เพื่อการกุศล หลวงปู่ทวด วัดแค(ราชานุวาส) อยุธยา

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย kea.99999, 19 มกราคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    [​IMG] ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ให้รับทราบโดยทั่วกัน[​IMG]


    กำหนดการ เททองหล่อ หลวงปู่ทวด ปางธุดงค์ส่วนฐานส่วน สุดท้ายขององค์หลวงพ่อทวดองค์ประวัติศาสตร์


    ณ โรงหล่อปฏิมาประทีป


    ต.ปากบาง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา


    วันศุกร์ที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๒ แรม ๑๐ ค่ำเดือน๔


    เวลา ๐๘.๕๙ น.


    ..จึงขอเรียนเชิญศิษยานุศิษย์ และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านมาร่วมในงาน


    บุญงานกุศลครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน..


    เจ้าอาวาสวัดเเค
    โทร 0894141538
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  2. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    ตื่นตะลึงเมื่อคนเห็นผีไปวัดเเค!!
    [​IMG]

    [​IMG]
    เรื่องมีอยู่ว่าขณะที่ขึ้นเรือนั้นผม พ่อ เเม่ และหมอเปี๊ยก ดร.นัทมน ขึ้นเรือมีคนโดยสารเเค่สี่คนเท่านั้นเหตุการณ์ดูเหมือนจะธรรมดาเเสนธรรมดาเเต่เมื่อเราเอาบุญจะกลับออกจากวัดจะข้ามฝั่งเรือโดยสารคันเดิมมารับเราทั้งสี่คนเมื่อขึ้นเรือเเล้วกลับไม่ยอมสตาร์ดเครื่องเเละคนเดินเรือกลับบอกคณะเราว่า พี่ครับเเล้วอีกคนที่มาด้วยไม่กลับเหรอครับ ตอนเเรกนึกว่าคนเดินเรือล้อพวกเราเล่นเเต่เขายืนยันว่า พี่ครับตอนพี่ขึ้นเรือกันผมเห็นคนโดยสารทั้งหมดห้าคน เเละคนที่ไม่ได้ขึ้นมาขากลับหนะเขาเเก่เเล้วนะพี่ผมยังเห็นอยู่เลยว่าเขาใส่ชุดดำสูงโปร่งผมหงอกเเล้วหละพี่ เราเลยถามว่า ล้อเล่นรึเปล่า เขายืนยันจริงๆว่าเห็น

    ตกลง คนเดินเรือเห็นผี สงสัยผีเขารู้ว่าเรามาเอาบุญกับหลวงพ่อทวดเลยตามมานั่นเอง

    เเปลกเเต่จริง บุญใหญ่ สร้างหลวงพ่อทวด

    สาธุ สาธุอนุโมทามิ[​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  3. kea.99999

    kea.99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,297
    เอารูปมาให้ดูเล่นกันเพลินๆ

    DSCF0006-2.jpg DSCF0007-2.jpg
     
  4. kea.99999

    kea.99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,297
    "พระราชมุนสามีรามคุณูปมาจารย์"(หลวงปู่ทวด) วัดแคราชานุวาส ก่อนจะเป็นตำนาน

    DSCF0133.jpg DSCF0134.jpg
     
  5. kea.99999

    kea.99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,297
    ประวัติหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

    วัดพะโคะ

    (สมเด็จเจ้าพะโคะ)


    (พระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธานุภาพ และอิทธิฤทธิ์ด้านปาฏิหาริย์)


    ชื่อของหลวงปู่ทวดที่ประชาชนทั่วไปเรียกตามประวัติมี 6 ชื่อคือชื่อ “ปู” เป็นชื่อที่บิดามารดาตั้งขึ้นเมื่อเกิดใหม่ๆ , ชื่อ สามีราม เป็นชื่อตามฉายาทางศาสนาเมื่อท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุ พระอุปัชฌาย์ให้ชื่อฉายาว่า สามีราโม , ชื่อ สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ เป็นชื่อพระราชทานสมณศักดิ์ เมื่อครั้งแก้ปริศนาธรรมชนะแก่พราหมณ์ทูตเมืองลังกา , ชื่อ สมเด็จเจ้าพะโคะ เมื่อท่านได้รับสมณศักดิ์ชั้นสมเด็จแล้วท่านมาบูรณปฏิสังขรณ์และจำวัดณวัดพะโคะ จึงเรียกสมเด็จเจ้าพะโคะ , ชื่อ ท่านลังกา บ้านสวนนายปัจจุบันอยู่ติดทางทิศใต้ของวัดพะโคะ เดิมเป็น หัวเมืองเรียกว่า เมืองลังกาพะโคะหรือลังกาชาติ เมื่อท่านจาริกธุดงค์ไปสถานที่ต่างๆชาวบ้านเรียกว่าท่านลังกา ชื่อ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เรียกย่อว่า หลวงพ่อทวด เพราะท่านเป็นพระที่สำคัญทางจิตสูง มีปาฏิหาริย์ ศักดิ์สิทธิ์ สามารถทำน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืดได้
    กล่าวกันว่าสมเด็จเจ้าพะโคะองค์นี้ในปลายกัปปัจจุบันจะได้มาตรัสรู้เป็นองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระศรีอริยะเมตตรัย ในยุคศาสนาพระศรีอริยะ เมตตรัยบ้านเมืองจะอยู่เย็นเป็นสุข ผู้คนจะอายุยืนทุกคนจะตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มนุษย์จะมีหน้าตารูปร่างผิวพรรณและภาษาคล้ายคลึงกัน จะมีต้นกัลปพฤกษ์ทุกมุมเมือง ความเดือดร้อนของหมู่มนุษย์จะไม่มีในยุคนั้น
    ซึ่งจะได้กล่าวถึงประวัติสมเด็จเจ้าพะโคะดังนี้ มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ชื่อนายหู นางจัน เป็นคนยากจนแต่ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม เมื่อถึงวันพระก็จะเข้าวัดทำบุญ ทำทานสมาทานศีล และฟังพระธรรมเทศนาเป็นประจำ นายหูกับนางจันปลูกบ้านเรือนอยู่ในที่ดินของเศรษฐีปานเจ้าของสวนจันทร์ ปัจจุบันชื่อว่าบ้านเลียบ หมู่ที่ 1 ตำบลดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เศรษฐีปานผู้นี้มีข้าทาสและลูกหนี้ชายหญิงมากมาย และนายหูกับนางจันก็เป็นลูกหนี้ของเศรษฐีปานด้วย ต่อมาจันได้คลอดบุตรชายคนหนึ่ง เมื่อวันศุกร์ เดือน 5 ปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ.2125 ในวันที่ถึงกำหนดคลอดนั้นได้เกิดแผ่นดินไหวอันเป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง นายหู ผู้เป็นบิดาได้เอารกของบุตรชายไปฝังไว้ที่ใต้ต้นเลียบ ซึ่งอยู่ใกล้สวนจันทร์ของเศรษฐีปาน ซึ่งต้นเลียบนั้นได้เจริญงอกงามจนปัจจุบันนี้ มีลำต้นใหญ่มาก ประชาชนถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเลียบ ซึ่ง ต้นเลียบใหญ่นั้นวัดโดยรอบประมาณ 13 เมตร(อยู่ในบริเวณบ้านสวนจันทร์ในอดีต) ปัจจุบันอยู่ในบริเวณบ้านเลียบ ซึ่งอยู่ทางทิศอาคเนย์ของวัดพะโคะ ระยะทางประมาณ 2 กม. อายุต้นเลียบ 425 ปีกว่า บัดนี้เป็นที่อยู่สำนักสงฆ์ต้นเลียบ สร้างพระพุทธรูปปางต่างๆ และรูปจำลองของสมเด็จเจ้าพะโคะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สักการบูชาได้ศึกษาประวัติความเป็นมา
    ครั้งนั้นเป็นเทศกาลเดือน 4 อันเป็นฤดูเกี่ยวข้าวเศรษฐีปานจึงเร่งรัดข้าทาสชายหญิง และลูกหนี้ให้ไปเกี่ยวข้าวในนา ในจำนวนนี้มีนางจันที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ๆ ถูกรบเร้าให้ไปเกี่ยวข้าวด้วย นางจันได้ขอผัดเอาไว้ แต่เศรษฐีปานไม่ยอมยกเว้นยังคงเร่งรัดให้นางจันไปเกี่ยวข้าวให้ได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการชดเชยกับการชำระหนี้นางจันจึงยอมออกไปเกี่ยวข้าวให้เศรษฐีปานในวันต่อมา ในกาลนี้นางจันได้พาบุตรน้อยซึ่งเพิ่งคลอดได้ไม่กี่วันไปด้วย ระหว่างที่ออกไปเกี่ยวข้าวในนาพร้อมๆ กับลูกจ้างของเศรษฐีปานนั้น นางจันได้ให้บุตรของนางอยู่ในแปลซึ่งมีผ้าผูกขึงระหว่างต้นไม้ใหญ่ ครั้นเกี่ยวไปได้เวลาพอสมควรนางจันก็ขึ้นจากนามาที่บุตรเพื่อให้กินนม ทันใดนั้นนางก็ได้เห็นงูใหญ่ ขนาดเท่าต้นหมากนอนขดอยู่รอบๆเปล ที่บุตรของนางนอนอยู่ นางตกใจเป็นอันมากก็ได้ตะโกนให้คนทั้งหลายมาช่วย แต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยได้ ในที่สุดนางคิดได้จึงนั่งลงพนมมือไหว้ระลึกถึงคุณบิดามารดา คุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ให้ช่วยคุ้มครองบุตรน้อยของนาง ซึ่งจากการอธิฐานจิตของนางได้ผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะในบัดดลนั้นเองงูใหญ่ได้เลื้อยจากไป และนางได้เห็นดวงแก้วขนาดใหญ่เท่าไข่นกพิราบวางอยู่ในฝ่ามือของบุตรน้อย เพื่อนบ้านทุกคนที่ไปดูอยู่ด้วยต่างก็เห็นเป็นดวงแก้วมีสีเป็นประกายแวววาว ส่วนเศรษฐีปานนั้นเมื่อเห็นดวงแก้วอันเป็นสิ่งประหลาดก็มีความอยากได้เป็นอย่างมาก จึงเฝ้าวิงวอนขอดวงแก้วอันนั้นจากนางจัน โดยยินยอมยกที่นาและข้าวในนาให้เป็นการแลกเปลี่ยน ตอนแรกนางไม่ยินยอมเพราะดวงแก้วนั้นเป็นของบุตรชายของตน แต่เศรษฐีปานก็ไม่ละความพยายาม เฝ้าวิงวอนอยู่เรื่อยมาๆ และยังเพิ่มทรัพย์สินเงินทองให้นางจันอีกมากมาย ในที่สุดนางจันก็รู้สึกเกรงใจเศรษฐีปาน ในฐานะที่เคยเป็นลูกหนี้มาก่อนจึงได้มอบดวงแก้วให้ไป เมื่อนางจันกลับมาถึงบ้านได้เล่าเหตุการณที่เกิดขึ้นให้นายหูสามีฟัง นายหูเสียใจมากที่ดวงแก้วของบุตรชายตกไปอยู่กับเศรษฐีปาน จึงขอร้องให้นางจันไปขอดวงแก้วนั้นคืน
    ฝ่ายเศรษฐีปานเมื่อได้รับแก้ววิเศษไปแล้ว ปรากฏว่าทั้งบุตรและภรรยาได้เกิดล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน ส่วนเศรษฐีปานเองเมื่อนอนหลับฝันเห็นเป็นลางร้ายว่าจะต้องตายกันทั้งครอบครัว เศรษฐีปานตกใจกลัวเป็นอันมาก จึงได้นำเอาแก้ววิเศษพร้อมด้วยทรัพย์สินเงินทองมาทำขวัญให้แก่บุตรชายของนางจัน และขอขมาต่อบุตรชายที่ได้ทำการล่วงเกิน ส่วนที่ดิน นา และข้าวในนาที่มอบให้แล้วไม่เอากลับคืนได้มอบแก่บุตรชายของนางด้วย เพราะขณะนั้นเศรษฐีปานได้เกิดศรัทธาในตัวบุตรชายของนางจันแล้ว ดังนั้นฐานะความเป็นอยู่ของนายหูนางจันจึงได้พ้นจากความยากจนขึ้นมาทันที ทั้งนี้เพราะบารมีของบุตรชาย
    บุตรชายคนนี้ต่อมามีนามว่า ปู เมื่อเด็กชายปูมีอายุได้ 7 ขวบ บิดาได้นำไปฝากไว้กับท่านสมภารจวงวัดกุฎีหลวง (วัดดีหลวง)เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือ เด็กชายปูมีความเฉลียวฉลาดมาก สามารถเรียนทั้งหนังสือขอมและไทยได้อย่างรวดเร็ว ครั้นอายุได้ 15 ปี สมภารจวงก็บวชสามเณรให้ พร้อมกันนั้นนายหูผู้บิดาได้มอบแก้ววิเศษไว้เป็นของประจำตัวด้วย ต่อมาสมเณรปูได้ไปศึกษาต่อกับสมเด็จพระชินเสนที่วัดสีหยัง(สีคูยัง) ซึ่งพระชินเสนองค์นี้เป็นอาจารย์ที่เชี่ยวชาญมีชื่อเสียงมาจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อสามเณรปูเรียนธรรมบททศชาติมูลบทบรรพกิจจบแล้ว จึงได้เดินทางไปศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราช ครั้นอายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ ขุนลกก็นำสามเณรปูไปสู่สำนักพระมหาเถระปิยะทัสสี เพื่อขออุปสมบทเป็นภิกษุ เนื่องจากเวลานั้นที่วัดท่าแพยังไม่มี พัทธสีมาขุนลกจึงได้จัดเรือมาดตะเคียนลำหนึ่ง เรือมาดพะยอมลำหนึ่ง เรือมาดยางลำหนึ่ง เอามาผูกขนานกันที่คลองที่เรือ ซึ่งอยู่กับวัดท่าแพ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อใช้เป็นที่อุปสมบทแก่สามเณรปู ขุนลกและญาติพี่น้องทั้งหลายได้มาร่วมในพิธีอุปสมบทโดยพร้อมเพรียงกันในพิธีอุปสมบทสามเณรปูมีพระมหาปิยะทัสสีเป็นพระอุปัชฌายะ พระมหาพุทธสาครเป็นพระกรรมวาจา พระมหาเถระศรีรัตนเป็นอนุกรรมวาจา สามเณรปูเมื่ออุปสมบทแล้วมีฉายาว่า สามีราโม แต่คนทั่วไปเรียกว่า เจ้าสามีราม เจ้าสามีรามได้ศึกษาที่วัดท่าแพ และวัดเสมาเมือง เมื่อเห็นว่าเพียงพอแก่การศึกษาที่เมืองนครศรีธรรมราชแล้ว จึงตั้งใจไปศึกษาต่อที่กรุงศรีอยุธยาโดยไปลงเรือที่ วัดคงคาเลียบ พอดีทราบว่ามีเรือสำเภาของนายอินชาวเมืองสทิงพระ จะไปค้าขายยังกรุงศรีอยุธยาและมาแวะที่เมืองนครศรีธรรมราชด้วยจึงขอโดยสารเรือสำเภาลำนั้นไปยังกรุงศรีอยุธยา ซึ่งนายสำเภาอินก็อนุโมทนารับนิมนต์ไปกับเรือสำเภานั้น เมื่อถึงวันเดินทางเจ้าสามีรามก็อำลา ชีต้นผู้เป็นอาจารย์และโยมทั้งหลายไปกับเรือของนายอิน ครั้นเรือสำเภาแล่นเข้าเขตหน้าเมืองชุมพร ได้บังเกิดคลื่นลมแรงทะเลปั่นป่วนเรือไม่สามารถฝ่าคลื่นลมไปได้ ต้องทอดสมออยู่ 7 วัน 7 คืน เป็นเหตุให้เสบียงอาหารรวมทั้งน้ำจืดที่อยู่ในเรือสำเภาขาดแคลนลง บรรดาลูกเรือต่างก็ตั้งข้อสงสัยกันว่า การเกิดอาเพทครั้งนี้เป็นเพราะเจ้าสามีรามโดยสารมาในเรือดังนั้นทั้งเรือสำเภาและลูกเรือต่างก็ตกปลงใจให้ส่งเจ้าสามีรามขึ้นเกาะ ดังนั้นจึงได้นิมนต์ให้เจ้าสามีรามลงเรือมาด ขณะที่เจ้าสามีรามนั่งอยู่ในเรือมาดนั้น ได้ห้อยเท้าข้างซ้ายซึ่งมีลักษณะทู่ลงในทะเล ก็บังเกิดอัศจรรย์น้ำทะเลบริเวณนั้นเป็นประกายแวววาวโชติช่วง เจ้าสามีรามจึงบอกให้ลูกเรือตักน้ำบริเวณนั้นขึ้นมาดื่ม ก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืด จึงช่วยกันตักใส่เรือไว้จนเพียงพอ ทั้งนายสำเภาอินและลูกเรือก็สำนึกในความผิดก้มลงกราบขอขมาเจ้าสามีราม และนิมนต์ขึ้นเรือสำเภาอีก และนับถือเจ้าสามีราม เป็นชีต้นหรืออาจารย์แต่นั้นมา หลังจากนั้นเรือสำเภาก็ได้แล่นเร็วเกินความคาดหมายมุ่งตรงเข้าสู่กรุงศรีอยุธยา
    ช่วงที่ศึกษาเล่าเรียนที่กรุงศรีอยุธยาได้พำนักอยู่ที่วัดแค และศึกษาธรรมะที่ วัดลุมพลีนาวาส และหลังจากนั้นได้รับนิมนต์ไปพำนักอยู่ที่วัดสมเด็จพระสังฆราช โดยได้ศึกษาธรรมและภาษาบาลีจนมีความรู้เชี่ยวชาญจึงขอลาสมเด็จพระสังฆราชไปจำพรรษาที่ วัดราชานุวาสซึ่งอยู่นอกกำแพงเมืองและสงบดี
    ประมาณ พ.ศ. 2149 กษัตริย์ประเทศลังกาคิดจะแผ่อำนาจมายังประเทศสยาม เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรสยามตอนใต้ด้วยการท้าพนันเมืองกันในการแปลธรรมะ โดยคิดว่าประเทศสยามคงจะหาผู้เชี่ยวชาญมาแปลไม่ได้ คงจะเป็นฝ่ายแพ้ แต่ในที่สุดก็มีนักปราชญ์มาจากทิศใต้ คือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สามารถแปลธรรมะครั้งนี้ได้สำเร็จรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของประเทศลังกา ซึ่งเปรียบเสมือนการทำสงครามแบบใหม่ เรียกว่า “ ธรรมยุทธ” ซึ่งการแปลปริศนาธรรมแผ่นทองคำจารึกอักขระ 7 คัมภีร์ พรหมณ์ราชทูตทั้ง 7 จึงยอมแพ้ก้มลงกราบเจ้าสามีรามด้วยความเคารพเลื่อมใสยิ่ง ชัยชนะในครั้งนี้ได้รับการโห่ร้องแสดงความยินดี ดังกึกก้องไปทั่วท้องพระลานหลวง และได้มีการตีกลองสัญญาณประโคมสังคีตดนตรีกันอย่างครื้นเครง พราหมณ์ราชทูตทั้ง 7 ได้นำเครื่องราชบรรณาการเหล่านั้นมาถวายแก่เจ้าสามีราม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าแต่งตั้งสมณศักดิ์ว่า “สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์” สมเด็จเจ้าฯไม่ยอมรับเครื่องบรรณาการ และได้ถวายคืนแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้สร้างกุฏิขึ้น 1 หลัง ถวายแก่สมเด็จเจ้าฯพร้อมกับเมืองอีกกึ่งหนึ่ง สมเด็จเจ้าพำนักอยู่ที่กุฎิหลังนั้น 3 วัน ก็ถวายกุฎิและเมืองคืนแก่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จเจ้าฯก็ไปพำนักอยู่ที่วัดราชานุวาส ซึ่งเป็นสถานที่สงบดังเดิม
    เมื่ออยู่ในช่วงระยะหนึ่ง กรุงศรีอยุธยาได้เกิดโรคห่าระบาดอย่างร้ายแรง ประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก สมเด็จเจ้าฯจึงได้ทำพิธีปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ ระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย เพ่งเอาพระบารมีที่สมเด็จเจ้าฯสร้างมาพร้อมทั้งเอาดวงแก้ววิเศษเป็นแรงอธิฐาน นำไปประพรมแก่ประชาชนในไม่ช้าก็หายจากโรคร้ายดังกล่าวไปในที่สุด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ทรงมีดำรัสว่าถ้าสมเด็จเจ้าฯประสงค์จะบูรณะวัดพะโคะ หรือวัดใดๆ พระองค์จะอุปถัมภ์ทุกประการ
    หลังจากอยู่กรุงศรีอยุธยาหลายปี ต่อไม่นานสมเด็จเจ้าฯ ได้ทูลลาสมเด็จพระสังฆราชาธิบดี และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อเดินทางกลับวัดพะโคะ ซึ่งเป็นปิตุภูมิ มาตุภูมิ ในการเดินทางกลับจาริกธุดงค์ประมาณ 3 เดือน เดินป่าผ่านแม่น้ำลำคลองแห่งหนึ่ง ไม่มีเรือแพจะข้ามสมเด็จเจ้าฯจึงแสดงปาฏิหาริย์เดินบนผืนน้ำ บรรดาสัตว์น้ำต่างก็กราบไหว้วันทาทั่วกัน ได้บิณฑบาต และเที่ยวเทศนาสั่งสอนผู้คน ที่ไหนมีผู้เจ็บไข้ได้ป่วย สมเด็จเจ้าก็ทำน้ำมนต์รักษาให้ตลอดเส้นทางที่เดินทาง
    ต่อมาสมเด็จเจ้าฯได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดพะโคะ โดยได้รับอนุโมทนา และอุปถัมภ์จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะการบูรณะพระมาลิกเจดีย์(พระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ) , พระอุโบสถ , ธรรมศาลา , พระพุทธไสยาสน์(พระพุทธโคตมะ) ฯ โดยเวลาในการดำเนินงานเป็นเวลาประมาณ 3 ปี
    สมเด็จเจ้าฯจำพรรษาอยู่ในวัดพะโคะหลายพรรษา และได้แสดงปาฏิหาริย์ มากมาย โดยเฉพาะการเหยียบน้ำทะเลเค็ม น้ำก็เป็นประกายโชติช่วงเป็นน้ำจืดเอาน้ำมาดื่มกินได้เลย
    ในช่วงวาระสุดท้ายเล่ากันว่า วันหนึ่งเป็นวันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 สมเด็จเจ้าฯได้ทำสังฆกิจ และเข้าฌานสมาบัติ และหายไปในคืนวันนั้นซึ่งเป็นวันเพ็ญ เดือน 6 ไปพร้อมกับสามเณรรูปหนึ่งซึ่งได้นำดอกมณฑาสวรรค์มากราบไหว้สมเด็จเจ้าฯ (ซึ่งต่อมาเล่าขานกันว่า สามเณรรูปนั้น คือ หลวงปู่ทิม นั่นเอง)
    หลังจากที่สมเด็จเจ้าฯหายไปจากวัดพะโคะแล้ว ก็ได้จาริกธุดงค์ไปในที่หลายแห่ง ท้องที่หรือเมืองใด ที่สมเด็จเจ้าฯเห็นว่าประชาชนมีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา สมเด็จเจ้าฯก็จะไปเผยแพร่ที่นั่น บางแห่งก็ผ่านไป บางแห่งก็พำนักอยู่หลายปีหลายเดือน
    โดยบางตำนานกล่าวว่าสมเด็จเจ้าฯได้ละสังขารขณะจาริกธุดงค์ไปที่ประเทศมาเลเซีย และพญาช้างสารได้นำพระศพเดินทางกลับแผ่นดินเกิดประเทศไทย พญาช้างสารได้หยุดที่ใดได้สร้างวัดที่นั่น ที่นั้นก็คือวัดช้างให้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ. ปัตตานี เป็นที่มาของวัดช้างให้ หรือ หลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ก็คือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด นั้นเอง
    (รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประวัติหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และวัดพะโคะ สามารถดูได้จากหนังสือของวัดพะโคะ)
    --------------------------------------------------------------------------------
    “ไม่มีใครที่ห้อยหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแล้วตายโหง”
    (เป็นคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยที่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือ คนที่เกิดอุบัติเหตุในทุกเหตุการณ์ )




    สมเด็จราชมุณีสามีรามคุณูปรมาจารย์
    สมเด็จเจ้าพะโคะ
    (หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด)
    คาถาอาราธนา
    ปาทัง ราชะมุนีสามีรามัง อาราธะนัง สาระณัง อาคัจฉามิ ( 3 ครั้ง )
    คาถาบูชา
    นะโมโพธิสัตโต ราชะมุณีสามีราโม มหาปุญโญ อานุภาเวนะ เมรักขันตุ (3 ครั้ง) ​

    <!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1>
     
  6. kea.99999

    kea.99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,297
    DSCF0013-25.jpg DSCF0016-22.jpg
    DSCF0014-24.jpg DSCF0015-22.jpg DSCF0017-21.jpg
    สทฺธีธ วิตฺตํ ปุริสสฺส เสฏฺฐํ
    สรัทธาเป็นทรัพย์ประเสริฐของคนในโลกนี้.
    ศรัทธานับว่า เป็นคุณสมบัติ เป็นหลักใจที่จะให้บุคคลประกอบการงาน โดยไม่ท้อถอยทั้ง
    ทางโลกและทางธรรม เมื่อมีศรัทธาเป็นหลักของใจดีแล้ว ก็สามารถที่จะยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ เช่น พระสารีบุตรก่อนที่ท่านจะได้อริยทรัพย์ ท่านก็มีศรัทธาในท่านพระอัสสชิอยู่แล้ว พอได้ฟังธรรมจากท่าน ก็ทำให้สามารถบรรลุได้ดวงตาเห็นธรรม ดังนั้น ศรัทธาจึงเป็นทรัพย์ที่ประเสริฐยิ่งในโลกนี้.

    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  7. kea.99999

    kea.99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,297
    DSCF0018-20.jpg DSCF0021-19.jpg
    DSCF0019-19.jpg DSCF0020-19.jpg DSCF0022-19.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2009
  8. กุเวร

    กุเวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +349
    นมัสการพระอาจารย์
    ผมขอร่วมบุญ 3 องค์ ครับ

    พระผงกรรมฐานหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี ๒๕๒๗
    องค์ที่ ๑ กับ องค์ที่ ๘
    พระสูตรจั้มโบ้ หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว




     
  9. kea.99999

    kea.99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,297
    DSCF4622.jpg DSCF4623.jpg DSCF4624.jpg DSCF4625.jpg
     
  10. naida

    naida สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +14
    นมัสการพระอาจารย์
    ผมขอร่วมบุญ 1องค์ ครับ

    พระผงกรรมฐานหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี ๒๕๒๗
    องค์ที่ 9
     
  11. กุเวร

    กุเวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +349
    กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ

    วันนี้ เวลา 15.28 น. ได้โอนเงินจำนวน 4,399 บาท
    ตามรายการข้างล่างนี้แล้วครับ รบกวนพระอาจารย์ช่วย
    ตรวจสอบการโอนด้วยครับ

    กรุณาจัดส่งตามที่อยู่ใน P.M. ครับ

    พระผงกรรมฐานหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี ๒๕๒๗
    องค์ที่ ๑ กับ องค์ที่ ๘

    พระสูตรจั้มโบ้ หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว

    กราบอนุโมทนาบุญครับ
     
  12. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,983
    ค่าพลัง:
    +5,390
    โครงการพระชาวบ้าน
    เหรียญ หลวงเพิ่ม วัดแค(ราชานุวาส)ปี๒๔๙๘
    แบ่งให้บูชา ๒,๐๐๐ บาท
    รับประกันแท้ทุกองค์

    หรือมาบูชาโดยตรงได้ที่วัดแค(ราชานุวาส)
    โทร.085-4229538

    [​IMG][​IMG] ขอจองบูชาครับ​
     
  13. phissanu

    phissanu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +43
    จองเหรียญหลวงปู่ทวดสามกษัตริย์ จำนวน 1 ชุด โอนเงินเรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
     
  14. naida

    naida สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +14
    นมัสการพระอาจารย์ วันนี้17/03/09 เวลา 1526 ได้โอนเงินทำบุญ 450 บาทเข้าบ/ช พระบุญสม กาญรนโม เรียบร้อยแล้วครับที่อยู่ pm ไปให้แล้ว
    อนุโมทนาบุญครับ
     
  15. กุเวร

    กุเวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +349
    กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ

    วันนี้ได้รับพระเรียบร้อยแล้วครับ กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่
    เมตตามอบหลวงปู่ทวดมาให้ด้วยครับ พระสวยมากครับ

    กราบอนุโมทนาบุญครับ
     
  16. kea.99999

    kea.99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,297
    พระของชาวบ้าน วัดแค(ราชานุวาส) เกาะลอย(โชว์)

    เหรียญหลวงปู๋ทวดรุ่นเปิดโลก เนื้อทองคำ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา
    IMG_4377.jpg IMG_4378.jpg
     
  17. tong-dee

    tong-dee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +5
    เหรียญหลวงปู่ทวด พิมพ์น้ำเต้า วัดแค(ราชานุวาส) อยุธยา

    สร้างเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2508-2510 พร้อมกับเหรียญแบบเสมา ร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดวรโพธิ์ อยุธยา โดยมีหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ อยุธยา เป็นประธานในพิธีและเกจิอาจารย์ในสมัยนั้นอีกหลายองค์ ผู้ที่อยู่ร่วมในพิธีที่บอกเล่ากับข้าพเจ้า คือ คุณธงไชย ทองประสาน(ช่างติก เลี่ยมพระ) ได้เป็นคนแบกลังใส่พระจากวัดแค(ราชานุวาส)ไปร่วมพิธี และจากการบอกเล่าจากลูกศิษย์รุ่นเก่าของทางวัดแคว่า ได้มีลูกศิษย์ของวัดแค(ราชานุวาส)เป็นปลัดอำเภอได้นำไปให้หลวงปู่ทิม วัดช้างปลุกเสกอีกด้วย
    (โปรดใช้วิจารณญาณ) เมื่อก่อนเป็นพระที่ไม่มีราคาค่างวดปัจจุบัน สวยๆว่ากันที่หลักหลายพันบาท สำหรับหลวงปู่ทวดพิมพ์นี้เป็นต้นแบบของการสร้าง หลวงปู่ทวดของวัดแค(ราชานุวาส)ในปี พ.ศ.2551 ด้วยครับ ทางวัดกำลังจัดสร้างหลวงปู่ทวดแบบธุดงค์ ที่สูงที่สุดในโลกอยู่ครับ นำมาแบ่งกันชมแบ่งกันศึกษาติชมวิจารณ์ได้เต็มที่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4220.jpg
      IMG_4220.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.6 KB
      เปิดดู:
      3,733
    • IMG_4221.jpg
      IMG_4221.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.4 KB
      เปิดดู:
      1,154
  18. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,941
    อนุโมทนานะครับพรุ่งนี้ไปร่วมงานหล่อพระกันนะครับ
     
  19. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,983
    ค่าพลัง:
    +5,390
    <CENTER>โอนเงิน

    </CENTER>

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ได้โอนเงิน ๒๐๕๐ บาทเมื่อ๒๐มีค เป็นค่าพระ เหรียญหลวงปู่เพิ่มปี ๒๔๙๘ ที่อยู่ ดูในpmครับ
     
  20. วาสนาน้อย

    วาสนาน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +93
    ไปบอกบุญในเวบกูสยามมา ตามลิ้งค์ ทางทีมงานเวบเค้าเลยจัดทำให้
    ไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจมากแค่ไหนนะคะ
    http://new.goosiam.com/virtue/listnews4group.asp?groupid=1
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...