เผยเล่ห์เหลี่ยมท่ไม่มีในตำราไหนสอน

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 18 เมษายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    สำหรับนักสะสมพระหน้าใหม่ หาอ่านให้ได้นะครับ

    คัมภีร์ หนี กลโกง ถนนพระเครื่อง
    เรียบเรียงโดย
    วีรพล จ้อยทองมูล

    ตัวอย่าง

    เข้า “ ศูนย์พระ”
    ระวัง “ สูญพระ ”
    ศูนย์พระเครื่องปัจจุบันมีมากมายหลายแห่ง แต่ก็ตอบได้ไม่แน่นอนเพราะระบบเปิดให้เช่าบูชา หรือการเช็คพระแท้หรือปลอม ยังคลุมเคลือ หาข้อสรุปไม่ได้
    ทดสอบง่ายๆ ลองเช่าพระจากศูนย์หนึ่ง แล้วนำไปขายอีกศูนย์หนึ่ง ราคาอาจหดหาย หรือไม่ก็บอกปลอม แล้วจะเชื่อใครได้ ในเมื่อแต่ละศูนย์ไม่ได้มีจุดยืนเดียวกัน ไม่อาจเป็นมาตรฐานให้ลูกค้าเชื่อใจได้เลย
    เซียนบางท่านเรียนวิชามาคนละตำรา คนละอาจารย์ ศึกษามาคนละสาย และที่สำคัญยังขัดแย้งทางความคิดอยู่เป็นประจำ จึงเกิดอาการ “ หลงตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่ ”
    สมัยก่อนพระเก๊ ยังมีไม่ค่อยมากนัก การถูกทุบถูกถอนจึงค่อนข้างเบาบาง การเล่นไม่ค่อยมีทิศทาง เช่าดะไปเรื่อย เพราะปราศจากผู้แนะนำ ถ้าหากมีผู้แนะนำที่ดี ตกมาถึงยุคสมัยนี้บางท่านอาจจะมีพระชุดเบญจภาคีหลายองค์ก็เป็นได้
    ในช่วง พ.ศ. 2510 พระสมเด็จบางขุนพรมกรุใหม่ ราคาเพียงองค์ละ 5 พัน ถึง 8 พันบาทเท่านั้น ยุคนั้นก็ยังถือว่าแพงอยู่ แต่ตัดใจจริงๆ ก็ทำได้ เพราะสมัยก่อนการเช่าพระมีให้ผ่อนส่งได้ ถ้าหากมีใครเช่าเก็บไว้เท่ากับมีเงินสะสมเป็นล้าน
    ยอดปรารถนาของนักเลงพระก็คือ พระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต สมัยนั้นราคา 2 พันบาท โดยผู้ให้เช่ารับประกันว่าแท้แน่นอน ผู้เช่าซื้อตลับทองใส่เลย ต่อมาเมื่อนำไปให้เซียนยุคนั้นดูปรากฏว่าเก๊ ก็มี
    ยุคไหน ๆ ก็มีคนประเภทนี้อยู่ เรื่องแนวนี้อยากให้เป็นข้อคิดและคำแนะนำแก่นักสะสมพระเครื่องหน้าใหม่ พึงระลีกอยู่เสมอว่า “ อ้อยเข้าปากซ้าง” โอกาสจะได้เงินคืนนั้นยาก แม้จะมีการรับประกันไว้ล่วงหน้าก็ตาม
    ศูนย์พระในปัจจุบันเปิดกันราวดอกเห็ด จึงต้องระวังให้ดีเดินสุ่มสี่สุ่มห้า เข้าไปศูนย์พระอาจจะสูญเงินได้พระปลอมหรือไม่ก็บอกกับเราว่าพระที่เราจะเอามาปล่อยนั้นเก๊ก็เป็น
    ตัวอย่างที่ 2 นะครับ

    เล่นพระแผง
    ต้องช้ำใจภายหลัง

    ลองฟังตัวอย่างต่อไปนี้

    คุณสมชายเป็นนักสะสม เป็นคนมีเงินใช้จ่ายคล่องมือเพราะเป็นเจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ส่งนอก คุณสมชายชอบสะสมพระเครื่อง ชอบสมาคมกับนักเลงพระ และเป็นคนชอบดื่มพอสมควร เป็นเรื่องธรรมดาที่ คุณสมชาย จะเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวเสมอเมื่ออยู่ในกลุ่มที่สนทนากับเพื่อนฝูงที่รู้กัน แต่การเช่าพระหลักแสนก็ไม่ใช่จะเช่าสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะสมชายเป็นพ่อค้า ความละเอียดถี่ถ้วนและความน่าเชื่อถือของพระแต่ละองค์ได้ถูกตรวจสอบจากบรรดาเพื่อนๆ ที่รักชอบพอกันอยู่เสมอแต่คุณสมชายมีข้อเสียที่ว่าเป็นคนเจอลูกยอไม่ได้ เขาเป็นคนใจอ่อนต่อคำป้อยอ บางครั้งจีงได้ของแพงจนเกินไป คุณสมชายสะสมพระเครื่องอยู่หลายปี พอมากๆ เข้าคิดเป็นเงินก็หลายสิบล้านบาท
    วันดีคืนดีกิจการที่คุณสมชายประกอบการอยู่เกิดปัญหาติดขัดเรื่องเงินๆ ทองๆ คุณสมชายก็มานั่งคิดว่าพระเครื่องที่เช่าหามาสะสมอยู่นั้นมากมายอยู่เห็นทีจะปล่อยออกเอาเงินมาหมุนซะหน่อย
    คุณสมชายก็แวะเวียนไปหาเพื่อนฝูงที่เคยคบค้าสมาคมกันเพื่อจะให้เป็นธุระช่วยปล่อยของให้หน่อย เพื่อนฝูงบางคนก็ช่วยเหลือดีเพราะคุณสมชาย ถือได้ว่าเป็นกัลยามิตร บางรายก็บ่ายเบี่ยงตอบปฎิเสธแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นก็มาก แต่ที่น่าช้ำใจคำตอบที่ว่าพระที่หอบไปให้ดูนั้นมันบอกว่าผิดพิมพ์ คำว่าผิดพิมพ์ก็คือพระเก๊ คุณสมชายก็ยั๊วะซีครับ ก็พระซื้อจากพรรคพวกกันทั้งนั้นแถมไอ้คนที่บอกว่าผิดพิมพ์ก็อยู่ในกลุ่มซะด้วย อีตอนที่ซื้อไม่เห็นว่ามันจะบอกว่าผิดพิมพ์ซะหน่อย พอคุณสมชายวังเว้งมากเข้าหน่อยมันก็บอกว่า “พิมพ์นี้เขาไม่นิยมกัน” เขานิยมพิมพ์อื่น คุณสมชายกว่าจะปล่อยพระกะเอาเงินออกมาหมุนหน่อยก็เล่นเอาปลงไปเลย
    คุณสมชายพระออกไปค่อนกรุที่สะสมไว้หลายปี ได้เงินไม่ถึงล้านบาท คุณสมชายเป็นพ่อค้าถ้าคิดแบบพ่อค้าก็ถือว่าขาดทุนป่นปี้
    ราคาซื้อขายพระขึ้นอยู่กับกระแสของท้องตลาดเป็นสำคัญ ถ้าหากคิดจะซื้อพระมาเพื่อเก็งกำไรเป็นเรื่องยาก แต่สะสมเพื่อใจรักและเชื่อใน “ พุทธคุณ ”ขององค์พระ เช่าหรือแลกเปลี่ยนในหมู่ที่ชอบเหมือนกันย่อมสบายใจ
    ตัวอย่างที่ 3

    งานประกวดพระเครื่อง

    ปัจจุบันงานประกวดพระเครื่องจะมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เมื่อก่อนนี้จะเห็นเกิดขึ้นแทบทุกอาทิตย์ แต่ปัจจุบันลดน้อยลงเพราะมีเสียงสะท้อนของความไม่มีมาตรฐานหลายต่อหลายครั้งและเห็นประโยชน์ส่วนตนมากเกินไป
    ผมมีข้อสังเกต อยากจะเล่าเกี่ยวกับงานประกวดพระเครื่องให้รับทราบ การประกวดพระถือเป็นการแข่งขัน อีกอย่างหนึ่งมีแพ้มีชนะ เมื่อมีชนะก็มีผลประโยชน์ ผลประโยชน์ก็คือพระที่ได้รับรางวัลก็จะมีราคาค่างวดสูงขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา พระติดรางวัลนี่ครับ งานประกวดที่ไม่ได้มาตรฐานมักจะมีเสียงสะท้อนในทางตำหนิออกมามาก ปัญหาพอได้ยินได้ฟังมาดังนี้
    1. กรรมการเล่นพระพรรคเล่นพวก
    เขาจะพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้พระของพรรคพวกตัวเองติดรางวัล หรืออันที่จริงก็พระของกรรมการเองนั้นที่ยืมชื่อคนอื่นใส่ติดประกาศ
    2. ผู้ประกวดเชิญผู้ไม่มีประสบการณ์เป็นกรรมการ
    กรณีในลักษณะนี้จะมีมากในงานประกวดพระเครื่องที่อยู่ในช่วงบูม สุดๆ อาชีพในการประกวดพระเครื่องจะใช้ทุนประมาณ 35,000 บาท ไม่มากไม่น้อยกว่าถ้าจัดในกรุงเทพฯ ถ้าต่างจังหวัดก็แพงหน่อยเพราะต้องจ่ายค่าโรงแรม ค่าจัดเลี้ยง ค่าจิปาถะอีกมากมาย ส่วนใส่ซองของกรรมการที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของวงการนั้น ส่วนมากแล้วท่านจะไม่รับหรอกครับ ส่วนใหญ่มาด้วยใจ มาด้วยความเอื้อเฟื้อของวงการ หรือเพื่อการกุศลซะมากกว่า
    งานประกวดไหนที่ชื่อเสียงของกรรมการไม่เป็นที่ยอมรับของวงการ แถมชื่อเสียงก็ไม่ค่อยมีคนรู้จัก นั้นเป็นเพราะว่าผู้ที่ได้รับเชิญเขาปฎิเสธที่จะมาร่วมด้วยเพราะท่านเหล่านั้นเห็นว่ามันเป็นธุรกิจมากจนเกินไป ที่นี้ผู้ประกวดก็เอาพรรคพวกของตนเองนั้นหละเข้ามา บางคนเล่นพระมาไม่เท่าไหร่ ความรู้แค่งูๆ ปลาๆ แต่ก็ติดโบว์หราเป็นกรรมการยืนเท่ถ่ายรูปกับเขาซะโก้ก็มี
    3 รับทุกพระไม่ว่าแท้หรือเก๊ เน้นหาเงินลูกเดียว
    เมื่อก่อนหากพระเครื่ององค์ใดได้รับการคัดเลือกเอาเข้าไปตัดสิน แล้วจะเป็นพระแท้แน่นอน จะได้ติดรางวัลหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องแต่ที่แน่ๆ รับประกันได้ว่าเป็นพระแท้ มาตอนนี้สิ่งที่ดีเหล่านั้นได้หายไปเพราะผู้จัดมุ่งหวังที่จะเอาเงินค่าสมัครประกวดพระมากจนเกินไป ใครส่งพระอะไรมารับหมด งานประกวดพระที่ไม่ได้มาตรฐานบางงานจึงมากไปด้วยพระปลอมเป็นจำนวนมหาศาล งานประกวดพระหลังๆ จึงไม่ค่อยได้รับความเชื่อถือเหมือนเมื่อก่อน
    ประเด็นหลังสุด ก็คือกรรมการตัดสิน เพราะกรรมการแต่ละท่านต่างจิตต่างใจ บางท่านชอบพระเนื้อจัด บางท่านชอบสะอาด การตัดสินอยู่ที่ใจกรรมการเป็นหลัก ซึ่งอาจจะตรงกันข้ามกับใจท่านผู้ชม บางงานเชิญกรรมการที่ไม่ค่อยมีความรู้ หรือชำนาญไม่ตรงกับงาน มาตัดสินพระที่ไม่ชำนาญ เลยกลายตัดสินพระปลอมกลายเป็นแท้ไป ส่วนพระแท้คัดออก พระปลอมติดรางวัล ผู้ชมบางคนมีความรู้ จึงประท้วง ก็เลยทำงานนั้นพลอยเสียชื่อไปก็มี
    ตัวอย่างที่ 4


    ผีสนามพระ
    หักคอเซียน

    เรื่องราวในวงการพระเครื่องเมื่อสักปีเป็นไง เดี่ยวนี้ก็ไมต่างกันสักเท่าไหร่ บางอย่างออกจะแพรววพราวกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ เซียนจำนวนมากที่อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ ล้วนเคยต้องเผชิญกับปัญหาดีเลวมาเกือบสารพัด ความซื่อสัตย์และความดีเท่านั้นที่ทำให้กลุ่มเซียนตัวจริง อยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนพวกที่สร้างความเลวทรามไว้มาก ก็มีอันต้องล้มหายตายจากไปในที่สุด แต่ที่แอบแฝงอยู่ก็มีไม่ใช่น้อย พร้อมทั้งพวกหน้าใหม่ที่เรียกกันว่า เชื้อร้ายไม่เคยตาย
    ในสนามพระเรื่องผีๆ เป็นเรื่องที่ผู้ที่จะก้าวเข้ามาเป็นเซียนไม่สมควรพลาด ควรศึกษาหาความรู้ไว้ประดับวิชาเล่นหาพระในยุคปัจจุบัน
    ถามว่า การเล่นพระเกี่ยวอะไรกับผี เกี่ยวแน่นอน ถ้าตราบใดยังมีสนามพระและเซียน อยู่ในประเทศนี้ ผีกลุ่มนี้จะอยู่หน้าด่านคอยล่าเหยื่อทุกชนิดที่ผ่านมา
    พระจากนอกสนามหลงเข้ามา ร้อยทั้งร้อย ต้องผ่านด่านผี เป็นอันดับแรก พวกนี้หูตาเร็วมาก จะเดินตั้งแต่หัวสนามยันท้ายสนาม ผีประจำสนามจะมีบทบาทสูงมาก จะเป็นผู้นำพาไปหาผู้ซื้อ เมื่อมีการซื้อขาย คนซื้อก็จะต้องจ่ายค่าผีตามธรรมเนียมปฎิบัติ วันดีคืนดี บางครั้งผีก็จะทำหน้าที่เป็นนายหน้าขายพระเสียเอง วิธีทำบ่อยที่สุดก็คือ นำพระอีกแผงไปให้อีกแผงนั้นเอง
    ผีเท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะมีรายได้ดี ในสนามพระผีมักจะชนะเซียนเสมอ เพราะเซียนส่วนใหญ่จะซื้อของจากผี ในขณะที่ผีไม่เคยซื้อของจากเซียนเลย ผู้ที่พลาดจีงมีแต่เซียนเท่านั้น ผีบางคนสายตาเฉียบ เก่งเหนือเซียนหลายเท่า และบางคนก็เก่งขนาดทำเอาเซียนก่ายหน้าผากมาแล้วหลายครั้ง บุคลิกและนิสัยผี มักไม่คุย ไม่อวดรู้ ไม่แสดงตัว เน้นสุขุมรอบคอบและแกล้งโง่เป็นสำคัญ ขืนอวดรู้คุยมาก รังแต่จะขายของให้เซียนไม่ได้ ท้องใส้จะหิวเปล่าๆ พาลอดอยากเอาง่าย ๆ
    บนเส้นทางชีวิตของผี ต้องพึ่งพาการถ่ายเทโภคทรัพย์จากกระเป่าเซียน อีกต่อหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ ผี ต้องเงียบสถานเดียวรับรองรุ่งแน่ ถ้าศึกษาประวัติผีอย่างลีกซึ้งถึงแก่นจะรู้ว่าผีบางคนคือขุมข่ายกำลังทางปัญญาที่เซียนหลายคนมักแอบพึ่งพาความรู้และภูมิปัญญาอยู่เนืองนิจ
    นักสะสมที่ดีควรเข้าหา ไม่ว่าจะเป็นเซียนในสวรรค์หรือผีในนรก เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเชิงสะสม ควรมีไมตรีทั้งสองฝ่าย
    เรื่องของพระเนื้อดิน
    ของดีท่วมหัวเอาตัวไม่รอด


    จะดูอย่างไรว่าเป็นดินเก่า มีอายุยาวขนาดไหน ดินเป็นชื่อธาตุอย่างหนึ่งในธาตุทั้งสี่คือ “ ดิน น้ำ ลม ไฟ ” ถ้าถามว่าดินนี้เป็นดินยุคไหน สมัยใด คงเป็นคำตอบที่ยากมาก
    การนำดินเหนียวมาปั้นเป็นพระแบบต่างแล้วแต่ฝีมือช่างในยุคนั้น จนถึงปัจจุบัน และพัฒนามาสร้างด้วยโลหะ หรือว่านศักดิ์สิทธิ์ สามารถให้คุ้มครองอยู่คงกระพัน จากเกจิจากเกจิอาจารย์ ด้วยสัดส่วนที่กำหนดของท่านเอง โดยเฉพาะแล้วแจกจ่ายให้ญาติโยมนำกลับไปบูชา เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่นักสะสมควรเรียนรู้ และจดจำอย่างแม่นยำ
    หลักการศึกษาวิธีที่พิจารณาพระเครื่องทุกประเภทคงหนีไม่พ้นหลักใหญ่ๆ คือศิลปะสกุลช่าง เนื้อหา วัสดุมวลสาร ธรรมชาติความเก่าที่เป็นเกณฑ์ตามอายุ เช่นพระรอด พระเปิม พระบาง พระคง พระเหล่านี้เป็นพระเนื้อดินสกุลช่างเดียวกัน ตั้งแต่ครั้งยุคทวาราวดีนับเป็นพันปีมาแล้ว ถ้าเราไม่เคยเห็นของจริงมาแต่ครั้งโบราณ คงเดาไม่ออกว่าพระองค์นี้แท้หรือไม่ ถ้าหากท่านไม่รู้จริงอาจจะเป็นดังตัวอย่างต่อไปนี้
    เซียน ก. ผ่านการเล่นพระมาพอสมควร เคยเจอมาทุกรูปแบบ พอที่จะรู้อะไรเป็นอะไรในวงการนี้ มาวันหนึ่งมีคนนำพระรอดมาเสนอ เซียน ก. เห็นแล้วตาโต เพราะดูแล้วน่าจะเป็นของแท้ แต่ดูไม่ขาดร้อยเปอร์เซ็นต์อีกทั้งราคาค่อนข้างสูง จีงไม่กล้าสู้ราคา จึงไปตามเพื่อนที่มีความรู้เรื่องพระรอด เพื่อนของเซียน ก. นั้นเก่งในพระด้านนี้แถมค่อนข้างมีเงิน
    เพื่อนของ ก.เห็นว่าแล้วก็ส่ายหน้าบอกพระคงนั้นไม่น่าจะแท้ เจ้าของพระก็เก็บพระกลับบ้านตามระเบียบ แต่เซียน ก.ยังคาใจ เพราะเชื่อตาตัวเองอยู่บ้างว่าพระน่าจะแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำไมเพื่อนจึงดูเป็นพระปลอมไปได้ เซียน ก. จึงตัดสินใจไปหาเซียนอีกคน ซึ่งเป็นผู้รู้จริงในเรื่องพระรอด ( หมอเฉพาะทาง ) แต่พอนัดแนะกับเจ้าของพระรอดเจ้าเดิมแล้วก็รู้ความจริงที่แสนเจ็บใจว่า เพื่อนที่บอกว่าไม่น่าจะแท้คนนั้นแหละได้ซื้อเอาไปแล้วเมื่อวานี้
    พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในวงการพระเครื่อง ใครๆ ก็อยากจะทำกำไรเมื่อเห็นมันอยู่ตรงหน้า สาเหตุนั้นมาจากความไม่มั่นใจตนเอง ดูพระไม่ขาด กล้าๆ กลัวๆ ก็เลยอดได้ของดีไป
    ตัวอย่างที่ 6

    หัวใจเซียน


    เซียนจริงๆ นั้นพูดได้เลยว่า เป็นคนนอบน้อมถ่อมตนเป็นปกติวิสัย
    ไม่แสแสร้งชั่วครั้งชั่วคราว ไม่โอ้อวด คุยไม้คำโต พูดจามีหลักเกณฑ์ อธิบายเข้าใจง่ายแต่ละเอียดในเรื่องที่รอบรู้ ไม่เพ้อเจ้อเป็นน้ำท่วมทุ่ง “ ไร้สาระ ”
    เซียนในสนามใหญ่ๆ ส่วนมากมักจะมีสายตาคม ในวงการพระเขาเรียก “มองแล้วอ่านขาด” เขาจะมีปฎิภาณไหวพริบ ว่าคนไหนเอาพระมาหวังจะให้ดูอย่างเดียว คนไหนหวังจะเอามาให้เช็ค (ดู ) คนไหนจะเอาพระมาปล่อย ( ขาย ) มนุษย์เรามีหลายประเภท ประเภทที่เอามาโชว์อย่างเดียวหรือชอบโชว์นี่ถือว่าเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง คืออยากให้คนอื่นพูดถึงตัวเองแล้วเป็นปลื้ม กลับบ้านคงกินข้าว นอบหลับสบาย บางทีน่าเบื่อ น่าหมั่นใส้ บางทีก็น่าเห็นใจและอภัยให้ได้ เพราะถือว่าเขาได้โชว์ได้อวดแล้วมีความสุข ก็ถือว่าช่วยอนุเคราะห์ไป เซียนใหญ่บางคน เขาไม่สนใจ ดูไปก็เสียลูกตา เสียเวลาทำมาหากิน (ขายหรือซื้อพระ )
    เซียนจริงๆ แล้วมาดต้องนิ่งทั้งกายและใจ สุขุม เยือกเย็น เห็นของแล้วต้องนิ่งไว้ ไม่วอกแวกออกอาการ บางคนเห็นของที่นำมาให้ดูหลายชิ้น ก็อาจจะหยิบองค์นั้นดูทีองค์นี้ดู ที บางองค์ก็ดูนานแต่ออกที่หมายตากลับดูนิดเดียว จับแค่ผ่านๆ ทำให้คนที่เอาพระมาปล่อยเดาใจไม่ถูกว่าองค์ไหนราคาสูง องค์ไหนราคาต่ำ พอถึงตอนตกลงราคาซื้อขายกัน ถ้าเป็นการซื้อขายแบบเหมา เจ้าของพระที่เอาพระมาปล่อย ไม่รู่ว่าเซียนหมายตาองค์ไหนไว้แกล้งพูดต่อรองราคาองค์ที่ราคาต่ำ เจ้าของพระอาจแถมของดีราคาสูงให้เขาไปก็มี “นี่คือเล่ห์อย่างหนึ่ง”ที่อย่ามองข้ามเด็ดขาด
    เซียนอีกประเภทหนึ่ง คือจับแล้ววาง ดูผ่านๆ ไม่ค่อยออกความคิดเห็น อาจจะเห็นว่าไม่ให้ประโยชน์สำหรับตัว ดูแล้วเฉยๆ คนที่เป็นเจ้าของพระใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ ใจไม่ดี กลับบ้านแล้วไม่สบายใจ เซียนแบบนี้ไม่น่าคบครับ
    เซียนบางคนเห็นของไม่ได้ ปากสั่น มือสั่น “ อยากได้ ” เก็บอาการไม่อยู่ ทั้งๆ ที่รู้จริง เซียนอย่างนี้จับของไม่ค่อยได้ ถ้าคิดจะซื้อขายไม่ดี แต่ถ้าให้ความคิดเห็นหรือให่ข้อมูลแล้วคิดค่าวิชาอย่างนี้ดี
    เซียนอีกประเภทหนึ่งคือเซียนใฝ่ดี เห็นใครแขวนพระอะไรเป็นไปไม่ได้ต้อง ขอดู คล้ายจะเป็น่จะตายซะให้ได้ถ้าไม่ได้ดู แต่มีกริยานุ่มนวล สุภาพ ขออนุญาตดู อนุญาตส่อง ดูแล้วบอกความจริงที่รู้ตามข้อมูลที่มี คนที่อยากเป็นเซียนต้องปฎิบัติอย่างนี้ครับ รับรองอนาคตเป็น “ เซียนใหญ่แน่ ”เพราะของจริงของแท้เราจะหวังซื้อมาศึกษาอย่างเดียวคงไม่ได้ บางองค์ราคาสูง เปลืองเงินเปล่าๆ ขออนุญาตดูเป็นดีที่สุด แต่ดูแล้วถ้าเป็นของปลอมหรือไม่มั่นใจกรุณาอย่าวิจารณ์แบบสาดเสีย ( เพราะยังไม่มีทนายพระจะมาชี้นำตัดสินว่าองค์ไหนแท้ องค์ไหนปลอม ) ไม่แน่ใจก็นิ่งเสีย อันตรายครับ
    ตัวอย่างที่ 7

    อย่าชักศึกเข้าบ้าน

    ปัจจุบันเราต้องคุ้มครองพระ ไม่ใช่พระคุ้มครองเรา บางรายถึงกับนำพระไปฝากไว้กับธนาคารต่างๆ ในงานประกวดก็ไม่ค่อยสนใจส่งเข้าประกวดเท่าไหร่ เพราะเสี่ยงต่อการแตกหัก ที่ร้ายที่สุดก็คือ “ พระหาย ” ซึ่งมีปรากฏอยู่บ่อยครั้ง มนุษย์ปุชนคนเรา มีความทะยานอยากด้วยกันทั้งนั้น อยากเด่น อยากดัง เมื่อมีพระดีๆ สวยๆ อยากจะโชว์เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อหลวมตัวเข้า พาคนไปดู พระที่บ้าน บางทีคนสนิทกันนี่แหละ เจ้าของบ้านก็ถือเอาความเชื่อใจเป็นหลัก ขนเอาพระสารพัดออกมาให้ชมเป็นขวัญตา “บางคนมือไวแอบสับเปลี่ยน”ฉกเอาด้วยความโลภของคนอื่นก็มี แต่ที่ซ้ำร้ายถึงขั้นปล้นจี้กันก็มีถ้าหากว่าพระเครื่องเหล่านั้นมีราคาค่างวดเอามากๆ
    เรื่องอย่างนี้ต้องระวังไว้นะครับ เกิดขึ้นมาแล้ว ถึงแต่ตำรวจจะจับได้ขึ้นโรงขึ้นศาล ก็ยังยากจะดำเนินการได้ กรณีพระถูกขโมย พระสูญหาย พิสูจน์ยาก เพราะไม่มีทนายพระจะมาชี้นำตัดสินว่าองค์ไหนแท้ องค์ไหน
    ตัวอย่างที่ 8

    กลยุทธ์ซื้อถูก - ขายแพง


    ยุทธจักรวงการพระเครื่อง การซื้อถูกขายแพงเป็นยอดปรารถนาของเซียนนักขาย เพราะจำนำรายได้มาสู่ตนอย่างมหาศาล “วงการพระเครื่อง” หากผู้ใดซื้อพระถูกแล้วขายได้ราคาแพง ถือว่าโชคดีและฟลุ๊ค ถ้ามองกันในแง่ค้าขายแล้ว ไม่มีอะไรกำไรงามมากไปกว่าการซื้อขายพระ
    ในทางตรงกันข้ามถ้าหากผู้นั้นตาไม่ถึง ก็สามารถถูกน๊อตถึงขั้นล้มละลาย ได้เหมือนกัน ฉะนั้นผู้เข้ามาในวงการพระ “อย่าฝันหวานสร้างวิมานเพ้อเจ้อ ” การจะก้าวสู่ด้านบวก จะต้องอาศัยเวลาประสบการณ์ บางคน 20 ปี ขึ้นไปถึงถือว่าปีกกล้าขาแข็งประเภทเล่นพระมา 3-4 ปี แล้วพองตัวอวดอ่างเป็นเซียน วางมาดกรรมการ ประกวดพระผู้ทรงคุณวุฒิ คงไปได้ไม่กี่น้ำ
    ในวงการพระเครื่องมีกลวิธีในการซื้อถูกขายแพง ดังตัวอย่าง
    1. พระเก๊
    พอใครนำพระมาเสนอก็ให้ตีเก๊เอาไว้ก่อน เพื่อให้ผู้เสนอเสียขวัญและกำลังใจ แล้วจะได้ซื้อในราคาถูก กลวิธีแบบนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่ใหม่ ซิงๆ ในวงการเท่านั้น ถ้าหากผู้เสนอพอมีความรู้อยู่บ้างก็อาจจะถูกด่าในใจและหมดความเคารพนับถือทันที
    2. พระผิดพิมพ์
    พระที่เกิดจากการพิมพ์ปั๊มหรือหล่อก็ตาม จะให้เหมือนแม่พิมพ์ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นไปไม่ได้ ตัวอย่างสมเด็จพระบางขุนพรมหรือวัดระฆังองค์พระอาจโย้ เส้นแซมอาจจะติดไม่คมชัด ฉะนั้นหากผู้เสนอไม่แม่นพิมพ์จริง ก็จะเสียรู้ทันทีเมื่อบอกว่าผิดพิมพ์และสามารถเช่าในราคาที่ต่ำ
    3.เปลี่ยนพระ
    ส่วนมากมักเกิดกับลูกค้าหน้าใหม่ในวงการพระ พอนำพระมาเสนอมักจะถามว่าเท่าไหร่ เช่นตอบว่า 4 พันบาท ก็จะต่อรองว่า 2 พันได้มั้ย หากลูกค้าตกลง ก็ให้รออยู่หน้าแผง แล้วนำพระไปให้เพื่อนดูก่อน แล้วก็เอาพระเก๊ที่คล้ายคลึงกันมาคืนให้แล้วบอกว่าไม่ชอบ ทำให้ลูกค้าเกิดความงุนงง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ พูดง่ายๆ ก็คือโกงซึ่งๆ หน้านั้นเอง
    4. เมื่อมีลูกค้านำพระมาเสนอขายให้ เซียนก็จะเสนอซื้อทีละหลายองค์เพื่อเหมารวม เช่น เอา 5 องค์เท่านั้นเท่านี้ โดยเอาพระองค์ที่ไม่ต้องการหรือองค์ที่เก๊รวมอยู่ด้วย พอตกลงก็จะเปลี่ยนใจเป็น 2 องค์บ้าง ที่แท้หวังเพียงพระแท้องค์เดียวเท่านั้น เพราะเช่าทีละหลายองค์ราคาก็จะถูกกว่า
    5. เดินหนี
    บางคนมีความใจแข็งมากพอที่ต้องการราคาถูกที่สุด หากผู้เสนอขายไม่ยอมลดให้ก็แกล้งเป็นเดินหนี แต่หากผู้ขายกำลังร้อนเงินจริงๆ วิธีนี้ก็ใช้ได้ผล แต่ผิดคุณธรรมนักสะสมที่ดีครับ
    เมื่อซื้อได้ราคาถูกแล้ว ต่อไปก็นำพระไปขายในราคาแพง ส่วนจะได้กำไรเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของบคคล
    แนะนำคำศัพท์ที่คุ้นหู
    ในวงการพระเครื่องพูดกัน

    ในสังคมของแต่ละแวดวงย่อมมีศัพท์แสงที่คนอื่นเขาไม่เข้าใจกัน จะรู้เฉพาะคนที่สนใจเท่านั้น วงการพระเครื่องก็เหมือนกันศัพท์แสลงเหล่านี้ กลายเป็นเป็นคำฮิตและเป็นคำศัพท์เฉพาะในวงการพระเครื่องไปแล้ว เป็นเรื่องที่ดีที่ท่านต้องศึกษาและสะสมไว้บ้าง อย่างน้อยก็จะช่วยให้อยู่รอดปลอดภัย ไม่ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม ขอยกตัวอย่างที่ใช้กันบ่อยจริงๆ มาพอสังเขปดังนี้ครับ
    พุทธคุณ
    คำนี้ใช้กันเป็นประจำและได้ยินบ่อยที่สุด ความหมายคือ อานุภาพหรือ ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระที่เราแขวนคอ
    - กรุ
    เราจะได้ยินอยู่เสมอว่าพระองค์นี้เป็นพระกรุ พระเก่า กรุ คือห้องหรือสถานที่บรรจุพระเครื่อง พระบูชา หรือสมบัติต่างๆ คนสมัยโบราณได้สร้างเอาไว้ใต้ดินที่ทำไว้ใต้ฐานเจดีย์ พระเครื่องที่ถูกฝังเอาไว้เป็นเวลา นานๆ เป็นร้อยปีขี้นไป องค์พระจะคราบกรุ หรือคราบนวลกรุ สนิมขุมราดำในพระเนื้อชิน ปรากฏให้เห็น พระที่ขึ้นมาจากกรุส่วนมากจะได้รับความนิยมอย่างสูงเพราะถือเป็นของแท้ของจริง แต่ปัจจุบันหากได้ข่าวว่ากรุแตกค้นพบเจอพระเครื่องจำนวนมากที่นั่นที่นี่ส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องหลอกลวงเสียซะมากกว่า
    - ปลุกเสก
    คือวิธีการเสกวัตถุมงคลให้มีความขลัง พิธีการส่วนใหญ่จะจัดแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แยกวัตถุมงคลออกเป็นหมวดหมู่ แล้วพระเกจิท่านก็จะเสกคาถาอาคมตามวัตถุที่กรรมการสร้างมาให้ท่านปลุกเสก เช่นพระเครื่อง พระพุทธรูป นางกวัก ปลัดขิก เป็นต้น พระท่านก็จะแยกปลุกเสกเพราะคาถาแต่ละอย่างใช้ไม่เหมือนกัน
    - ตะกรุด
    ตามประวัติการสร้างตะกรุดมีหลายประเภทด้วยกัน เช่นตะกรุดโทน ตะกรุดสาริกา ตะกรุดมหาอุด ตะกรุดเมตตามหานิยม ฯลฯ ครั้งแต่โบราณนั้นพระเกจิอาจารย์ดังเวลาท่านสร้างแต่ละครั้งจะมีความละเอียดในพิธีของการสร้างอย่างพิถีพิถันมาก
    - คงกระพัน
    หมายถึง ความคงทนของผิวหนังที่ไม่ระคายต่อศาสตราวุธ มักจะใช้เต็มคำว่า คงกระพันชาตรี
    - ผิดพิมพ์
    ความหมายคือพระปลอม พระเก๊ (ผิดพิมพ์ฟังแล้วนุ่มหูกว่าคำว่าพระปลอมเยอะ)
    - แท้ แต่พิมพ์นี้เขาไม่นิยมกัน
    เป็นคำบอกปฎิเสธพระที่เก๊หรือไม่ชัดเจนฟังดูแล้วนุ่มนวล คือไม่อยากให้เจ้าของพระช้ำใจ ตอบแบบถนอมน้ำใจ ครับ
    - ดูพระขาด ไม่ขาด
    คำนี้จะใช้กับเซียนพระ เช่นเซียนคนนั้นดูพระขาด ความหมายคือดูแม่นยำ ฟันธงลงไปเลยว่าแท้ไม่แท้ ปลอม เก๊
    - พระเครื่องฝีมือ
    เป็นคำเรียกประชดพระที่ทำลอกเลียนขึ้น พระฝีมือ คือพระปลอมที่เป็นผีมือมนุษย์พยายามทุกวิธีทางที่จะปั๊มขึ้นมาให้มีมวลสาร พิมพ์ ให้เหมือนของแท้มากที่สุด ส่วนใหญ่จะทำขึ้นด้วยจำนวนไม่มากเพราะกลัวคนจะจำได้ จะเน้นพระที่ราคาสูง เป็นที่นิยมกันในวงการ
    - แห่พระ
    คือการนำพระเครื่องที่ไม่รู้แน่ชัดไปให้ผู้รู้ดูพิมพ์ ดูเนื้อ เมื่อแห่กันเรียบร้อยแล้ว เสียงส่วนใหญ่บอกว่าใช่แน่ล่ะของแท้ ก็อุ่นใจ จะซื้อหาก็ว่ากันไป
    - พระมีประสบการณ์
    คืออิทธิฤทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระที่ปรากฏให้เห็น เช่นผู้แขวนพระองค์นั้นองค์นี้แล้วเกิดรถคว่ำ รถชน แล้วรอดตายปาฎิหาริย์ ก็เชื่อแน่ว่าอานุภาพขององค์พระท่านคุ้มครอง ปกป้องตัวผู้แขวน
    - ถูกทุบ
    ความหมาย เป็นไปได้สองลักษณะ ถูกทุบคือถูกหลอกให้ซื้อพระเก๊ ทุบเขา คือขายพระเก๊ให้เขา
    - ตกควาย
    หมายถึง ขายพระผิดราคา เช่นพระองค์นี้วงการเขาซื้อขายกันเป็น หมื่น แต่ดันขายไปในราคาต่างจากความเป็นจริงมาก เช่นขายแค่หลักร้อยอย่างนี้เรียกว่าตกควาย โดนขวิดตายสนิท
    - คาบเส้น
    หมายถึงพระที่ขายไปไม่มีการรับคืนหรือรับประกัน พระเก๊พระแท้ไม่รู้ พูดง่าย ๆคือ ตาดีได้ ตาร้าย เสีย ส่วนมากจะเสียมากกว่าได้ คือซื้อพระเก๊มากกว่าได้พระแท้ ถ้าเป็นพระแท้เจ้าของมักรับรอง รับประกัน เก๊รับคืน แต่ราคาจะแพงกว่าสนามหน่อย
    - บาท
    หมายถึง หลักร้อย ได้ยินคำว่าบาท ประมาทไม่ได้ หนึ่งบาทหมายถึง หนึ่งร้อยบาท สองบาท หมายถึงสองร้อยบาท วงการพระหรือแม้แต่วงการเล่นพนันฟุตบอลก็มักพูดกันเป็นประจำ เวลาเซียนต่อรองราคากัน เช่นองค์ละห้าบาท อย่าได้เข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้านะครับ บอกขอผมเถอะผม ซื้อเองห้าบาท ระวังจะลำบากทีหลัง หรือไม่ก็เสียโง่ มีที่ไหนพระราคาองค์ละห้าบาท
    - เนื้ออ่อน
    หมายถึง เนื้อพระจะต้องมีส่วนผสมที่ถูกต้อง เนื้อของใครของมัน เช่น เนื้อพระสมเด็จย่อมเป็นของพระสมเด็จ เนื้อของพระผงสุพรรณย่อมเป็นเนื้อพระของผงสุพรรณ ถ้าเนื้อไม่เข้ากันของเนื้อพระนั้นๆ อย่างนี้เรียกว่า เนื้ออ่อน
    - สะรู้ตู๊

    ศัพท์จั๊กจี๊ฟังคล้ายภาษาเขมรคำนี้ หมายถึงพระเก๊ ท่านที่นำพระมาให้ดู ผู้ที่ดูรู้ว่าเป็นพระเก๊ จะบอกกันตรงๆ ก็กลัวจะเสียใจ หรืออาจจะไม่ยอมรับก็ได้จึงบ่ายเบี่ยงพูดไปมาว่า สะรู้ตู้ ซึ่งเป็นอันเข้าใจในหมู่นักเล่นพระว่า เก๊
    - การ์ดสูง
    คำนี้วงการหมัดมวยใช้กันบ่อย ในวงการพระเครื่องก็นำมาใช้ในลักษณะเปรียบเทียบทำนองเดียวกัน ส่วนมากคำนี้มักจะใช้กับนักเล่นมือใหม่ คือไม่ทราบราคาพระที่ตัวเองถืออยู่ หรือไม่ก็เก๊ หรือแท้ จึงตีราคาสูงไว้ก่อนป้องกันขายผิดราคา
    http://www.amulet2u.com/board/webboard.php?c_id=3&page=1&sort=q_id
     
  2. riki_en

    riki_en สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2009
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
     
  3. ประทวน

    ประทวน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +174
    ดีครับ ได้รู้ไว้ ให้ทันกันบ้าง ก็คงจะดี
     
  4. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,190
    ขออนุโมทนาด้วยครับ สำหรับเรื่องราวดีๆ แบบนี้ แต่วงการพระยังไม่น่ากลัวเท่ากับเอาพระเก๊มาทำให้เป็นพระแท้
     
  5. BirD-

    BirD- Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +51
    ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีดี
     
  6. teaycub2009

    teaycub2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    3,747
    ค่าพลัง:
    +2,582
    อ่านแล้วดีมาก ขอบคุณครับ
     
  7. noonoong

    noonoong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +852
    ขอบคุณมากครับ กับข้อมูลดีๆที่น่าสนใจ
     
  8. มือใหม่เจ้า

    มือใหม่เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +375
    อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ
     
  9. callmeletter

    callmeletter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +1,077
    ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ดีๆ
     
  10. gatsuja

    gatsuja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    837
    ค่าพลัง:
    +876
    ขอบคุณครับทำให้ได้รับรู้สื่งดีๆมากขึ้นเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...