เรื่องเด่น อังกฤษเตรียมเสนอเครือจักรภพยกเลิกใช้หลอดพลาสติก-คอตตอนบัดส์ เพื่อลดขยะพลาสติก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 20 เมษายน 2018.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    _100940876_mediaitem100940875.jpg
    Image copyright Sangwan Sapma

    คำบรรยายภาพ ภาพสนับสนุนโครงการลดหลอด หรือ the last straw จากการร่วมมือของชาวเชียงใหม่กลุ่มหนึ่ง

    อังกฤษเตรียมเสนอ 53 ประเทศในเครือจักรภพ (Commonwealth) ให้ยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกและคอตตอนบัดส์ เพื่อลดจำนวนการใช้พลาสติกในโลกลง โดยประมาณว่าในอังกฤษมีหลอดพลาสติกถูกทิ้งเป็นขยะปีละถึงกว่า 8.5 พันล้านชิ้น

    ส่วนประเทศไทยก็เริ่มมีโครงการรณรงค์ลดการใช้พลาสติกครั้งเดียวแล้วทิ้ง เช่น โครงการลดหลอด หรือ the last straw ในจังหวัดเชียงใหม่

    นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ระบุว่า ขยะพลาสติกเป็นหนึ่งในปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่ท้าทายที่สุดของโลก เธอกล่าวว่า สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำโลกในการต่อสู้กับปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรได้บังคับใช้มาตรการเก็บค่าถุงพลาสติกลดปริมาณขยะ ยกเลิกใช้เม็ดพลาสติกไมโครบีดส์ และออกข้อเสนอระบบการแลกเปลี่ยนขวดน้ำพลาสติกเป็นเงิน เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

    ในการประชุมผู้นำรัฐในเครือจักรภพ (Commonwealth) ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ อังกฤษจะเชิญชวนให้รัฐในเครือจักรภพ 53 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยประชากรมากกว่า 2 พันล้านคน ให้เริ่มมาตรการลดใช้พลาสติกด้วย

    “ควบคู่ไปกับการเดินหน้าแผนลดใช้พลาสติกในประเทศ สัปดาห์นี้อังกฤษจะผลักดันให้เครือจักรภพร่วมกับเราด้วยในการต่อสู้กับปัญหาขยะพลาสติกในทะเล เครือจักรภพเป็นองค์กรที่เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งสัตว์ป่า สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรชายฝั่ง” นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ กล่าว


    _100940884_mediaitem100940883.jpg
    Image copyright The Last Straw/Facebook
    คำบรรยายภาพ ภราดล พรอำนวย นักเคลื่อนไหวเพื่อการอนุรักษ์ในเชียงใหม่

    โครงการลดหลอด/the last straw

    ในประเทศไทยเอง แม้การลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกครั้งเดียวแล้วทิ้งยังไม่ออกมาเป็นกฎหมายที่ชัดเจน แต่ก็มีการเคลื่อนไหวจากทั้งจากภาครัฐและประชาสังคมอยู่หลายกลุ่ม อย่างเช่น ภราดล พรอำนวย นักเคลื่อนไหวเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในเมืองเชียงใหม่ เป็นผู้ริเริ่มรณรงค์ลดการใช้หลอดพลาสติก ภายใต้ชื่อ ลดหลอด/the last straw ไปเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว

    เขากล่าวกับบีบีซีไทยทางโทรศัพท์ว่า เนื่องจากเขาและเพื่อนพ้องรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมมาก่อน และเห็นว่าพลาสติกมีผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น พลาสติกเข้าไปอุดในระบบระบายน้ำจนทำให้น้ำท่วม “ผมได้ไปเห็นแพขยะพลาสติกในทะเล ซึ่งทำให้ผมก็สะเทือนใจมาก” ภราดลจึงกลับมารณรงค์โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัว เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของบาร์แห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ เขาจึงคุยกับเพื่อน ๆ ที่ประกอบกิจการบาร์และร้านอาหารเพื่อให้ร่วมมือกันก็ลดการใช้พลาสติกในร้าน เช่น แก้วและหลอดพลาสติก

    จากนั้นก็เริ่มจัดงานรณรงค์ในชื่อ ลดหลอด/ the last straw โดยเชิญชวนประชาชนชาวเชียงใหม่ให้มาเข้าร่วมด้วยตั้งแต่เดือน ส.ค. ปีที่แล้ว โดยมีกิจกรรมให้ความรู้ มีโปสเตอร์ และจัดทำแฮชแท็ก รวมทั้งทำกูเกิลแมปที่พิมพ์คำว่า ลดหลอด หรือ the last straw ลงไป จะขึ้นเป็นแผนที่ตัวเมืองเชียงใหม่ว่ามีร้านใดบ้างที่ไม่ใช้หลอดหรือแก้วพลาสติก

    ภราดลยอมรับว่าการเปลี่ยนทัศนคติของคนต้องใช้เวลา และกล่าวว่าเขามีแผนจะรณรงค์อีกครั้งในเดือนมิถุนายนนี้โดยครั้งนี้จะขยายเข้าไปในชุมชนในตัวเมืองเชียงใหม่

    _100943409_mediaitem100943408.jpg
    Image copyright The Last Straw/Facebook
    คำบรรยายภาพ โปสเตอร์ของร้านหนึ่งในเชียงใหม่ที่ร่วมโครงการ ลดหลอด/the last straw


    ส่วนเพชร มโนปวิตร รองหัวหน้ากลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ กล่าวว่า สถานการ์เรื่องขยะทะเลเป็นที่สนใจในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การประชุมสหประชาชาติในประเด็นนี้เมื่อปีที่แล้ว

    เขาระบุว่าขยะพลาสติกเป็นปัญหาพื้นฐานสิ่งแวดล้อมที่คนไม่ค่อยนำไปเชื่อมโยงกับภาพใหญ่ แต่เมื่อไม่นานนี้มีการศึกษาออกมาว่านกทะเล สัตว์ทะเล 80 เปอร์เซนต์ มีขยะในท้อง ทำให้องค์กรต่าง ๆ เริ่มหันมาสนใจปัญหานี้

    “หลอดพลาสติกนั้นเป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยคิดว่ามีปัญหาอะไร สถิติที่องค์กรสิ่งแวดล้อมสำรวจในอังกฤษ และสหรัฐฯ พบว่าประชาชนใช้หลอดดูดเฉลี่ย 1.5 หลอดต่อคนต่อวัน ส่วนในประเทศไทยแม้ยังไม่ได้ข้อมูลออกมา แต่คาดว่าไม่ต่างกันมากนัก ดังนั้น ทุกวัน ประเทศไทยก็อาจจะมีขยะหลอดดูดกว่า 100 ล้านชิ้นต่อวัน”

    เขายังกล่าวอีกว่าปัญหาของหลอดพลาสติกก็จะหนักกว่าขวดที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ “หลอดพวกนี้แทบจะรวบรวมไม่ได้ เพราะมันมีขนาดเล็ก ดังนั้นจึงไม่มีการนำไปรีไซเคิล ทางออกต่อปัญหานี้ก็คือ ห้ามการใช้ หรือในใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเข้ามาคือเก็บค่าใช้ อย่างเดียวกับที่ทำให้ถุงพลาสติก ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลในหลาย ๆ ประเทศในโลก” เพชรกล่าว

    _100943407_mediaitem100943406.jpg
    Image copyright Getty Images
    คำบรรยายภาพ ขยะพลาสติกที่ถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดที่เมืองมุมไบประเทศอินเดีย (แฟ้มภาพ)

    ในประเทศไทยเอง เขายกตัวอย่างว่า ปีที่แล้ว ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เริ่มกำหนดให้ร้านค่าเก็บค่าใช้ถุงพลาสติกใส่ของ ถุงละ 2 บาท และพบว่าอัตราการใช้ถุงลดลงไปมาก นอกจากนี้ มีการรณรงค์ให้ใช้หลอดแบบที่ใช้ซ้ำได้และพกหลอดไปเอง รณรงค์ขบวนการงดหลอดกับร้านกาแฟต่าง ๆ และให้ความรู้แก่ประชาชน

    ก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตน้ำดื่มรายใหญ่ 5 รายของไทยก็ได้นำร่องเลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม หรือแคปซีล ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายหลังร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 11 แห่ง ในเดือน ก.พ.

    _100937068_48587cae-7a52-4357-8e49-3fe829be45d4.jpg
    Image copyright Getty Images

    นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการผลิตขวดพลาสติกเพื่อบรรจุน้ำดื่ม ประมาณ 4,400 ล้านขวดต่อปีโดยประมาณ โดยมีสัดส่วนการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม 60 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 2,600 ล้านขวดต่อปี พลาสติกหุ้มฝาขวดก่อให้เกิดขยะพลาสติก 2,600 ล้านชิ้นต่อปี หรือคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 520 ตันต่อปี หรือมีความยาว 260,000 กิโลเมตร คิดเป็นความยาวรอบโลก 6.5 รอบ

    พลาสติกหุ้มฝาขวดผลิตจากพลาสติกพีวีซี มีขนาดชิ้นเล็ก น้ำหนักเบา ง่ายต่อการทิ้งกระจัดกระจายลงในสิ่งแวดล้อม ยากต่อการรวบรวมและจัดเก็บเพื่อนำกลับมารีไซเคิลและไม่คุ้มทุนในการดำเนินการ ทำให้ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อมทั้งบนบกและทางทะเลซึ่งจะไม่ย่อยสลาย

    หลายประเทศไม่มีการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ จีน เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ

    ขอบคุณที่มา
    http://www.bbc.com/thai/international-43820283
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 เมษายน 2018
  2. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    Earth Day ซึ่งตรงกับวันที่ 22 เม.ย.ปีนี้ เปิดแผนนำร่องแก้ปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก นำร่องหยุดใช้ฝาหุ้มขวดน้ำพลาสติกคาดลดสูงสุด 2,600 ล้านชิ้นต่อปี พร้อมตั้งเป้าไทยหลุดอันดับ 6 ทิ้งขยะลงทะเล

    เนื่องจากวันที่ 22 ม.ย.ของทุกปี ถือเป็นวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day ในปี 2561 นี้ เครือข่ายวันคุ้มครองโลก (Earth Day Network) ได้ประกาศแนวคิดวันคุ้มครองโลก คือ “End Plastic Pollution”

    เนื่องมาจากมลพิษขยะพลาสติกกลายเป็นวิกฤตสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับปัญหาภาวะโลกร้อน กลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลกที่นานาชาติให้ความสำคัญและถูกหยิบยกขึ้นหารือควบคู่กันในการประชุมระดับนานาชาติ

    คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (International Panel on Climate Change) หรือ IPCC ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศทำหน้าที่ประเมินด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้สร้างแบบจำลองอุณหภูมิเฉลี่ยพื้นผิวโลกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 21 (พ.ศ. 2544-2643) พบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยพื้นผิวโลกจะสูงขึ้นระหว่าง 0.3- 4.8 องศาเซลเซียส ซึ่งหากไม่ช่วยกันลดก๊าซเรือนกระจก ปล่อยให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นถึง 4 องศาเซลเซียสจะเกิดภัยพิบัติ

    0b89ce0b899e0b881e0b8b9e0b989e0b982e0b8a5e0b881-e0b8ade0b8a7e0b8aae0b8b2e0b899e0b89ee0b8a5e0b8b2.jpg

    ขยะพลาสติกสร้างปัญหาภาวะโลกร้อน เริ่มจากกระบวนการผลิตพลาสติกที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นวัตถุดิบ หากเราใช้พลาสติกมากเท่าใด ปริมาณก๊าซเรือนกระจกก็ยิ่งถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้นเท่านั้น


    ข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ พบปริมาณขยะพลาสติกในประเทศไทย คิดเป็นร้อยละ 12 ของปริมาณขยะทั้งหมด หรือประมาณ 2 ล้านตันต่อปี มีการนำขยะพลาสติกกลับไปใช้ประโยชน์น้อยมาก เฉลี่ยประมาณปีละ 0.5 ล้านตัน ส่วนที่เหลือ 1.5 ล้านตัน ถูกนำไปกำจัดด้วยวิธีฝังกลบหรือเตาเผา บางส่วนตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อม
    เลิกฝาขวดน้ำ 2.6 ล้านชิ้นภายในปี 2562


    หลายมาตรการเพื่อกอบกู้โลกให้ลดการใช้พลาสติก เริ่มต้นขึ้นจากขยะใกล้ตัว เช่น กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สำรวจพบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีการผลิตพลาสติกเพื่อบรรจุน้ำดื่มประมาณ 4,400 ล้านขวดต่อปี และมีสัดส่วนการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม (Cap Seal) ร้อยละ 60 หรือประมาณ 2,600 ล้านขวดต่อปี ทำให้เกิดขยะพลาสติก 2,600 ล้านชิ้นต่อปี คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 520 ตันต่อปี หรือมีความยาว 260,000 กิโลเมตร คิดเป็นความยาวรอบโลกถึง 6.5 รอบ

    ฝาขวดน้ำดื่ม (Cap Seal) ถูกประกาศเลิกใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อลดปัญหาขยะมูลฝอยสะสมตามท่อระบายน้ำ ตั้งเป้าลดปริมาณขยะพลาสติก 2,600 ล้านชิ้น หรือ 520 ตันต่อปี และทำให้หมดไปภายในปี 2562

    89ce0b899e0b881e0b8b9e0b989e0b982e0b8a5e0b881-e0b8ade0b8a7e0b8aae0b8b2e0b899e0b89ee0b8a5e0b8b2-1.jpg

    นำร่องอุทยานฯทางทะเลลดขยะทิ้งมหาสมุทร


    ส่วน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำร่องพื้นที่ต้นแบบในการห้ามใช้พลาสติกและกล่องโฟม โดยให้ใช้วัสดุอื่นทดแทน เช่น กล่องกระดาษจากวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ การกำหนดให้เขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลทุกแห่งปลอดจากถุงพลาสติก นำร่องอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา


    มีเป้าหมายระยะยาวเพื่อลดขยะพลาสติกในทะเลให้ได้ 0.06-0.16 ล้านตันต่อปี หรือคิดเป็น 1.5 ชิ้นต่อคนต่อวัน เพื่อให้ประเทศไทยหลุดจากอันดับที่ 6 ของโลกที่ทิ้งขยะลงทะเลร้อยละ 1.03 ซึ่งมีงานวิจัยเราเพิ่มจำนวนขยะพลาสติกหลายล้านตันให้กับสิ่งแวดล้อมทางทะเล นักวิจัยว่ามนุษย์เพิ่มจำนวนขยะให้กับมหาสมุทรไปประมาณ 12 ล้านตันต่อปี

    สำหรับขยะทะเลที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 23 จังหวัดชายทะเล มีปริมาณรวมกันมากถึง 10.7 ล้านตันต่อวัน จากการสำรวจโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) มีการจัด 10 อันดับขยะที่พบในท้องทะเลไทยมากที่สุดในปี 2558 ได้แก่ อันดับที่ 1 ถุงพลาสติก 15,850 ชิ้น อันดับที่ 2 หลอด,ที่คนเครื่องดื่ม 5,252 ชิ้น อันดับที่ 3 ฝา, จุก 4,419 ชิ้น อันดับ 4 เชือก 3,752 ชิ้น อันดับที่ 5 บุหรี่/ก้นกรองบุหรี่ 3,122 ชิ้น อันดับที่ 6 ถ้วยโฟม, กล่องโฟม 2,873 ชิ้น อันดับที่ 7 ขวดเครื่องดื่มแก้ว 2,065 ชิ้น อันดับที่ 7 ขวดเครื่องดื่มแก้ว 2,065 ชิ้น อันดับที่ 8 ขวดเครื่องดื่มพลาสติก 2,043 ชิ้น อันดับที่ 8 อื่นๆ 1,673 ชิ้น และอันดับที่ 10 ถ้วย จาน ช้อน ส้อม มีด 1,334 ชิ้น

    89ce0b899e0b881e0b8b9e0b989e0b982e0b8a5e0b881-e0b8ade0b8a7e0b8aae0b8b2e0b899e0b89ee0b8a5e0b8b2-2.jpg

    กลุ่มอียู” เดินหน้าลดขยะพลาสติกในอุตสาหกรรม


    มีข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตพลาสติกยุโรป ระบุว่า ชาวยุโรปทิ้งขยะพลาสติกประมาณ 26 ล้านตันต่อปี ในจำนวนนี้ขยะร้อยละ 30 ที่ถูกส่งออกไปยังประเทศที่สามที่มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมต่ำกว่ายุโรป เพื่อรีไซเคิล แนวทางแก้ปัญหาเริ่มขึ้นโดยคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอ “ยุทธศาสตร์การจัดการพลาสติกของยุโรป”กำหนดเป้าหมายที่สำคัญ คือ บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดในตลาดสหภาพยุโรปไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2573 เช่นเดียวกับที่ประเทศอังกฤษเตรียมเสนอให้ทั้ง 53 ประเทศ ให้ยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกและคัตตอนบัดส์ เพื่อลดจำนวนการใช้พลาสติกในโลกลงซึ่งคาดว่าจะลดได้มากถึง 8.5 พันล้านชิ้น

    89ce0b899e0b881e0b8b9e0b989e0b982e0b8a5e0b881-e0b8ade0b8a7e0b8aae0b8b2e0b899e0b89ee0b8a5e0b8b2-3.jpg

    ไทยชาติแรกอาเซียนสร้าง Big Data คำนวณก๊าซโลกร้อน


    นางรวิวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ เห็นชอบการจัดทำโครงสร้างการติดตามรายงานผลก๊าซเรือนกระจกของไทย 5 กลุ่ม คือ พลังงานและขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม ภาคของเสีย ภาคเกษตร และภาคป่าไม้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเข้าระบบฐานข้อมูลหลักในการคำนวณบัญชีก๊าซเรือนกระจกของไทยขึ้นมาเฉพาะ

    ถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่จะใช้ระบบฐานข้อมูลสาระสนเทศในการคำนวณบัญชีก๊าซเรือนกระจก (ทีจิส) ให้เป็นระบบ Big Data ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียให้การสนับสนุนไทย โดยไทยได้จัดทำระบบนี้เสร็จแล้ว และจะใช้เป็นส่วนหนึ่งที่กำหนดตัวเลขการลดก๊าซเรือนกระจกของไทยในปี 2030 ให้ได้ร้อยละ 20-25 จากการปล่อยปกติของไทย โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

    ขอบคุณที่มา
    https://news.thaipbs.or.th/content/271785
     

แชร์หน้านี้

Loading...