"หลวงตาพุทธ"พระนักพัฒนาลุ่มน้ำชีมรณภาพ

อายุ101ปี-เชิญลูกศิษย์ร่วมเคราพศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา พระภิกษุสามเณร ข้าราชการ พ่อค้าประชาชน ที่เป็นศิษยานุศิษย์ ได้ร่วมกันประกอบพิธีสรงน้ำศพพระราชมงคล (พระทัศนัย ฐิตสิริ) พระเกจิชื่อดังและพระนักพัฒนาแห่งลุ่มลำน้ำชี หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่าหลวงตาพุทธ เจ้าอาวาสวัดป่าอัมพวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร ที่มรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุได้ 101 ปี 4 เดือน ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดยโสธร เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2549 ณ ศาลาการเปรียญวัดป่าอัมวัน โดยมีพระราชโมรี รองเจ้าคณะภาค 10 เดินทางมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งลูกศิษย์จะเก็บศพหลวงตาไว้ 100 วัน ถึงจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ

สำหรับอัตโนประวัติ พระราชมงคล มีนามเดิม ทัศนัย วงษ์อาทิตย์ เกิดวันที่ 17 พฤษภาคม 2447 เป็นบุตรของนายเลื่อนและนางอุ่น วงษ์อาทิตย์ อยู่บ้านพลับ ต.ดู่ทุ่ง อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2470 ได้เข้าพิธีอุปสมบท โดยมีพระครูปาน ปญญาธโร เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2477 สอบนักธรรมชั้นเอก ก่อนย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอัมพวัน อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี และนำพระเณรปฏิบัติธรรมพระวินัยอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการพัฒนาวัดป่าอัมพวันสร้างศาลาการเปรียญ สร้างกุฏิพระเณร และก่อสร้างโบสถ์มากมาย พ.ศ.2536 ได้เป็นเจ้าคณะจังหวัดยโสธร ต่อมา ด้วยความชราภาพ พระราชมงคลได้ขอลาออก เนื่องจากเกรงจะปฏิบัติงานด้านพัฒนาพุทธศาสนาได้ไม่เต็มที่ แต่ยังดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดยโสธร จนสิ้นลมหายใจ

สำหรับสมณศักดิ์ครั้งสุดท้าย ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชคณะชั้นราช ในราชทินนามที่พระราชมงคล เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2539 ในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี แม้หลวงตาพุทธจะมีอายุมาก ตลอดเวลาที่ยังมีลมหายใจ ท่านได้รับนิมนต์ ไปแสดงธรรมเทศนาทุกหมู่บ้านหากได้รับนิมนต์ หรือตามหัวเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ อยู่บ่อยครั้ง เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของประชาชนทุกชั้นวรรณะ ด้วยวัยชราท่านไม่อาจจะหลีกเลี่ยงความตายได้ โดยท่านมีอาการป่วยและลูกศิษย์ได้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดยโสธร ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2548 และอาการได้ทรุดลงเรื่อย จนเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 มกราคม 2549 พระราชมงคล หรือหลวงตาพุทธ ได้มรณภาพด้วยโรคชราด้วยอาการสงบ