น่าเป็นห่วง หลักสูตรพุทธศาสนา จากบางอาจารย์ สอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ม.1- ม.6)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 24 มกราคม 2006.

?
  1. ไม่เห็นด้วย (คิดว่าสอนผิด)

    0 vote(s)
    0.0%
  2. เห็นด้วย (คิดว่าสอนถูก)

    0 vote(s)
    0.0%
  1. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    มั่วนิ่มเข้าไปได้เลยนะท่าน
    ไม่รู้บวชมาทำไมผลาญข้าวสุกไปเปล่าๆ อายฆราวาสบ้างมั๊ยเนี่ย???

    ยัญที่บูชาแล้ว มีผล
    ไม่ได้เกี่ยวกับการฆ่าสัตว์เลย ( เพราะผิดศีลข้อแรกเลยแหละ )

    ยัญที่บูชาแล้ว มีผล
    ในความหมายของพระพุทธองค์ คือ การปฏิบัติบูชา ตามหลักอริยมรรค ๘
    เพราะทรงสอนตลอดพระชนม์ชีพให้ปฏิบัติอริยมรรค ๘ ตามเสด็จ

    ถามเด็ก เด็กยังรู้เลย เป็นพระดันไปคิดเรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไปได้ ทำไปได้ ^_^
     
  2. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ***ผลของความผิดเพี้ยนก็แสดงอยู่ในสังคมปัจจุบัน***

    ***ถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้า เราต้องไม่เชื่อพระพุทธเจ้า***

    ตกลงคุณเชื่อพระพุทธเจ้าหรือไม่เชื่อพระพุทธเจ้า
    การตอบแบบนี้เรียกว่า เอาสีข้างเข้าถู
    ตอบแบบไม่ตอบ เพราะตอบไม่ได้ ไม่รู้จะตอบอย่างไร?

    สรุปตอบมานะคะ เชื่อหรือไม่เชื่อพระพุทธเจ้า
    แล้วตกลง คุณเชื่ออะไร หรือคิดเองว่าพระพุทธเจ้าสอนแบบที่คุณคิด

    นี้แล คือ ผลของความผิดเพี้ยนที่แสดงอยู่ในสังคม
    โดยเฉพาะนักบวชอย่างคุณ ซึ่งไม่สมควรเป็นพุทธบุตรเลย

    คุณยังไม่ได้ตอบเลยนะว่า พระพุทธองค์ทรงสอนอะไร? ^_^

     
  3. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    (ยัญที่บูชาแล้ว มีผล
    ในความหมายของพระพุทธองค์ คือ การปฏิบัติบูชา ตามหลักอริยมรรค ๘
    เพราะทรงสอนตลอดพระชนม์ชีพให้ปฏิบัติอริยมรรค ๘ ตามเสด็จ)
    -------------------------------
    ***ถ้าเป็นการปฏิบัติบูชา ก็มีกล่าวไว้ที่อื่น ทำไมต้องมาใช้คำนี้และที่นี่***

    ***ไม่ยอมรับความจริงเอาเสียเลย ดื้อจริงๆเด็กน้อย***
    ---------------------------
    ***คุณโยมยอมรับหรือไม่ว่า "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ จะต้องอาศัยเหตุและปัจจัยมาปรุงแต่งให้เกิดขึ้นและตั้งอยู่ทั้งสิ้น"***

    ***และกรุณาอธิบายอีกนิดว่าเพราะอะไร?ด้วย***
    -----------------------

    (ฉันคืออะไร? เวบไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com )
     
  4. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    (สรุปตอบมานะคะ เชื่อหรือไม่เชื่อพระพุทธเจ้า
    แล้วตกลง คุณเชื่ออะไร หรือคิดเองว่าพระพุทธเจ้าสอนแบบที่คุณคิด)

    -------------------------
    ***แค่นี้ก็คิดไม่ออก***คำตอบง่ายๆคือ ***

    *** ถ้ามีคนมาบอกว่านี่คือคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า ก็อย่าเชื่อ นี่ซิจึงจะเรียกว่าเชื่อพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอย่าเชื่อจากใครๆ***

    ***แต่ถ้ามีใครมาบอกว่านี่คือคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า แล้วเราก็เชื่อ นี่แสดงว่าเราไม่เชื่อพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอย่าเชื่อจากใครๆ****

    ***ดังนั้นการเชื่อพระพุทธเจ้าก็คือ อย่าเชื่อจากที่มีใครเขาบอกว่านี่คือคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า***

    ***และเราจะเชื่อได้ก็ต่อเมื่อ เราพบ "พระพุทธเจ้าตัวจริง" แล้วเท่านั้น***
    -------------------------
    ***คุณโยมยอมรับหรือไม่ว่า "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ จะต้องอาศัยเหตุและปัจจัยมาปรุงแต่งให้เกิดขึ้นและตั้งอยู่ทั้งสิ้น"***

    ***และกรุณาอธิบายอีกนิดว่าเพราะอะไร?ด้วย***
    -----------------------

    (ฉันคืออะไร? เวบไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2008
  5. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    (นี้แล คือ ผลของความผิดเพี้ยนที่แสดงอยู่ในสังคม
    โดยเฉพาะนักบวชอย่างคุณ ซึ่งไม่สมควรเป็นพุทธบุตรเลย ...ฯลฯ)

    -------------------------------------
    ***พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เมื่อเราให้สิ่งใดแก่ผู้อื่น เมื่อเขาไม่รับ สิ่งนั้นก็จะกลับมาเป็นของเรา**
    -------------------------------------------
    ***คุณโยมยอมรับหรือไม่ว่า "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ จะต้องอาศัยเหตุและปัจจัยมาปรุงแต่งให้เกิดขึ้นและตั้งอยู่ทั้งสิ้น"***

    ***และกรุณาอธิบายอีกนิดว่าเพราะอะไร?ด้วย***
    -----------------------

    (ฉันคืออะไร? เวบไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ
    www.whatami.net - www.whatami.5u.com )
     
  6. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ยัญ หมายถึง พิธีบวงสรวงของพราหม์
    บวงสรวง หมายถึง การบูชาเทวดาด้วยเครื่องสังเวยและดอกไม้ธูปเทียนเป็นต้น
    สังเวย หมายถึง บวงสรวง เซ่นสรวง
    เซ่น เอาอาหารเป็นต้นไปไหว้หรือสังเวยผีหรือเจ้า
    ปล.ในที่นี้เทวดาจะมีแต่ในศาสนาพุทธของพราหม์จะเป็นพรหม<!-- / message --><!-- sig -->
    __________________
     
  7. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ดูสูตรที่เกี่ยวกับอาภัสสรพรหมละกันนะครับ
    ปล.เปลี่ยน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 สิงหาคม 2008
  8. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    -เกินมา
    ดูอายตนะทั้ง6
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 สิงหาคม 2008
  9. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ขอทีคุณน่ะ!!! อย่ามั่วนิ่ม อายเด็ก
    คุณเป็นนักบวชเสียเปล่า ไม่มีความเข้าใจเรื่องพระพุทธศาสนา
    ขอเรียก คุณนักบวชนอกรีตละกัน...เหมาะสมดี

    พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ถ้ามีใครมาพูดว่านี่เป็นคำสอนของพระองค์
    ก็อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ฟัง นำไปปฏิบัติ
    ได้ผลออกมาอย่างไร ให้นำไปเทียบเคียงกับพระสูตร ลงกับพระวินัยได้
    ก็ให้เชื่อได้ว่าคำสอนนั้นเป็นคำสอนของพระองค์

    ไม่มีตรัสไว้ตรงไหนเลยว่า แม้ตถาคตตรัส พวกท่านก็อย่าเชื่อ
    แสดงว่าคุณเป็นพวกนอกรีต บัญญัติสิ่งที่ตถาคตไม่ได้ทรงบัญญัติไว้
    หรือถ้ามีตรัสไว้ ยกมาแสดงสิ มีตรงไหนที่ว่า แม้เราตถาคตตรัส ก็อย่าเชื่อ

    และถ้าไม่เชื่อพระสูตรเลย
    แสดงว่าคุณนอกรีตก็ต้องไม่เชื่อพระสูตรชั้นต้นๆ เช่น ธัมมจักกัปปวัตนสูตร สินะ

    ซึ่งในธัมมจักกัปปวัตนสูตร มีกล่าวไว้ว่า
    ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ
    ธรรมทั้งหลายที่ได้ปฏิบัติมา เราไม่เคยสดับฟังมาจากที่ใดเลย
    ซึ่งแสดงชัดเจนว่า ทรงตรัสรู้ด้วยองค์เอง
    และแสดงธรรมที่เป็นข้อปฏิบัติ(อริยมรรค ๘)เพื่อให้พุทธสาวกปฏิบัติตาม

    ในฐานะชาวพุทธ ผู้ปฏิญาณตนนับถือพระพุทธศาสนา
    ย่อมแสดงว่าตนเชื่อในความตรัสรู้ของพระองค์
    และเชื่อว่าการปฏิบัติตามพระองค์เป็นหนทางนำไปสู่ความดับทุกข์
    เราย่อมไม่ปฏิเสธ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร อย่างแน่นอน

    ก็เมื่อคุณนอกรีตปฏิเสธไม่เชื่อสิ่งที่พระองค์ตรัสสั่งสอน
    ก็ย่อมเท่ากับว่าคุณนอกรีตไม่ใช่ผู้นับถือพระพุทธศาสนาอีกต่อไป

    มั่วไปได้ ดื้อจริงๆคุณนักบวชนอกรีต
    ไม่เชื่อเลยว่าจะดื้อได้ขนาดนี้ เหตุผลไม่มีเอาเสียเลย
     
  10. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    คุณนอกรีต จะรับหรือไม่รับ ไม่ใช่สาระสำคัญ
    สำคัญที่ว่าคุณแฝงตัวอยู่ในพุทธศาสนา สอนเยาวชนให้เข้าใจแบบผิดๆ
    ไม่เชื่อว่ากรรมมีจริงและสามารถส่งผลให้กับผู้กระทำได้จริง
    เพราะเมื่อทำบาปกรรมแล้ว ตายก็จบ ไม่ต้องรับกรรมที่ทำไว้...
    โลกนี้คงวุ่นวายน่าดู เพราะคนชั่วคงเหิมเกริม ทำชั่วแล้ว ไม่ต้องรับกรรมที่ทำ

    ถึงยังไง คุณนอกรีต ก็ต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้นี้แน่นอน
    ถึงแม้จะไม่เชื่อว่าผลกรรมมีจริง ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2008
  11. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ......................................................................................

    1. ถ้าใครไม่เชื่อจะตกนรก เอาไว้ด้วย ***
    ***เท่านี้เอง คนโง่ ก็กลัวกัน หัวหด แล้ว

    ไม่เชื่อว่า มี นรก ตาม คำตรัสสอน

    ....................................................................................

    2. ***การเชื่อพระพุทธเจ้า ก็คือ การไม่เชื่อพระพุทธเจ้า***

    ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า.. ไม่เชื่อพระไตรปิฏก

    ....................................................................................

    3. ฉัน คือ อะไร? เวบไซต์ สำหรับ บุคคลอัจฉริยะ

    จาก 2 ข้อ ข้างบนนี้
    ก็พอจะรู้แล้ว ว่า อัจฉริยะ คนนี้.. เป็น อะไร

    ......................................................................................

    ความจริง ที่เพียร แวะเวียน เข้ามา ที่กระทู้ นี้..
    ก็ตั้งใจ มุทิตา อุเบกขา กับ คน ผู้โกนหัว ห่มผ้าเหลือง คนนี้

    มุทิตา
    รู้ว่า ใครผิด ใครชั่ว ก็ไม่ซ้ำเติมเขา..
    ไม่อิจฉา ไม่ริษยา ใคร ๆ
    ใคร เขา ได้ดี ก็ดีใจด้วย

    อุเบกขา
    พร้อมที่จะช่วยเหลือเกื้กูลแก่กัน
    แต่ หากสุดวิสัยที่จะช่วยเหลือ ก็ต้องวางเฉย
    ไม่ทำอารมณ์ให้หมอง แก่จิต ใจ ของตนเอง

    ...................................................................................

    เป็นห่วงก็แต่ เยาวชน ที่เข้ามาอ่าน..
    จะหลงผิด.. คิดเชื่อ.. (เพราะว่า.. ไม่ต้องกลัวนรก แล้วนี่)
    แล้ว จะทำให้เสียเวลา เดินทาง ไปนานแสนนาน

    และ ก็ดีใจ ที่มี สาธุชน
    (สาธุชน บุคคลที่น่าเคารพ กราบไหว้.. แม้จะเป็น ฆราวาส)
    เข้ามาท้วงติง เถนะ ท่านนี้
    เทียบเคียงธรรมะ ทำให้ท่านที่เข้ามาอ่าน เกิด สติ

    ไม่หลงผิด ไปโดยง่าย..

    ....................................................................................

    แต่ทว่า ก็ไม่นานแล้ว ละท่านเอ๋ยยยย.. ที่จะได้เห็น....
    ผลของความเลว ที่จะเข้าถึง ในเร็ววัน เร็วปี นี้ แล้วหนออออ..
    (ข้อนี้ เดา เท่านั้นเอง.. ก็ไม่ต้องกลัวใคร.. นรก มันไม่มี นี่นา..)

    ขอแสดงความมุทิตา อีกวาระหนึ่ง..
    ขอแสดงความอุเบกขา อีกวาระหนึ่ง (รู้ว่า.. ช่วยไม่ได้จริง ๆ)

    ...................................................................................
     
  12. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260


    เรียน คุณธรรมะสวนัง มีคนๆ หนึ่ง กล่าวเป็นสโลแกนในกระทู้ว่า ไม่เชื่อใครแม้แต่ตัวเอง
    ซึ่งเป็นคำกล่าวมุสาที่น่าละอายมาก พระไตรปิฏกก็ไม่เชื่อ พระพุทธเจ้าก็ไม่เชื่อ แต่ดันไป
    เชื่อ พุทธทาส จากที่ยกมาเป็นหัวข้อเรื่อง ยืนยันว่านักบวชนอกรีต หรืออลัชชีผู้นี้ แม้แต่
    ศีล ๕ ก็ยังมีไม่ครบ พูดมุสา พูดจาวกวน ไร้เหตุไร้ผล ยกตนข่มท่าน หน้าด้านสุดๆ ทั้งๆ
    ที่โง่บรมโง่เป็นกบในกะลาที่น่าสงสารเพราะทั้งมืด ทั้งบอด ต้องขออภัยที่อาจจะใช้ถ้อยคำ
    ที่รุนแรงไปบ้าง แต่หนาขนาดนี้ก็ต้องสกิดแรงหน่อย ไม่อย่างนั้นจะเทียวไปสอนให้คนเป็น
    มิจฉาทิษฐิ อยากจะบอกชาวเกาะสีชัง ไม่ควรไปใส่บาตรทำบุญด้วย เพราะการไปเลี้ยงโจร
    ปล้นพระศาสนา ไม่ได้บุญแถมยังบาปอีกด้วย เหมือนเราไปสนับสนุนโจรที่ทำลายพระพุทธศาสนา
    ให้มีกำลัง
    ขออนุโมทนากับคุณธรรมะสวนัง เป็นอย่างสูงที่ได้ตีแผ่ให้เห็นถึงความโง่ของกบในกะลา(แถมตาบอด)
    ด้วยการใช้เหตุใช้ผลตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ผู้ใดที่อ่านด้วยใจเป็นธรรมใช้สติปัญญาพิจารณาตาม
    คงจะรู้ได้ไม่ยาก ว่าใครผิด ใครถูก จะได้ไม่ไปหลงเชื่อจนกลายเป็นมิจฉาทิษฐิ ซึ่งถ้าดูจากผลโหวตก็มีหลาย
    ท่านที่หลงผิดไปเชื่อกบในกะลา ซึ่งจะเป็นเหตุให้ลงอบายภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2009
  13. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ความจริง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็น....

    หากสามารถ ละ ตัวมานะ ที่ยึดมั่น.. ในความรู้ของตน สักนิด..

    หันมาพิจารณาดูว่า "พระอริยสงฆ์" รูปที่เมื่อท่าน ละสังขาร ไปแล้ว....
    กระดูกของท่าน แปรสภาพเป็น พระธาตุ
    กายของท่าน ก็เน่า ไม่เปื่อยสลาย ไปโดยเร็ว ตามปกติ ก็ไม่เกิน 7 วัน

    พระอริยสงฆ์ ที่..
    กระดูกของท่าน แปรสภาพเป็น พระธาตุ
    กายของท่าน ก็เน่า ไม่เปื่อยสลาย

    มีก็ตั้งมากมาย หลายองค์
    ก็ลองหันไปดู คำสอนของ พระอริยะ เหล่านั้น ว่า..

    มีส่วนไหน ที่พระอริยะ เหล่านั้น ท่านสอน ค้าน พระไตรปิฎก
    มีส่วนไหน ที่พระอริยะ เหล่านั้น ท่านสอนว่า ไม่ให้เชื่อ คำสอนของพระพุทธเจ้า

    มีบ้างไหม....

    เพียงแค่นี้.. ง่าย ๆ
    ก็จะรู้ถึงความจริง.. หากตั้งใจ ปฏิบัติตามแนวทางของ พระอริยะ เหล่านั้น

    หรือว่า..
    ท่านคิดแล้ว ด้วยตนเอง มั่นใจแล้ว.. ใช่ไหมว่า....
    เมื่อท่าน ตาย ไปแล้ว.. กายท่านจะไม่เน่า....
    กระดูกของท่าน จะกลายเป็น พระธาตุ....

    เหมือนกัน กับ พระอริยะ เหล่านั้น

    ................................................................................................
     
  14. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ความจริง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็น....

    หากสามารถ ละ ตัวมานะ ที่ยึดมั่น.. ในความรู้ของตน สักนิด..

    หันมาพิจารณาดูว่า "พระอริยสงฆ์" รูปที่เมื่อท่าน ละสังขาร ไปแล้ว....
    กระดูกของท่าน แปรสภาพเป็น พระธาตุ
    กายของท่าน ก็เน่า ไม่เปื่อยสลาย ไปโดยเร็ว ตามปกติ ก็ไม่เกิน 7 วัน

    พระอริยสงฆ์ ที่..
    กระดูกของท่าน แปรสภาพเป็น พระธาตุ
    กายของท่าน ก็เน่า ไม่เปื่อยสลาย

    มีก็ตั้งมากมาย หลายองค์
    ก็ลองหันไปดู คำสอนของ พระอริยะ เหล่านั้น ว่า..

    มีส่วนไหน ที่พระอริยะ เหล่านั้น ท่านสอน ค้าน พระไตรปิฎก
    มีส่วนไหน ที่พระอริยะ เหล่านั้น ท่านสอนว่า ไม่ให้เชื่อ คำสอนของพระพุทธเจ้า

    มีบ้างไหม....

    เพียงแค่นี้.. ง่าย ๆ
    ก็จะรู้ถึงความจริง.. หากตั้งใจ ปฏิบัติตามแนวทางของ พระอริยะ เหล่านั้น

    หรือว่า..
    ท่านคิดแล้ว ด้วยตนเอง มั่นใจแล้ว.. ใช่ไหมว่า....
    เมื่อท่าน ตาย ไปแล้ว.. กายท่านจะไม่เน่า....
    กระดูกของท่าน จะกลายเป็น พระธาตุ....

    เหมือนกัน กับ พระอริยะ เหล่านั้น

    ................................................................................................
     
  15. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    เรียนคุณชนะ
    เท่าที่เคยผ่านตาของท่านพุทธทาสมา
    ท่านไม่ได้ปฏิเสธพระไตรปิฎกทั้งหมด
    ท่านปฏิเสธในส่วนพระอภิธรรมปิฎก ซึ่งเป็นส่วนที่แต่งเพิ่มเติมขึ้นมาในภายหลัง

    ท่านมีอธิบายอ้างอิงพระสูตรอยู่ไม่น้อย แสดงว่าท่านไม่ได้ไม่เชื่อพระไตรปิฎกทั้งหมด
    ถ้าท่านไม่เชื่อพระไตรปิฎกเลย ท่านคงไม่นำพระสูตรมาอ้างอิง...

    เราขอเป็นว่าเราไม่พาดพิงถึงท่านพุทธทาสจะดีกว่า
    เพราะท่านไม่มีโอกาสมาแก้ข้อกล่าวหาใดๆ
    ที่นักบวชนอกรีตเอามาอ้างอิงว่ามาจากหนังสือของท่าน

    ข้อเท็จจริงน่าจะอยู่ตรงที่ว่า
    เมื่อบวชเป็นพระเข้ามาในพระพุทธศาสนาแล้ว
    ไม่ปฏิบัติสมาธิ ตามคำสอนของพระองค์
    จึงไม่เกิดปัญญา รู้เห็นตามความเป็นจริง

    มัวแต่อ่านตำรา เชื่อตามครูอาจารย์ของตนเอง
    แล้วเที่ยวสอนใครๆว่า อย่าเชื่อพระไตรปิฎก เพราะเป็นตำรา
    แถมสอนว่า อย่าเชื่อครูอาจารย์ของตนเอง
    ทั้งๆที่ตนเองก็เอาตำราของครูอาจารย์ของตนเองมาสรุปเนื้อหาสำคัญๆ
    แล้วเอามาสอนให้คนอื่นเชื่อตาม
    สอนไปก็ขัดแย้งตัวเองไป
    ...อย่าเชื่อใคร(แสดงว่าไอ้หลักสูตรที่เรียนอยู่นี่ก็อย่าเชื่อนะ เราเขียนโมเมขึ้นมาเอง)
    แม้แต่ตนเอง(ตัวเราเองก็ยังไม่เชื่อตัวเราเองเลย ยังไม่เชื่อหลักสูตรที่เราเขียนขึ้นเองเลย)

    หรือสอนว่า
    ...การไม่เชื่อพระพุทธเจ้า(การไม่เชื่อว่านี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า)
    คือ การเชื่อพระพุทธเจ้า(คือ การเชื่อว่านี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า)...แบบนี้ เป็นต้น

    ยัดเยียดใส่พระโอษฐ์ โดยที่ไม่เคยทรงตรัสไว้แบบนี้เลย
    เป็นการเลี่ยงบาลี เพราะความขี้เกียจปฏิบัติสมาธิตามคำสอนของพระองค์นั่นเอง

    ทั้งๆที่พระองค์ตรัสไว้ชัดเจนว่า
    สมาธึ ภิกฺขเว ภาเวถ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด
    ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง ดังนี้

    ปัญญาเกิดเพราะความประกอบ ไม่ประกอบปัญญาก็หมดสิ้นไป<O:p</O:p
    บุคคลรู้ทางแห่งความเจริญและความเสื่อมทั้ง ๒ ทางนี้แล้ว
    พึงตั้งตนไว้ในทางที่ปัญญาจะเจริญ

    คือ ต้องประกอบสมาธิ จึงจะเกิดปัญญา รู้เห็นตามความเป็นจริง
    ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นภาเวตัพพะ ต้องเจริญ ต้องทำให้มีขึ้น...เกิดขึ้นเองไม่ได้

    แค่อ่านตำราแล้วคิดว่าตัวเองเกิดปัญญา(ทางโลก) เห็นคนอื่นโง่กว่าตัวเอง
    อันนี้คือ สัญญา ความจำได้หมายรู้ ยิ่งมีสัญญามาก ยิ่งยึดมั่นถือมั่นมาก
    ยิ่งไม่มีปัญญาทางธรรมมากเท่านั้น ^_^
     
  16. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    เฮ้อ บวชผลาญข้าวสุกจริงๆ คุณนอกรีต ถามจัง ก็บอกแล้วไง

    เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
    เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี

    หรือเอาแบบประโยคเต็มๆก็

    เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เป็นปัจจัยจึงมีสิ่งนี้
    เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ

    อย่าคิดเป็นตุเป็นตะล่ะว่า ทุกอย่างดับหมด
    ถ้าดับหมด พระองค์จะมาบอก มาสอนได้ไง

    ยังมีจิตรู้อยู่ เห็นอยู่ เพราะมีกล่าวไว้ว่า
    จิตของข้าพเจ้า ผู้รู้อยู่ เห็นอยู่ อย่างนี้แล
    จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในอุปาทานขันธ์ ๕ นี้

    ^_^<O:p</O:p
     
  17. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ไม่เรียกคุณนักบวชนอกรีต ก็ไม่รู้จะเรียกไรแล้ว !!!
    อ้างอิงคำพูดของพระพุทธองค์ (พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า...)
    แล้วสอนว่าอย่าเชื่อว่านี่คือคำสอนของพระพุทธองค์ (เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ)
    ถ้าเชื่อ แสดงว่าไม่เชื่อพระพุทธองค์ (เป็นงั้นไป)
    ถ้าเชื่อพระพุทธองค์ ก็อย่าเชื่อเวลาคนอ้างอิงว่านี้คือคำพูดของพระพุทธองค์
    (แล้วคุณอ้างมาทำไมว่า...พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า...)

    กรรมของเด็กๆที่ถูกยัดเยียดให้เรียนหลักสูตรของคุณนักบวชนอกรีตจริงๆ^_^
     
  18. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    อนุโมทนาครับ
    จิตที่อวิชชาครอบงำ(มี) จึงมีทุกข์
    เพราะจิตสลัดอวิชชาออกไปได้(ไม่มี) ทุกข์จึงไม่มี
     
  19. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    (พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ถ้ามีใครมาพูดว่านี่เป็นคำสอนของพระองค์
    ก็อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ฟัง นำไปปฏิบัติ

    ได้ผลออกมาอย่างไร ให้นำไปเทียบเคียงกับพระสูตร ลงกับพระวินัยได้
    ก็ให้เชื่อได้ว่าคำสอนนั้นเป็นคำสอนของพระองค์)
    ------------------

    ***แล้วถ้าปฏิบัติแล้วไม่ตรงกับพระสูตร ลงกับพระวินัย ก็เชื่อไม่ได้ใช่หรีอไม่?***

    ***อย่างนี้ก็แสดงว่าคุณโยมปฏิบัติกันได้แล้วใช่หรือไม่?***

    ***แล้วเห็นรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า ระลึกถึงชาติก่อนๆได้แล้วใช่หรือไม่?**

    ***และพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง(อัตตา)แล้วใช่หรือไม่?***

    --------------------------------------------------
    ***คุณจะยอมรับหรือไม่ว่า "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ จะต้องอาศัยเหตุและปัจจัยมาปรุงแต่งให้เกิดขึ้นและตั้งอยู่ทั้งสิ้น"***

    ***และกรุณาอธิบายอีกนิดว่าเพราะอะไร?ด้วย***

    ***เอ...ทำไม แค่บอกว่ายอมรับ หรอืไม่ยอมรับ แค่นี้ทำไมทำไม่ได้ แปลก?***
    -----------------------
    ***มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป้นคนพาล***

    (ฉันคืออะไร? เวบไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com )
     
  20. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    อันนี้ผมไม่รู้ว่าวิญญาณที่พระพุทธเจ้าท่านพูดเอาไว้เป็นยังไงน่ะครับ เลยตอบไม่ได้(ถ้ารู้อาจจะตอบได้)
    รู้แต่นามรูป เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ
    กับเรื่องอาภัสสรพรหมน่ะครับ เลยสงสัยว่ามนุษย์เกิดจากพรหมหรือเปล่าน่ะครับ
    ไม่ได้ญาณก็คงไม่รู้ว่านรกสวรรค์มีจริงหรอกครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...