พระเรวตพุทธเจ้าทรงมีพระวรกายมีรัศมีดังแก้ว พุทธวงศ์พระไตรปิฏก

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย หลับอยู่, 6 กันยายน 2015.

  1. หลับอยู่

    หลับอยู่ http://www.pramontien.com/shop.php?shop_no=185

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    928
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +291
    <CENTER> พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕
    ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก</CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" background="" align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD bgColor=darkblue width="100%" vspace="0" hspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <CENTER></CENTER><CENTER>เรวตพุทธวงศ์ที่ ๕</CENTER><CENTER>ว่าด้วยประวัติพระเรวตพุทธเจ้า</CENTER>[๖] สมัยต่อมาจากพระพุทธเจ้าพระนามว่า สุมนะ พระพิชิตมารพระนาม ว่าเรวตะ เป็นนายกของโลก มีพระคุณสูงสุดไม่มีใครเปรียบเทียบ เสมอ แม้พระองค์อันพรหมทูลอาราธนาแล้ว ก็ทรงประกาศธรรม กำหนดด้วยขันธ์และธาตุที่ใครๆ ยังมิได้ประกาศ ในภพน้อยใหญ่ ในกาลที่พระองค์ทรงแสดงธรรม ธรรมาภิสมัยมี ๓ ครั้ง ธรรมาภิ สมัยครั้งที่ ๑ จะพึงกล่าวโดยคำนวณไม่ได้ ในกาลเมื่อพระเรวต มหามุนี ทรงสั่งสอนแนะนำพระเจ้าอรินทมหาราช ธรรมาภิสมัยครั้ง ที่ ๒ ได้มีแก่มนุษย์และเทวดาพันโกฏิ พระนราสภเสด็จออกจาก ที่เร้น ๗ วัน ทรงสั่งสอนแนะนำมนุษย์และเทวดาในผลชั้นสูง ร้อยโกฏิ พระเรวตบรมศาสดา ทรงมีการประชุมพระภิกษุขีณาสพ ผู้ปราศจากมลทิน มีจิตสงบ คงที่ ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ พระภิกษุที่มา ประชุมกันล่วงทางที่จะนับได้ ครั้งที่ ๒ พระภิกษุที่มาประชุมกัน แสนโกฏิ ในกาลเมื่อพระองค์ผู้ไม่มีใครเสมอด้วยพระปัญญา ทรง ประกาศธรรมจักรแล้ว ทรงประชวรจวนจะเสด็จนิพพาน ครั้งนั้น พระภิกษุผู้ขีณาสพที่มาเฝ้าพระมหามุนี เพื่อทูลถามอาการประชวร ประชุมกันเป็นครั้งที่ ๓ แสนโกฏิ สมัยนั้นเราเป็นพราหมณ์นามว่า อติเทพ ได้เข้าไปเฝ้าพระเรวตพุทธเจ้าแล้ว ถึงพระองค์เป็นสรณะ ได้ชมเชยศีล สมาธิและพระปัญญาคุณอันยอดเยี่ยมของพระองค์ แล้วได้ทูลถวายจีวรแก่พระองค์ตามกำลัง แม้พระเรวตพุทธเจ้าผู้เป็น นายกของโลก พระองค์นั้น ก็ทรงพยากรณ์เราว่า ผู้นี้จักได้เป็น พระพุทธเจ้าในโลก ................ ข้ามแม่น้ำใหญ่ ฉะนั้น เราได้ฟังพระพุทธพยากรณ์แม้นั้นแล้ว ยังจิตให้เลื่อมใส อย่างยิ่ง เราอธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ให้ยิ่งขึ้น แม้ ครั้งนั้น เราระลึกถึงพระพุทธการกธรรมนั้น แล้วตามเพิ่มพูนว่า เราจักนำมาซึ่งธรรมนั้นอันเป็นธรรมที่เราปรารถนายิ่ง พระนครชื่อว่า สุธัญญกะ พระมหากษัตริย์พระนามว่าวิปุละ เป็นพระชนกของ พระเรวตบรมศาสดา พระนางวิปุลาเป็นพระชนนี พระองค์ทรง ครอบครองอคารสถานอยู่ ๖,๐๐๐ ปี ทรงมีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อสุทัสนะ รัตนัคฆิ และอาเวฬะ ตกแต่งสวยงาม เกิดเพราะบุญกรรม ทรงมีพระสนมนารีกำนัลในสามโกฏิสามแสน- นาง ล้วนประดับประดาสวยงาม พระมเหสีพระนามว่าสุทัสนา พระโอรสพระนามว่าวรุณ พระพิชิตมารทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ จึงเสด็จออกผนวชด้วยรถอันเป็นราชยานที่นั่งต้น ทรงบำเพ็ญเพียร อยู่ ๗ เดือนเต็ม พระเรวตมหาวีรชินเจ้าผู้เป็นนายกของโลก อัน พรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศธรรมจักร ประทับอยู่ ณ วรุ- ณาราม พระองค์ทรงมีพระวรุณเถระและพระพรหมเทวเถระเป็น พระอัครสาวก พระเถระชื่อสัมภวะเป็นพุทธอุปัฏฐาก พระภัททาเถรี พระสุภัททาเถรีเป็นพระอัครสาวิกา แม้พระพุทธเจ้าผู้ไม่มีใครเสมอ เหมือนพระองค์นั้น ก็ได้ตรัสรู้ที่ควงไม้กากะทิง วรุณอุบาสกและ สรภอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก นางปาลาอุบาสิกาและนางอุปปาลา อุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นมีพระองค์สูง ๘๐ ศอก ทรงเปล่งปลั่งพระรัศมีสว่างไสวไปทั่วทิศ ดังพระอาทิตย์ อุทัย ฉะนั้น พระรัศมีอันเป็นระเบียบสว่างไสว ที่เกิดในพระพุทธ- สรีระแผ่ไปโยชน์หนึ่งโดยรอบ ทั้งกลางวันและกลางคืน ในขณะ นั้น มนุษย์มีอายุหกหมื่นปี พระองค์ทรงดำรงพระชนมายุเท่านั้น ทรงช่วยให้หมู่ชนข้ามพ้นวัฏสงสารได้เป็นอันมาก ทรงแสดงกำลัง พระพุทธเจ้าแล้ว ประกาศอมตธรรมในโลก ไม่ทรงมีอุปาทานเสด็จ นิพพาน เพราะสิ้นความถือมั่นว่าเป็นผู้เลิศ ทรงมีพระวรกาย มีรัศมี ดังแก้ว พระธรรมก็ไม่มีอะไรเหมือน หายไปหมดทุกอย่าง สังขาร ทั้งปวงว่างเปล่าหนอ พระเรวตพุทธเจ้าผู้ทรงยศ มีพระปัญญามาก เสด็จนิพพานแล้ว พระธาตุของพระองค์แผ่ไปกว้างขวางในประเทศ นั้นๆ ฉะนี้แล.<CENTER>จบเรวตพุทธวงศ์ที่ ๕</CENTER>


    </PRE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...