเทียม แล้วเขาก็ ทางกองทัพเรือก็ไปถ่ายหนังมาให้ข้าพเจ้าดู โอ้โห ตกใจ พอเราทิ้งอะไรต่ออะไรต่างๆ ลงไปแล้ว ไอ้ปลามันขนโขยงมากันใหญ่ มันนึกว่า แหมนี่มีบ้านที่ดีของเราแล้ว มันมากันเป็นแถวเชียว

    เขาถ่าย ถ้าเขาไม่ไปถ่ายหนังให้ดูก็ไม่รู้ แหมมันมามากมายก่ายกอง ซึ่งประชาชนมาบอกข้าพเจ้า บอก โอ๊ยตอนนี้สบาย จับปลาได้ดีเลยตอนนี้ มันมากันเป็นแถว แล้วปลาต่างๆ ที่หายากก็เข้ามา ถ้าทิ้งลึกลงไปปลาใหญ่ๆ เมื่อไม่นานมานี้ข้าพเจ้าก็ได้รับรายงานว่า เขาได้ถ่ายหนังภาพของฝูงปลานานาชนิด เข้ามาอาศัยอยู่ในแนวปะการังเทียม แม้แต่ปลาที่หายากที่สุด กรมประมงบอกหายากแทบไม่ได้เห็น คือ ปลาหมอทะเลตัวใหญ่เบ้อเริ่ม ขนาด 2 - 3 เมตร ก็เข้ามาหาที่อยู่ที่นี่ ข้าพเจ้าได้ยินแล้วมหัศจรรย์ใจ ไม่เคย เป็นความรู้ใหม่ทั้งนั้นเลย ปลาจาละเม็ด สีเทา ซึ่งแต่ก่อนก็ไม่มีแล้ว ปลาช่อนทะเล ปลากุเรา ก็เข้ามาได้ ชาวประมงพื้นบ้านก็มาหาข้าพเจ้า บอกแหม ดีท่าน เดี๋ยวนี้พวกเราไม่ต้องออกไปไกลก็จับปลาได้มากขึ้น จากแทบจะว่าไม่มีรายได้ กลับมามีรายได้เพิ่มขึ้น ถึงเดือนละหมื่นกว่าบาท ชาวบ้านจากยากจนเหลือเกิน แปลว่า คนที่มีความรู้ของเรา ของประเทศไทยเรามีมาก และพร้อมเสมอจะช่วยชาติบ้านเมือง

    ปีนี้ กลุ่มประมงพื้นบ้าน ตั้งแต่ปัตตานี ถึงนราธิวาส หลายร้อยคน เขียนจดหมายถึงข้าพเจ้า และก็เซ็นชื่อเป็นบัญชีหางว่าวเลย ขอให้ข้าพเจ้าช่วยจัดทำปะการังเทียมเพิ่มเติมขึ้นอีก และตอนนี้ใครจะช่วยข้าพเจ้า ตอนนี้ จะเอาอะไรไปทิ้งให้ปลามันอยู่

    ข้าพเจ้าจึงนำมาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟังว่า ปะการังเทียมนั้นใช้ได้ผลจริงๆ น่าภูมิใจแทนหน่วยงานทั้งหลาย ที่ช่วยเหลือประชาชนนั้นประสบผลสำเร็จ และข้าพเจ้าก็เลยขอถือโอกาสนี้ส่งข่าวถึงกลุ่มประมงพื้นบ้าน ที่เขาเขียนจดหมายถึงข้าพเจ้า ขอปะการังเทียมเพิ่มด้วยว่า ข้าพเจ้าจะพยายามขอร้อง ขอให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทุกแห่ง ช่วยกันประสานงาน เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอก็คงจะเริ่มจัดสร้างพื้นที่บริเวณปะการังเทียมได้อีก เพื่อประชาชนจะได้ไปตกปลา ไปทำมาหากินได้เพิ่มนะคะ ท่านนายกฯ

    คราวนี้สบายหน่อย แหม เขาเขียนให้เป็นฉากๆ และคราวนี้ พระราชทานพันธุ์ข้าว ฤดูเพาะปลูกปีนี้ นายกสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกร จ.มหาสารคาม ก็แจ้งความเดือดร้อนมาว่า นาของเกษตรกร 1,500 ราย ในภาคอีสาน 19 จังหวัด ประสบอุทกภัยและโรคแมลง ทำให้ไม่มีข้าวพันธุ์ดีที่จะปลูกต่อไป ราษฎรจึงมีจดหมายมาขอข้าวพันธุ์ดีจากข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ส่งเรื่องไปที่กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องพันธุ์ข้าวโดยตรง เขาจะได้เป็นธุระจัดหาพันธุ์ข้าวให้ กรมการข้าวได้จัดพันธุ์ข้าวปลูกอย่างดี เป็นข้าวเจ้า พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ และข้าวเหนียวพันธุ์ กข.6 อย่างละครึ่ง รวม 75 ตัน มอบให้เกษตรกร เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา

    ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยมาแต่โบราณ ข้าพเจ้าเองก็ไม่เคยทราบว่า ข้าวมีประโยชน์อย่างเหลือหลาย พอโตขึ้นมาจะเป็นสาวเขาก็สอนกันว่า ถ้ากินข้าวมากจะพุงป่อง จะไม่ดีจะพุงป่อง จะอ้วน แต่มาตอนนี้ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือนิวสวีก และไทม์ แมกกาซีน เขาพูดถึงข้าว ว่าข้าวเป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดของมนุษย์ เป็นแป้ง คาร์โบไฮเดรตที่อ้วนน้อยที่สุด เทียบกับขนมปัง เทียบกับสปาเก็ตตี้ เทียบกับเส้นอะไรต่างๆ ข้าวอ้วนน้อยที่สุด มีประโยชน์เหลือหลาย ส่วนที่มีประโยชน์จริงๆ อยู่ที่ผิวที่หุ้มเมล็ด ส่วนที่เมื่อกระเทาะเปลือกแข็งออกไปแล้วจะเห็นเป็นสีน้ำตาลกับจมูกข้าว ข้าพเจ้าเองก็เลยขอร้องพวกประชาชนที่เป็นสมาชิกศิลปาชีพ ให้ตำข้าวจากนาของเขามาถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับข้าพเจ้า เขาก็จะตำและส่งมาให้ตลอด เพราะว่าฝรั่งเขียนว่า ข้าวนี่เป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะว่ามีวิตามินที่จะไปทำให้ร่างกายของเรานี่ ข้าพเจ้าอ่านว่า 25 เซลล์ที่สมองก็เริ่มๆ จะเสียแล้ว เริ่มต้นแล้ว อายุ 25 แล้วก็ เซลล์ต่างๆ จะเริ่มเสียไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นหมอที่อเมริกา จากทุกหนแห่ง เขาพูดว่า เราเนี่ยควรจะรับประทานวิตามินรวม เพื่อให้เซลล์ในร่างกายของเราเนี่ยเสื่อมช้าลง

    และเขาก็พูดถึงข้าว ว่าข้าวเนี่ยถ้าไปเข้าโรงสีมากมายก่ายกอง ก็เป็นแค่แป้งเท่านั้นเอง แต่ถ้าเผื่อเรามากระเทาะ ตำเอง กระเทาะเปลือกข้างนอกออกนิดเดียว โห มีคุณค่าเหลือที่จะพรรณาเชียว จะไปช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ที่กำลังจะชำรุดทรุดโทรม ไอ้เราก็คิดว่า ข้าวเนี่ยมันอ้วน อ้วนนะ ก็ไม่รับประทาน แต่ขอให้ทุกคนทราบเถอะว่า นิวสวีก เป็นหนังสือพิมพ์ของทั่วโลก และก็ไทม์ เขาบอกข้าวนี่ยอดเยี่ยมที่สุด มีวิตามิน บี 1 บี 2 มีธาตุเหล็ก มีแคลเซียม แล้วก็ที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงวัยเช่นข้าพเจ้าเป็นต้น คือ มีสารที่ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายด้วย ทุกคนกลับไปรับประทานข้าวเลยนะ เอาจริงๆ ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่อะไรมันอ้วนอยู่ดีเหมือนกัน แต่ว่ามันมีประโยชน์น้อยกว่าข้าว นี่เป็นฝรั่งเขาพูดนะ

    อีกเรื่องที่ข้าพเจ้าชื่นชมเหลือเกินที่ทราบข่าวดีมาว่า เยาวชนของเราที่เก่งของเรา อย่าง น.ส.นพวรรณ เลิศชีวกานต์ อายุ 17 จากเชียงใหม่ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน 2009 ที่ประเทศอังกฤษ และทราบว่า เยาวชนจากโรงเรียนมัธยมหลายแห่ง ได้รับรางวัลเหรียญทอง เหรียญเงิน ในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ เกี่ยวกับฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และชีววิทยา และนอกจากนี้ ยังมีทีมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับรางวัลชนะเลิศ หุ่นยนต์กู้ภัยโลก และโรงเรียนสุรนารีวิทยา โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย โรงเรียนเรยีนาเชลี ได้รับรางวัลวงโยธวาทิตระดับโลก มันแสดงให้ข้าพเจ้ามั่นใจ และปลื้มใจ และคิดว่า คนไทยทั้งประเทศคงปลื้มใจว่า คนไทยของเรานี่เก่ง เก่งจริงๆ ขอให้มีโอกาสในชีวิตเท่านั้น อย่างข้าพเจ้าได้เห็นตัวอย่างตัวเองแล้ว สมาชิกส่งเสริมศิลปาชีพที่จบแค่ ป.3 แล้วไม่ได้เรียนเลย ซึ่งบัดนี้ชาวต่างประเทศไปดูฝีมือที่พระที่นั่งอนันตสมาคมบอกว่า เป็นฝีมือ 1 ของโลกแห่งนี้ คนทีพูดเป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วย ข้าพเจ้าก็คือว่าเมื่อไหร่ที่ได้โอกาสไปที่สหรัฐอเมริกาก็จะพาพวกเขาไป แล้วก็จะเอาฝีมือที่เขาทำไปแสดงให้คนไทยที่อเมริกาได้เห็นด้วย ว่านี่คือคนไทยของเรา

    เรื่องพระบวรพุทธศาสนา ข้าพเจ้าเอง คนทั้งหลายเป็นห่วง แต่ข้าพเจ้าเองเชื่อว่า ทุกวันนี้เด็กรุ่นใหม่ที่ว่าไม่ค่อยเข้าใจในพระพุทธศาสนา ก็คงจะไม่จริง ข้าพเจ้าทราบว่าเด็กไทยสนใจในพุทธศาสนามากขึ้น ไปนั่งปฏิบัติธรรม ไปเข้าค่ายธรรมะกันเป็นแถว

    ข้าพเจ้าเองพออายุ 70 ก็นึกอยากฟังพระเทศน์ วันพระใหญ่ก็จะไป ชักชวนพวกพ้องไปกันแน่นเชียว ไปที่วัดหนึ่งวัดใดขอให้ท่านช่วยเทศน์ให้ฟัง เปลี่ยนวัดไปเรื่อยๆ ไปฟังเทศน์ ไปแล้วก็ตกใจ เห็นประชาชนมานั่งมารอเป็นแถว คอยที่จะฟังเทศน์ ข้าพเจ้าก็เลยจัดแจงให้มีลำโพงออกมา ให้ประชาชนที่มานั่งได้ฟังคำพระเทศน์ด้วย ซึ่งเขาก็คงจะภูมิใจ ถ้าใครว่าง ก็ชวนไปฟังเทศน์กับข้าพเจ้าได้ คราวที่แล้วฟังที่หัวหิน ที่วัดที่หัวหิน

    รู้สึกจวนจะจบแล้ว ขอบพระคุณในน้ำใจของทุกคนที่มาฟัง และก็คงช่วยกันให้เด็กไทยของเราได้รับโอกาส อย่างที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสช่วยเด็กศิลปาชีพ และได้เห็นฝีมือของเขา เพราะว่า ข้าพเจ้าเอาเด็กศิลปาชีพมา เขาอายุ 13 14 15 มาสอนให้เขียนลายถมทอง และก็ตัวการอยู่นี่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ หัวร่อข้าพเจ้า บอกแม่ จะเอาเด็กชาวบ้านมาให้ทำถมทองยังไง และเดี๋ยวนี้ เด็กชาวบ้านต่างๆ ทำยิ่งกว่าถมทองอีก ฝีมือสวยเหลือเกิน ที่ชาวต่างชาติมาดูและบอกว่า ฝีมือระดับโลกเลย ถ้าเผื่อข้าพเจ้ามีโอกาส มีโชคดี ความจริงเขาก็เชิญมาแล้ว ให้ไปสหรัฐอเมริกาตอนที่เรียกว่าเศรษฐกิจอะไรต่ออะไรของโลกค่อยดีขึ้นแล้วข้าพเจ้าจะเอาเด็กเหล่านี้ไปให้ได้เห็นสหรัฐอเมริกา แล้วเอาฝีมือที่เขาทำไปประกวดด้วย

    ในที่สุดนี้ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณทุกท่าน ซาบซึ้งในน้ำใจของทุกท่าน เป็นกำลังใจเหลือเกินที่ 77 ปี จะได้กำลังใจอย่างนี้ แล้วก็จะไปฉิวได้อีก แหมตัวเลขฟังเสียงแล้วน่ากลัว 77 ปี ขอขอบคุณนะคะ”

    จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ในหลวงแข็งแรง ราชินีตรัส ทรงออกพระกำลัง
    ˹ѧ

    เผยพระราชดำรัส12สค. ทรงใจหาย-ยุคนี้"กลียุค" ชื่นชมเด็กไทยระดับโลก แชมป์วิมเบิลดัน-หุ่นกู้ภัย



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดา ลัย สวนจิตรลดา พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าฯถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา






    </TD></TR></TBODY></TABLE>ราชินีมีพระราชดำรัสแก่พสกนิกรชาวไทย เนื่องในวันเฉลิมฯ 12 สิงหาฯ ยังทรงมีพระกำลังใจในการช่วยเหลือพสกนิกรต่อไป แม้พระชนมพรรษา 77 พรรษาแล้ว ทรงยกตัวอย่างในหลวง ทุกวันนี้ยังทรงคิดโครงการพัฒนาต่างๆ อยู่ตลอด พระวรกายยังแข็งแรงดี ขณะที่โครง การหลวงที่ผ่านมา ก็ประสบความสำเร็จดีเยี่ยมในทุกพื้นที่ แต่ทรงใจหายที่ตามตำราว่ายุคนี้กำลังเป็น"กลียุค" พอดี ก่อนมีไฟบรรลัยกัลป์มาล้างโลก เผยทรงชื่นชมคนไทยมีความสามารถถ้าได้รับการผลักดัน อย่างเด็กๆ ชาวบ้านเอามาฝึกศิลปาชีพ มีฝีมือที่ฝรั่งยกย่องว่าเป็นที่หนึ่งของโลก เช่นเดียวกับเด็กไทยที่คว้าแชมป์โอลิมปิกวิชาการ แชมป์หุ่นยนต์โลก เทนนิสวิมเบิลดัน

    -ทำพิธี"มหาชาตาบารมีสิทธิ"

    เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช จัดพิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษี เจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เป็นประ ธานฝ่ายสงฆ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานฝ่ายฆราวาส มีนายวรธนัท อัศกุลโกวิท ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ และประธานโครงการพิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ เป็นผู้นำประกอบพิธี ทั้งนี้พิธีดังกล่าว เป็นการเจริญพระพุทธมนต์แบบอาณาจักรสุวรรณภูมิ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล และเพื่อความเป็นสิริมงคลถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งพิธีดังกล่าวจัดตามคติความเชื่อที่ว่าหากดวงพระราชชะตาของผู้ปกครองแผ่นดินแข็งแกร่ง จะนำมาซึ่งความผาสุกแก่ประชาชนทั้งแผ่นดิน

    ต่อมาเวลา 16.00 น. ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม คณะสงฆ์ โดยคณะกรรมการมหาเถรสมาคม คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมประกอบพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระ ชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2552 โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน พร้อมด้วย กรรมการมหาเถรฯ ทุกรูป เจ้าคณะกรุงเทพมหา นคร (กทม.) พระสังฆาธิการ กรุงเทพฯ ทุกวัด โดยมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

    -ราชินีทรงเลือก6หนังสือเยาวชน

    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้ปี 2552-2561 เป็นทศวรรษแห่งการอ่านของประเทศ ซึ่ง ศธ.จะได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการส่งเสริมการอ่านขึ้นทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสร้างเสริมนิสัยรักการอ่านในเด็กและเยาวชนไทย ดังนั้น ศธ.จะได้จัดกิจกรรม "รักการอ่าน เทิดมหาราชินี" โดยจะเป็นการจัดกิจกรรมพร้อมกันทุกจังหวัด ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) เขต 1 ของแต่ละจังหวัด สำหรับที่กรุงเทพฯ จะจัดที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่น ฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ในระหว่างวันที่ 14-16 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานในวันที่ 14 ส.ค. พร้อมทั้งจะได้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ด้วย

    รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ในการนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาพระราชทานรายชื่อหนังสือดีเด่น 6 เรื่องที่เด็กและเยาวชนไทยควรอ่านให้แก่ ศธ. เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมให้เกิดการอ่านโดยทั่วไป สำหรับรายชื่อหนังสือดังกล่าว ได้แก่ พระอภัยมณี รามเกียรติ์ นิทานชาดก อิเหนา พระราชพิธีสิบสองเดือน กาพย์เห่เรือเจ้าฟ้ากุ้ง(เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์) ซึ่งอย่างน้อยหนังสือเหล่านี้จะต้องมีวางให้อ่านในห้องสมุดที่อยู่ในโครงการ 3 ดี ทั้งนี้ในส่วนกิจกรรมในการจัดงาน ประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ สิบกลวิธีสร้างนิสัยรักการอ่านซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงใช้ แรลลี่การอ่าน เวทีเยาวชนรักการอ่าน เป็นต้น รวมทั้งมีการจัดจำหน่ายหนังสือดีในราคาประหยัด ซึ่งเป็นความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ และเอกชน ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ในวันดังกล่าว

    -เสด็จลงศาลาดุสิดาลัย

    เวลา 16.53 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ ประกอบด้วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน และผู้แทนมูลนิธิ สมาคม สโมสร องค์กรต่างๆ รวม 461 คณะ จำนวน 15,865 คน เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2552 โดยนายอภิสิทธิ์กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ตอนหนึ่งว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงสนพระราชหฤทัยในความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎร ทั้งผู้ป่วยเจ็บทุพพลภาพยากไร้ขาดที่พึ่ง ผู้พิการทุกข์ทรมาน ผู้เคราะห์ร้ายจากภัยสังคม ได้ทรงพระเมตตารับไว้ในพระราชานุเคราะห์เพื่อให้พ้นจากความทุกข์ยากลำเค็ญ พระมหา กรุณาธิคุณล้วนเป็นที่ประจักษ์แจ้ง และก่อให้เกิดความสำนึกซาบซึ้ง ทั้งในหมู่ผู้ทุกข์ยากและมวลพสกนิกรทั้งหลายโดยถ้วนหน้า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงตรากตรำพระวรกาย เสด็จพระราชดำเนินไปยังท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกล ด้วยพระวิริยะอุตสาหะและด้วยน้ำพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยความรักเอื้ออาทรต่อพสกนิกร โดยมิทรงย่อท้อต่อความยากลำบากหรืออุปสรรคใดๆ ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ และเพื่อสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าแก่ประเทศชาติตลอดมา อาณาประชาราษฎร์ต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม และล้วนมีความจงรักภักดีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเป็นที่เคารพรักเทิดทูนอย่างยิ่งของปวงชนชาวไทย และเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญพระเกียรติคุณ ทั้งในมวลหมู่พสกนิกรชาวไทยและชาวต่างประเทศ

    เนื่องในศุภมงคลวโรกาสเฉลิมพระชนม พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2552 นี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระราชวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช และสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลพิภพ และพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า อีกทั้งพระราชกุศลผลบุญที่ได้ทรงบำเพ็ญอยู่เสมอมา โปรดอภิบาลประทานชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพระเจริญ พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลทั่วทุกทิศานุทิศ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใดขอจงสัมฤทธิ์ สถิตเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและพสกนิกรชาวไทยตลอดจิรัฐิติกาลเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

    -ทรงมีกำลังใจช่วยพสกนิกรต่อ

    จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัส ความว่า ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีคณะรัฐบาลและท่านทั้งหลายซึ่งเป็นผู้แทนของข้าราชการทุกหมู่เหล่าทั้งฝ่าย ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร รัฐวิสาหกิจ ผู้แทนขององค์กรทั้งหลายทั้งปวงซึ่งทำหน้าที่ตลอดมา ช่วยเหลือสังคมไทยให้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ไปได้ด้วยดี ผู้แทนสถาบันการศึกษาและประชาชนจากทุกจัง หวัดทั่วประเทศ รวมจำนวนประมาณ 160,000 คนที่ได้มาชุมนุมกันอยู่ ณ บริเวณศาลาดุสิดาลัยแห่งนี้ เพื่อร่วมอวยพรแก่ข้าพเจ้า เนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิดปีที่ 77 โดยท่านนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยกล่าวอวยพร ด้วยใจความที่ทำให้ข้าพเจ้าอายุ 77 นี้ เกิดกำลังวังชา เกิดกำลังใจที่จะทำงานช่วยเหลือประชาชนต่อไป หลายปีมานี้มีผู้มาอวยพรข้าพเจ้ามากขึ้นเป็นลำดับ มีผู้มีน้ำใจหลายท่านเช่นเดียวกันที่นำอาหารมาช่วยข้าพเจ้าสำหรับเลี้ยงแขก ข้าพเจ้าขอขอบใจทุกท่าน และขอให้กุศลจากการเลี้ยงอาหารประชาชนในครั้งนี้ ทรงให้ผู้ที่เป็นเจ้าภาพอาหารและน้ำดื่มทุกรายมีกินมีใช้ มีเหลือแจกผู้อื่นเช่นนี้ตลอดไป

    ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้ายังต้องขอบใจทุกท่านที่บำเพ็ญสาธารณกุศลและสาธารณประโยชน์เพื่อให้เป็นกุศลแก่ข้าพเจ้า เช่นคณะแพทย์ที่จะทำ การผ่าตัดหัวใจช่วยเหลือประชาชนจำนวน 500 ราย และโครงการผ่าตัดหัวใจเด็ก เพื่อช่วยชีวิตเด็กตามตะเข็บชายแดน จำนวน 800 ราย ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จะเป็นโครงการต่อเนื่องไปจนถึงข้าพเจ้ามีอายุ 80 ปี ขอบใจสภาสังคมสงเคราะห์ที่ดำเนินโครงการน้ำพระทัยเข้มแข็งตลอดมา นอกจากนี้ยังมีผู้บวชพระบวชเณรจัดเทศน์มหาชาติ ปลูกต้นไม้ จัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ให้เป็นเกียรติแก่ข้าพเจ้า ขอบใจผู้ส่งบัตรอวยพรวันเกิดให้ข้าพเจ้า ซึ่งมีเด็กนักเรียนรวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ตลอดจนผู้ที่อวยพรข้าพเจ้าผ่านทางสื่อมวลชนทุกแขนง บ้างก็ประพันธ์บทร้อยแก้วร้อยกรองอย่างไพเราะ บ้างก็รำอวยพร ข้าพเจ้าได้ชมแล้วรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีของทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

    -พระสุขภาพในหลวงสบายดี

    ขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและข้าพเจ้าพักอยู่ที่วังไกลกังวล หัวหิน ที่นั่นอากาศดี เหมาะแก่พระสุขภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านสบายดีขึ้น ทรงพยายามออกพระกำลัง โดยทรงพระดำเนินที่เฉลียงทุกๆ วัน ทำให้ทรงแข็งแรงขึ้น เพราะปีนี้พระชนมายุจะ 82 แล้ว ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ดั่งที่ประชาชนเห็นในข่าวโทรทัศน์ เช่น เสด็จออกรับแขกบ้านแขกเมือง หรือมีคณะบุคคลต่างๆ มาเฝ้าฯ บางครั้งก็เสด็จออกไปทอดพระเนตรโครงการอะไรใกล้ๆ หัวหินบ้าง จะให้ทรงตรากตรำเดินทางไกลหรือตากแดดตากฝนทั้งวันเหมือนสมัยที่ทรงงานมาแล้วหลาย 10 ปีก่อนนั้น คงไม่ไหว หลายสิบปีก่อนนี้เสด็จฯไปเยี่ยมประชาชนทุกภาคของประเทศ ทรงขับรถเอง หนทางเรียกว่ากันดารไม่ใช่น้อย บางครั้งทรงขับรถข้ามแม่น้ำ นี่เป็นจ.นราธิวาส ทรงขับรถเพื่อไปดูให้เห็นจริงจังถึงการอยู่กินของราษฎรตามเขตชายแดนต่างๆ แต่พระองค์ท่านก็ยังทรงติดตามงานต่างๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องฝน เรื่องปริมาณน้ำในเขื่อน ทรงห่วงประชาชนมาก เกรงว่าจะมีน้ำท่วมอีก ถ้าพอจะหาแนวทางอะไรช่วยป้องกันได้ ก็จะมีพระราชดำริให้เตรียมการกันเอาไว้ก่อน

    ประเทศไทยของเราเป็นประเทศเกษตรกรรม คนไทยส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ การเพาะปลูกของชาวนาชาวไร่ซึ่งไม่ได้อยู่ในเขตชลประทานต้องพึ่งพาอาศัยฝนฟ้าจากธรรมชาติเป็นหลัก ปีใดฝนดีผลผลิตก็ดี ปีใดฝนแล้งพืชก็แห้งตาย ฝนมากไปน้ำก็ท่วมปัญหาของแต่ละภาคไม่เหมือนกัน ภาคเหนือเป็นดอยสูงสลับซับซ้อน มีชาวเขาหลายเผ่าอาศัยอยู่ดั้งเดิมเขาก็ปลูกฝิ่น เขาบอกเขาไม่รู้จะทำมาหากินอะไร หรือบางครั้งทำไร่เลื่อนลอย ทำให้เกิดปัญหายาเสพติดและป่าไม้ถูกทำลาย บางครั้งชาวเขาก็กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองว่า เมื่อพ่อบอกว่าปลูกฝิ่นไม่ดี เขาจะทำตาม จะเลิกปลูกฝิ่นจะทำการเพาะปลูกอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งผู้เชี่ยวชาญไปสอนเขา แต่เขาก็พูดว่าขออนุญาตพ่อได้ไหม ให้มีที่ปลูกฝิ่นสักนิดหนึ่ง ไม่ใช่อะไร เวลาปวดฟันปวดท้องมันนานกว่าที่จะลงไปหาหมอข้างล่าง ถ้ามีฝิ่นปวดฟันนอนไม่หลับ เสพฝิ่นหน่อยเดียวก็ค่อยยังชั่ว พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งบอกอนุญาตให้ปลูกฝิ่นได้เล็กน้อยสำหรับแก้เจ็บปวดอะไรเช่นนั้น

    -ในหลวงทรงริเริ่มพืชเมืองหนาว

    ส่วนภาคอีสานก็เป็นที่ราบสูง ปัญหาใหญ่คือขาดแคลนน้ำที่ใช้เพาะปลูกและดินเป็นดินทราย ภาคใต้มีฝนตกชุกแทบทั้งปี แต่เนื่องจากภูมิประเทศมีลักษณะแคบยาว ด้านหนึ่งเป็นภูเขา ด้านหนึ่งเป็นทะเล ที่ราบตรงกลางบางส่วนเป็นพรุไปเสียหลายแสนไร่ ปลูกพืชเศรษฐกิจอะไรก็ไม่ค่อยได้ เพราะในพรุมีน้ำเปรี้ยวขังอยู่ ถ้าฝนตกมากน้ำเปรี้ยวในพรุก็ไหลล้นออกมา ทำให้ดินข้างนอกเปรี้ยวตาย ถ้าฝนน้อยไปน้ำเค็มจากทะเลก็ซึมเข้ามา กลายเป็นมีน้ำ 3 รสด้วยกันคือทั้งจืด ทั้งเปรี้ยว และทั้งเค็ม ส่วนภาคกลางของเราโชคดี แม้ว่าจะโชคดีมีภูมิประเทศเป็นที่ราบ น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ แต่เนื่องจากเป็นทางผ่านที่น้ำมาจากภาคเหนือและไหลลงสู่ทะเล ปีไหนฝนชุกมากภาคกลางก็จะมีน้ำท่วมซ้ำ ท่วมแล้วไม่ลดลงเร็วเหมือนภาคอื่น เพราะมีน้ำทะเลหนุน กลายเป็นน้ำท่วมขัง บางพื้นที่ต้องจมน้ำอยู่ตั้งหลายเดือน เช่นบ้านเดิมของข้าพเจ้า บ้านของพ่อแม่ข้าพเจ้าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เทเวศน์ ก็เห็นเป็นประจำน้ำท่วมตลอด บางทีก็ท่วมเข้ามาในบ้านด้วยซ้ำไป พื้นเสียหมดเลย น้ำท่วมมีปลามีงูมาว่ายอยู่ในบ้าน ต้องย่ำน้ำอยู่ในบ้านเป็นของธรรมดา บัดนี้ก็สมัยใหม่ขึ้นก็ค่อยยังชั่วขึ้น

    ข้าพเจ้าเป็นพระราชินีมา 59 ปี ได้ตามเสด็จฯพระเจ้าอยู่หัวไปเยี่ยมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทำให้ได้เห็นว่าทรงงานอะไร อย่างไรและที่ไหนบ้าง และได้เห็นว่าทุกครั้งที่เสด็จฯไปเยี่ยมราษฎร จะทรงขับรถเองและมีแผนที่อยู่ใกล้พระองค์เสมอ ทรงจะไปทุกหนทุกแห่ง พระองค์ท่านทำงานเกี่ยวกับเรื่องดินและเรื่องน้ำมาตลอดหลายสิบปี ทรงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญไปแล้ว ปี 2512 ระหว่างประทับที่ชาวเขาก็ทรงงานช่วยเหลือชาวเขาที่เขาปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย ให้เปลี่ยนมาปลูกพืชผักผลไม้เและไม้ดอกเมืองหนาวแทน ทรงดูแลเรื่องการตลาดให้ด้วย โดยมีหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้ช่วยจนเกิดเป็นโครงการหลวงจนถึงทุกวันนี้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นนักเรียนอังกฤษเก่า เพราะฉะนั้นการปีนเขาขึ้นไปเดินบนยอดเขาต่างๆ เป็นเรื่องเล็ก และเป็นผู้ที่ทรหดอดทนไปเยี่ยมชาวเขาเผ่าต่างๆ จนเขาไว้วางใจ ไว้วางใจว่าท่านช่วยเขาได้แน่นอน แล้วเขาก็เริ่มลดการปลูกฝิ่นมาปลูกผลไม้ ผัก ดอกไม้ ตามโครงการหลวงถึงทุกวันนี้

    สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงกล่าวถึงความสำเร็จของโครงการแกล้งดินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนภาคใต้สามารถปลูกข้าวได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่าในอดีตอย่างมาก รวมทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ช่วยให้กทม.ไม่เกิดน้ำท่วม

    -ศิลปาชีพสร้างช่างมือหนึ่งโลก

    "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีโครง การพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการทั่วประเทศ ทรงมุ่งให้ราษฎรให้กินดีอยู่ดีขึ้นทุกภาค งานที่ทรงทำ ทำโดยไม่มีวันหยุดมาเกือบ 60 ปีแล้ว ทรงทำโดยไม่เบื่อหน่าย เพราะเป็นงานที่ทรงทำเพราะความรักที่มีต่อประชาชน ในห้องทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีแต่แผนที่ประเทศไทยทุกภาคเต็มไปหมด เพราะว่าโปรดเรื่องแผนที่มาก แล้วก็โดยที่ทรงสนพระทัยแผนที่ก็ทรงสามารถติดต่อกับประชาชนที่มาเฝ้าฯเป็นหมื่นๆ คนได้ จะทรงถามว่า เขาอยู่ที่ไหน หมู่บ้านชื่ออะไร เป็นหมู่บ้านกี่หลังคาเรือน และเวลานี้มีหมู่บ้านที่ติดกันเพิ่มขึ้นใหม่หรือไม่ ก็ทรงได้ข้อมูลใหม่ๆ และทรงดูแลความเจ็บป่วยของประชาชน พวกที่ลูกมากยากจนขาดการศึกษา อันนี้ข้าพเจ้าก็เลยโชคดี พวกลูกมากยากจนนี่ข้าพเจ้าก็ชวนเขามาที่ภาคกลาง มาอยู่ที่ในวังหลวง และมาฝึกศิลปาชีพการฝีมือต่างๆ การทำโลหะอะไรต่างๆ ซึ่งได้ผลดีมาก และขณะนี้แสดงอยู่ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม

    ข้าพเจ้าปลื้มใจมากเพราะมีเพื่อนต่างชาติไปดู แล้วเขาก็ชมข้าพเจ้าก็คิดว่าเขาคงชมด้วยใจจริงถึงฝีมือของชาวบ้านที่ทำศิลปาชีพสวยงามมาก เขาบอกนี่เป็นฝีมือของมือหนึ่งของโลก จากเด็กที่ยากจนพ่อแม่มีลูก 8-9 คน ข้าพเจ้าจะเอามาครอบครัวละ 2 คน มาอยู่ในวังหลัง เช้าขึ้นก็เอารถมารับมาที่โรงงานที่สวนจิตรลดา ฝึกงานต่างๆ สอนเขา และให้เงินเขาทุกวันที่เขามาทำงาน ฝึกงานกับเรา แล้วเขาก็เก็บเงินส่งไปให้พ่อแม่ เขามีความสุขมาก และเดี๋ยวนี้พวกที่ยากจนที่สุดจบป.3 บางทีไม่จบประถม 4 บางคนไม่ได้เรียนเลย กลายเป็นคนที่เรียกว่าชาวต่างชาติมาดูแล้วบอกว่า นี่มือหนึ่งของโลกนี่ อันนี้ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจที่สุดและภาคภูมิใจในมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพที่ข้าพเจ้าตั้งมา" ราชินีทรงกล่าว

    -ทรงใจหาย-ยุคนี้เป็น"กลียุค"

    ถ้าเผื่อข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพจะไม่มีวันได้รู้ว่าคนไทยของเรา หรือผู้ที่อยู่ในประเทศไทยของเราเป็นคนที่เก่งเช่นไร ถ้าได้โอกาสในชีวิตแล้วเขาจะพุ่งไปไกล ทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่มีที่เรียกว่าไม่รู้จะทำอะไรทำไม่ได้อะไรเช่นนี้ คนไทยนี่เก่งจริงๆ ไม่ว่าจะหยิบที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง เก่งทั้งนั้น เป็นคนที่คนไทยทุกคนควรภาคภูมิใจว่ามีเพื่อนร่วมชาติที่เก่ง ขอโอกาสสักนิดเดียวเท่านั้นเขาไปลิ่วทีเดียว กลายเป็นมือหนึ่งของโลก ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าได้รับเชิญจากเพื่อนว่าขอให้ไปสหรัฐอเมริกาอีก ข้าพเจ้าก็คิดอยากจะไป เพราะว่าไปทีไรทางสหรัฐอเมริกาได้ให้ความเอาใจใส่และดูแลอย่างดีเลิศ ดีมาก มิหนำซ้ำในรัฐสภาเขาจะพูดถึงว่าประเทศไทย คนไทยเก่งมาก เป็นคนเก่งและพระเจ้าแผ่นดินก็เป็นคนที่มีความสามารถ และพระราชินีของท่านกำลังจะมา เขาก็พูดกันในสภาว่า Let"s welcome her น่ารักมาก คนอเมริกัน น่ารักจริงๆ

    ข้าพเจ้ายังปลื้มมาก ไม่เคยคิด ถ้าท่านยังสงสัยอยู่ให้ท่านไปที่พระที่นั่งอนันตสมาคมไปดูผลงานที่คนไทยที่จบแค่ป.3 หรือไม่ได้เรียนเลย เขาสามารถประดิษฐ์แกะสลัก สวยงามเหลือเกินชิ้นเบ้อเริ่ม สวยงามมาก แกะสลักเป็น 4 ยุคด้วยกัน ข้าพเจ้าไม่ได้รู้เอง พรรคพวกข้าพเจ้าไปอ่านมาข้อมูลจากหนังสือไตรภูมิ เทพฤาษี คนทรรพ เฝ้าพระอิศวร อยากทราบว่าแก้วเก้าประการเกิดขึ้นได้อย่างไร พระอิศวรให้ไปถามพระฤาษีชื่อพระอังคต เพราะเป็นฤๅษีที่อายุยืนที่สุดตั้งแต่สร้างโลกมา ฤๅษีอังคตเกิดในยุคกฤติยุค ยุคนี้ข้าพเจ้าก็เพิ่งทราบและเพิ่งเคยได้ยินว่ากฤติยุคเป็นยุคที่บริบูรณ์ไปด้วยคุณงามความดี ที่ข้าพเจ้าต้องทราบก็เพราะว่าเด็กที่เอามาตั้งแต่เล็กๆ เป็นผู้แกะสลัก ใช้เวลานานมากแกะสลักยุคต่างๆ บนไม้สัก ยุคที่ 2 ชื่อว่าไตรดายุค เป็นยุคที่มีความดี 3 ส่วน ความไม่ดี 1 ส่วน ยุคที่ 3 ชื่อ ทวาบรยุค เป็นยุคที่ความดีและความไม่ดีเสมอกันครึ่งต่อครึ่ง พอมาถึงยุคนี้เป็นยุคที่ข้าพเจ้าใจหายใจคว่ำชื่อว่ากลียุค แหมไม่ค่อยดี กลียุคเป็นยุคที่มีความดีส่วนเดียว ความไม่ดีสามส่วน เขาก็บรรยายต่อไปว่ากลียุคเป็นยุคปัจจุบันที่ข้าพเจ้าและพวกท่านทั้งหลายอยู่คือกลียุค ต่อจากกลียุค จะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก มีลมหอบแผ่นดินไหวแผ่นดินแยก ข้าพเจ้าก็ไม่อยากรู้แล้วต่อไป เขาเขียนว่าใครอยากรู้มากกว่านี้ให้อ่านจากหนังสือไตรภูมิพระร่วง แต่หวังว่าคงยังไม่เกิด

    -ทรงชมศิลปาชีพพัทลุงเก่งมาก

    ข้าพเจ้าปลื้มมากที่ท่านทั้งหลาย ประชาชนทั้งหลายได้ไปชมงานศิลปาชีพที่สวนอัมพร แสดงให้เห็นว่า เป็นผู้ที่ชื่นชมศิลปาชีพจริงๆ เขาไปนี่แต่งกายด้วยผ้าของศิลปาชีพที่เขาซื้อด้วยปีที่แล้ว หรือถือกระเป๋าของศิลปาชีพ หรือตะกร้าของศิลปาชีพ เมื่อพบกันก็ชื่นชมซึ่งกันและกัน ชวนกันอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ๆ เจ้าหน้าที่ศิลปาชีพเห็นแล้วก็ชื่นใจ เพราะจำได้ แต่ละคนว่าคุ้นหน้ามาอุดหนุนเสมอจนกระทั่งคุ้นหน้ากัน

    ผลิตผลจากเกษตรก็เหมือนกัน ข้าพเจ้าได้สร้างฟาร์มตัวอย่างในหลายจังหวัด เพราะบางทีบางจังหวัดไม่ปลอดภัยที่จะไปซื้อข้าวของที่ตลาด เช่น ขี่มอเตอร์ไซค์ไปจ่ายของในตลาดก็มักเสียชีวิตเสมอ ก็เลยช่วยกันคิดว่าเราสร้างคล้ายๆ ตลาดของศิลปาชีพที่ในหมู่บ้านต่างๆ ก็แล้วกัน จะได้ใช้จ่ายกันได้ดีและไม่ต้องเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วย อย่างพัทลุงทำข้าวยำปักษ์ใต้อร่อยที่สุด ข้าพเจ้ายังไปชิมที่พัทลุง ที่โครงการศิลปาชีพที่พัทลุงเก่งมาก และเดี๋ยวนี้เป็ดอี้เหลียงที่เมืองจีนให้ข้าพเจ้าตอนที่ข้าพเจ้าไปแทนพระองค์ที่เมืองจีน เป็ดอี้เหลียง เดี๋ยวนี้ก็มาทำลาบเป็ด ทำเท่าไหร่ก็หมดเท่านั้น ดอกไม้ทอดจากพัทลุง หมูจินหัวแดดเดียว ข้าวสารหลายชนิด ข้าพเจ้าก็เที่ยวไปดูตามที่เขาเอาออกมาแสดงจังหวัดต่างๆ ข้าวสังหยด ข้าวเกรียบรสต่างๆ ที่ชาวบ้านทำจากผักต่างๆ เราก็เอามาทำรับประทานกัน

    -พระเทพฯทรงฟื้นฟู"โขน"

    ขอคุยอีกเรื่อง เรื่องโขน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดแสดงโขนชุดพรหมาศ เรื่องโขนสมเด็จเจ้าฟ้าลูกสาวข้าพเจ้า สมเด็จพระเทพรัตนฯ เป็นห่วงเหลือเกินว่าโขนไม่ค่อยได้แสดง เสื้อผ้าก็ทรุดโทรมเก่าหมด ไม่ได้แสดง ทั้งที่มีคนที่มีฝีมือดีที่จะแสดงโขนได้ แต่ก็แสดงไม่ได้ เนื่องจากเงินจำกัด เสื้อผ้าก็เก่า ก็พระราชทานสร้างชุดโขนขึ้นใหม่แล้วก็มีการซ้อมพวกครูโขนที่เก่งต่างๆ ก็ซ้อมลูกศิษย์แสดงให้ประชาชนดูเมื่อเร็วๆ นี้เอง สมเด็จพระเทพรัตนฯ เล่าเป็นห่วงมากว่าโขนเป็นของวิเศษอย่างที่อินโดนีเซียยังรักษาของเขาไว้ แต่ของเรานับวันเสื้อผ้าอะไรมันแพงนับวันจะไม่ได้แสดงก็กลัวว่าจะหายไปจากความนิยมของคนไทย ข้าพเจ้าก็ปรึกษากับอาจารย์สมิทธิ ศิริภัทร์ แล้วก็อาจารย์สมิทธิก็ไปรวบรวมคนศึกษาค้นคว้าจัดสร้างเครื่องแต่งกายของโขน หัวโขน เครื่องประดับต่างๆ คราวนี้งดงามมาก สวยงามเหลือเกิน ก็นับว่าเป็นการคุ้มค่าในการรอคอยจริงๆ

    แสดงโขนเมื่อเร็วๆ นี้ ท่านทั้งหลายบางคนก็ได้ชมแล้วเห็นว่าประชาชนมาชมกันแน่นขนัด จนเพิ่มรอบการแสดงแล้วก็ยังไม่เพียงพอ ยังมีผู้ขอร้องให้จัดแสดงอีก น่ารักที่ลูกพาคนแก่พ่อแม่หรือปู่ย่าตายายที่แก่ๆ จูงมือไปดูโขนที่ทำใหม่นี้เห็นว่าสวยงามมากเลย อุปกรณ์การแสดงก็เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายชื่นใจหายเหนื่อย เพราะได้รับคำชมจากประชาชนมาก มีรูปเสื้อผ้าโขนที่สร้างขึ้นใหม่ การแสดงโขนครั้งนี้ไม่ใช่จะประสบความสำเร็จแค่เผยแพร่ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยเราเท่านั้น แต่ยังเกิดสิ่งที่มีคุณค่าเพิ่มขึ้นมากอีก คือ พวกเราได้สร้างช่างฝีมือรุ่นใหม่เอี่ยมขึ้นมา รุ่นใหม่ที่เข้าใจถ่องแท้ถึงศิลปะการสร้างเครื่องแต่งกายโขนและได้เห็นความผูกพันอย่างใกล้ชิดแบบสังคมไทยสมัยโบราณ ลูกหลานจูงพ่อแม่ปู่ย่าตายายในบ้านไปดูโขนครั้งนี้ ได้เห็นการแสดงความรักเอื้ออาทรต่อกันในครอบครัว ก็เป็นภาพที่สร้างความสุขใจแก่ผู้พบเห็นทุกคน และสิ่งที่เรียกร้องว่าให้จัดการแสดงโขนขึ้นอีกนั้น ข้าพเจ้าก็รับฟังและกำลังตรึกตรองว่าจะเลือกตอนไหนมาจัดแสดงใหม่ แต่ก็ต้องฝึกซ้อมนานหน่อย นี่เขาสั่งให้ข้าพเจ้าพูดว่าขอให้แฟนๆ โขนติดตามข่าวต่อไป โฆษณา ไปในตัว รับรองว่าต่อไปต้องมีให้ชมแน่นอน

    -ปะการังเทียมที่ปัตตานี-ปลาชุม

    ต่อไปก็จะขอเล่าเรื่องแนวปะการังเทียมที่อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ชาวประมงบ้านละเวง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี มาหาข้าพเจ้าและขอร้องให้ช่วยเหลือ เพราะว่าเขามีอาชีพอยู่อย่างเดียวคือออกเรือเป็นเรือเล็กๆ เพราะเป็นคนจนมาก ออกเรือแล้วไปตกปลาจับปลาได้ก็มาขาย ได้เงิน เลี้ยงชีพ และปลาที่เหลือก็รับประทาน เรื่องปลาในเขตน้ำตื้นร่อยหรอจนแทบไม่มีเหลือแล้ว ข้าพเจ้าเองก็จนปัญญาก็ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ลองสร้างแนวปะการังเทียมขึ้นมา อันนี้เป็นความคิดที่เรียกว่าข้าพเจ้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย ก็ได้อาศัยราษฎรรับความรู้ต่างๆ ขึ้นมาให้สร้างปะการังเทียมขึ้นเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ ข้าพเจ้าก็ได้เปิดโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลขึ้นในพ.ศ.2544 ที่จ.นราธิวาส มีหน่วยงานหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือสนับสนุนโครงการนี้เป็นโครงการที่น่าชุ่มชื่นใจ เพราะเป็นการยกระดับชีวิตของคนยากจน แทบจะไม่มีหวัง ยากจนมาก ผู้สนับ สนุนโครงการนี้ เช่น กรมประมง กองทัพเรือ การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง อย่างการรถไฟแห่งประเทศไทยบริจาคตู้รถไฟที่ชำรุด ข้าพเจ้าเห็นแล้วงงว่าตู้รถไฟจะช่วยให้ปลาชื่นชมได้อย่างไร การรถไฟบริจาคตู้รถไฟที่ชำรุด กรมทางหลวงก็บริจาคท่อคอนกรีตเป็นต้น ต่อมากรุงเทพมหานครก็ยังบริจาครถขนขยะที่ชำรุดอีกด้วย

    ข้าพเจ้าได้เรียนจากความต้องการของประชา ชน และได้เรียนให้ท่านทั้งหลายช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ทิ้งลงไปในทะเลที่เขากะแล้วว่าที่ตรงนี้ทิ้งได้ ปะการังเทียม แล้วทางกองทัพเรือก็ไปถ่ายหนังมาให้ข้าพเจ้าดู ตกใจ พอเราทิ้งอะไรต่ออะไรลงไปแล้ว ปลาขนโขยงมากันใหญ่ มันนึกว่าแหมนี่มีบ้านที่ดีของเราแล้ว มันมากันเป็นแถวเชียว ถ้าเขาไม่ไปถ่ายหนังให้ดูก็ไม่รู้ มามากมายก่ายกอง ซึ่งประชาชนมาบอกข้าพเจ้า ตอนนี้สบายจับปลาได้ดี มากันเป็นแถว ปลาต่างๆ ที่หายากก็เข้ามา ถ้าทิ้งลึกลงไปปลาใหญ่ๆ เมื่อไม่นานนี้ข้าพเจ้าได้รับรายงานว่าเขาได้ถ่ายหนังภาพของฝูงปลานานาชนิดเข้ามาอาศัยอยู่ในปะการังเทียม แม้แต่ปลาที่หายากที่สุด กรมประมงบอกแทบไม่ได้เห็นคือ ปลาหมอทะเล ตัวใหญ่ขนาด 2-3 เมตร ก็เข้ามาหาที่อยู่ที่นี่ ข้าพเจ้าได้ยินแล้วมหัศจรรย์ใจ เป็นความรู้ใหม่ทั้งนั้น ปลาจะละเม็ดสีเทา ซึ่งแต่ก่อนก็ไม่มีแล้ว ปลาช่อนทะเล ปลากุเลาก็เข้ามาได้ ชาวประมงพื้นบ้านก็มาหาข้าพเจ้าบอกว่าดีท่าน เดี๋ยวนี้พวกเราไม่ต้องออกไปไกลก็จับปลาได้มากขึ้น จากแทบที่จะไม่มีรายได้ กลับมามีรายได้เพิ่มขึ้นถึงเดือนละหมื่นกว่าบาท ชาวบ้านจากยากจนเหลือเกิน แปลว่าคนที่มีความรู้ของประเทศไทยเรามีมากและพร้อมเสมอที่จะช่วยชาติบ้านเมือง

    -ข้าวคุณประโยชน์มาก-อ้วนน้อย

    ปีนี้ชาวประมงพื้นบ้าน ตั้งแต่ปัตตานีถึงนรา ธิวาสหลายร้อยคน เขียนจดหมายถึงข้าพเจ้าแล้วก็เซ็นชื่อเป็นบัญชีหางว่าว ขอให้ข้าพเจ้าช่วยจัดทำปะการังเทียมเพิ่มเติมขึ้นอีก แล้วตอนนี้ใครจะช่วยข้าพเจ้า จะเอาอะไรไปทิ้งให้ปลามันอยู่ ข้าพเจ้าจึงนำมาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟังว่าปะการังเทียมใช้ได้ผลจริงๆ น่าภูมิใจแทนหน่วยงานทั้งหลายที่ช่วยเหลือประชาชนประสบผลสำเร็จ และข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้ส่งข่าวถึงกลุ่มประมงพื้นบ้านที่เขียนจดหมายมาถึงข้าพเจ้าขอปะการังเทียมด้วยว่า ข้าพเจ้าจะพยายามขอร้องขอให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และทุกแห่งช่วยกันประสานงาน เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอจะเริ่มจัดสร้างพื้นที่บริเวณปะการังเทียมได้อีก เพื่อประชาชนจะตกปลาทำมาหากินได้เพิ่ม คราวนี้พระราชทานพันธุ์ข้าว ฤดูเพาะปลูกปีนี้ นายกสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกรจังหวัดมหาสาร คาม ก็แจ้งความเดือดร้อนมาว่า นาของเกษตรกร 1,500 รายในภาคอีสาน 19 จังหวัดประสบอุทกภัยและโรคแมลง ราษฎรจึงมีจด หมายมาขอข้าวพันธุ์ดีที่จะปลูกต่อไปจากข้าพเจ้าได้ส่งเรื่องไปที่กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องพันธุ์ข้าวโดยตรง เขาจะได้เป็นธุระจัดหาพันธุ์ข้าวให้ กรมการข้าวก็ได้รีบจัดพันธุ์ข้าวปลูกอย่างดี เป็นพันธุ์ข้าวเจ้าพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ และข้าวเหนียวพันธุ์กข.6 อย่างละครึ่ง รวม 75 ตัน มอบให้เกษตรกรเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

    ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยมาแต่โบราณ ข้าพเจ้าเองก็ไม่เคยทราบว่าข้าวมีประโยชน์อย่างเหลือหลาย พอโตขึ้นมาจะเป็นสาวขึ้นหน่อยเขาก็สอนว่าถ้ากินข้าวมากพุงป่อง จะไม่ดี จะอ้วน แต่มาตอนนี้ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือนิวส์วีก และไทมส์แมกกาซีน เขาพูดถึงข้าว ว่าข้าวเป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดของมนุษย์ เป็นแป้งคาร์โบไฮเดรตที่อ้วนน้อยที่สุดเทียบกับขนมปัง เทียบกับสปาเกตตี เทียบกับเส้นอะไรต่างๆ ข้าวอ้วนน้อยที่สุด มีประโยชน์เหลือหลาย ส่วนที่มีประโยชน์จริงๆ อยู่ที่ผิวที่หุ้มเมล็ดส่วนที่เมื่อกะเทาะเปลือกแข็งออกไปแล้วก็จะเห็นเป็นสีน้ำตาลกับจมูกข้าว ข้าพเจ้าเองก็เลยขอร้องพวกประชาชนที่เป็นสมาชิกศิลปาชีพ ให้ตำข้าวจากนาของเขามาถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับข้าพเจ้า เขาก็จะตำแล้วส่งมาให้ตลอด เพราะฝรั่งเขียนว่า ข้าวเป็นอาหารที่เยี่ยมยอดที่สุด เพราะมีวิตามินที่ทำให้ร่างกายของเรา ข้าพเจ้าอ่านที่อายุ 25 เซลล์ต่างๆ ก็เริ่มเสียไปเรื่อย เพราะฉะนั้นหมอที่อเมริกาจากทุกหนแห่งก็พูดว่าเราควรรับประทานวิตามินรวม เพื่อให้เซลล์ในร่างกายของเราเสื่อมช้าลง แล้วเขาก็พูดถึงข้าวว่าข้าวถ้าเข้าโรงสีมากมายก่ายกองก็เป็นแค่แป้งเท่านั้น แต่ถ้าเรามากะเทาะตำเอง กะเทาะเปลือกข้างนอกออกนิดเดียวมีคุณค่าเหลือที่จะพรรณนา จะไปช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรม เราก็คิดว่าข้าวมันอ้วนไม่รับประทาน แต่ขอให้ทุกคนทราบว่า นิวส์วีก เป็นหนังสือพิมพ์ของทั่วโลก และไทมส์ ข้าวยอดเยี่ยมที่สุดมีวิตามินบี 1 บี 2 มีธาตุเหล็ก แคลเซียม และที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงวัยเช่นข้าพเจ้าเป็นต้น คือ มีสารที่ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายด้วย ทุกคนกลับไปรับประทานข้าวเลยนะ ก๋วยเตี๋ยวบะหมี่อะไรก็อ้วนอยู่ดีเหมือนกัน แต่มันมีประโยชน์น้อยกว่าข้าว นี่เป็นที่ฝรั่งเขาพูด

    -ทรงปลื้มเยาวชนคนเก่งสาขาต่างๆ

    อีกเรื่องที่ข้าพเจ้าชื่นชมเหลือเกินที่ทราบข่าวดีมาว่า เยาวชนของเราที่เก่งอย่างน.ส.นพวรรณ เลิศชีวกานต์ อายุ 17 จากเชียงใหม่ ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันเทนนิส วิมเบิลดัน 2009 ที่ประเทศอังกฤษ และทราบว่าเยาวชนจากโรงเรียนมัธยมหลายแห่งได้รับรางวัลเหรียญทองเหรียญเงินในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ เกี่ยวกับฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ชีววิทยา และนอกจากนี้ก็ยังมีทีมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับรางวัลชนะเลิศหุ่นยนต์กู้ภัยโลก และโรงเรียนสุรนารีวิทยา โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย โรงเรียนเรยีนาเชรีวิทยาลัย ก็ได้รับรางวัลวงโยธวาทิตระดับโลก แสดงให้ข้าพเจ้ามั่นใจปลื้มใจมาก คิดว่าคนไทยทั้งประ เทศคงปลื้มใจว่าคนไทยของเราเก่ง เก่งจริงๆ ขอให้มีโอกาสในชีวิตเท่านั้น เป็นคนที่เก่ง อย่างข้าพเจ้าได้เห็นตัวอย่างของตัวเองก็คือ สมาชิกส่งเสริมศิลปาชีพที่จบแค่ป.3 หรือไม่ได้เรียนเลย บัดนี้ชาวต่างประเทศไปดูฝีมือที่พระที่นั่งอนันตสมาคมบอกว่าเป็นฝีมือหนึ่งของโลก คนที่พูดเป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วย นี่มันฝีมือหนึ่งของโลก ข้าพเจ้าก็คิดว่าเมื่อไหร่ที่ได้โอกาสไปที่สหรัฐอเมริกาก็จะพาพวกเขาไป และจะเอาฝีมือพวกเขาทำไปแสดงให้คนไทยที่อเมริกาได้เห็นด้วยว่า นี่คือคนไทยของเรา

    เรื่องพระบวรพุทธศาสนา คนทั้งหลายเป็นห่วง แต่ข้าพเจ้าเองเชื่อว่าทุกวันนี้เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยสนใจในพุทธศาสนาก็คงจะไม่จริง ข้าพเจ้าทราบว่าเด็กไทยสนใจในพุทธศาสนามากขึ้น ไปนั่งปฏิบัติธรรม เข้าค่ายธรรมะกันเป็นแถว ข้าพ เจ้าเองพออายุ 70 ก็นึกอยากฟังพระเทศน์ วัดพระใหญ่ก็จะไป ชักชวนพวกพ้องไปกันแน่นไปที่วัดหนึ่งวัดใด ขอให้ท่านเทศน์ให้ฟังเปลี่ยนวัดไปเรื่อยๆ ไปฟังเทศน์ ไปแล้วก็ตกใจเห็นประชาชนมานั่งมารอเป็นแถว คอยที่จะฟังเทศน์ ข้าพ เจ้าเลยจัดแจงให้มีลำโพงออกมาให้ประชาชนที่มานั่งได้ฟังพระเทศน์ด้วย ซึ่งเขาก็คงภูมิใจ ถ้าใครว่างก็ชวนไปฟังเทศน์กับข้าพเจ้าได้ คราวที่แล้วฟังที่หัวหิน วัดที่หัวหิน

    ขอบพระคุณในน้ำใจของทุกคนที่มาฟัง และคงจะช่วยกันให้เด็กไทยของเราได้รับโอกาสอย่างที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสช่วยเด็กศิลปาชีพและได้เห็นฝีมือของเขา เพราะว่าข้าพเจ้าเอาเด็กศิลปาชีพมาเขาอายุ 13-14-15 มาสอนให้เขียนลายถมทอง สมเด็จพระเทพรัตนฯ หัวร่อข้าพเจ้างอ แม่จะเอาเด็กชาวบ้านมาทำถมทองอย่างไร แล้วเดี๋ยวนี้เด็กชาวบ้านต่างๆ ทำยิ่งกว่าถมทองอีกนะ ฝีมือสวยเหลือเกินที่ชาวต่างชาติมาดูแล้วบอกว่านี่ฝีมือระดับโลก ถ้าเผื่อข้าพเจ้ามีโอกาสมีโชคดี ความจริงเขาก็เชิญมาแล้วให้ไปสหรัฐอเมริกาตอนที่เรียกว่าเศรษฐกิจอะไรของโลกดีขึ้นแล้ว ข้าพเจ้าก็จะเอาเด็กเหล่านี้ไปให้ได้เห็นสหรัฐอเมริกาและเอาฝีมือที่เขาทำไปประกวดด้วย

    ในที่สุดนี้ ข้าพเจ้าก็ขอขอบพระคุณทุกท่าน ซาบซึ้งในน้ำใจของท่านเป็นกำลังใจเหลือเกินที่ 77 ปีจะได้กำลังใจอย่างนี้ และจะไปฉิวได้อีก ตัวเลขฟังเสียงแล้วน่ากลัว 77 ปี ขอขอบคุณ
    </B>
     

แชร์หน้านี้

Loading...