ห้องรวมวัตถุมงคล--รูปถ่ายย้อนยุคหลวงพ่อกวย ปี58

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Toom2547, 17 มิถุนายน 2019.

  1. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    ห้องรวมพระเครื่องและ วัตถุมงคล


    เปิดห้องใหม่ครับ หลังจากติดงานมานาน วันนี้ได้ฤกษ์สะดวก เลยขอนำพระเครื่องและวัตถุมงคลที่เก็บสะสมไว้มาเปิดราคาแบ่งปัน ให้ทุกท่านได้เช่าบูชา และเก็บสะสมกันครับ รับประกันความแท้ทุกองค์ครับ




    บัญชี
    ธนาคาร ไทยพานิชย์
    ชื่อ ชินโชติ ไกรศรี


    เลขบัญชี 3232425781
    ประเภท ออมทรัพย์


    จะบูชา หรือ จองพระ โทรมาแจ้ง เบอร์นี้น่ะครับ

    094-4209444 – ชินโชติ
    Line ID : bearman2016



    กฎกติกา การจอง พระเครื่อง จองแล้ว ชำระภายใน 7 วัน หลังจากพ้นกำหนด หากขาดการติดต่อ ขออนุญาตยกเลิก การจอง โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าครับ
     
  2. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    1.เหรียญนางกวักรุ่น2 ปี2553 หลวงพ่อสมชายวัดโพรงอากาศ (บูชา 1,200 บาท)
    เนื้อเงิน หลังจารมือ เหรียญประสบการณ์
    พุทธคุณเรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ เจริญรุ่งเรือง

    หลวงพ่อสมชายเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อแจ๋ ติสสโร วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ (หลวงปู่แจ๋ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ลือชื่อของเมืองแปดริ้วและเป็นผู้สร้างเหรียญนางกวักมีพุทธคุณสูง มูลค่าประมาณเหรียญละหลายแสน) โดยได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้จนกระทั่งท่าน มรณภาพลง และได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมจนหมดสิ้น ถึงขนาดหลวงพ่อแจ๋เอ๋ยปากว่า “ท่านสมชายนี่เขาแทนฉันได้” ซึ่งหลวงพ่อแจ๋เป็นผู้สืบสายพุทธาคมของหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลน ตำนานเหรียญพระเกจิมูลค่าสูงที่สุดในเมืองไทย

    นอกจากนี้ ท่านยังไปต่อวิชาจากบรรดาสุดยอดคณาจารย์ดังหลายองค์ เป็นต้นว่าพระครูญาณรังษีมุนีวงษา (ทำ) วัดสัมปทวน ก็เรียนจนทะลุปรุโปร่ง จึงเดินทางไปขอเรียนวิชาจาก หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ซึ่งได้รับวิชาตกทอดมาจาก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก (หลวงพ่อทองท่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เหลือวัดสาวชะโงก ที่สร้างปลัดขิกได้เข้มแข็งพอๆกับหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ)และ หลวงพ่อถึก วัดสนามช้าง ผู้โด่งดัง วิชาทั้งของหลวงพ่อเหลือ และหลวงพ่อถึก ได้แก่วิชา นะเก้ายอด เป็นต้น จึงตกทอดมาที่ หลวงพ่อสมชาย จนหมดสิ้น แล้วไปศึกษาวิชาพุทธาคมกับ พระครูนนทกิจนิเทศ (กี๋) วัดหูช้าง นนทบุรี หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว หลวงปู่ถิร วัดป่าเลไลยก์ หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา หลวงพ่อสีหมอก วัดวังตะโก (ลูกศิษย์หลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา ลพบุรี อาจารย์หลวงพ่อโอภาสี บางมด) ฯลฯจากนั้นท่านจึงธุดงค์รอนแรมไปในภาคเหนือ เพื่อศึกษาและฝึกฝนพุทธาคมจนได้ไปพบกับ หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง จึงอยู่จำพรรษาฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อสิม จนแตกฉาน แล้วธุดงค์กลับมา วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ ช่วยงาน พระครูโพธิวรานุรักษ์ (ไพบูลย์) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ เป็นศิษย์ หลวงพ่อแจ๋ รุ่นพี่ ร่วมพัฒนา วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ จนเจริญรุ่งเรืองถึงทุกวันนี้
    img1560762856753.jpg img1560762893867.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2019
  3. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    2.เหรียญหกรอบ หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่ บำเพ็ญบุญ ( บูชา 850 บาท )

    เหรียญหกรอบ หลวงพ่อเชื้อ พ.ศ. ๒๕๑๘ เนื้อทองแดงรมดำ สภาพใช้ img1559773724218.jpg img1559773764752.jpg
    เป็นเหรียญที่ออกแบบได้สวยงาม มากที่สุดรุ่นหนึ่ง
    จัดสร้างในคราวฉลองอายุครบ ๖ รอบ หรือ ๗๒ ปี
    ในวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ตรงกับวัน แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๑
    ในวันนั้น มีพิธีสรงน้ำ หลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ ด้วย

    ลูกศิษย์จึงได้ขออนุญาติหลวงพ่อจัดสร้างเหรียญขึ้นมา
    โดยเนื้อทองแดงรมดำ/ผิวไฟ จำนวนประมาณ 10,000 เหรียญ
    เพื่อแจกเป็นที่ระลึกให้กับลูกศิษย์ลูกหาไว้บูชา
    เนื้อนวะ จำนวน 108 เหรียญ และเนื้อเงิน จำนวน 72 เหรียญ
    ในพิธีมหาพุทธาภิเษก ได้นิมนต์พระอาจารย์ที่ลื่อชื่อในยุคนั้น
    จำนวน ๕ รูป ร่วมพิธี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ คือ สหธรรมมิกของท่าน
    หลวงพ่อกวย ชุตินธโร ที่มาร่วมงานฉลองอายุหลวงพ่อเชื้อด้วย
    หลังจากนั้น หลวงพ่อเชื้อ ได้ปลุกเสกเดี่ยวอีก ๙ วัน ๙ คืน

    รุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีผุ้นำไปบูชาแล้วเกิดประสบการณ์
    ตั้งแต่แรก ๆ มีผู้นำไปทดลองยิง แล้วก็ยิงไม่ออก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2019
  4. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    3.แหวนหล่อ พ พาน หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ ( บูชา 1,750 บาท )

    แหวนหล่อ พ พาน หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ สร้างน้อยหายาก ผิวสวยเดิมๆ
    สร้างน้อยมากๆ เส้นผ่านศูนย์กลางรูสำหรับใส่นิ่วประมาณ 2 CM
    หลวงปู่เย็นท่านสร้างแบบกรรมวิธีโบราณ หล่อชนวนตัดช่อสืบสานตำหรับพระอาจารย์ทั้งสองท่านคือหลวงพ่ออิ่มและหลวงพ่อ ศรี ในแบบที่ศิษย์ร่วมสำ img1560760350775.jpg img1560760391109.jpg นักต้องสร้างกัน ทั้งหลวงพ่อแพ และหลวงพ่อกวยท่านก็ดำเนินในแนวเดียวกันนี้เช่นกัน

    ทำกันในวัดตั้งแต่บวงสรวง ขึ้นหุ่น หลอมโลหะ หล่อ เทช่อ และปลุกเสกด้วยตัวหลวงปู่เอง กำกับทุกขั้นตอน หลวงปู่เย็นท่านสร้างตามวิธีดั้งเดิมแต่ปรับปรุงรูปแบบโดยใส่ พ.พานศักดิ์สิทธิ์ลงไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2019
  5. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    4.กำไลล้านสมใจ เนื้อทองขาว วงใหญ่ ( บูชา 1,250 บาท )

    หลวงพ่อล้าน เขมจิตฺโต หรือพระครูเกษมจิตตาภิรักษ์ มีนามเดิมว่า ล้าน สงนรินทร์ (แซ่ฟุ้ง) เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา จุลศักราช ๑๒๙๕ ณ บ้านคลองเคี่ยม ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โยมบิดาชื่อ นายสุกปั้น และโยมมารดาชื่อ นางพร้อย สงนรินทร์ ครอบครัวมีพี่น้อง ๗ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๒ ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม .....

    ชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก ต้องช่วยเหลือครอบครัวทำงาน แต่ยังมีเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียน เมื่ออายุ ๗ ขวบ ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนวัดขนาย จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หลังจากนั้นได้ช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำนา และปลูกผักขาย ใช้ชีวิตในวัยหนุ่มด้วยการหาเลี้ยงครอบครัว แต่แล้วในวัย ๒๗ ปี ท่านเกิดมีความคิดที่จะบวชเรียนตามประเพณี จึงได้กราบลาบุพพการีเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ณ วัดขนาย โดยมีพระครูสถิตสันตคุณ (หลวงพ่อพัว วัดบางเดือน) เจ้าคณะอำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิทักษ์ธรรมสาร (หลวงพ่อพริ้ม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูรัษฎารามคณิศร์ เจ้าคณะตำบลบางงอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า เขมจิตฺโต หลังอุปสมบทท่านได้ศึกษาในพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ก่อนหันไปศึกษาวิชาอักขระขอม ลงเลขยันต์จากหลวงพ่อพริ้ม นอกจากวิทยาคมอักขระขอม ท่านยังได้เรียนวิชาต่อกระ

    ดูกตำรับวัดขนายโดยตรงจากหลวงพ่อพริ้มผู้เป็นอาจารย์ ท่านศึกษาวิชาต่อกระดูกจนมีความเชี่ยวชาญ ท่านได้นำวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาใช้รักษาชาวบ้านที่ประสบอุบัติเหตุกระดูกหักให้หายเป็นปกติ จึงเป็นที่กล่าวขานกันมากว่า ”หากมีเหตุกระดูกหัก หรือกระดูกแตกให้นำคนเจ็บมาทำการรักษากับพ่อหลวงล้านที่วัดขนาย รับรองหายเป็นปกติทุกราย“ ซึ่งทุกวันนี้ยังคงมีผู้ได้รับบาดเจ็บมาทำการรักษาที่วัดขนายเสมอๆ ท่านจะให้คำปรึกษาในเรื่องการต่อกระดูก และการรักษาด้วยน้ำมันสมุนไพรตามตำราที่ท่านได้

    ร่ำเรียนมา ในบางครั้งบางโอกาสหากมีคนบาดเจ็บมาที่วัดอย่างฉุกเฉินหรือในกรณีที่บาดเจ็บเล็กๆน้อยๆท่านก็ช่วยดูแลรักษาคนเจ็บด้วยตนเอง ส่วนการดูแลรักษาประจำนั้นจะมีหมอพื้นบ้านเป็นผู้ทำการรักษาอยู่ภายในอาคารผู้ป่วยของวัดขนายที่ท่านได้สร้างไว้ให้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีเมตตาเอาใจใส่ของท่านเสมอมา

    ปัจจุบัน หลวงพ่อล้าน เขมจิตฺโต มีสิริอายุ ๘๑ ปี พรรษา ๕๔ ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเกษมบำรุงเพียงตำแหน่งเดียว ส่วนตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบางงอน ท่านได้ลาออกแล้ว เนื่องจากวัยที่ร่วงโรยและปัญหาเรื่องสุขภาพ ท่านเป็นพระสงฆ์อย่างแท้จริงไม่ติดในลาภยศสักการะ บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติดี เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมเป็นที่พึ่งพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป เป็นพระนักพัฒนาและเป็นพระ
    เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศจนถึงต่างประเทศ ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งเมืองใต้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งศิษยานุศิษย์ของท่านมีมากมายหลายกลุ่มทั้งชาวบ้าน พ่อค้านักธุรกิจ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร โดยเฉพาะทหารอากาศสังกัดกองบิน ๗ สุราษฎร์ธานีจะศรัทธาท่านมากเป็นพิเศษหากมีพิธีกรรมมักจะนิมนต์ท่านไปเสมอๆ ...

    img1560744846854.jpg img1560744878126.jpg
    /// กล่าวกันว่า หลวงพ่อล้าน มีความชำนาญพระคาถาอิติปิโส ๘ ทิศ, มงกุฎพระพุทธเจ้า, พระเจ้า ๑๖ พระองค์ และฆะเฏสิ ทรงอิทธิคุณในทางขับไล่สิ่งอัปมงคลชั่วร้าย เสริมดวงชะตา นำพาโชคลาภวาสนาบารมี สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงพ่อล้าน ได้จัดสร้างจนโด่งดัง คือ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก หลังยันต์น้ำเต้า แต่ ที่ได้รับการเล่าขานถึงอย่างกว้างขวาง คือ ตะกรุดผานไถพลิกแผ่นดิน ที่จัดสร้างจากผานไถจริงที่ใช้ไถนา เอามาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ทำตะกรุด นำมาหลอมรวมกันตามสูตรที่เรียนมาจากครูบาอาจารย์ จนได้รับการยอมรับจากบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลว่ามีคุณเด่นด้าน เมตตามหานิยมและค้าขายเจริญรุ่งเรือง หลวงพ่อล้าน กล่าวว่า "ตะกรุดผานไถพลิกแผ่นดิน ที่ช่วยให้สามารถพลิกชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดี ดุจเดียวกับผานไถนาที่ช่วยพลิกแผ่นดินที่เสียให้กลับกลายเป็นดินดี สามารถปลูกข้าวให้งอกงามได้ เป็นที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ แต่กระนั้น จะอาศัยเพียงวัตถุมงคลอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้ความพยายามลงมือทำ สร้างเนื้อสร้างตัว อย่าไปเบียดเบียนผู้อื่น และที่สำคัญ ต้องมีศรัทธาประกอบด้วย จะทำให้เราประสบผลสำเร็จได้"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2019
  6. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    6.ลูกอมพรายมงคล สีน้ำตาลแดง ( คุณสุโขสุขี จองแล้วครับ )

    ลูกอมพรายมงคล สีน้ำตาลแดง (พรายแดง) หายาก สุดยอดมวลสาร เลี่ยมพร้อมบูชาครับ
    ลูกสีน้ำตาล
    เน้นด้านเมตตา มหาเสน่ห์ การคุ้มครองตนเอง การเจรจาค้าขายติดต่อการงานการป้องกันภัยอันตรายต่างๆ
    เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่ต้องการมีเมตตา มหาเสน่ห์แรงๆและชอบเจรจาความ นักขายต่างๆ แม่ค้า พ่อค้า

    ................................................
    รายการมวลสาร
    พรายมงคล สีน้ำตาลแดง (พรายแดง)
    …………
    น้ำมันพราย 16 นาง ตำนานทาง มหาลาภ มหานิยม จากล้านนา
    น้ำมันพรายกาหลง ตำนานทาง มหาเสน่ห์จากเชียงใหม่
    น้ำมันกามเทพ จากหมอแขก มหาเสน่ห์สายอิสลาม
    น้ำมันพราย หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ. บุรีรัมย์
    น้ำมันสะกดจิต จากอิสลาม ตำนานนะจังงัง และมหาระรวย
    น้ำมัน พรายกะเหรี่ยง มหาเสน่ห์ป้องกันภัยจากแผ่นดินป่าแดนพม่า
    น้ำมันรัญจวน จากอาจารย์ฆราวาสชาวลาว เมตตา ค้าขาย
    น้ำมันพรายเขมร 7 วิญญาณ อาถรรพ์แผ่นดินต่ำ แรงทางมหาเสน่ห์
    น้ำมันเสน่ห์ ครูบาคำเป็ง จ. กำแพงเพชร
    น้ำมันเสน่ห์ หลวงพ่อผินะ จ.สระบุรี
    น้ำมันเสือ มหาอำนาจ คงกะพัน ของไทย
    น้ำมันสมิงพราย แคล้วคลาดจากรัฐไทใหญ่
    ผงมหาระรวย มหานิยมจากรัฐไทใหญ่
    ผงกระดูกผี วัดโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพ
    ผงพระกระดูกผี ลป.เจิม วัดหอยราก
    ผงพระกระดูกผี พ่อท่านฮก วัดท่าข้าม
    ผงพรายกุมาร ลป.ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    ผงพราย หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
    ผงพราย 59 ตน จาก อ.ฆราวาส ชาวเขมร
    ผงจากพระสายภูติพรายทั้งหลาย
    ผงจากนางยั่วเมือง เทพอัปสร สีสะแลงแงง
    ลูกอมผงพรายกุมาร ลป.ทิม
    กุมารทองดินเจ็ดป่าช้า
    ขี้ผึ้งเสน่ห์สายล่าง ครูบาคำเป็ง กำแพงเพชร
    ว่านดอกทอง มหาเสน่ห์
    ว่านไก่แดง เมตตา
    ผงพลอยเสก
    เครือเขาหลง ไม้อาถรรพ์ ทางเสน่ห์เมตตา
    สีผึ้งพรายทองดี พรายขวัญใจ
    สีผึ้งเสน่ห์ อ.วรา
    ของอาถรรพ์ตามธรรมชาติต่างๆ
    งากำจัด ของเก่าโบราณ
    ปั้นเหน่ง
    กล้วยหอม จากอ่างทอง

    พิธีปลุกเสก
    1. พิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่น กฐิน ลพบุรี เมื่อวันที่ 19/11/2553
    2. พิธีปลุกเสกใหญ่ในวันที่ 21 / 11 / 2553 ที่วัดบ้านแค ชัยนาท โดยพระเกจิต่างๆคือ
    1) หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน จ.อยุธยา
    2) หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์ จ.อยุธยา
    3) หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.อยุธยา
    4) หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.อยุธยา
    5) หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา
    6) หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
    7) หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
    8) หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ จ.ชัยนาท
    9) หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ จ.ชัยนาท
    10) หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี จ.อุทัยธานี
    11) หลวงพ่อบุญมี วัดม่วงคัน จ.อ่างทอง
    3. พิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย ลพ.สำราญ วัดสง่างาม อยุธยา เมื่อวันที่ 27/11/2553
    4. พิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ อัมพวา เมื่อวันที่ 5/12/2553
    5. พิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย หลวงปู่แผ้ว กำแพงแสน นครปฐม เมื่อวันที่ 6/12/2553
    6. พิธีปลุกเสก วัดเนินมหาเชษฐ์ สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 12/12/2553 มีพระเกจิดังนี้
    1) หลวงพ่อเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี
    2) หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี
    3) หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
    4) หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.อยุธยา
    5) หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์ จ.นครปฐม
    6) พระครูสมุห์อวยพร วัดดอนยายหอม นครปฐม
    7) หลวงพ่อปั่น เจ้าอาวาสวัดเนินมหาเชษฐ์ สุพรรณบุรี
    8) หลวงพ่อสุนันท์ วัดป่าพระธาตุเขาน้อย จังหวัดราชบุรี ( ศิษย์สาย ลป.เทศน์ เทศก์รังสี)
    9) หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดวรเชษฐ์นอกเกาะ ศิษย์สายพันเอกชม สุคนธ์รัตน์
    10) พระเกจิเขมร ธุดงค์มาจากเขมร
    7. พิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย หลวงพ่อเขียน วัดกระทิง จันทบุรี เมื่อวันที่ 16/12/2553
    8. ได้รับการอธิษฐานจิตโดยพระป่า เกจิดังศิษย์ท่านพ่อลีที่วัดทุ่งตาอิน จันทบุรี เมื่อวันที่ 16/12/2553
    9. พิธีปลุกเสกใหญ่ที่วัดเนินสุทธาวาส จ. ชลบุรี เมื่อวันที่ 24/12/2553 โดยพระเกจิดังคือ
    1).หลวงพ่อเกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี
    2). หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร ฉะเชิงเทรา
    3).หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ สมุทรปราการ
    4).หลวงพ่อเขียน วัดกระทิง จันทบุรี
    5).หลวงพ่อสิน วัดระหารใหญ่ ระยอง
    6).พระอาจารย์เชย วัดระหารไร่ ระยอง
    10. พิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย หลวงปู่เอื้อน วัดวังแดงใต้ อยุธยา เมื่อวันที่ 28/12/2553
    11. พิธีปลุกเสกเดี่ยวที่วัดไร่แตงทอง กำแพงแสน โดยพระอาจารย์สายชล เมื่อวันที่ 2/1/2554
    12. พิธีปลุกเสกเดี่ยวที่วัดหนองเสือ (ยางประสาท) อ.บ้านโป่ง ราชบุรี โดยหลวงพ่อคิ้ม เมื่อวันที่ 2/1/2554
    13. พิธีปลุกเสกเดี่ยวโดย ลป.สม วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง เมื่อวันที่ 15/1/2554
    14. พิธีปลุกเสกเดี่ยวโดย ลป.เสียน วัดมะนาวหวาน อ่างทอง เมื่อวันที่ 15/1/2554
    15. พิธีปลุกเสกเดี่ยว โดย หลวงพ่อสุนทร วัดหนองสะเดา สระบุรี ในวันที่ 16 /1/2554 – 20/1/2554
    16. พิธีพุทธาภิเษกพร้อมพระบูชาและรูปหล่อที่วัดโฆสิตาราม (บ้านแค ) ชัยนาท ในวันที่ 21/1/2554
    1) หลวงปู่นะ วัดหนองบัว ชัยนาท
    2) หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี
    3) หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา
    4) หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม อยุธยา
    5) หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ ชัยนาท
    6) หลวงพ่อสำราญ วัดสง่างาม อยุธยา

    -ลูกสีน้ำตาล
    เน้นด้านเมตตา มหาเสน่ห์ การคุ้มครองตนเอง การเจรจาค้าขายติดต่อการงานการป้องกันภัยอันตรายต่างๆ
    เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่ต้องการมีเมตตา มหาเสน่ห์แรงๆและชอบเจรจาความ นักขายต่างๆ แม่ค้า พ่อค้า

    IMG_20190618_031013.jpg IMG_20190618_031029.jpg คาถาอาราธนาลูกอมพรายมงคล
    พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง คัจฉาหิ มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ
    ปิตตะวะจะเนนะ สัมปุณเณนะ ประสิทธิยา
    สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ
    พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆัง ประสิทธิเม อานุภาเวนะ ชัยยะ สิทธิ ประสิทธิเม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2019
  7. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    7.สมเด็จบิน สมเด็จรุ่นแรก หลวงพ่อเชื้อ ( บูชา 1,350 บาท ) img1560372352827.jpg img1560372406344.jpg
    § ของดีที่ถูกลืมกับประสบการณ์สยบอาวุธ §
    พระสมเด็จบิน หลวงพ่อเชื้อ วัดบำเพ็ญบุญ
    ❀❀❀❀❀❀❀❀
    ............
    พระเกจิอาจารย์ผู้เป็นอีกหนึ่งในยอดยุทธแห่งเมืองสรรคบุรี หลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ วัดบำเพ็ญบุญ ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท วัตถุมงคลของท่านก่อประสบกรณ์เข้มขลังคุ้มชีวิตผู้ฅนมากมาย มีดอาคมขอท่านขึ้นชื่อว่าภูตผีปีศาลคร้ามเกรง ผู้บูชาเหรียญของท่านโดนฟ้าผ่าไม่ตาย ในอดีตชื่อเสียงของท่านโด่งดังเป็นที่รู้จักกว้างขวาง แต่วันนี้วันเวลาผ่านไปเรื่องราวของท่านขาดการบอกเล่า ผู้ฅนรุ่นใหม่เขาจึงมองผ่านเลยของดีของวิเศษไป กลับไปสะสมเสาะหาโดยมูลค่าเชิงพาณิชย์กันเสียมาก ใช่บูชากันด้านพุทธคุณความเข้มขลังเช่นในอดีต
    ............
    ❀❀❀❀❀❀❀❀
    ............
    ปัจจุบันผู้ฅนรุ่นใหม่สนใจเพียงค่านิยมทางซื้อขาย ตีค่าวัตถุมงคลเพียงราคาซื้อขายเช่นสินค้า หลวงพ่อไหนแพงซื้อแล้วขายได้ราคาก็เช่าหาสะสม เพื่อเลี้ยงปากท้องกันไปเพียงเท่านั้น หลักของเพจฅนขลังที่นำเสนอตลอดมา คือ ต้องเข้มขลังและดีจริงเท่านั้นจึงนำเสนอ ของจริงของขลังบางอย่างไม่มีมูลค่าเชิงซื้อขาย ฅนรุ่นใหม่จึงไปคิดว่า #พระดีต้องแพงเขาจึงนิยม ซึ่งเป็นตรรกะผิดเพี้ยนที่กำลังส่งต่อกันในสังคม #ความจริงของดีไม่แพง #ของดีไม่ดังยังมีอีกมาก แต่ที่ท่านไม่รู้เพราะท่านสะสมโดยให้ค่านิยมตามกระแสนำพาไป ในวาระนี้ขอนำเสนอของดีที่ยังไม่แพงให้ท่านได้รู้จักกัน
    ............
    ❀❀❀❀❀❀❀❀
    ............
    ¤ พระสมเด็จบิน ¤
    --
    พระรุ่นนี้สร้างในราวปี พ.ศ.๒๕๑๐ หลวงพ่อเชื้อตั้งใจสร้างพระรุ่นนี้มาก หากใครเคยส่องเนื้อพระรุ่นนี้ดูจะรับรู้ได้ถึงความตั้งใจนี้ เพราะพระรุ่นนี้มีมวลสารหลากหลายมาก พระมีความคลาสสิคเป็นธรรมชาติ เพราะสร้างทำกันแบบชาวบ้าน การผสมเนื้อพระมีความแตกต่างกันไป เพราะโขลกตำด้วยครกผสมเนื้อด้วยมือ ไม่มีสูตรผสมแบบพระโรงงาน พระบางองค์จะเห็นมีแร่อุกาบาตรอยู่ทั่วไป เรื่องมวลสารในการสร้างพระรุ่นนี้ หลวงพ่อเชื้อท่านตั้งใจให้ดีที่สุด เพราะเป็นพระเนื้อผงรุ่นแรกของท่าน ของดีของวิเศษที่สะสมไว้ทั้งหมด ท่านได้มอบหมายให้ นายเอียง จวงจันทร์ ศิษย์ใกล้ชิดทีท่านวางใจนำมวลสารต่าง ๆ ไปผสมและกดพิมพ์สร้างเป็นองค์พระมา หลวงพ่อเชื้อนำพระสมเด็จที่ได้มาทั้งหมดเข้าไปปลุกเสกในโบสถ์
    --
    หลวงพ่อเชื้อสั่งให้นายเอียงปิดประตูหน้าต่างโบสถ์ทั้งหมด ท่านอนุญาตให้นายเอียงร่วมอยู่ในพิธีการปลุกเสก ความอัศจรรย์ในพิธีกรรมครั้งนั้น นายเอียง มิได้แพร่งพรายต่อผู้ใด ได้แต่เพียงบอกเล่าให้บุตรชาย คือ คุณสายัณห์ จวงจันทร์ ฟังถึงสิ่งที่ตนได้เห็นว่า
    -
    **ขณะที่หลวงพ่อเชื้อเข้าสมาธินิ่งอยู่นั้น ปรากฏว่าพระสมเด็จที่ว่างอยู่ค่อย ๆ ลอยขึ้นมาทีละองค์สององค์ลอยตามกันขึ้นมา พระองค์ไหนที่ลอยขึ้นแล้วตกลงมาตกในถาด หลวงพ่อเชื้อท่านกล่าวว่า องค์นี้ใช้ได้ องค์ไหนที่ยังไม่ลอยหรือลอยมาแล้วไม่ตกลงในถาด แบบนี้หลวงพ่อเชื้อท่านจะเก็บไว้แล้วปลุกเสกต่อไป**
    -
    ต่อมา คุณสายัณห์ ได้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยให้ผู้ฅนทั่วไปได้รู้ จึงเป็นที่มาของการเรียกพระรุ่นนี้ว่า #พระสมเด็จบิน ตราบจนปัจจุบัน
    ............
    ❀❀❀❀❀❀❀❀
    ............
    ¤ ประสบการณ์พระสมเด็จบิน ¤
    -
    ท่านผู้ประสบเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ นายสำเริง สมาชิกสภาเทศบาลชัยนาท กับครูจำลอง ศรีสุธากุล ครูโรงเรียนวันจันทราราม เล่าว่าวันหนึ่งได้ชักชวนกันมาขอขลังจากหลวงพ่อเชื้อ นั่งคุยกับหลวงพ่อจนเย็นจึงขอตัวกราบลาท่าน ก่อนกลับหลวงพ่อได้มอบพระสมเด็จบินให้ไปฅนละองค์ ทั้งสองขี่จักรยานยนต์นั่งซ้อนท้ายกันกลับบ้าน ขณะที่วิ่งมาด้วยความเร็วถึงด้านหลังที่ว่าการอำเภอตาพระยา รถก็แฉลบเข้าข้างทางหล่นลงไปข้างไหล่ทางซึ่งสูงมาก ต่างกระเด็นไปฅนละทิศละทางอย่างแรง น่าแปลกที่ทั้งสองไม่ได้รับบาดเจ็บเลย เพราะทั้งสองมีพระสมเด็จบินอยู่ในกระเป๋าเสื้อ
    --
    ¤ สยบลูกปืน ¤
    -
    มีครูท่านหนึ่งไปสอนหนังสืออยู่จังหวัดสระบุรี (ไม่ขอเอ่ยนาม) เป็นชาวบ้านสรรคบุรี นับถือหลวงพ่อเชื้อดุจบิดา ในตัวมีพระสมเด็จบินที่รับจากมือหลวงพ่อแขวนติดตัวอยู่ประจำ วันหนึ่งขณะอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ลืมนำพระสมเด็จออกจากตัว แต่ปกติทุกครั้งก่อนอาบน้ำจะถอดพระออกก่อน ได้มีไอ้โม่งลึลับ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นศัตรู ได้แอบนำปืนลูกซองยิงครูขณะอาบน้ำ โป้ง !! เสียงปืนลูกซองแผดเสียงดังสั่น เสร็จแล้วเจ้ามือปืนก็รีบวิ่งหนีไปทัน ที่ว่าวิ่งหนีใช่ว่ามือปืนอ่อนประสบการณ์ แต่เพราะตามปกติหากใครโดนปืนลูกซองยิงระยะไม่กี่วาเช่นนี้ ร้อยทั้งร้อยได้ออกธุดงค์ไปแดนสุขาวดี ที่พี่โม่งลึกลับเขาเลยมั่นใจว่าไม่ต้องรอดู เพราะแบบนี้ไม่มีรอดเต็มหลังแน่นอน แต่น่าแปลกที่พอสิ้นเสียงปืนและคลายความตกใจ คุณครูออกจากห้องน้ำได้ก็เดินไปดูจุดที่ฅนร้ายใช้ซุ่มยิง ซึ่งห่างจากห้องน้ำสังกะสีไปไม่เกิน ๒ วา
    --
    เมื่อครูเดินย้อนกลับมาดูภายในห้องน้ำ ก็เห็นว่ามีหัวกระสุนตกเกลื่อนอยู่กับพื้น พิจารณาดูเห็นว่าหัวกระสุนตกเป็นรัศมีอยู่รอบ ๆ ตัว แปลกแต่จริงที่ไม่มีหัวกระสุนลูกใดเข้าถึงตัวครูเลย ครูท่านนี้เมื่อมีโอกาสกับบ้านที่สรรคบุรี ได้นำเอาหัวกระสุนปืนลูกซองที่ตนโดนเขาแอบลักยิง มาฟ้องหลวงพ่อเชื้อให้ท่านดูเป็นหลักฐาน และถวายลูกปืนให้หลวงพ่อไว้เพื่อยืนยันว่าพระของท่านคุ้มครองชีวิตผู้ศรัทธาได้จริงแท้
    ............
    ❀❀❀❀❀❀❀❀
    ............
    ปัจจุบันพระสมเด็จรุ่นนี้ยังมีให้พบเห็นผ่านตาอยู่ จัดเป็นของที่พิถีพิถันในการสร้างตั้งแต่เนื้อหามวลสาร ที่ล้วนเป็นของดีเลิศทั้งผงที่หลวงพ่อเชื้อลบไว้เอง รวมถึงผงของครูบาอาจารย์กับมวลสรอาถรรพ์ต่าง ๆ อีกมากมาย ผ่านการปลุกเสกจนถึงขนาดลอยขึ้นจากพื้น ซึ่งพระรุ่นนี้ก็เห็นมีข้อเสียอยู่นิดหนึ่ง คือ พระบางองค์เนื้อจะเปราะหักง่ายเพราะอ่อนตัวประสาน บางครั้งกดพิมพ์อาจไม่ติดชัดงามอย่างพระที่เขาใช้เครื่องกดพิมพ์ แต่ในด้านความเข้มขลังแล้วยกให้ว่าสุดจริงไม่ได้โม้

    เครดิต คุณคนขลัง คลังวิชา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2019
  8. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    8.เหรียญหลวงพ่อกวย รุ่นปลดหนี้ ออกวัดซับลำไย ปี 2543 (ปิดรายการนี้แล้วครับ)
    3 โค๊ด
    ด้านหลัง ติดจีวรรองร่างหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน

    ประวัติปฎิปทา " หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล " อมตะเถระ 5 แผ่นดิน แห่งวัดบ้านจาน

    หลวง ปู่หมุน ฐิตสีโล เกิดในสกุล“ ศรีสงคราม”หรือ “ แก้วปักปิ่น” ถือกำเนิดเมื่อ วันพฤหัสบดี เดือน 5 ปีชวด พ.ศ. 2437 ณ บ้านจาน อ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ บิดา ชื่อ " ดี "มารดาชื่อ " อั๊ว " มีอาชีพทำไร่ทำนา เป็นเด็กยากจน แต่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ต่อมาบิดามารดาเห็นแววทางด้านพระพุทธศาสนา จึงให้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 14 ปี และนำไปฝากกับพระอาจารย์สีดาเจ้าอาวาสวัดบ้านจาน ซึ่งเป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านกรรมฐานและมีวิชาอาคมที่เก่งมาก ในปี 2460 ขณะอายุได้ 23 ปีได้เข้าอุปสมบทหมู่จำนวน 9 รูป โดยหลวงปู่เป็นรูปที่ 9 โดยมีโยมลุงของท่านเป็นเจ้าภาพ โดยมีหลวงพ่อสีดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเพ็งเป็นพระอนุสาวนาจารย์และหลวงพ่อผุยเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับรับฉายาว่า " ฐิตสีโล " แปลว่า " ผู้มีศีลตั้งมั่น "จากนั้นได้ศึกษาวิชาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ในแถบนั้นเป็นเวลา 4 ปี ก่อนออกแสวงหาครูบาอาจารย์อื่นๆ เพื่อศึกษาคันธธุระและวิปัสสนาธุระในชั้นที่สูงๆ ขึ้นไป

    ปี พ.ศ.2464 หลวงปู่หมุน เริ่มออกศึกษาแสวงหาประสบการณ์โดยได้ร่ำเรียนทั้งเวทย์วิทยา และสมถกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายสำนัก การเดินทางในสมัยนั้นเป็นที่ลำบากยากเย็น ต้องเดินเท้าเปล่าผจญภัยจากผีป่า หรือสัตว์ร้ายนานัปการ แต่หลวงปู่มิได้ย่อท้อ ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมที่ สำนักตักศิลาแห่งบ้านจิกใหญ่ อ.พิบูลมังสาหาร จังหวัด อุบลราชธานี กระทั่งศึกษาคัมภีร์มหาพุทธาคม อันเป็นแม่บทของคัมภีร์ปถมัง คัมภีร์อิทธิเจ คัมภีร์มหาราช คัมภีร์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นพื้นฐานแห่งอำนาจจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราพิชัยสงคราม เช่น คัมภีร์นิติประกาศิต คัมภีร์ธนูรเวทว่าด้วยการแต่งเครื่องครอบมนตร์ในสงคราม เป็นต้น

    ในช่วงปี 2475-2482 เมื่อหลวงปู่สำเร็จการศึกษาวิชาการต่าง ๆ ก็เก็บบริขารออกธุดงค์ป่าผ่านถิ่นทุรกันดารในชนบทโดยเท้าเปล่ามายังกรุงเทพ ฯ ในระยะแรกหลวงปู่เข้าพักที่ วัดเทพธิดาราม เป็นการชั่วคราว โดยมีครูทองอินทร์ เป็นครูสอนของวัดเทพธิดาราม เป็นผู้เอื้อเฟื้อจัดหาที่พำนักให้ ท่านได้ให้หลวงปู่อยู่ที่วัดวัดอรุณราชวราราม พำนักอยู่กับพระพิมลธรรม(นาค) ศิษย์สายสมเด็จพระสังฆราชแพ โอกาสนี้หลวงปู่ได้ร่ำเรียนวิชาคัมภีร์มูลกัจจายน์สูตร ซึ่งเป็นหลักสูตรโบราณอันเก่าแก่ของคณะสงฆ์ไทยที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เป็นตำราที่ละเอียดลึกซึ้ง แตกฉานพระบาลีว่าด้วยคัมภีร์อรรถกถายากยิ่งที่จะมีผู้เรียนได้สำเร็จ ปัจจุบันวิชานี้ได้ยกเลิกไปแล้ว

    หลวงปู่หมุนได้เข้าสอบวิชามูลกัจจายน์ นั้น ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งการสอบในสมัยนั้นมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธาน และสมเด็จพระสังฆราช(แพ) เป็นประธานกรรมการฝ่ายสงฆ์ และพระเถราจารย์เป็นผู้ทดสอบด้วย โดยมีการถามตอบแบบมุขปาฐะ (ปากเปล่า) ถ้าถามตอบบาลีผิดเกิน 3 คำ ให้ปรับเป็นตกทันที ด้วยความรู้ความสามารถที่แตกฉานในคัมภีร์หลวงปู่สามารถสอบได้เปรียญธรรมถึง 5 ประโยคในคราวเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นหลวงปู่ได้ใช้วิชาความรู้อย่าง คุ้มค่า โดยได้เป็นครูสอนมูลกัจจายน์อยู่ที่วัดหงส์รัตนาราม(ฝั่งธนบุรี) เป็นเวลานานหลายปี มีลูกศิษย์มากมาย นอกจากนี้ในช่วงหนึ่งหลวงปู่มาพักกับสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่วัดสุทัศน์ฯ และได้ศึกษาวิชาบางอย่างกับสมเด็จพระสังฆราชแพอีกด้วย

    จากนั้นก็เก็บ บริขารเดินธุดงค์ติดตามพระอาจารย์ทองดี ที่มาจาก อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ธุดงค์ ไปทางภาคเหนือเข้าเขตพม่าเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นก็เดินเท้าเปล่าลงภาคใต้ไปพำนักกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ เพื่อปฎิบัติกรรมฐานและแลกเปลี่ยนวิชาอาถรรพณ์เวทมนต์กับพระอาจารย์ทิมอยู่ ประมาณปีกว่า ๆ ก่อนธุดงค์เข้าเขตประเทศมาเลเซีย เพื่อจะเรียนวิชากับพ่อท่านครน วัดบางแซะ ใช้เวลาธุดงค์อยู่ถึง 7 วัน แต่ไม่พบจึงตัดสินใจกลับวัดช้างให้ ต่อจากนั้นก็ได้เรียนวิชาจากพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช โดยได้ของที่ระลึกจากพ่อท่านคล้ายคือ ชานหมากเม็ดใหญ่เป็นที่ระลึก จากนั้นก็เดินธุดงค์เรื่อยมาจนกลับสู่เขตอีสานอีกครั้งและได้พบกับหลวงปู่สี ฉันทสิริ ในป่าแถบ จังหวัดหนองคาย และได้วิชาลบผงสีจากหลวงปู่สี ซึ่งได้รับสืบทอดมาจากสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆังโฆษิตตาราม

    หลวงปู่หมุน นับเป็นหนึ่งในทายาทผู้สืบสายเวทวิทยาพุทธาคมในสายสมเด็จลุนแห่งนครจำปา ศักดิ์ราชอาณาจักรลาวที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน โดยสมเด็จลุนเป็นที่เลื่องลือในคุณธรรมและอภิญญาอภินิหารอาทิ สามารถเดินบนน้ำได้ ย่นระยะทางได้ แปลงร่างได้ เดินทะลุภูเขาได้กล่าวกันว่าภิกษุสงฆ์ยุคก่อนโน้นต่างดั้นด้นสืบเสาะหาสม เด็จลุน เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษามหาวิทยาคม ตลอดจนวิปัสสนากรรมฐาน หลวงปู่หมุนเองก็ดั้นด้นธุดงค์ผ่านอุบลราชธานีเข้าประเทศลาวเพื่อสืบเสาะสม เด็จลุน แต่ไม่พบ แล้วมาพักอยู่กับหลายพ่อมหาเพ็ง วัดลำดวน ในช่วงนั้นหลวงปู่ได้ใช้เวลาค้นคว้าศึกษาพระไตรปิฏก ในเรื่องพระวินัยปิฏก และพระอภิธรรม ซึ่งเป็นพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงการเจริญกัมฏฐานล้วน ๆ ประมาณ 2 เดือนกว่า แล้วก็ออกธุดงค์กลับสู่ประเทศไทยเข้ากรุงเทพฯ มาพักนักที่วัดหงส์รัตนาราม ต่อมาธุดงค์ไปทางอีสานเข้าสู่ประเทศลาวอีก หลายครั้ง จนกระทั่งท่านมีอายุ 30 ปีกว่าแล้ว คราวนั้นหลวงปู่ได้พบกับฆราวาสชื่ออาจารย์ฉันท์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลนของสมเด็จลุน ที่จังหวัดนครพนม โดยเรียนวิชาจากอาจารย์ฉันท์จนหมดภูมิแล้ว อาจารย์ท่านจึงได้แนะนำฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ดำเหลนของสมเด็จลุนปรมาจารย์ ใหญ่ที่สืบสายเวทวิทยาพุทธาคมในสายสมเด็จลุน

    พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

    พุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงการชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2020
  9. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    9.เหรียญหลวงพ่อกวย รุ่นมงคลถาวร ( บูชา 600 บาท )

    เฒ่าสุพรรณ จัดสร้าง เนื้อทองสัมฤทธิ์

    (ปลุกเสกโดยศิษย์ในสาย หลวงพ่อปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธ์, หลวงพ่อศรีวัดพระปรางค์)

    เหรียญรุ่นนี้อาจารย์ชนินท์ร่วมปลุกเสก(อาจารย์ชนินท์ เป็นศิษย์สายครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุยลำพูน เป็นศิษย์สายครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน เป็นศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และเป็นศิษย์ฆราวาสของคุณหมอสมสุข คงอุไร)

    ท่านพูดในวันปลุกเสกว่า (หลวงพ่อกวยพูดกับท่านอาจารย์ชนินท์) เหรียญรุ่นนี้ของกูไม่ต้องนำไปให้ใครเสกอีกเด็ดขาดกูกับอาจารย์ของกูเสกให้เต็มที่แล้วแต่กูขอเวลา 3 อึดใจ เหรียญรุ่นนี้ใช้แทนของเดิมได้ วันที่ 13 สิงหาคม 2555 ผู้จัดสร้างเหรียญไปกราบหลวงปู่นาม วัดน้อยชมพู สุพรรบุรี เลยหอบเอาเหรียญชนวนลองๆไปให้ท่านเสกดูอีกที หลวงปู่นามเอามือจับถุงเหรียญ ท่านถามว่า เหรียญของใคร "แรงจัง" กูเสกไม่เข้า เลยหยุดการปลุกเสกตอนแรกผู้จัดสร้างเหรียญตั้งใจทำพิธีปลุกเสก 74 วัน 74 คืน ถึงคืนวันที่ 30 กันยายน 2555 จึงจะหยุดเสก

    วัตถุมงคลชุดนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อสมทบทุนมูลนิธิหลวงพ่อกวย มอบให้เด็กนักเรียน เป็นทุนการศึกษาเด็กนักเรียน ณ หมู่บ้านปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี

    1.เนื้อนวะสัมฤทธิ์ชนวน แผ่นยันต์ สร้างจำนวน 499 เหรียญ
    2.เนื้อสัมฤทธิ์เหลือง แผ่นยันต์ สร้างจำนวน 499 เหรียญ
    3.เนื้อสัมฤทธิ์แดงชนวน แผ่นยันต์ สร้างจำนวน 499 เหรียญ
    4.เนื้อทองเหลือรมดำ สร้างจำนวน 3,999 เหรียญ
    5.เนื้อทองแดงรมนาค สร้างจำนวน 999 เหรียญ


    IMG_20190619_103029.jpg IMG_20190619_102956.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2019
  10. สุโขสุขี

    สุโขสุขี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    914
    ค่าพลัง:
    +1,470
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  11. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    รับทราบครับ
     
  12. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    budd2825.jpg img1561350135741.jpg img1561350168180.jpg 10.เหรียญจตุรพิธพรชัย หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    ( บูชา 3,000 บาท )

    มีนามเดิม หน่าย มีความดี วัน-เดือนที่เกิดไม่ระบุชัด ปีพ.ศ.2446 ที่ ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา บิดา-มารดา ชื่อ นายหลาบ และนางพลอย มีความดี จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัด ในสมัยนั้นการศึกษายังไม่ค่อยเจริญ พออ่านออกเขียนได้ เมื่อจบการศึกษาแล้ว ช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่กับบ้าน

    อายุ 12 ปี บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านแจ้ง มีพระครูพัด เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาธรรมวินัยและวิทยาคมบ้างเล็กน้อย ด้วยอายุยังน้อย

    กระทั่งอายุครบ 22 ปี เข้าอุปสมบทที่วัดบ้านแจ้ง มีพระครูพัด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า อินทสีโล

    หลังอุปสมบท พรรษาแรก ท่านเริ่มออกเดินธุดงค์ไปในป่าเขาตามภาคต่างๆ ซึ่งมีสัตว์ดุร้ายที่ชุกชุม แต่ก็ไม่มีความเกรงกลัวกับสัตว์ร้ายเหล่านั้น

    เมื่อท่านเดินธุดงค์อยู่ในป่าจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงได้กลับมายังวัดแจ้ง อยู่ได้ 3 เดือน จึงเดินทางไปศึกษาวิทยาคมกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

    ขณะที่เรียนอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้พบกับกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และศึกษาวิชากับท่านบ้าง แต่ส่วนมากจะได้วิชาจาก หลวงปู่ศุข แต่ยังไม่ทันที่จะได้วิชาแขนงสุดท้าย หลวงปู่ศุขก็มรณภาพไปเสียก่อน

    แม้จะเป็นระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งปี แต่หลวงพ่อหน่ายได้ฝึกฝนทบทวนสรรพวิชาต่างๆ อย่างเข้มข้น ถือว่าเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุขอย่างแท้จริง

    หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาเครื่องรางของขลังและวิทยาคมกับอาจารย์ย่ามแดง ซึ่งเป็นศิษย์เอกของ หลวงปู่ศุข หลังจากเรียนวิชาจากอาจารย์ย่ามแดง จึงกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านแจ้ง ซึ่งในขณะนั้นมี พระครูอนุวัติสังฆกิจ (เคลือบ) เป็นเจ้าอาวาสท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ในป่าช้านานถึง 20 ปี โดยบอกว่าในป่าช้าเงียบและสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน

    หลวงพ่อหน่าย ช่วยพระครูสังฆกิจ (เคลือบ) พัฒนาวัดบ้านแจ้ง ด้วยการสร้างอุโบสถ กุฏิ ศาลาการเปรียญ เมื่อพระครูสังฆกิจมรณภาพ ญาติโยมจึงนิมนต์หลวงพ่อหน่ายขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนตั้งแต่ปี พ.ศ.2512 ขณะที่มีอายุได้ 71 ปี โดยที่ท่านไม่ยอมรับสมณศักดิ์ใดๆ ทั้งสิ้น

    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ปกครองดูแลพระภิกษุสามเณร รวมทั้งเกื้อกูลต่ออุบาสก-อุบาสิกามายาวนาน เป็นพระอุปัชฌาย์ให้กุลบุตรทั้งหลายได้บรรพชาอุปสมบท เป็นสามเณรและพระภิกษุเป็นจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

    จากวัตรปฏิบัติและเมตตาธรรมที่หลวงพ่อหน่ายได้ให้แก่ลูกศิษย์และญาติโยมทั้งหลายมายาวนาน ทำให้ท่านเป็นที่เคารพนับถือ ประกอบกับเมื่อท่านได้สร้างวัตถุมงคลและมีผู้นำไปบูชาแล้วเกิดผลเป็นสุข ความเจริญ หรือแคล้วคลาดจากภัยพิบัติต่างๆ จึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อหน่ายอยู่ในทำเนียบของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังรูปหนึ่งของเมืองไทย

    ทั้งนี้ หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ได้สร้าง พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และ วัตถุมงคล ไว้หลายอย่าง อาทิ ตะกรุดโทน, ตะกรุดมหาอุด, พระโมคคัลลาน์พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก, พระพุทธโคดมพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก รวมถึงเหรียญรุ่นต่างๆ อีกหลายรุ่น

    ตลอดชีวิตของหลวงพ่อหน่าย ท่านได้นำวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือชาวบ้านและลูกศิษย์อย่างต่อเนื่อง ท่านเป็นสงฆ์ที่รักสันโดษ ครองบรรพชิตอย่างเรียบง่าย และไม่เคยโอ้อวดตน

    ต่อมาละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันอังคารที่ 10 พ.ค. 2531 รวมอายุ 86 ปี พรรษา 74

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2019
  13. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    11.พระขุนแผน หลวงพ่อตัดวัดชายนา รุ่น2 เนื้อดินเผา ปี 48 ( ปิดรายการนี้แล้วครับ)

    สุดยอดมหาเสน่ห์ - สาวหลง – คงกระพัน

    **เป็นรุ่นที่ติด1ใน5 สุดยอดวัตถุมงคล ของหลวงพ่อตัด**

    1561348714540.jpg 1561348716610.jpg
    ***พระขุนแผนของหลวงพ่อตัด วัดชายนา โดยเฉพาะรุ่น 2 นี้ เน้นทางด้านเมตตามหานิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งคงความเป็นมหาอุต คงกระพัน แคล้วคลาด อันลือชื่อของหลวงพ่อตัด

    รุ่นนี้ทางวัดดำเนินการจัดสร้างเอง น่าใช้มาก พุทธคุณครอบคลุมทุกด้าน
    แคล้วคลาด คงกระพัน เสน่ห์เมตตา
    มีสองเนื้อ คือ เนื้อผงพุทธคุณ กับเนื้อดินเผา

    เนื้อดินเผานั้น พิมพ์ที่วัด เผาเองที่วัดโดยพระอาจารย์(หลวงพ่อตัด)เป็นผู้ดำเนินการผู้เดียวไม่ได้ให้เด็กวัดหรือ ศิษย์เข้าไปยุ่ง สร้างประมาณ 8,000 องค์ การเผา จึงทำให้สีพระมีหลายวรรณะ ทั้ง สีแดง สีนวล และสีดำ

    ***ความพิเศษของพระขุนแผนสำนักวัดชายนา คือ จะมีการวางยันต์ หัวใจพระสีวลี นะชาลีติ ไว้ เพื่อให้พระขุนแผนของวัดชายนา ใช้ได้ดีทั้งเมตตา และเงินทองค่ะ***

    วิธีบูชา ตั้งนะโม 3 จบจากนั้นจงทำจิตให้แน่วแน่เป็นสมาธินึกถึงพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์แล้ว ว่าคาถาดังต่อไปนี้

    "อิติ ปาระมิตาติงสา อิติ สัพพัญญูมาคะตา อิติ โพธิมะนุปปัตโต อิติปิโส จะเต นะโม พิศวาสหลงไหล พิศมัยยินดี ใจจิตคิดถึง เคล้าคึงวิญญา วิชชาจาระณะสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา"
    3จบ หรือ 7จบ ก็ได้แต่ที่สำคัญเลยเวลาที่ท่องคาถานี้เราต้องนึกถึงใบหน้าของบุคคลนั้นด้วย จึงจะสัมฤทธิประสิทธดีนักแล

    ขอบคุณข้อมูลจากเว็บเพื่อนบ้านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2020
  14. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    เหรียญหลวงพ่อแจ๋ วัดโพธ์เฉลิมรักษ์ ปี2516 ( บูชา 1,200 บาท )

    “หลวงพ่อแจ๋ ติสสโร” พระเกจิชื่อดังวัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ปรากฏเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังมาแต่ครั้งอดีต
    วัตถุมงคลล้วนได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะรูปเคารพนางกวัก และเหรียญนางกวัก
    สำหรับ “นางกวัก” นับเป็นหนึ่งในรูปเคารพที่มีผู้นับถือกันอย่างมาก โดยเชื่อว่าสามารถดลบันดาลโชคลาภ เรียกทรัพย์สินเงินทองให้บังเกิดแก่ผู้กราบไหว้บูชา ให้ทำมาค้าขึ้น ซื้อง่าย ขายคล่อง และมีเสน่ห์มหานิยมด้วย
    รูปเคารพนางกวัก ส่วนใหญ่ จะมีลักษณะเป็นสตรีไทยสมัยโบราณ ผมยาวประบ่า ห่มผ้าสไบเฉียง นุ่งผ้ายกดอก ประกอบด้วยพาหุรัด ทองกร และสร้อยสังวาล นั่งพับเพียบหรือคุกเข่าอยู่บนแท่นทอง มือขวายกงอขึ้นในลักษณะท่ากวักมือ มือซ้ายจะถือถุงเงินถุงทอง และจารึกอักขระขอม หัวใจพระสีวลี ผู้เป็นเอตทัคคะทางโชคลาภ คือ นะ ชา ลิ ติ เป็นต้น
    วัตถุมงคลที่หลวงพ่อแจ๋สร้างนั้น มีเพียงไม่กี่รุ่น แต่ล้วนมีประสบการณ์ จนเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสในละแวกนั้น สมัยนั้นใครได้รับวัตถุมงคลจากมือ หลวงพ่อแจ๋ มักจะกล่าวกันว่า “รับกับมือแจ๋ แจ๋วแน่นอน” เป็นที่เล่าขานกันมาตราบทุกวันนี้

    ที่ได้รับความนิยมในวงการพระเครื่อง คือ “เหรียญนางกวัก”

    เหรียญนางกวัก หลวงพ่อแจ๋ สร้างในปี พ.ศ.2502 นับเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียว สร้างเป็นเนื้อเงินลงยา และเนื้ออัลปาก้า จำนวนการสร้างไม่เกิน 1,000 เหรียญ ปัจจุบันมีค่านิยมสูงและหายากยิ่ง
    ลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงห้าเหลี่ยม ด้านล่างเป็นเหมือนกลีบบัว 3 กลีบ หูในตัว
    ด้านหน้าเหรียญ ยกขอบเส้นลวด มีอักขระขอมล้อมรอบ ภายในกรอบยันต์เป็นรูปหญิงไทยโบราณนั่งพับเพียบ มือขวายกมือกวักลาภ มือซ้ายวางไว้ที่หน้าตัก ซึ่งมีอักขระขอมว่า “โมมา” เหนือศีรษะมีคำว่า “นะ” ที่หูด้านขวามีคำว่า “นิ” หูด้านซ้ายมีคำว่า “มา” แขนซ้ายมีอักขระว่า “พุทธ” ต่อลงมาเป็นอักษรไทยว่า “พระครูแจ๋” และใต้อาสนะมีอักขระว่า “ทา อิ กะ วิ ติ”
    ด้านหลังเหรียญ เป็นหลังเรียบ โดยหลวงพ่อแจ๋ จะลงอักขระของท่านด้วยเหล็กจารทุกองค์
    นักสะสมต่างเสาะแสวงหามาครอบครอง สนนราคาเล่นหาก็สูงตามไปด้วย

    หลวงพ่อแจ๋ เดิมชื่อ จั่น เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 8 ปีมะโรง ตรงกับปี พ.ศ.2432 ณ ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
    img1561349428830.jpg img1561476717251.jpg ในวัยเด็กเรียนหนังสือกับพระอาจารย์เที่ยงและพระอาจารย์ทอง ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ที่วัดเมืองได้ระยะหนึ่ง แล้วกลับมาช่วยงานทางบ้านประมาณ 2-3 ปี จึงได้กลับไปบรรพชาอยู่กับหลวงอาทั้งสองอีกครั้ง
    ช่วงที่เป็นสามเณร ศึกษาพุทธาคมกับหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ซึ่งขณะนั้นมาเป็นครูสอนกัมมัฏฐานอยู่ที่วัดโสธรวราราม
    ต่อมาได้ลาสิกขาและเข้ารับราชการทหารอยู่ 2 ปี จึงได้ลาออก และเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ที่พัทธสีมา วัดนครเนื่องเขต (ต้นตาล) จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2455 โดยมีพระครูคณานุกิจ วัดแหลมบน (สายชล ณ รังษี) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวินัยธรปาน วัดแหลมบน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูฮ้อ วัดแหลมบน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา ติสสโร
    จากนั้นจำพรรษาที่วัดนครเนื่องเขต (วัดต้นตาล) ศึกษาพระธรรมวินัย เรียนอักขระเลขยันต์ และวิทยาอาคมต่างๆ จากพระครูญานรังสีมุนีวงษา (ทำ) วัดสัมปทวน (นอก) เจ้าตำรับการสร้างพระปิดตาผงคลุกรักอันโด่งดัง, พระอาจารย์บัว วัดนครเนื่องเขต
    นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาเพิ่มเติมกับพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป รวมทั้งอาจารย์สอน ฆราวาสชาวเขมร ต่อมาย้ายมาจำพรรษา ณ วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว
    และได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทนอาจารย์พรหม

    เมื่อรับหน้าที่ปกครองดูแลวัด ท่านก็ได้ทำนุบำรุงและพัฒนาถาวรวัตถุและเสนาสนะต่างๆ ภายในวัดจนวัดเจริญรุ่งเรือง รวมทั้งมีส่วนช่วยเหลือและพัฒนาวัดโพธิ์แสงกาญจนราษฎร์ (คลอง 19) อีกวัดหนึ่งด้วย
    ในช่วงที่มาอยู่ที่วัดโพธิเฉลิมรักษ์ อาพาธล้มป่วยลง พอดีกับอาจารย์สอนซึ่งเป็นชาวเขมรเดินทางมาเยี่ยมและพบเข้า อาสารักษาจนกระทั่งท่านหายดี จึงได้เรียนวิชาแพทย์แผนโบราณกับอาจารย์สอนด้วย
    นอกจากนี้ ท่านยังได้เรียนวิชาโหราศาสตร์ควบคู่ไปด้วย จึงมีความรู้ในหลายด้าน
    เป็นพระที่เมตตาธรรมสูง เคร่งครัดในระเบียบวินัย ใครไปใครมาท่านต้อนรับเสมอภาคกัน ช่วยเหลือปัดเป่าให้ทุกรายไป
    จึงเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านในแถบนั้นมาก

    วัตถุมงคลที่สร้างนั้นมีเพียงไม่กี่รุ่น แต่ละรุ่นล้วนมีประสบการณ์ จนเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใส กล่าวกันว่า สมัยนั้นใครได้รับวัตถุมงคลจากมือหลวงพ่อแจ๋ มักจะกล่าวกันว่า “รับกับมือแจ๋ แจ๋วแน่นอน” เป็นที่เล่าขานกันมาจนทุกวันนี้
    ที่ได้รับความนิยมสูงในวงการ นอกจากเหรียญนางกวัก ปี 2502 ยังมีเหรียญหลวงพ่อแจ๋ ปี 2502 พิมพ์หน้าหนุ่มและหน้าแก่ และรูปหล่อปั๊มปี 2513, พระเนื้อผง เป็นต้น
    มรณภาพเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2516 สิริรวมอายุ 84 ปี พรรษา 61
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2019
  15. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่น "ย้อนยุค 2 แผ่นดิน" ณ วัดธรรมศิริวราราม ( บูชา 450 บาท )

    รุ่น "ย้อนยุค 2 แผ่นดิน" ณ วัดธรรมศิริวราราม บ้านกอหรา ตำบลเยอเนอรี่ อำเภอเสะ จังหวัดไทรบุรี (เคดาห์) มาเลเซีย ครั้งแรกและยิ่งใหญ่

    หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด "รุ่นย้อนยุค 2 แผ่นดิน" ที่มีการจัดสร้าง และจัดประกอบพิธีพุทธาภิเษกบนดินแดนที่หลวงปู่ทวดท่านละสังขาร

    ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539 คณะกรรมการและพี่น้องชาวไทยในประเทศมาเลเซีย ได้จัดสร้างวัตถุมงคล หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ขึ้นมา 1 รุ่น รุ่นย้อนยุค 2 แผ่นดิน และได้ขออนุญาตอัญเชิญตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐานไว้ด้านหลังรูปเหรียญวัตถุมงคลในรุ่นนี้ด้วย

    วัดธรรมศิริวราราม เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกอหรา ซึ่งเป็นหมู่บ้านคนไทยในประเทศมาเลเซีย เป็นวัดเก่าแก่มีอายุการตั้งวัดมาไม่ต่ำกว่า 200 ปี ในอดีตนั้นหลวงปู่ทวดได้มาโปรดสั่งสอนและได้ละสังขารบนแผ่นดินหมู่บ้านคนไทยในประเทศมาเลเซีย เข้าพิธีพุทธาภิเษก 2 วาระ วาระแรก อุโบสถวัดช้างให้ จ.ปัตตานี พร้อมวัตถุมงคลวัดช้างให้ ปี 2538 วาระที่ 2 อุโบสถวัดธรรมศิริวราราม รัฐเคดาห์ มาเลเซีย วันที่ 23 มีนาคม 2539 (เสาร์ 5)

    img1561349690515.jpg img1561476617700.jpg ฯพณฯ นายอำนวย ถาวรวงค์ กงสุลใหญ่ ณ ปีนัง เป็นประธานกรรมการฝ่ายคฤหัสถ์
     
  16. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
     
  17. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    พระสมเด็จหลังสีวลี พิมพ์เล็ก ( บูชา 1,000 บาท )

    พระสมเด็จหลังสิวลี เนื้อผงใบลาน วัดราชนัดดาสร้าง หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ร่วมปลุกเสก ปี2515

    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมพุทธาภิเษก ในปี พ.ศ.2515 อาทิเช่น
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    - หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    - หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    - พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุธ)เจ้าคณะจังหวัดอุทัย
    - หลวงปู่นาค วัดหนองโปร่ง
    - หลวงพ่อสุวรรณ วัดเขาบ่มกล้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2019
  18. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    เหรียญเดิมบาง หลวงพ่อกวย กะไหล่นาค
    เหรียญนี้ทำกะไหล่ใหม่ img1561962705843.jpg img1561962741396.jpg (รายการนี้ปิดนอกเว็บแล้วครับ )
    เหรียญดีที่น่าสะสม
    เหรียญหลวงพ่อกวย ออกวัดเดิมบางนางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เหรียญรุ่นนี้
    หากนับตาม พ.ศ. ที่สร้าง และสร้างในนามของหลวงพ่อกวย ชุตินฺโร แล้ว ก็คงจะไม่ผิดที่
    จะนับเหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญเป็นเหรียญรุ่นที่ ๒ ของหลวงพ่อกวย เพราะสร้างในปี พ.ศ.๒๕๑๓
    (เหรียญรุ่น ๒ ที่ออกที่วัดโฆสิตารามออกในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ )

    เหรียญรุ่นนี้แม้จะเป็นเหรียญที่ออกนอกวัด แต่คุณค่าและพุทธคุณไม่ได้แตกต่างจากเหรียญรุ่นต่าง ๆ
    ที่ออกจากวัดโฆสิตารามเลยแม้แต่น้อย เพราะพิธีดี เจตนาการสร้างดี เหรียญรุ่นนี้ ถูกดำเนินการสร้างโดย
    พระอาจารย์ถนอมเจ้าอาวาส วัดเดิมบางนางบวช ซึ่งเป็นลูกศิษย์อีกองค์หนึ่งของหลวงพ่อกวย
    แม้แต่ใบคาถาที่เป็นยันต์ด้านหลังหรียญหลวงพ่อท่านก็ได้เขียนให้กับพระอาจารย์ถนอมเองกับมือ
    และยังได้มาปลุกเสกให้ในงานวางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญ ที่วัดเดิมบาง นอกจากทำพิธีปลุกเสกที่วัดเดิมบางแล้ว
    พระอาจารย์ถนอม ยังได้นำไปให้หลวงพ่อปลุกเสกที่วัดโฆสิตารามต่ออีกถึง ๒ ปี จึงนำออกมาจำหน่ายที่วัดใน
    งานยกช่อฟ้าศาลา วัดเดิมบาง

    เหรียญหลวงพ่อกวย ออกวัดเดิมบางนางบวช สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๓ เป็นเหรียญรูปโล่ฝลั่ง
    รูปทรงสวยงาม ไม่แพ้เหรียญรุ่นอื่น ๆ ด้านหน้าเหรียญ รูปหลวงพ่อเป็น รูปครึ่งองค์ดูสวยงามเพราะช่างแกะรูปหลวงพ่อ
    ได้เหมือนมาก ๆ ด้านล่างมีตัวอักษรเขียนว่า หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ด้านหลังมียันต์ ๒ ตัว คือยันต์เฑาะ และยันต์นะโมพุทธายะ
    ด้านล่างเขียนว่า ยกช่อฟ้าศาลาวัดเดิมบาง จำนวนการสร้างประมาณ ๒ หมื่นเหรียญ มี ๒ แบบ คือ รมดำกับรมนาค (รมนาคหายากกว่า)

    เหรียญออกวัดเดิมบางนี้หากพูดถึงเรื่องราคาในการเช่าหาแล้ว ถือได้ว่า เป็นเหรียญที่ราคาเยาว์
    (แม้ว่าจะออกก่อน เหรียญรุ่น ๒ นะโมตาบอด และเหรียญรุ่น ๓ ก็ตาม) เมื่อเทียบกับเหรียญรุ่นต่าง ๆ
    พี่น้องเหล่าศิษย์ไม่ควรมองข้าม เพราะราคาย่อมเยาว์ที่สุด (ต่างจากเหรียญนะโมตาบอดเป็นสิบเท่า)

    ขนาดของเหรียญไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ผู้ชายคล้องได้ ผู้หญิงคล้องดี ให้ลูกหลานคล้องคอ
    เพื่อบูชา พึ่งอาศัยพุทธคุณ ของหลวงพ่อ คุ้มภัยป้องกันตัวและเพื่อความเป็นสิริมงคลกับคนที่เรารัก
    ก็ยังได้ เพราะราคาไม่แพงมากนัก หายก็ยังไม่เสียดายเท่าเหรียญรุ่นอื่น ๆ ของหลวงพ่อที่ราคาแพงกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2020
  19. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    พระสมเด็จ ปรกโพธิ์ สะดุ้งกลับ วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี ( บูชา 1,400 บาท )
    องค์นี้ผิวหน้าจะหย่อนสวยหน่อย เพราะแช่น้ำมนต์ไว้ครับ
    A1.jpg A2.jpg

    พระสมเด็จ ปรกโพธิ์ สะดุ้งกลับ วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี ผู้สร้างคือ อาจารย์สำราญ ซึ่งท่านได้เคยศึกษาในด้านการทำผงพุทธคุณมาจากอาจารย์ชื่อดังต่างๆ หลายท่านด้วยกัน อาจารย์สำราญ ท่านได้มาอยู่ วัดเขาตะเครา ด้วยความเคารพนับถือในองค์หลวงพ่อ ท่านได้จำวัดและนั่งวิปัสสนาอยู่แต่ในโบสถ์แห่งเดียว

    การสร้างพระนั้น ท่านได้แกะพิมพ์ ทำพิมพ์เอาเอง ส่วนผสมของมวลสารนั้น ท่านได้ใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย นำมาผสมกันแล้วประสานเนื้อให้เกาะติดโดยใช้กล้วยป่ามาบดเพื่อให้ผงยึดตัว แล้วผสมด้วยน้ำมันตังอิ๊วอีกครั้งหนึ่ง ส่วนผสมหลักที่สำคัญมากที่ลืมไม่ได้ก็คือ การผสมผงองค์พระนั้น ทุกครั้งท่านจะต้องใส่ ผงพระสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งเป็นสมบัติของท่านลงไปด้วยเสมอ จะขาดไม่ได้เลย การกดพิมพ์องค์พระ ท่านจะกดพิมพ์ด้วยตัวของท่านเองภายในโบสถ์ ท่านจะกดพิมพ์พระไปเรื่อยๆ เมื่อมีเวลาว่าง

    การปลุกเสกแต่ละครั้ง ในการปลุกเสก ท่านจะโยงสายสิญจน์จาก หลวงพ่อ วัดเขาตะเครา มายังองค์พระที่สร้างขึ้น และจะทำการปลุกเสกติดต่อไปเรื่อยๆ ทุกวัน เมื่อมีใครมาขอพระจากท่าน ท่านก็จะมอบให้ไปตามที่ต้องการ ผู้เขียนเคยถามท่านว่า ท่านสร้างพระเรื่อยๆ ทำไม ท่านก็จะตอบว่า ที่สร้างพระก็เพื่อแจกจ่ายให้กับทุกคนที่ต้องการ เพื่อให้นำไปใช้คุ้มกันภัย และประสบแต่ความดี ทั้งยังเป็นการต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นกุศลอย่างหนึ่งด้วย

    การสร้างพระของ อาจารย์สำราญ นั้น มิได้สร้างเพื่อผลประโยชน์ใดๆ เลย และไม่เคยบอกบุญเรี่ยไรเป็นเงินเป็นทองจากใครทั้งสิ้น ท่านเคยบอกว่า ถ้าหากใครจะถวายปัจจัยให้ท่าน ก็ขอให้ไปช่วยหากล้วยป่ากับน้ำมันตังอิ๊วมาให้ท่านจะดีกว่า จึงมั่นใจได้ว่า ท่านไม่ได้สร้างพระเพื่อหาประโยชน์อื่นใดทั้งสิ้น จึงนับเป็นพระเครื่องที่น่าเสาะแสวงหาอย่างยิ่ง

    พระสมเด็จ วัดเขาตะเครา มีประสบการณ์มากมาย และทุกเรื่องล้วนเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง ผู้เขียนจะเล่าในส่วนที่ได้พบเห็นมาด้วยตนเองจริงๆ คือ มีเพื่อนรุ่นน้องผู้หนึ่งได้ไปหาอาจารย์สำราญ ระยะนั้นมีผู้ไปหาท่านมาก เพื่อลง นะหน้าทอง เมื่อทำพิธีแล้ว ท่านจะมอบพระให้คนละองค์ โดยจะปลุกเสกและปิดทองให้ด้วย เพื่อนรุ่นน้องที่ไปหาท่านนี้ ก็ได้รับพระเช่นเดียวกับคนอื่น เมื่อรับพระมาแล้วก็ห่อผ้าใส่ซองพลาสติกแข็ง ใส่กระเป๋าเสื้อ ขณะจะกลับบ้านเขาได้พบกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง จึงชวนกันไปเที่ยวบ้านโสเภณี เขาผู้นี้ได้เข้าไปด้วย เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาเอาพระออกมา ปรากฏว่าองค์พระได้แตกละเอียด อยู่ในห่อที่ไม่ได้ถูกกระทบกระทั่งอะไรมาก่อนเลย ไม่ได้เดินชนอะไร หรือทำซองพลาสติกตกหล่นที่ไหน นับเป็นเหตุมหัศจรรย์อย่างยิ่ง

    พระสมเด็จปรกโพธิ์ สะดุ้งกลับ
    พระสมเด็จ ปรกโพธิ์ สะดุ้งกลับ วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี ได้โด่งดังอยู่ในขณะนี้ จนกระทั่งพุ่งแรงแซงความนิยมพระอื่นๆ บางพิมพ์ไปแล้วนั้น ก็เนื่องมาจากเมื่อคราวพายุเกย์พัดปักษ์ใต้ คราวนั้นลูกเรือประมงจากอำเภอบ้านแหลม ซึ่งได้ล่องเรือไปจับปลาทางปักษ์ใต้ และได้ถูกพายุเกย์พัดกระหน่ำเอาด้วยนั้น ปรากฏว่า ลูกเรือได้หายไปทั้งลำ คงเหลือรอดตายมาเพียงคนเดียว และเขาผู้นี้ได้ห้อยบูชา พระสมเด็จ ปรกโพธิ์ สะดุ้งกลับ วัดเขาตะเครา อยู่เพียงองค์เดียวเท่านั้น

    หลังจากข่าวนี้ปรากฏออกมาสู่สาธารณชน ผู้คนโดยทั่วไปก็แสวงหากันแต่ พระสมเด็จ วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี โดยเฉพาะ ปรกโพธิ์ สะดุ้งกลับ เป็นที่นิยมชมชอบกันมากเป็นพิเศษ

    สำหรับ พระสมเด็จปรกโพธิ์สะดุ้งกลับ พิมพ์เอวเล็ก สองขอบ ถือว่าเป็นพระนิยมอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับพิมพ์อื่นๆที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน พระพิมพ์ปรกโพธิ์สะดุ้งกลับ เป็นที่นิยมมานานของนักสะสมและมีรายการประกวดอยู่เสมอ แต่ปัจจุบันหาของแท้ๆตัวจริงรุ่นแรกยากครับ สำหรับพระพิมพ์สะดุ้งกลับ จะเชื่อกันว่ามีอานุภาพช่วยส่งเสริมดวงชาตา คนที่มีเคราะห์หนักก็อาจเป็นเบา หรือที่มีเคราะห์เบาก็จะหมดไป อันนี้เชื่อกันมานานแล้วครับ พระรุ่นนี้ มีพุทธคุณครอบจักรวาล มีคนเอาพระรุ่นนี้ไปทดลองยิงปรากฏว่าปืนแตกรายหลายเลยครับ อีกรายที่ได้ยินมาคือกระสุนวิ่งย้อนกลับคนยิง พระรุ่นนี้มีคนบอกว่าลงวิชาสะท้อนกลับไว้ด้วย นอกจากจะกลับดวงร้ายให้เป็นดีแล้ว ยังส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย สำหรับพระที่นำเสนอแท้ สวยดูง่ายๆ พิมพ์นิยมสุด บล็อคไม้สัก พระอาจารย์สำราญท่านแกะบล็อคเอง ต้องเป็นสองขอบ ถ้าเป็นสะดุ้งกลับเอวใหญ่ราคาจะได้รับความนิยมน้อยกว่าเล็กน้อย
     
  20. Toom2547

    Toom2547 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,348
    ค่าพลัง:
    +1,708
    เหรียญเบญจพิทักษ์ รุ่น 3 img1561962633724.jpg img1561962661883.jpg ( บูชา 650 บาท )
    เหรียญที่ผ่านพลังอภิญญา

    เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2557 คณะศิษย์ของหลวงพ่ออภิชิโต (อ.ชาญณรงค์ ศิริสมบัติ) ได้ประกอบพิธีบวงสรวงตามวิธีการที่หลวงพ่ออภิชิโตเคยสั่งไว้เพื่อจัดพิธีปลุกเสกขอพลังจากพระในโลกลี้ลับอันมีหลวงพ่ออภิชิโตเป็นแกนหลัก โดยจัดพิธีต่อหน้ารูปเหมือนหลวงตาดำ ซึ่งถือเป็นปรมาจารย์ใหญ่สายในดง(ท่านมีความลึกลับเกินจะคาดคิด) ปัจจุบันรูปหล่อนี้ตั้งอยู่ที่วัดประสาท แขวงบางพรหม ตลิ่งชัน และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก

    การสร้างเหรียญในคราวนี้ ประกอบไปด้วยเนื้อเงิน เหรียญเนื้อตะกั่วโบราณที่หลอมรวมตะกั่วฤาษีจากถ้ำพระท่ากระดานที่ศรีสวัสดิ์เมืองกาญจนบุรี ลงไปด้วยจำนวนหนึ่ง และเหรียญเนื้อทองเหลือง โดยมีจุดประสงค์อยู่ที่การหารายได้ไปบูรณะและสร้างกุฏิพระในวัดทองฯตลิ่งชัน ซึ่งทรุดโทรมไปหลายหลังแล้ว แต่ขาดเงินไปบูรณะให้ดีพอที่จะใช้งานได้ต่อไปเพราะมีบางคนไปหลอกเอาของล้ำค่าจากท่านเจ้าคุณมาเสียหมดแล้ว ทางวัดทองฯไม่มีวิธีการใดๆจะหารายได้มาบำรุงวัด คณะศิษย์ของหลวงพ่ออภิชิโตจึงร่วมกันสร้างเหรียญรุ่นนี้ขึ้นมาและถวายเหรียญเกือบทั้งหมดให้วัดทองฯหลังจากตอกโค๊ตแล้วทุกเหรียญโดยถวายให้วัดในวันที่ 13/4/57 ที่ผ่านมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...