ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** เมตตา ****

ท่านต้อง...เมตตาตนก่อน
คือ นำตนเองได้ก่อน
ท่านจึงจะ....เมตตาโปรดผู้อื่นได้
คือเป็นผู้นำคนอื่นได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ผู้ที่บวช...จึงต้องระวัง
เหมือนยืนอยู่ปากบ่อ.....
เพราะ....ท่านได้กล่าวออกไปแล้ว !!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เริ่มต้นชีวิตสัจจะธรรม ****

ท่าน เคยสัญญาสิ่งใดไว้
ขอให้ท่านทบทวน
ทำให้ได้จริง

ถ้าผิดพลาดพลั้งไปแล้ว
ขอให้เริ่มต้นใหม่ ด้วยสัจจะ
ทำให้เกิดขึ้นจริง

สิ่งที่เกิดขึ้นมา
จะส่งผลตอบแทนให้กับท่าน แน่นอน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สัจจะ....จะพิสูจน์ตัวตนของทุกคน
อยู่ที่ทำได้ ทำไม่ได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ท่านมีสัญญากับ โลกุตตระธรรม
ท่านจึงมีโอกาสดีกว่าหลายคน
ท่านจึงพบสัจจะ !!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

หลายจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบวาตภัย
ภูมิภาค 26 มี.ค.- พายุฤดูร้อนถล่ม สร้างความเสียหายอย่างหนักทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน-ใต้ ราษฎรเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย หลายจังหวัดประกาศให้พื้นที่เป็นเขตประสบวาตภัยแล้ว

นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ประกาศให้ 8 ตำบล 88 หมู่บ้าน อ.เมือง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว หลังจากถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พร้อมกับเร่งขออนุมัติเงินสำรองกว่า 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือราษฎรอย่างทั่วถึง เนื่องจากมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายมากถึง 4,000 หลัง รถยนต์ 15 คัน พื้นที่การเกษตรกว่าหมื่นไร่ และเสาไฟฟ้าล้ม 20 ต้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่นำกระเบื้อง 500,000 แผ่น ออกแจกจ่ายให้กับราษฎรใช้ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ส่วนเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่บ้านเรือนที่เสียหายเกินร้อยละ 70 จะได้รับ 20,000 บาท เสียหายทั้งหลัง 30,000 บาท
ที่ จ.เชียงราย นำกระเบื้องมุงหลังคาช่วยเหลือเช่นเดียวกัน หลังเกิดพายุฝนและลูกเห็บพัดบ้านเรือนเมื่อคืนวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ใน 6 อำเภอ เดือดร้อนกว่า 3,500 ครัวเรือน ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยังคงเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเสนอให้ผู้ว่าราชการการจังหวัดประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบวาตภัย
นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร สรุปความเสียหายเบื้องต้นจากพายุกระหน่ำช่วงวันที่ 20-25 มีนาคมที่ผ่านมา รวม 4 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 235 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 74 หลัง ยุ้งข้าวเปลือกหลังคาปลิวหาย 9 หลัง ข้าวถูกน้ำฝน 5 ตัน ประเมินกว่า 440,000 บาท ล่าสุด ประกาศให้ 4 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว คือ อ.เมือง เลิงนกทา มหาชนะชัย และค้อวัง
ด้านนายเสรี พานิชกุล นายอำเภอสิเกา พร้อมเกษตรอำเภอ เข้าพื้นที่ ม.5 ต.บ่อหิน อ.สิเกา สำรวจความเสียหายจากพายุ พบว่าสวนยางพาราของเกษตรกร 15 ราย เสียหายกว่า 126 ไร่ หรือกว่า 7,000 ต้น ประเมินกว่า 3.5 ล้านบาท โดยยางพาราบางส่วนใกล้จะกรีดน้ำยางได้แล้วในปีหน้า ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นสำนักงานเกษตรจังหวัดจะชดใช้ให้ไร่ละ 786 บาท.- สำนักข่าวไทย
โลกร้อนทำให้แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่เสี่ยงหลุดจากทวีปแอนตาร์กติกา


แอนตาร์กติกา 26 มี.ค.- ผลสำรวจของ บริติช แอนตาร์กติก เซอร์เวย์ พบว่า ปัญหาโลกร้อน ส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งแตกออกจากทวีปแอนตาร์กติกา คิดเป็นพื้นที่ถึง 570 ตารางกิโลเมตร ส่วนแผ่นน้ำแข็ง วิลคินส์ ที่มีขนาดใหญ่เท่ารัฐคอนเนตทิคัต ของสหรัฐ ก็กำลังอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง ที่จะหลุดออกจากทวีปแอนตาร์กติกาในเวลานี้
นักธรณีวิทยาน้ำแข็งประจำศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะ ของมหาวิทยาลัย โคโลราโด เป็นผู้กระตุ้นเตือนให้ บริติช แอนตาร์กติก เซอร์เวย์ ไปสำรวจเรื่องนี้ หลังศึกษาภาพถ่ายดาวเทียมขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซา แล้วพบว่า แผ่นน้ำแข็ง วิลคินส์ กำลังแยกตัวออกจากทวีปแอนตาร์กติกา เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แผ่นน้ำแข็งยักษ์นี้
ก็ได้สูญเสียมวลน้ำแข็งไปแล้วถึงร้อยละ 6
ผลสำรวจพบว่า ขณะนี้มีเพียงก้อนน้ำแข็งเป็นทางยาวเพียงเส้นเดียว ที่ยังช่วยยึดติดแผ่นน้ำแข็งวิลคินส์ กับทวีปแอนตาร์กติกา และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ยังสังเกตเห็นก้อนน้ำแข็งขนาดเท่าบ้าน อีกหลายก้อน แตกกระจัดกระจายออกมาจากแผ่นน้ำแข็งวิลคินส์ ซึ่งมีพื้นที่เท่ากับรัฐคอนเนตทิคัต หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของสกอตแลนด์
แผ่นน้ำแข็งวิลคินส์ เป็นแผ่นน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรแอนตาร์กติก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า จะได้เห็นแผ่นน้ำแข็งขนาดยักษ์แยกตัวออกจากทวีปแอนตาร์กติกาเร็วถึงเพียงนี้ ซึ่งการแยกตัวของแผ่นน้ำแข็งวิลคินส์คาดว่า ไม่น่าส่งผลกระทบกับเรือที่ขนนักท่องเที่ยวเดินทางจากอเมริกาใต้ไปยังแอนตาร์กติกา แต่จะส่งผลต่อสัตว์และพืชบางชนิดที่ต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้. - สำนักข่าวไทย

 

คำพยากรณ์ดวงเมืองไทย 10 ยุค ​

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
ดวงเมืองที่เหล่าโหราจารย์ตั้งไว้สมัยแรกตั้งกรุงรัตนโกสินทร์คือวันที่ 1 เมษายน 2325 ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล พยากรณ์ดวงเมืองไว้ 10 ยุค ดังต่อไปนี้

1. มหากาฬ อยู่ในรัชกาลที่ 1 สู้ศึกสงคราม รวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่นมั่นคง สถานการณ์ในยุคนี้เรียกว่า "มหากาฬ" เพราะเมื่อปราบดาภิเษกก็ต้องเสด็จออกปราบปรามความไม่สงบทั้งภายนอกภายใน ทรงทำศึกสงครามกับพม่าอีกหลายครั้งทรงยกทัพไปตีเมืองทะวายเป็นต้น จำต้องประกาศกฏสำคัญเช่น กฏปราบกบฏ กฏมณเทียรบาล กฏอัยการศึก เกิดอุบัติการณ์ที่น่าหวาดเสียวมาก ผู้ทำนายจึงเรียกเหตุการณ์บ้านเมืองยุคนี้ว่า "มหากาฬ"

2. ภาณยักษ์ รัชกาลที่ 2 พ.ศ. 2363 ได้เกิดโรคอหิวาตกโรค ระบาด อย่างร้ายแรงในพระนครหลวง ชีวิตมนุษย์ต้องล้มหายตายจากไปวันละมากๆ ตามป่าช้าวัดสระเกศ วัดสังเวช วัดบพิตรพิมุข ฯลฯ เนืองนองไปด้วยซากศพของผู้เสียชีวิต ตามลำน้ำลำคลอง ซากศพมนุษย์ลอยฟ่องจนใช้น้ำรับประทานไม่ได้กลิ่นซากศพกระจายไปทุกแห่งหน ตามถนนหนทางเงียบสงัด หาผู้คนเดินแทบไม่พบ เพราะต่างก็พากันหลบซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้าน ด้วยเกรงโรคร้ายจะติด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ทำพิธียิงปืนใหญ่ รอบกำแพงพระมหาราชวัง 1 คืน นำพระแก้วมรกต และพระบรมธาตุ ออกแห่แหนให้วัดต่างๆ ทำพิธีสวด "ภาณยักษ์" เพื่อขับไล่เสนียดจัญไร อันเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บโรคนี้ระบาดอยู่เกือบ 2 เดือน มีผู้เสียชีวิตกว่า 3 หมื่นคน ในยุคนี้จึงเรียกว่า "ยุคภาณยักษ์"

3. รักบัณฑิต ล่วงเข้ารัชกาลที่ 3 ผู้คนนิยมแต่งโคลงกลอน เพลงยาวมีกวีสำคัญที่มีชื่อเสียง คือ สุนทรภู่ และเมืองไทยได้ทำความสัมพันธ์ไมตรีกับนาๆ ประเทศ เช่น พ.ศ. 2367 ประเทศไทยได้ประกาศสงครามเข้าข้างอังกฤษรบกับพม่า กองทัพไทยได้เคลื่อนเข้าตีเขตแดนรามัญ ครั้น พ.ศ. 2369 อังกฤษได้ส่งกัปตันเฮนรี่ เบอร์นี่ เป็นทูตเข้าเฝ้า ทำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี และในปี พ.ศ. 2376 เอส.โรมัน โรเบิร์ต ชาวอเมริกันก็ได้ถือสาสน์ของประธานาธิบดีคนที่ 7 ของสหรัฐอเมริกา นายแอนดรูว์ แจ๊คสัน เข้ามาขอทำสัญญาทางพระราชไมตรีกับไทย เป็นยุคของ "รักบัณฑิต"

4. สนิทธรรม รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดการปฏิบัติธรรม ทรงฝักใฝ่ทางศาสนาถึงกับได้ออกผนวชเป็นพระภิกษุเป็นเวลานาน 27 ปี ก่อนขึ้นครองราชย์ ทรงสร้างวัดธรรมยุตินิกายขึ้นเป็นจำนวนมาก ได้มีการติดต่อกับบรรดานานาชาติในยุโรปและทรงนำวัฒนธรรมของยุโรปเข้ามาดัดแปลงใช้ในไทย ยุคนี้จึงเป็นสมัยที่เรียกว่า "สนิทธรรม"

5. จำแคว้นขาด เมืองไทยต้องเผชิญกับอุปสรรคร้ายแรงจากการแผ่อิทธิพลของประเทศมหาอำนาจตะวันตก ที่พยายามล่าเมืองไทยให้เป็นเมืองขึ้น ฝรั่งเศสกับอังกฤษพยายามทุกวิถีทางที่จะแย่งยึดเอาประเทศไทยไปอยู่ใต้อำนาจร่มธงของเขาให้ได้ ชาวไทยต้องน้ำตาตก เพราะผืนแผ่นดินเป็นสิทธิอันชอบธรรมของคนไทย ต้องถูกเชือดเฉือนไปมากมาย รัชกาลที่ 5 ต้องยอมสละดินแดนบางส่วนให้ชนต่างชาติที่รุกราน เพื่อเอกราชและสันติสุขของประเทศชาติ

6. ราษฎรจน รัชกาลที่ 6 ประเทศชาติเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 บ้านเมืองเดือดร้อนไปทั่วทุกประเทศคู่สงคราม ทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจตกต่ำลง ข้าวยากหมากแพง ผู้คนยากจน ประชาชนเริ่มเผชิญกับความเดือดร้อนเป็นสำคัญ

7. ชนร้องทุกข์ พอขึ้นรัชกาลที่ 7 บ้านเมืองได้เริ่มระส่ำระสาย กระแสของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแบบใหม่เริ่มเข้ามาในเมืองไทย ผู้คนกล้าแสดงออกมากขึ้นจึงเป็นยุคของ "ชนร้องทุกข์" แม้แต่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ ยังรับสั่งว่า ฉันเกิดมาในสมัยที่ม่านจวนจะรูดอยู่แล้ว ความเดือดร้อนของพลเมืองได้เป็นไปอย่างหนักด้วยความตกต่ำของเศรษฐกิจ จนเกิดการปฏิวัติขึ้นในปี พ.ศ. 2475 โดยคณะราษฎร์ล้มระบอบกษัตริย์อยู่เหนือกฏหมายลงเปลี่ยนเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขของชาติ เป็นสมัยที่เรียกกันว่า ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน กระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม

8. ยุคทมิฬ สงครามโลกครั้งที่ 2 เกาะฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นถูกระเบิดปรมาณูผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก นับเป็นการเข่นฆ่าด้วยอาวุธสงครามที่ร้ายแรงที่สุด และในประเทศไทยครั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงตัดสินพระทัยสละราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ เวลาต่อมาเหตุการณ์บ้านเมืองได้ย่างเข้าสู่ความมืดมนยิ่งขึ้น เกิดการกบฏจลาจลอยู่เนืองๆ มีการประหารชีวิตผู้ต้องหาทางการเมือง

 

ขอขอบคุณที่นำเรื่องที่มีสาระให้เพื่อนได้รับทราบ(ขอบคุณมาก)คุณwellrider

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ชาวนาผวาโจรขโมยเกี่ยวข้าว แบกปืนเฝ้า-ลั่นเจอยิงทิ้งแน่

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4>

</TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>ชาวนาผวา โจรขโมยเกี่ยวข้าว แบกปืนออกเฝ้านา ลั่นเจอยิงทิ้งแน่ เผยสมัยนี้ใช้รถเกี่ยวข้าว ส่งผลขโมยเกี่ยวข้าวเพียงเวลาไม่นาน

(25 มีค.51) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีข่าวกลุ่มมิจฉาชีพออกอาละวาดเกี่ยวข้าวในนาชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ทำให้ชาวนาในจังหวัดอ่างทองเร่งเก็บเกี่ยวข้าวขายก่อนเติบโตเต็มที่หวั่นศูนย์ทั้งนา นอกจากนั้นบางรายสะพายปืนยาวออกเฝ้านากันทีเดียว โดยกลางดึกคืนวันที่ 24 มี.ค. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 24 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีกลุ่มเกษตรกรผู้ที่ทำนาได้ออกไปเฝ้าพื้นที่นา บริเวณทุ่งนา หมู่ที่ 6 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง เนื่องจากเกรงว่าจะมีมิจฉาชีพที่ออกอาระวาดมาทำการลักขโมยเกี่ยวข้าวในนา จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายวิเชียร ปู่กลิ่น อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ที่ 5 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง พร้อมภรรยาและลูกเขยออกมานอนกระท่อมกลางนา

นายวิเชียร กล่าวว่า วันนี้ตนได้ชวนภรรยาและลูกเขยออกมาเฝ้านาเนื่องจากกลัวว่าพวกกลุ่มโจรที่ออกอาระวาดลักเกี่ยวข้าวในนาจะมาเกี่ยวข้าวในนาตน ตอนนี้ข้าวที่ตนปลูกไว้ประมาณ 50 ไร่ อีกประมาณ 3-4 วันก็สามารถเกี่ยวได้แล้ว หากมาถูกลักเกี่ยวไปตนคงหมดตัวแน่ ตนได้ยินหนาหูว่าในพื้นที่อ่างทองโดยเฉพาะใน อ.สามโก้ และ อ.แสวงหา ชาวนาหลายรายที่ต้องเดือดร้อนเพราะพวกมิจฉาชีพดังกล่าว

"ผมเอาปืนยาวออกมาด้วย เพราะไม่รู้ว่าหากพบกลุ่มโจรลักเกี่ยวข้าวจะเกิดอะไรขึ้น ผมต้องรักษาทรัพย์สินของตนไว้ก่อน หากพบจริงๆผมคงจะยิงแน่ ผมนอนไม่หลับมาหลายคืนเป็นห่วงข้าวในนาลงทุนไปเป็นเงินหลายหมื่นบาท พอข้าวราคาดีก็มีกลุ่มโจรมาลักขโมย ผมคงยอมไม่ได้" นายวิเชียร กล่าว

ด้านนายธนบดี ใจอ่อน อายุ 45 ปี ชาวนา ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง กล่าวว่า ตนทำนามาตั้งแต่เล็กและก็เพิ่งเคยพบว่า ในปีนี้ราคาข้าวอยู่ที่เกวียนละหมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก แต่ก็มีสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีพวกโจรแอบมาเกี่ยวข้าวของชาวบ้าน เมื่อก่อนที่ยังไม่มีรถเกี่ยวข้าวชาวนาจะต้องลงมือเกี่ยวกันเองต้องใช้เวลานาน แต่ตอนนี้ใช้รถเกี่ยวข้าวใช้เวลาเพียงนิดเดียวก็แล้วเสร็จ สำหรับในเขต ต.ป่างิ้ว ชาวนาต่างผวากลุ่มโจรดังกล่าวมากที่เดียวคนไหนที่ไม่สามารถออกไปเฝ้านาตอนกลางคืนได้ก็ต้องรีบจ้างรถเกี่ยวมาเกี่ยวข้าว ถึงแม้จะต้องเสียราคาเพราะน้ำหนักข้าวไม่ดีเนื่องจากเกี่ยวข้าวก่อนโตเต็มที่ก็ตาม

นายสาโรจน์ ลาภหงส์ทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศาลาแดง กล่าวว่า ตนได้จัดเจ้าหน้าที่อบต.พร้อมอาสาสมัครประจำหมู่บ้านออกตรวจพื้นต่างๆของตำบลทุกคืนโดยเฉพาะท้องทุงนาที่ตอนนี้มีโจรพวกใหม่ที่อาระวาดเก็บเกี่ยวข้าวของชาวบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสมเพศอย่างมาก และจากที่ตนฟังมาว่ากลุ่มโจรดังกล่าวจะรู้ว่านาใคร สามารถเกี่ยวข้าวได้นั้นตนคิดว่าคงเป็นพวกรถเกี่ยวข้าว ที่มาเกี่ยวข้าวในแปลงนาใกล้เคียงนั่นแหละ เพราะพวกนี้จะรู้ว่าข้าวแปลงไหนเกี่ยวได้

ส่วนพล.ต.ต.ธนิศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง กล่าวว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวการลักเกี่ยวข้าวในนาของประชาชน ตนก็สั่งการไปยังโรงพักต่างๆให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครออกตรวจไปตามทุ่งนาด้วยหากพบว่ามีการเกี่ยวข้าวตอนกลางคืนให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีเจ้าของนาอยู่ด้วยหรือเปล่า ด้านนายจารุพงศ์ พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวถึงการขโมยข้าวชาวนาว่า ยังไม่มี มีเพียงข่าวลือ พูดกันต่อมา ตนตรวจสอบตั้งแต่มีข่าวเกิดเหตุในจังหวัดใกล้เคียง แต่ก็เตือนประชาชนให้ระวัง เพราะใน อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง ข้าวกำลังจะเก็บเกี่ยวได้แล้ว แต่ตอนนี้ ยังไม่มีการขโมยข้าวในจังหวัด แต่ถ้าเกิดเหตุต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งอาสาสมัครออกตรวจตรา และแจ้งเจ้าของนาดูแลนาของตัวเอง บางรายก็ออกไปนอนในที่นาของตัวเอง ในลพบุรีมีพื้นที่ทำนา 1.2 ล้านไร่ อีกประมาณ 1 สัปดาห์จะเริ่มเก็บเกี่ยวกับได้แล้ว แต่ไม่ได้เก็บเกี่ยวพร้อมกันทั้งหมด จะเป็นการทยอยเก็บเกี่ยวกันไป ตอนนี้ข้าวเปลือกหอมมะลิเกวียนละ 1.4 หมื่น และได้เตือนเกษตรกรว่าเมื่อข้าวเก็บเกี่ยวมาแล้วให้เอาเข้ายุ้งฉาง เพราะเกษตรกรนิยมเอาใส่กระสอบ ซึ่งจะง่ายในการขโมย

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ข่าวจากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/2008/03/25/x_main_a001_195634.php?newsid=195634

 

คาดแมวตายหมู่ที่อ่างทองติดเชื้อไวรัส แต่ไม่ใช่ไข้หวัดนก​

​

ม.เกษตรฯ 24 มี.ค.

 

เมื่อเช้าฟังข่าวได้ยินว่าลูกเห็บเท่าลูกกอล์ฟตกแถวๆเหนือ....ช่วงนี้อากาศแปลกๆ...ห่างกันไม่กี่วันอากาศเปลี่ยนอีกแล้ว

 

ผมได้สร้างห้องสุขาเคลื่อนที่เสร็จ ได้ถ่ายรูปไว้และคิดว่าจะส่งมาให้ดูในเว็บ เผื่อผู้ที่สนใจจะนำแบบอย่างไปสร้างและใช้ในยามคับขัน แต่ผมไม่มีความรู้ในการส่งภาพ ถ้าสมาชิกท่านใดมีความรู้ในการส่งภาพ ขอความกรุณาสอนเทคนิคในการส่งภาพให้กับผมในเว็บนี้ด้วย จะขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ในที่ๆหลบภัยที่มีผู้คนจำนวนมาก ผมคิดว่าห้องสุขาคงไม่พอใช้ การสร้างห้องสุขาถาวรก็ต้องใช้เงินในการก่อสร้างต่อห้องเป็นเงินจำนวนไม่น้อย ผมคิดว่าห้องสุขาเคลื่อนที่จะเหมาะสมที่สุด ราคาก็ไม่แพง ทั้งสามารถถอดเก็บและนำไปใช้ในสถานที่ต่างๆได้ด้วย<O</O
ขนาดของห้อง ห้องสูงประมาณ 1.85 เมตร กว้าง 0.85 เมตร ภายในประกอบด้วยท่อเอสล่อนขนาด &frac12; นิ้ว ต่อเป็นโครงสร้างแล้วหุ้มด้วยผ้าใบพล้าสติก มีประตูออก 1 ช่อง มีก๊อกน้ำและหางปลาเกลียวสำหรับเสียบสายยางจ่ายน้ำจากต้นน้ำ มีฝาชักโครกยึดติดกับถังพล๊าสติก 1 ชุด ภายในถังมีถุงพล๊าสติกรองรับมูล เพดานมีไฟนีออน 18 วัตต์ 12 โวลต์ 1 ชุด พร้อมแบตเตอรี่ 1 ลูกแขวนไว้ที่ข้างฝา ตัวตู้สามารถถอดเก็บได้<O</O
ห้องที่สร้าง สามารถใช้เป็นห้องสุขา ห้องอาบน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ โดยนำเอาของที่ไม่ใช้ออกมาไว้ข้างนอกห้อง<O</O
วิธีการทำ ให้ขึ้นโครงสร้างก่อนแล้วนำผ้าใบด้านยาว 4.00 เมตรมาล้อมรอบ ยึดด้วยตะปูเกลียวหัวเห็ด ขนาด 6 หุน ส่วนล่างผ้าใบให้ยกพื้นลอย 20 ซ.ม. เพื่อให้ลมระบาย ก่อนยึดผ้าให้เผื่อปีกบังประตู 15 ซ.ม. เมื่อล้อมผ้ามาถึงแนวประตูจะเหลือผ้าให้ตัดส่วนเกินออกแต่ต้องมีความยาวเผื่อซ่อนไว้ด้านหลังปีก 15 ซ.ม.<O</O
ตรงปีก 15 ซ.ม.จะมีรูตาไก่อยู่ ส่วนที่จะทำเป็นประตูยังไม่มี ให้เอาเศษที่ตัดออกที่มีตาไก่อยู่ ตัดเอาตาไก่มาแปะที่ประตูให้แนวตาไก่ตรงกัน แล้วหาเชือกมาผูกทำเป็นกลอนประตู<O</O
ผ้าด้านบนให้พับเข้าหากันทำเป็นหลังคาแล้วยึดด้วยตะปูหัวเห็ด ท่านก็จะได้ห้องน้ำเคลื่อนที่สำเร็จรูป<O</O
ส่วนก๊อกน้ำและไฟแสงสว่างก็เสริมตามทีหลัง <O</O

 

ดิฉันก็เพิ่งเคยลองนะคะ ไม่รู้ว่าจะมีวิธีอื่นที่ง่ายกว่านี้มั้ย
ลองดูนะคะ

ที่ท้ายช่องตอบกระทู้จะมีตัวเลือก "เลือกตอบเต็มรูปแบบ"


พอคลิกแล้วก็จะมีฟังก์ชั่นที่ใช้ในการตอบกระทู้มากขึ้นนะคะ เลื่อนลงไปด้านล่าง จะเจอ "ตัวเลือกเพิ่มเติม"



คลิกที่ upload และบริหารไฟล์ ก็จะได้หน้าต่างอย่างนี้



ถ้าไฟล์รูปอยู่ในเครื่องคอมฯ ก็ไป browse ตรงที่เก็บไฟล์อยู่
พอเรียบร้อยแล้ว กด "Upload" ก็จะได้ แบบนี้ออกมา



แสดงว่ารูปภาพถูกจัดเก็บบน server แล้วนะคะ
วิธีการโพสก็คือ คลิกที่ แล้วมันจะขึ้น
หน้าต่างให้เราใส่ URL ที่เก็บภาพไว้อย่างนี้


เราสามารถหา URL ที่เก็บภาพไว้ได้โดยการ คลิกขวา บนชื่อไฟล์รูป
แล้วเรียกดู property ค่ะ


มันก็จะขึ้นหน้าต่าง property แล้วเราสามารถ ไป highlight
เพื่อทำการ copy และ เอาไป paste ได้เลย




ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด รูปก็จะมาโผล่ให้เห็นตามต้องการนี่แหละค่ะ
หวังว่าคงจะไม่งงนะคะ ดิฉันก็เพิ่งเคยทำครั้งแรกเหมือนกัน

 

*** สันติธรรม ****

เมื่อ.... คนมีสัจจะ
โลกก็เกิด...สันติธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อยากดูรูปส้วมของคุณ k_isara ครับ
อัพใส่นี่ก็ได้ครับ http://upload.siamha.com/

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฮือฮา"กาเผือก"เจ้าของเชื่อสัตว์มงคล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 127 ม.9 ชุมชนคุ้มวัดหอก่อง ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร

หลังทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าว พบนกประหาด คืออีกาเผือก สีขาวทั้งตัว จึงไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่าเป็นบ้านของนายนายมนูญ กองแก้ว อายุ 40 ปี มีเพื่อนบ้านหลายคนกำลังล้อมวงดูกาเผือกตัวดังกล่าว ในกรงเหล็กหน้าบ้าน

นายมนูญ กล่าวว่า ตนมีอาชีพค้าขายโค-กระบือ และมีความรู้เรื่องเวทย์มนต์ มีลูกศิษย์นับถือหลายคน

เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาไปซื้อโคที่ตลาดนัด อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ไปพบลูกศิษย์โดยบังเอิญ ลูกศิษย์จึงพาไปที่บ้านที่ต.บ้านไท อ.เขื่องใน และมอบกาเผือกตัวนี้มา ช่วงนั้นกาตัวนี้อายุได้สัปดาห์เศษเท่านั้น ปัจจุบันก็อายุ 2 เดือนแล้ว โดยลูกศิษย์บอกว่าลูกสาวไปเลี้ยงควายที่ชายป่า พบกาตัวนี้หล่นจากรังลงมาที่โคนต้นหว้า จึงนำมาเลี้ยงไว้แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

นายมนูญกล่าวว่า กาเผือกตัวนี้แปลกตรงที่ไม่กินแมลงเป็นอาหาร

ทุกวันตนและพ่อตจะป้อนกล้วยและหัวอาหารให้กิน หลังชาวบ้านมาเห็นได้นำไปพูดปากต่อปากจนโด่งดัง และมีเจ้าของบริษัทขายรถยนต์ จากจ.อุบลราชธานีมาขอซื้อในราคา 50,000 บาท แต่ตนไม่ขาย เพราะเชื่อว่าเป็นสัตว์มงคลหายาก คล้ายกับช้างเผือก ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดมายังไม่เคยเห็นกาสีขาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกาเผือกตัวนี้ลำตัวเป็นสีขาวล้วน ตาสีแดง

จงอยปากสีชมพู สูงประมาณ 20 ซ.ม. หากไม่ร้องเสียงกาๆ ผู้พบเห็นอาจเข้าใจว่าเป็นนกชนิดอื่นโดยนายมนูญเฝ้าระวังอย่างดี ได้ทำกรงเหล็กให้อยู่ ขนาดยาวประมาณ 1 เมตร กว้างและสูง 60 ซ.ม. ตกค่ำก็จะยกกรงไปไว้ในห้องครัวหลังบ้าน เช้าจึงยกออกมาหน้าบ้าน


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พายุกระหน่ำโคราช </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 มี.ค. เกิดพายุฝนฟ้าคะนองลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรงในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา

โดยก่อนจะเกิดพายุฝนประมาณ 20 นาที อากาศในเขตตัวเมืองร้อนอบอ้าว ซึ่งอิทธิพลของพายุ สร้างความเสียหายในงานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ถ.ชุมพล ข้างประตูชุมพล ติดกับลานอนุสาวรีย์ท้าวสรุนารี (ย่าโม)บริเวณทางเข้างาน โครงเหล็ก เต้นท์ และสิ่งของต่างๆ ถูกลมพัดล้มระเนระนาด บางส่วนล้มมาทับรถยนต์ และสายไฟฟ้าแรงต่ำขาดทำให้เกิดไฟฟ้าดับ

นอกจากนี้นยังมีเด็กชายอายุ 12 ปี ลูกผู้ค้าที่มาตั้งร้านขายของในงานบาดเจ็บศรีษะแตก

ส่งไปรักษาที่ร.พ.มหาราช จ.นครราชสีมา ท่ามกลางการโจษขานของชาวบ้านที่งานปีนี้ เป็นครั้งแรกที่มีการจุดพลุฉลองเพียงประตูเดียว ซึ่งที่ผ่านมาจะต้องจุดพร้อมกับทั้ง 4 ประตู ที่เป็นประตูเมืองสี่ทิศ เป็นการผิดธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติต่อเนื่องกันมากว่า 20 ปี



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ภาวะโลกร้อนทำให้แผ่นน้ำแข็งใกล้ขั้วโลกใต้ถล่ม </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ภาวะโลกร้อน ทำให้แผ่นน้ำแข็งใกล้ขั้วโลกใต้ถล่มเป็นบริเวณกว้าง 7 เท่าของเกาะแมนฮัตตัน

(26มีค.) นักวิทยาศาสตร์ จากทีมวิจัย บริติช แอนตาร์กติก เซอร์เวย์ หรือ บาส บอกว่าจากภาพถ่ายดาวเทียมชี้ให้เห็นว่า ขอบแผ่นน้ำแข็งวิลกินส์ในแอนตาร์กติก ตะวันตกซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับรัฐคอนเน็คติกัตของสหรัฐ และอยู่มานานกว่า 1 พัน 5 ร้อยปี ได้พังทลายกินพื้นที่กว่า 400 ตารางกิโลเมตรในช่วงเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากภาวะโลกร้อนและทำให้ธารน้ำแข็งบางส่วนตกอยู่ในความเสี่ยง

นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตุพบว่ามันเริ่มพังถล่มลงมาตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกำลังวิตกว่า

ส่วนที่เหลือของแผ่นน้ำแข็งวิลกินส์จะถล่มลงมาอีก และจะกินบริเวณกว้างกว่าที่เคยเกิดถล่มครั้งใหญ่เมื่อปี 2545 และ 2538 ซึ่งคาดว่าแผ่นน้ำแข็งแผ่นนี้จะพังถล่มในอีก 15 ปีจากนี้ และแม้นักวิทยาศาสตร์จะไม่ได้วิตกว่าปรากฎการณ์ล่าสุดจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น แต่ก็บอกว่านี่เป็นสัญญานของภัยจากโลกร้อน

นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์ ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติของนาซา ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในรัฐโคโรลาโดบอกว่า

การพังถล่มของแผ่นน้ำแข็งเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ปกติ แต่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา และว่ายังมีโอกาสที่ส่วนที่เหลือของแผ่นน้ำแข็งวิลกินส์จะยังอยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงปีหน้า เพราะตอนนี้เป็นช่วงสิ้นสุดฤดูร้อนของทวีปแอนตาร์กติกแล้ว และอากาศกำลังหนาวเย็นขึ้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เตือนคนครึ่งโลกเสี่ยงขาดแคลนข้าว
ลอส บานอส, ฟิลิปปินส์ 27 มี.ค.- ผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวระบุว่า คนครึ่งโลกรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก แต่มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่มีข้าวเหลือมากพอ

สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ หรืออีร์รี เผยว่า ศักยภาพของดินคือปัจจัยกำหนดว่าประเทศใดจะมีข้าวมากเพียงพอ ประเทศผู้ปลูกข้าวรายใหญ่อย่างไทย อินเดีย เวียดนาม พม่า กัมพูชา และบังกลาเทศ ล้วนตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ มีที่ราบขนาดใหญ่ และใช้พื้นที่ทางการเกษตรกว่าครึ่งเพื่อการปลูกข้าว ในทางตรงกันข้ามประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่อย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียมีสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะหรือคาบสมุทรที่เหมาะสำหรับปลูกข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน หรือมะพร้าว ฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวมาตั้งแต่ปี 2412 ส่วนอินโดนีเซียนำเข้ามาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 ทั้งสองประเทศรับประทานข้าวเป็นหลักและมีประชากรรวมกันเกือบ 300 ล้านคน
อีร์รีระบุว่า แม้จีนเป็นผู้ปลูกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก มีผลผลิตข้าวสูงที่สุดในโลก และเป็นผู้บริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ไม่ใช่ผู้ส่งออกรายสำคัญเพราะให้ความสำคัญกับปากท้องของประชาชนในประเทศเป็นหลัก ข้าวที่ซื้อขายในตลาดโลกมีเพียง 30-35 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 7 ของข้าวที่ปลูกทั่วโลกในแต่ละปี ปริมาณที่จำกัดดังกล่าวทำให้ราคาข้าวผันผวนได้ง่าย ขณะนี้ราคาข้าวใกล้แตะระดับตันละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ยุคปฏิวัติการเกษตรในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 ช่วงนั้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีช่วยให้ได้ผลผลิตสูง ราคาข้าวไม่ถึงตันละ 400 ดอลลาร์สหรัฐ อีร์รีชี้ว่า ราคาข้าวแพงขึ้นเพราะปริมาณข้าวในตลาดโลกลดลง อันเป็นผลจากปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกัน เช่น ภัยธรรมชาติในบังกลาเทศ โรคและแมลงศัตรูพืชในเวียดนาม ปัญหาการเมืองในพม่า และการที่เกษตรกรหันไปปลูกพืชทำเชื้อเพลิงชีวภาพมากกว่าข้าว.-สำนักข่าวไทย

ปัญหาขาดแคลนขนมปังในอียิปต์ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน
<OBJECT type=application/x-shockwave-flash height=260 hspace=10 width=320 data=../flvplayer.swf?file=http://news.mcot.net/flvvdo/8627.flv&autostart=true&showfsbutton=true align=left vspace=5 wmode="transparent"><embed src="../flvplayer.swf?file=http://news.mcot.net/flvvdo/8627.flv&autostart=true&showfsbutton=true" loop="false" width="320" height="260" allowScriptAccess="sameDomain" type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" /></OBJECT>อียิปต์ 27 มี.ค. - ภาวะขาดแคลนขนมปังในอียิปต์ ส่งผลให้ในแต่ละวันมีผู้คนมาเข้าแถวรอซื้อขนมปังกันเป็นจำนวนมาก ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตขณะเข้าแถวเพื่อซื้อขนมปังแล้ว ถึง 7 คน

ในจำนวนนี้ 2 คน เกิดกระทบกระทั่งกัน จนถึงขั้นคว้ามีดมาแทงกันตาย ขณะที่อีก 5 คน เสียชีวิตเนื่องจากอ่อนเพลีย ปัญหาขาดแคลนขนมปังในอียิปต์ครั้งนี้ มีสาเหตุจากพลเมืองที่มากขึ้น ประกอบกับ ปัญหาความยากจน และ ราคาข้าวสาลีที่ใช้ทำขนมปัง และต้องนำเข้าเป็นส่วนใหญ่เพิ่มสูงขึ้น
ปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้รัฐบาลอียิปต์ต้องสั่งให้ทางกองทัพทำขนมปังและจำหน่ายขนมปังปันส่วน ในราคาถูกกว่าท้องตลาดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน.- สำนักข่าวไทย

 

หรือไปดูที่นี่ก็ได้นะครับเม้าตาอินเค้าลงไว้ผมลองแล้วใช้ได้ดีนะครับ

http://palungjit.org/showthread.php?t=112549

ก่อนเอารูปมาลงให้ลด size ที่โปรแกรม paint ก่อนนะครับ ซัก 50 % ก็ลงได้ดีครับ คืออยากเห็นเหมือนกัน ผมก็อยากทำรถบ้านเหมือนกัน

 

ได้พบข่าวที่ธารน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ละลายและแตกหลุดออกมา มีขนาดใหญ่มากๆ เส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 45 กิโลเมตร เป็นข้อบ่งชี้ถึงอันตรายจากโลกร้อน ในหน้าร้อนปีนี้

นอกจากนี้มีข่าวอีกหลายกระแสแจ้งว่า นำแข็งที่ขั้วโลกเหนือ อาจจะละลายหมดภายในฤดูร้อนของปีนี้อีกด้วย ซึ่งน่าห่วงเข้าไปใหญ่ว่า สภาวะอากาศจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงอย่างแน่นอน


ดังนั้นไทยเองในชนบทหลายแห่งยังเร่งเผานา เผาป่าอยู่ ก็ยิ่งเร่งการเกิดภาวะโลกร้อนให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ

ทำอย่างไรจึงจะเร่งให้ความเข้าใจกับพี่น้องคนไทยในวงกว้างกันได้