พระเจ้าอยู่หัวและ "คุณทองแดง"

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 4 ธันวาคม 2006.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พระเจ้าอยู่หัวและ "คุณทองแดง"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย คำนูณ สิทธิสมาน </TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 ธันวาคม 2549 15:43 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000149270
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>จำได้มั้ยครับว่า ส.ค.ส.ปี 2549 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานแก่พสกนิกรเมื่อต้นปีนี้เป็นอะไร ?

    เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่าน

    ในฉลองพระองค์สีเขียว มีภาพปักรูป "คุณทองแดง" ที่กระเป๋าด้านซ้าย ทรงฉายคู่กับ "คุณทองแดง" สุนัขทรงเลี้ยงที่โด่งดังมาหลายปี

    เป็นส.ค.ส.พระราชทานที่สร้างความตื่นเต้นและปลาบปลื้มแก่พสกนิกรชาวไทยถ้วนหน้า

    เพราะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่พวกเราได้เห็นพระองค์ทรงมีพระเกษมสำราญยิ่ง

    อีกทั้งได้ยลโฉม "คุณทองแดง" อีกคราหนึ่ง

    ในส.ค.ส.พระราชทานนั้น ตัวเลขสีแดง 2005 12 07 16.44 ทำให้คนไทยได้รับทราบโดยทั่วกันว่า ณ วันนั้น "คุณทองแดง" มีอายุได้ 7 ปีกว่าแล้ว และถ้านับถึงวันนี้อายุก็ครบ 8 ปีเต็มไปได้เกือบ 1 เดือนเต็มๆ แล้ว

    เธอเป็นสุนัขเพศเมีย เกิดที่ซอยศูนย์แพทย์พัฒนา แถววังทองหลาง เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2541 เป็นลูกของสุนัขจรจัด ชื่อ "แม่แดง" มีพี่น้องทั้งหมด 6 ตัวด้วยกัน

    หลายปีมานี้ใครๆ ก็เชิญชวนกันแต่ให้รับฟังพระราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใน ช่วงวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี แต่ผมว่าฟังแล้วจะแค่พนมมือแล้วเปล่งเสียงถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" จากนั้นก็มีชีวิตอยู่ตามวิถีเดิมต่อไป ไม่น่าจะเป็นประโยชน์

    ในหลวงของคนไทยเป็นทั้งพ่อ ทั้งพระ ทั้ง "พระราชาซีอีโอ" สมควรที่คนไทยจะบูชาด้วยรูปแบบสูงสุด ไม่ใช่แค่ "อามิสบูชา" คือบูชาด้วยดอกไม้ หรือรูปแบบ พิธีกรรม หากแต่จะต้องเป็น "ปฏิบัติบูชา" คือบูชาด้วยการปฏิบัติตามคำสอน

    คำว่า "พระราชาซีอีโอ" ไม่ใช่ผมพูดเอง แต่มาจากพระบรมราโชวาทพระราชทานแด่คณะผู้ว่าฯ ซีอีโอ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2546 ซึ่งเป็นพระบรมราโชวาทองค์ที่จับใจพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ ในพระบรมราโชวาทองค์นี้ ทรงรับสั่งว่าพระองค์ท่านเป็น...

    "พระราชาซีอีโอ - ที่ไม่มีวันเกษียณ"

    พระองค์ทรงเล่าว่า ทรงปฏิบัติภารกิจมาตั้งแต่ปี 2496 โดยเริ่มโครงการตามพระราชดำริแห่งแรกที่เขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์ พระองค์ท่านทรงชี้แนะว่า...

    หน้าที่ของผู้ว่าฯ ซีอีโอ ไม่เหมือนซีอีโอบริษัท เพราะไม่ต้องทำเงินให้บริษัท แต่จะต้องสร้างความเจริญให้ประชาชนในพื้นที่ คือให้ประชาชนมีความสามารถที่จะทำมาหากินได้ หรือพูดง่ายๆ คือทำให้ประชาชนรวย - ไม่ใช่ทำให้ตัวเองรวย

    จากนั้นพระองค์ท่านทรงเตือนว่า ที่ใครๆ ว่าเศรษฐกิจกำลังขึ้นนั้น ที่ขึ้นตามไปด้วยคือการทุจริต

    ในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา นับแต่ปี 2540 ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อถึงวันที่ 4 ธันวาคมคราใด พสกนิกรทั่วราชอาณาจักรต่างก็ตั้งตารอคอยกระแสพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครานั้น

    พระองค์ทรงชี้แนะ "เศรษฐกิจพอเพียง" มานับไม่ถ้วน

    พระราชทานมาครั้งแรก ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2540 และพระราชทานคำอรรถาธิบายเพิ่มเติมในอีก 1 ปีถัดมา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2541 และยังมีอีกในวันที่ 4 ธันวาคม 2542

    พระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพในพระผู้ทรงเป็นพระราชาซีอีโอนั้น หากอ่านความระหว่างบรรทัดทั้งในกระแสพระราชดำรัส และพระราชนิพนธ์ทุกองค์ โดยเฉพาะ "เรื่องทองแดง" ที่พระราชทาน ลงมาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2545 และล่าสุดเมื่อสัก 2 ปีที่ผ่านมายังมีเวอร์ชันสำหรับเด็ก "เรื่องทองแดง - ฉบับการ์ตูน" ออกมา

    กล่าวได้ว่าพระองค์ทรงพระราชทานสิ่งที่ ท่านอาจารย์รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ ขนานนามว่า "Bangkok Consensus" ให้พวกเราทั้งประชาชน และรัฐบาล ไปขบคิดว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ชาติยุคใหม่มาเสริมหรือทดแทน "Washington Consensus" ได้ในลักษณะใด

    ใครได้อ่าน "เรื่องทองแดง" นอกจากจะได้รับรู้เรื่องราวของสุนัขนาม "คุณทองแดง" ที่มีทั้งความดี และความจงรักภักดีต่อพระองค์แล้ว หากอ่านในเชิงเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ยังจะตระหนักได้ว่า...

    คนไทย, วิถีไทย, ภูมิปัญญาไทย, ภูมิปัญญาตะวันออก นั้น -- หากได้รับโอกาสเท่าเทียมกับฝรั่ง นอกจากจะไม่ด้อยกว่าแล้ว ยังเหนือกว่า

    เพราะถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติฉลาด, น่ารัก, ใฝ่รู้, จงรักภักดี, อ่อนน้อมถ่อมตน และ ฯลฯ

    ที่ผ่านมาเป็นเพราะไม่ได้รับโอกาส ถูกทิ้งขว้างอยู่ข้างถนน มีชีวิตอยู่ไปตามมีตามเกิด

    พระราชนิพนธ์องค์นี้ สมควรอย่างยิ่งที่ผู้มีส่วนร่วมกำหนดนโยบายของประเทศไทยควรจะต้องอ่าน และรับใส่เกล้ากันทุกคน

    และหากศึกษาพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2545 ประกอบ ก็จะพบว่าของไทย - ภูมิปัญญาไทย ก็เหมือน "หมาไทย" แทนที่จะทิ้งขว้างไว้ข้างถนน หากนำขึ้นมาดูแลและศึกษา ก็จะเป็นประโยชน์มหาศาล

    พวกเราจะต้องตระหนักในวิธีคิดนอกกรอบ

    ต้องละทิ้งแนวคิดเดิมที่เปิดรับโลกาภิวัตน์อย่างไม่มีการจำแนกไปสู่การสร้างเกราะคุ้มกันภัยจากโลกาภิวัตน์

    เพราะถึงที่สุดแล้ว ยาเสพติดที่ร้ายแรงที่สุดไม่ใช่ยาบ้า, ยาเค, ยาอี หรือโคเคน

    หากแต่เป็นลัทธิบริโภคนิยมไร้ขอบขอบ และ/หรือสิ่งที่เรียกว่า เปิดรับโลกาภิวัตน์อย่างไม่มีการจำแนก

    ในหลวงของเรายังเคยทรงพระราชนิพนธ์แปลบทที่ 4 ของหนังสือ Small is Beautiful : Economics as if People Mattered ของนักเศรษฐศาสตร์กระแสรองนามกระเดื่อง "อี. เอฟ. ชูเมกเกอร์" ที่พิมพ์เผยแพร่ออกมาเป็นที่โด่งดังในวงวิชาการ เมื่อปีค.ศ. 1973 บทที่ 4 ชื่อ Buddhist Economics พระองค์ทรงแปลว่า

    "เศรษฐศาสตร์ตามนัยของพระพุทธศาสนา บทที่ 4 เล็กดี รสโต"

    ภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิปัญญาในองค์พระมหากษัตริย์ไทยนั้น ได้เล็งเห็นภัยจากการเรียนรู้จากตะวันตกโดยไม่มีการจำแนก มาอย่างน้อยตั้งแต่ครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์

    จนถึงทุกวันนี้หากใครหยิบธนบัตร 500 บาทขึ้นมาพลิกดูด้านหลัง

    จะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์อยู่กลาง และถ้าเพ่งสักนิดจะเห็นพระราชดำรัสองค์สำคัญ พิมพ์ไว้ด้วยตัวเล็กๆ ตรงมุมขวาล่าง อ่านยาก สักหน่อย

    "การงานสิ่งใดของเขาก็ดี ควรจะเรียนร่ำเอาไว้ ก็เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว"

    ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลองพิจารณาพิมพ์ใหม่ให้ตัวโตขึ้นจำได้ไหม?

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...