ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ท่าน ไม่เชื่อสัจจะ
ท่าน ไม่มีสัจจะ
แล้ว ท่านจะรอดพ้นกรรม...ได้อย่างไร !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เชื่อ...เมื่อสาย
ก็....พินาศไปหลาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ค้นพบสายแร่ทองคำจำนวนมากในประเทศไทย



​

ในขณะที่

 

ไทยพบบ่อน้ำมันแหล่งใหญ่ที่เพชรบูรณ์ ​

​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไทยผลิตน้ำมัน 2 แสนบาร์เรล/วัน แซงบรูไน หลังพบแหล่งใหญ่ที่เพชรบูรณ์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 เมษายน 2551 11:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
ไทยพบบ่อน้ำมันแหล่งใหญ่ที่เพชรบูรณ์ เขต พื้นที่ภูเขาไฟ 1 หมื่นบาร์เรล/วัน รวมตัวเลขผลิตน้ำมันได้เองสูงถึง 2 แสนบาร์เรล/วัน แซงหน้าปริมาณการส่งออกของบรูไนแล้ว​

วันนี้(2 เม.ย.) นายทรงภพ พลจันทร์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า จากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นและจาก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม ทำให้ประเทศไทยผลิตน้ำมันและคอนเดนเสตเพิ่มขึ้น เป็น 200,000 บาร์เรลต่อวัน แซงหน้าปริมาณการส่งออกของบรูไนแล้ว ทำให้ประเทศไทยพึ่งพาพลังงานจากแหล่งในประเทศเพิ่มขึ้น​

ล่าสุดได้รับแจ้งจากบริษัทแพนโอเรียนท์ เจ้าของสัมปทานแหล่งนาสนุ่น อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ว่า ได้ผลิตน้ำมันเพิ่มเป็น 10,000 บาร์เรล/วัน ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยผลิตเพียง 800 บาร์เรลเท่านั้น​

ทั้งนี้ คาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 20,000 บาร์เรล ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า โดยนับว่าเป็นการพบสำรองน้ำมันจากแหล่งหินภูเขาไฟครั้งแรกของไทย ซึ่งมีการกักเก็บน้ำมันในแอ่งหินระดับความลึก 100 เมตร ขณะที่แหล่งอรุโณทัย จังหวัดสุโขทัยได้มีการทดสอบอัตราไหลก็พบน้ำมัน 1,000-2,000 บาร์เรล/วัน คาดว่าจะสามารถเตรียมผลิตปิโตรเลียมได้เร็ว ๆ นี้ ส่วนแหล่งอื่น ๆ ก็มีความคืบหน้าในการผลิตอย่างต่อเนื่อง เช่น แหล่งสิริกิติ์ แหล่งนางนวล​

นายทรงภพ กล่าวว่า ในการจัดหาแหล่งพลังงานในประเทศและเพื่อนบ้านเพื่อความมั่นคงนั้น ล่าสุดกระทรวงพลังงานได้หารือกับกรมการพลังงานทหารเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำมันฝาง แนวโน้มเบื้องต้นอาจจะมีการนำมาเปิดประมูลให้เอกชนเข้าไปขุดเจาะสำรวจ ประกอบด้วย แอ่งเชียงใหม่ แอ่งลำปาง แอ่งแพร่ แอ่งพะเยา-เชียงราย ส่วนการพัฒนาพื้นที่คาบเกี่ยวไทย-กัมพูชา ที่รัฐบาล 2 ประเทศเร่งรัดให้เจรจานั้น คณะทำงานของ 2 ประเทศ จะประชุมร่วมในวันที่ 21 เม.ย.นี้ ซึ่งจะสร้างความชัดเจนในการปักปันเขตแดนและการกำหนดแนวทางพัฒนาร่วมกัน หากได้ข้อสรุปโดยเร็วก็จะเป็นประโยชน์ต่อ 2 ประเทศเร็วขึ้น​

ที่มา http://www.manager.co.th/Home/Default.html​

 

- คุณ หนุมาน -
หมู่นี้ทำอะไรก็รู้สึกว่า คำว่าสัจจะ มันจะมาในใจอยู่เรื่อย

ดูข่าว -- โอ้โห... เตะกันแล้วโกหกหน้าตาย
หนำซ้ำ ... รัฐบาล ร่วมกัน ถือหาง คนโกหก

-- ไม่อยากจะนึกเลย -- เมืองไทยแย่แล้ว --

 

คำทำนายในคัมภีร์ไบเบิล ที่เกี่ยวกับ ไทย ​

​

A sound of terrors is in his ears : in prosperity the destroyer shall come upon him. ​

ตีความได้ว่า ผู้เขียน ใช้คำว่า "him" แทนคำว่า "Thailand" หรือหมายถึงประเทศไทยนั่นเอง ส่วน terror แปลว่า ความน่าเกรงขาม แต่เติม s ด้วย จึงหมายถึง มีความน่าเกรงขาม (น่ากลัว) หลายอย่าง

prosperity = ความมั่งคั่ง
​

เพราะฉะนั้น ประโยคข้างบน จึงแปลได้ว่า "ประเทศไทยจะได้ยินเสียงแห่งความน่าเกรงขามที่หูของเขา : และเพราะความมั่งคั่งจะทำให้มีพวกทำลาย (destroyer) มายังประเทศไทย" ​

ตีความได้ว่า : "ในอนาคตคนในประเทศไทยจะต้องพบกับความสพรึงกลัว หลังจากที่ประเทศไทยพบกับความมั่งคั่ง (ในอนาคตไทยจะเจอทองคำ น้ำมัน เพชรนิลจินดามากมาย เรียกได้ว่ามีทรัพยากรธรรมชาติผุดขึ้นมาให้เห็นมากมาย แล้วต่างชาติก็จะส่งกองทหารเข้ามายึดเอาเป็นของตนเอง" ​

คำทำนายนี้บังเอิญสอดคล้องกับคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วย! ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2549 ​

โดยคุณปั้น วันที่ 02-11-2005 10:43:00 ​

ที่มา
http://www.buddhapoem.com​

หมายเหตุ

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2549 ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ใดๆ ตามคำทำนายในคัมภีร์ไบเบิ้ล เนื่องจากวันเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มันสามารถที่จะเลื่อนออกไปได้ ด้วยเพราะบารมีธรรมของพระอริยะเจ้าหลายๆ ท่านได้ช่วยกันชลอ เหตุการณ์นี้เอาไว้

แต่เท่าที่ผมดูจากสถานะการณ์ในปัจจุบันนี้ มีเหตุและปัจจัยหลายอย่าง บ่งชี้ว่าคำทำนายนี้ใกล้จะเป็นความจริงแล้ว ด้วยเพราะเริ่มมีการค้นพบแหล่งน้ำมันและทองคำจำนวนมากในประเทศไทยแล้ว รวมทั้งประเทศไทยก็เป็นผู้ผลิตข้าวส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย

จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย ต้องการเข้ามาครอบครองประเทศไทย ในช่วงที่ประกาศทำสงครามกันอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีความจำเป็นมาก ที่จะต้องหาประเทศที่แหล่งเสบียงอาหาร แหล่งน้ำมัน เอาไว้เป็นยุทธปัจจัยที่สำคัญในการทำสงคราม ซึ่งก็หมายถึงประเทศไทยนั่นเอง

 

คัมภีร์ไบเบิล มีคำว่าเพชรซาอุไหม เห็นหากันอยู่นานแล้วยังไม่เจอ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ถ้าเจอจะได้คืนเจ้าของเขาไป จะได้จบเรื่องยุ่งๆสักที

 

*** การกระทำ กำหนดชะตาลิขิต ****

สัจจะ...จะทำให้ประเทศชาติ รอดพ้นกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ทำเสียก่อนไม่ได้ทำ ****

กระซิบบอกคนใกล้ตัว...
" สัจจะ ที่ทำได้จะพารอดพ้นกรรม "

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

วันนี้ ได้มีโอกาสไปกราบหลวงพี่สมปองที่บ้านสบายใจ มีการบวงสรวงบูชาคุณพระรัตนตรัย ซึ่งหลังจากบวงสรวงแล้ว หลวงพี่ท่านได้เมตตาเล่าบอกว่า พระท่านให้มาบอกให้บวงสรวงป้องกันอัคคีภัย โดยใช้ไก่ต้มวางบนกระดาษสีแดง ทำกลางแจ้งโต๊ะปูด้วยผ้าขาว จะจุดธูปกี่ดอกก็แล้วแต่ แล้วก็บวงสรวง (เปิดเทปหลวงพ่อก็ได้) แล้วขอให้คุณพระ พรหม โดยเฉพาะท่านท้าวมหาชมภู เทวดา-นางฟ้า ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ได้โปรดเมตตาป้องกันอัคคีภัยในบริเวณที่พักอาศัยด้วย (หลวงพี่ท่านบอกว่า เวลาอย่าขอแค่บ้านเราบ้านเดียว ให้ขอเป็นบริเวณรอบบ้านให้ปลอดภัยด้วย) หลวงพี่บอกว่า พระท่านบอกมา ว่าปีนนี้เป็นปีแห่งอัคคี ไฟจะแรง

 

*** กรรม ****

ประเทศเรา...จะเหมือนลูกตะกร้อ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** โลกุตตระภูมิ ****

ขอบคุณ...ผู้ไม่ลืม สัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

โมทนาครับ

 

ประกาศ เชิญเที่ยวสงกรานต์ให้สนุก ไม่มีอะไรที่ให้วิตก และก็เตรียมรับบุญงานวิสาขบูชา สบายใจได้

 

*** หิมาลัย ****

เมื่อ...การงัดข้อ ที่หิมาลัย ใกล้สิ้นสุด
มีฝ่ายหนึ่ง....อ่อนล้า
อีกฝ่าย...ยังมีแรง มีออมไว้
การขยับ....เริ่มรุนแรง
ปฐพี...จะเคลื่อนลั่น
กาขาว....จะบินมาเต็มถิ่น
น้ำแข็ง น้ำฝน น้ำบนดิน...จากหิมาลัย และจีน
จะซัดกวาด...ลง แม่โขง สะโตง สาระวิน
แม่โขง....รองรับน้ำได้
แต่...ไม่สะดวก จึงล้นฝั่ง
ล้นแผ่นดิน....ถิ่นที่นกเท่ากา ตัวสีขาวหนีหลบมา
ยามนั้น...คนเหนือให้ระวัง ต้องขึ้นเขาสูง
คนอีสาน....ใกล้บึง ใกล้ทะสาปน้ำจืดโบราณ
ให้ระวัง...น้ำโขงจะรินไหลมาถึง
ภาคกลาง....น้ำจะท่วมยาวนานเป็นเกาะแก่ง

ชีวิต ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ...ขอให้มีสัจจะปฏิบัติตน


" หนุมาน ผู้นำสาร " 25-01-2008, 06:08 AM
​

 

การพลิกกลับขั้วของแม่เหล็กโลก
จากคำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล​

​

โลกกำลังจะพลิกตัวลงไปทางใต้ แล้วกลับขึ้นไปใหม่ ขั้ว S กลับเป็น N ใข้เวลาราว 2 เดือน ตามรหัส 49+7=56 วัน ซึ่งจะทำให้เกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้​

1.แนวแกนหมุนของโลกทำมุมกับแนวดิ่ง 32 องศา (เอียงเพิ่มอีก 8.5 องศาจากเดิม 23.5 องศา) ทาง NE*
2.แนวแกนแม่เหล็กโลก จะย้ายไปอีก 3 องศา (เดิม 11 องศา) + 3 องศา
3.ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็ก จะยกตัวสูงขึ้น 60,000 กิโลเมตร
4.น้ำหนักมวลบนผิวโลกจะลดลง
5.ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนเป็น 22 เกาส์ (จากเดิม 14 เกาส์)
6.โลกจะหมุนเร็วขึ้นจาก 24 ชั่วโมง เป็น 22 ชั่วโมง ต่อรอบ​

​

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=3906&page=146

บทบาทของสนามแม่เหล็กโลกต่อสุขภาพ
โดย น.พ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล​

คนเราไม่รู้จักความสำคัญของสนามแม่เหล็ก จนกระทั้งนักบินอวกาศทั้งสหรัฐ และรัสเซีย เกิดอาการอ่อนเพลียปวดเมื่อยตัวมึนหัว เมื่อทำงานอยู่ในอวกาศ นานๆ จนในที่สุดองค์การนาซ่า จึงต้องสร้างสนามแม่เหล็กเทียมขึ้นในสถานีอวกาศ โดยให้สนามแม่เหล็กดังกล่าวมีความถี่ที่ 76 ครั้ง/วินาที ซึ่งเท่ากับ สนามแม่เหล็กโลก

 

<TABLE cellSpacing=0 align=center border=1><TBODY><TR><TH width=85>วันที่</TH><TH width=45>เวลา</TH><TH width=55>latitude</TH><TH width=55>longitude</TH><TH width=45>ขนาด</TH><TH width=125>บริเวณที่เกิด</TH><TH width=175>ข้อมูลอื่น ๆ</TH></TR><TR><TD align=middle>05-04-2551</TD><TD align=middle>14:57:16</TD><TD align=middle>19.539</TD><TD align=middle>97.826</TD><TD align=middle>4.6</TD><TD align=left>พรมแดนพม่าไทย</TD><TD align=left>- ห่างจากด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.แม่ฮ่องสอน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 29 กม.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ช่วง ปีใหม่ไทย ระวัง ในทุกๆด้าน ด้วยครับ เพื่อความไม่ประมาท การเดินทาง ยานพาหนะ ข้าวของเครื่องใช้ ยารักษาโรค

 

อ้างอิงข้อความดั้งเดิมของคุณ หนุมาน ผู้นำสาร​

เมื่อ...การงัดข้อ ที่หิมาลัย ใกล้สิ้นสุด
มีฝ่ายหนึ่ง....อ่อนล้า
อีกฝ่าย...ยังมีแรง มีออมไว้
การขยับ....เริ่มรุนแรง
ปฐพี...จะเคลื่อนลั่น​

ภูเขาเกิดขึ้นได้หลายกระบวนการ แต่ละกระบวนการใช้เวลานานมาก ภูเขาบางแห่งเกิดขึ้นจาก การเคลื่อนที่ชนกันของแผ่นเปลือกโลก เช่น ภูเขาหิมาลัย ซึ่งอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศอินเดีย เกิดขึ้นจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกอินเดียกับแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย

​

รูปภาพแสดงอัตราการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกอินเดียลงไปใต้แผ่นเปลือกโลกยูโรเซีย ​

ที่มา http://www.vcharkarn.com/varticle/18518/2

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หวั่นเอเชียใต้-อาคเนย์ลุกเป็นไฟแย่งข้าว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 เมษายน 2551 07:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 4 เม.ย.2551 ชาวฟิลิปปินส์ครอบครัวหนึ่งพากันนำถุงข้าวสารกลับบ้านชานกรุงมะนิลา รถทหารบรรทุกข้าวถุงที่ซื้อจากเวียดนามและสหรัฐฯ ออกจำหน่ายให้แก่ประชาชนโดยตรงท่ามกลางความวิตกว่าการขาดแคลนอาจจะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในประเทศ (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้จัดการรายวัน— เจ้าหน้าที่ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบีได้แสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ขาดแคลนข้าวในประเทศเอเชียใต้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การความจัดแย้งทางสังคมที่อันตราย เช่นเดียวกับที่ความขัดแย้งทางศาสนาเคยทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นในประเทศเหล่านี้

เอดีบีได้ออกรายงานตัวเลขปลายสัปดาห์ที่แล้วระบุว่าปัจจุบันปริมาณข้าวสำรองทั่วโลกได้ลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี และ ราคาข้าวในประเทศไทยได้พุ่งขึ้นเป็น 580 ดอลลาร์ต่อตันในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

จีนและอินเดียซึ่งมีประชากรรวมกันเกือบ 3,000 ล้านคน เป็นตลาดบริโภคข้าวขนาดใหญ่ที่สุด ที่อื่นๆ ในเอเชียไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ปากีสถาน บังกลาเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย ซึ่งมีประชากรตั้งแต่หลายสิบจนถึงหลายร้อยล้านล้วนบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ไม่ต่างกับตุรกีและอิหร่านที่อยู่ไกลออกไป

ราคาข้าวในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นย่อมทำให้ประชากรในประเทศต่างๆ เหล่านี้ตกอยู่ในภาวะยากลำบากอย่างสาหัส คนนับร้อยล้านในหลายประเทศอาจจะตกอยู่ในภาวะอดอยากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และ ตลาดโลกยังมีข่าวร้ายอย่างต่อเนื่อง

ไม่เพียงแต่ไทยกับเวียดนาม ซึ่งเป็นสองประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดเท่านั้นที่เตรียมมาตรการบังคับใช้สร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านอาหารในประเทศ ประเทศผู้ผลิตข้าวใหญ่น้อย รวมทั้งกัมพูชาและอินโดนีเซีย ต่างมีมาตรการเคร่งครัดด้านอาหาร

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 4 เม.ย.2551 คนงานช่วยกันบรรจุข้าวลงถุงที่โกดังเก็บขององค์การอาหารแห่งชาติในกรุงมะนิลาเพื่อจำหน่ายโดยตรงให้แก่ประชาชน ข้าวทั้งหมดนำเข้าจากสหรัฐฯ และเวียดนาม (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้สั่งการวันที่ 26 มี.ค.ห้ามส่งออกข้าวเป็นเวลา 2 เดือน อินโดนีเซียเก็บภาษีส่งออกสูงลิ่ว และอินเดียให้ส่งออกได้เฉพาะข้าวมาสบาติ ซึ่งเป็นข้าวหอมคุณภาพดีราคาแพง ขณะเดียวกันก็ตั้งราคาส่งออกข้าวคุณภาพต่ำเอาไว้สูงมาก

สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟิลิปปินส์ที่มีประชากร 58 ล้านคน เป็นประเทศที่น่าวิตกที่สุด เนื่องจากต้องนำเข้าข้าวปีละ 2 ล้านตันประจำทุกปี การที่ข้าวราคาแพงขึ้นและหาซื้อยากขึ้นนับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ปัจจุบันประชากรราว 10 ล้านคนในประเทศกำลังขาดแคลนข้าวบริโภค

สัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen an Dung) ได้สั่งการให้กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ห้ามมีการทำสัญญาซื้อขายข้าวกับลูกค้าในต่างแดนตลอดเวลา 3 เดือนข้างหน้าจนถึงเดือน มิ.ย.

ผู้นำเวียดนามยังสั่งการให้ปรับเป้าส่งออกปีนี้ลงเหลือเพียง 3.5-4 ล้านตันเท่านั้น จากเป้าเดิม 4.5 ล้านตัน เพื่อเสริมความมั่นคงด้านอาหารในประเทศ หนังสือพิมพ์เตี่ยนฟง (Tien Phong) หรือ "ผู้บุกเบิก" กล่าว

มาตรการของเวียดนามซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศไทย มีขึ้นในขณะที่ข้าวกำลังเป็นที่ต้องการของนานาประเทศและราคาแพงมาก การลดเป้าส่งออกเท่ากับว่า ข้าวกำลังจะหายไปจากตลาดโลกอีกราว 1 ล้านตันเป็นอย่างน้อย

ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งได้สูงขึ้น 3 เท่าตัวเป็นอย่างน้อยเทียบกับราคาในช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ราคาเสนอขายของข้าวเวียดนามซึ่งเคยเป็นข้าวราคาถูกที่สุดก็เพิ่มขึ้นราว 53% ในช่วงเดือน ม.ค. จนถึงต้น มี.ค.ที่ผ่านมา

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 3 เม.ย. คนงานกำลังขนกระสอบข้าวเข้าเก็บที่โกดังแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่นำเข้าข้าวทุกปี ส่วนใหญ่ซื้อจากเวียดนาม ปีนี้ลำบากมากขึ้นหลังจากประเทศผู้ส่งออกจำกัดปริมาณเพื่อเอาไว้บริโภคในประเทศให้เพียงพอ (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. ปีนี้ เวียดนามส่งออกข้าวเพียง 381,000 ตัน ทั้งหมดจำหน่ายให้แก่ฟิลิปปินส์ ทำรายได้ 150 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47% ในเชิงปริมาณ และ 78% ในเชิงรายได้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550

นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า ข้าวชนิดพื้นฐานของประเทศปีนี้อาจจะได้ราคาสูงถึง 570 ดอลลาร์ต่อตัน แต่ในประเทศก็กำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างรุนแรงและข้าวในตลาดราคาแพงขึ้นมากสำหรับประชากร 85 ล้าน

ในขณะเดียวกันชาวนาในเวียดนามกลับจะไม่ได้อะไรมากนัก เนื่องจากต้นทุนในการทำนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปุ๋ยกับยาปราบแมลงกับวัชพืชราคาสูงขึ้นหลายเท่า

ตามสถิติที่เก็บจาก จ.เตียนยาง (Tien Giang) ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดอู่ข้าวอู่น้ำในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ปัจจุบันราคาปุ๋ยเอ็นพีเค (NPK) ขนาดบรรจุกระสอบละ 50 กก.ได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว และราคาปุ๋ยยูเรียขึ้นถึง 3.7 เท่าตัว

ปุ๋ยสูตรเร่งรวงและเมล็ดราคาเพิ่มขึ้นถึง 6.5 เท่าตัว ขณะที่ราคายาปราบศัตรูข้าวพุ่งขึ้นราว 2.3 เท่า

ไม่เพียงแต่ราคาปุ๋ยกับสารเคมีที่แพงขึ้นเท่านั้น ชาวนายังต้องจ่ายแพงขึ้นอีก 1 เท่าตัวสำหรับจ้างคนงานในช่วงปักดำและเก็บเกี่ยวจากวันละ 35,000 เป็น 70,000 ด่ง (อัตราแลกเปลี่ยน 15,960 ด่งต่อดอลลาร์) ที่นั่นผลิตข้าวได้เฉลี่ย7.5 ตันต่อเฮกตาร์ (6.25 ไร่)

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 4 เม.ย. 2551 ชาวนากำลังหว่านปุ๋ยในนาข้าวที่เมืองไท๊จี (Tai Kyi) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางเหนือ 90 กม. รัฐมนตรีศรีลังกากำลังจะเดินทางเข้าพม่าในสัปดาห์นี้ เพื่อเจรจาขอซื้อข้าวราว 100,000 ตัน ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าอาจจะเกิดการจลาจลขึ้นในประเทศแถบนี้ในยุคข้าวยากหมากแพง (ภาพ: AFP)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ถ้าหากคิดคำนวณต้นทุนใหม่เทียบกับราคาข้าวเปลือกที่จำหน่ายได้ 3,400-3,700 ด่ง ต่อ กก.ชาวนาในภาคใต้เวียดนามขาดทุนย่อยยับ ซึ่งเป็นปัญหาใหม่ในยุคที่ข้าวเวียดนามในตลาดโลกมีราคาแพงมากขึ้น เตี่ยนฟงกล่าว

ใน จ.ซ๊อกจาง (Soc Trang) ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ชาวนากำลังมีในฐานะลำบากเนื่องจากต้นทุนในการปลูกข้าวที่สูงขึ้นหลายเท่าตัว ขณะที่ผลิตข้าวได้ 6.5-8 ตันต่อเฮกตาร์ สื่อของทางการกล่าว

เมื่อต้นปีองค์การอาหารและการเกษตรโลก (Food and Agriculture Organization) หรือ FAO ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดยุคข้าวยากหมากแพงอันเนื่องจากการขาดแคลนข้าว

เมื่อเดือนที่แล้วสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (International Rice Research Institute) ก็ได้ออกเตือนเกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดวิกฤติการณ์จากข้าว.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>