สมภารยะลาประกาศทิ้งสำนัก ท้อปัญหาความไม่สงบในพื้นที่

พระอาจารย์บัวทอง สุวัณโณ อายุ 70 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำชาญคูหา (ถ้ำแรด) หมู่ 7 บ.บือลาเป๊ะ ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นพระเพียงรูปเดียวของสำนักสงฆ์ เปิดเผยว่า เดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2529 เดิมสภาพที่แห่งนี้ เป็นป่ามีเพียงถ้ำและเมื่อตำรวจ-ทหาร ชาวบ้านที่ทราบข่าวว่ามีพระกัมมัฏฐานมาอยู่จำพรรษา จึงมาช่วยกันสร้างจนถึงบัดนี้ ทำให้สำนักสงฆ์แห่งนี้จะมีประชาชนเดินทางมาปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมาก แต่ในช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคนเข้ามาเตือนว่าจะไม่ปลอดภัย สถานที่แห่งนี้เคยมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายในอดีตมามั่วสุมกัน ที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหาอะไร จะมีญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธามาช่วยกันพัฒนา แต่เมื่อเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่ ไม่สามารถออกจากสำนักสงฆ์เพื่อปฏิบัติกิจของสงฆ์ด้วยการบิณฑบาต เนื่องจากชาวบ้านเกรงว่าพระจะไม่ปลอดภัย

เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำชาญคูหา กล่าวต่อว่า อยากให้ทางราชการจัดกำลังเข้ามาอย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยดูแลสำนักสงฆ์ด้วย ในขณะนี้จะทำอย่างแต่ก่อนไม่ได้ สถานการณ์ไม่มีความปลอดภัย ชาวบ้านต้องมาเตือนว่าอย่าเดินออกจากสำนักสงฆ์ เราต้องเชื่อชาวบ้าน จึงรู้สึกท้อใจ อายุก็มากขึ้น แต่ต้องมาดูแลเพียงลำพัง หากจะทิ้งไปคงไม่มีใครมาอยู่แทน อยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแลบ้าง หากมีเจ้าหน้าที่ลงมาดูแล อาตมาจะอยู่ดูแลสำนักสงฆ์แห่งนี้ต่อไป

จ.ส.อ.สำราญ วงศ์น้อย ทหารจาก ฉก.12 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ทหารได้เข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยพระ หลังมีข่าวคนร้ายจะทำร้ายพระ แต่เมื่อช่วงที่เกิดเหตุสังหารทหารชุดรบพิเศษ ทางหน่วยจึงได้เรียกตัวกลับฐาน แต่ยังมีหน่วยลาดตระเวนผ่านมาดูแลเพียงแต่ไม่ได้เข้ามาดูแลประจำภายในวัดเช่นเดิม รู้สึกเป็นห่วงเหมือนกัน เนื่องจากหลวงพ่ออยู่เพียงรูปเดียว เกรงจะถูกทำร้าย และช่วงนี้มีงานจะต้องไปรักษาความปลอดภัยครูเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ไม่สามารถเข้ามาดูแลได้อย่างเต็มที่ หลวงพ่อเคยมาบอกว่าจะไม่อยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้แล้ว ตนจึงให้กำลังใจแก่ท่านว่าหากทิ้งไปแล้ว ใครจะดูแลสิ่งของไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปต่างๆ อายุเก่าแก่จำนวนมาก เกรงว่าถ้าไม่มีใครมาดูแลอาจจะถูกทำลาย

สำหรับสำนักสงฆ์ถ้ำชาญคูหาหรือที่ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่าถ้ำแรด อยู่บนถนนสายบันนังสตา-ปะแต หมู่ 7 บ.บือลาเป๊ะ ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลบันนังสตา เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบสำนักสงฆ์ ยังเป็นชุมชนชาวไทยมุสลิมด้วย

 

แจงปัญหาสำนักสงฆ์ถ้ำแรด

นายกรธวัช รัตนโชติ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยะลา เปิดเผยถึงกรณีที่พระอาจารย์บัวทอง สุวัณโณ อายุ 70 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำชาญคูหา (ถ้ำแรด) ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เตรียมย้ายออกจากสำนักสงฆ์ เนื่องจากไม่ได้รับการเหลียวแลเรื่องการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องจำวัดเพียงรูปเดียวนานกว่า 2 ปี ว่า ในการช่วยเหลือวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงสำนักสงฆ์ถ้ำชาญคูหา (ถ้ำแรด) มีโครงการบ้านรักวัด ที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ดำริขึ้น โดยให้ประชาชนที่อยู่รอบวัด รวบรวมสมาชิก 10-12 คน เข้าดูแลรักษาความปลอดภัย และโครงการได้มีงบประมาณสนับสนุนให้เดือนละ 15,000 บาท เพื่อช่วยเหลือค่าอาหารให้กับทางวัด โครงการติดสัญญาณเตือนภัย และโครงการด้านการก่อสร้างเช่น สร้างรั้วซ่อมแซมต่างๆ

นายกรธวัช กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้มอบเงินช่วยเหลือตามโครงการบ้านรักวัดให้แก่สำนักสงฆ์ถ้ำชาญคูหา จำนวน 45,000 บาท ส่วนที่ทราบว่ามีปัญหา เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงที่พักสงฆ์เท่านั้น ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นวัดที่ถูกกฎหมายแต่อย่างใด รวมถึงบริเวณที่ตั้งเป็นชุมชนชาวไทยมุสลิม หาสมาชิกตามโครงการบ้านรักวัดไม่ได้ ส่วนกรณีที่พระอาจารย์บัวทอง เตรียมย้ายออกจากสำนักสงฆ์นั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สำนักสงฆ์ยังไม่ได้เป็นวัด เป็นเพียงที่พักสงฆ์เท่านั้น ถ้าท่านอยู่ต่อ จะต้องดำเนินการช่วยเหลือขออนุญาตจัดตั้งเป็นวัดที่ถูกต้อง แต่ถ้ายังไม่ขออนุญาตเป็นวัด จะเป็นเพียงที่พักสงฆ์ หากย้ายออกต้องยุบไปโดยปริยาย ส่วนพระพุทธรูปต่างๆ และสิ่งของมีค่าภายในสำนักสงฆ์ หากท่านไม่อยู่และไม่มีพระมาจำพรรษาแทน คงต้องปรึกษาทางคณะสงฆ์อีกครั้งว่าจะขนย้ายไปเก็บรักษาบูชาที่ใด สำหรับการขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปรักษาความปลอดภัยภายในสำนักสงฆ์ จะต้องประสานขอความร่วมมือกับทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่อไป