แชร์ประสบการณ์ และคำสอน พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล (พระอาจารย์จิ๊) วัดธรรมิกาวาส ชัยนาท

#เรื่องเล่าเคล้าความขลัง

วันนี้ผมขออนุญาตมาเล่าประสบการณ์อัศจรรย์ขององค์หลวงพ่อจิ๊ มาให้พี่น้องศิษยานุศิษย์ทุกท่านได้อ่านกันครับ

หลังจากผมได้มีโอกาสได้ไปกราบท่านหลายรอบ เนื่องด้วยรู้จักท่านจากพี่ที่รู้จักในสายขลังท่านหนึ่ง ได้แนะนำว่าหลวงพ่อจิ๊คือพระดีแท้ พระอภิญญาที่มีวิชาอาคมเข้มขลังเหมือนพระเกจิอาจารย์ในตำนานยุคโบราณ ที่สมควรรีบไปกราบร่วมบุญกับท่าน และท่านยังเป็นศิษย์สายวัดท่าซุง สายปฏิบัติที่ผมศรัทธาอยู่ด้วย ผมก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันทีครับ

แต่ผมก็ปล่อยเวลามาสักระยะหนึ่ง ด้วยแรกจิตผมยังชั่วอยู่มากนัก เห็นรูปท่านจากในเฟสบุ๊ค ดูแล้วท่านยังเป็นพระอายุไม่มาก จึงยังมีจิตชั่วแอบคิดไม่ศรัทธาท่านอยู่บ้าง ด้วยในอดีตผมเคยหลงศรัทธาพระที่มีลีลาเหมือนจะน่าศรัทธาจนหมดใจ แต่ภายหลังกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมจึงคอยดูรอโอกาสเหมาะอยู่สักพักหนึ่ง

จนกระทั้งมีเวลาว่าง ผมจึงมีโอกาสเดินทางจากผ่านทางชัยนาท จึงได้เข้าไปกราบท่าน แต่วันนั้นกว่าจะได้เดินทางไปถึงได้ มีอุปสรรคขัดขวางมากมายครับ ทั้งรถติดหนัก ทั้งเจอด่านตำรวจ เหมือนกับว่าชีวิตเรากำลังจะเจอสิ่งดีๆ จึงมีมารมาขัดขวางอย่างเต็มที่

พอไปถึงวัดผมรอท่านจนเย็นจนกว่าจะได้พบท่าน แรกเห็นท่าน ท่านยิ้มด้วยความเมตตา ทำให้ผมเกิดความศรัทธาขึ้นอย่างประหลาด ผมและครอบครัวที่มากันนวันนั้น ทุกคนต่างถามคำถามท่านไปหลายคำถาม บางคำถามเรายังไม่ได้ถามท่านก็พูดออกมาแล้ว ทำให้สิ่งที่เคยเป็นที่ขัดข้องสงสัยทั้งหลาย ท่านเมตตาคลี่คลายไปจนหมดสิ้นด้วยความเมตตา

ระหว่างนั้น พี่ชายของผมที่อยู่ต่างจังหวัดได้ฝากดูดวงด้วย ผมได้โทรคุยวิดีโอกับพี่ชายต่อหน้าท่าน ท่านเมตตาตรวจดูด้วยญาณ ทำให้ทราบว่าเวลานี้พี่ชายผมกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก จากการถูกกระทำคุณไสย์มนต์ดำ และช้คุณผีเข้ากระทำย่ำยีพี่ชายของผมและครอบครัวจนย่ำแย่ จากคนบ้านติดๆกันที่เขามีวิชา เนื่องด้วยสาเหตุจากเรื่องที่ดิน ท่านเมตตาบอกว่าให้พี่ชายผมเดินทางมาหาท่านที่วัด แล้วท่านจะทำพิธีการแก้ไขให้ ให้รีบมาก่อนจะสายเกินไป เพราะเขาหวังเอาถึงชีวิตคนทั้งบ้าน

ซึ่งก่อนหน้านี้พี่ชายของผมได้ล้มป่วยลงด้วยอาการปวดไหล่และคออย่างหนัก จนมือชา ปวดจนนอนไม่หลับจนต้องเข้าโรงพยาบาล กินยาก็เพียงแค่ทุเลาแต่ยังไม่ดีขึ้น

หลังจากนั้นไม่นาน ผมได้นัดแนะพาพี่ชายและครอบครัวเดินทางมากราบท่านอีกครั้ง พอเข้าไปท่านเหมือนรู้ว่าเราจะมา ท่านกำลังนั่งรออยู่แล้ว ท่านเมตตาทำพิธีแก้ของให้ โดยท่านเอาไม้เท้าเก่าที่ลงยันต์ของท่านนำมาแตะที่ศรีษะของพี่ชายผมและครอบครัวของพี่ชาย จนหมดทุกคน ท่านเอาไม้เท้ามาแตะแล้วหลับตาใช้สมาธิ ไม่นานท่านก็บอกว่า อ้าว ไม่มีอะไรแล้ว

และท่านยังให้แนะนำให้พี่ชายของผมย้ายออกมาจากบ้านหลังนี้โดยเร็ว เพราะได้ฝังอาถรรพ์ลงไปในที่ดินของพี่ชายผมก่อนพี่ชายผมจะปลูกบ้านทับลงไป จนบ้านนี้อยู่กันไม่ได้ มีแต่เรืองเดือดร้อน

หลังจากนั้นไม่นานเชื่อไหมครับท่านทั้งหลาย อาการปวดคอไหล่ของพี่ชายผมที่ปวดทรมานมานานหลายเดือนกลับหายไปเป็นปลิดทิ้ง จนพี่ชายผมตกตะลึง และทึ่งด้วยความศรัทธาในตัวหลวงพ่อ

อีกเรื่องหนึ่งครับคือที่บ้านของผมกำลังจะขายที่ดินแปลงหนึ่ง ซึ่งที่ดินแปลงนี้เจ้าที่แรงมาก เป็นดวงวิญญาณเฮี้ยนเฝ้าที่ไม่ยอมไปเกิด ทำให้ที่ดินแปลงนี้ขายไม่ได้สักที

พี่ชายของผมได้ไปพบซินแสท่านหนึ่ง ที่เขาก็คงสัมผัสได้ เขาแนะนำบอกว่าให้ไปเอาทรายจากวัดที่กำลังสร้างเจดีย์ มาให้พระเสก แล้วไปโรยที่ดิน จะขายได้ ทำให้นึกถึงวัดคังคาว ที่หลวงพ่อจิ๊ท่านกำลังสร้างพระเจดีย์อยู่ ผมจึงได้เดินทางไปหาหลวงพ่ออีกครั้ง เพื่อที่จะกราบเรียนขอทรายให้ท่านเสกให้ไปโรยที่ดิน

พอผมไปถึงวัด จอดรถเดินลงไปพบหลวงพ่อกำลังนั่งคุมงานสร้างเจดีย์อยู่หน้ากุฏิ ผมก้มไหว้ท่านยังไม่ทันได้พูดอะไรไป หลวงพ่อจิ๊ท่านกลับพูดส่วนมาว่า "เอ้า ไปตักทรายมา เดี๋ยวจะเสกให้" ทำให้ผมอ้าปากค้างและรีบไปตักทรายมาให้ท่านเสก ผมตักมาได้จำนวนหนึ่งใส่ถุงพลาสติก ยื่นให้หลวงพ่อ ท่านนำทรายไปถือไว้ที่อก แล้วหลับตาเข้าสมาธิเสกให้เพียงไม่กี่อึดใจ แล้วท่านก็ยื่นถุงทรายกลับมาให้ผม

เชื่อไหมครับท่านทั้งหลาย ทรายถุงนั้นที่ผมตักเองกับมือ มันกลับกลายเป็นทรายที่ร้อนจี๋ เหมือนถูกต้มหรือเผามาด้วยความร้อน ผมจับถุงทรายแล้วถึงกับสะดุ้ง อุทานกับท่านว่าทรายร้อยจี๋เลยครับหลวงพ่อ ท่านยิ้มๆ แล้วก็แนะนำบอกคาถาและวิธีการใช้ และท่านยังบอกว่ามาคราวหน้าให้ซื้อทรายมาเข้าวัดด้วย เพื่อเป็นการทดแทนของสงฆ์ จะได้ไม่ติดหนี้สงฆ์

เรื่องสุดท้ายที่ผมจะเล่าคือเรื่องของการลงนะหน้าทองครับ ด้วยตัวผมเองนี้ชอบลงนะหน้าทองเพื่อเสริมราศี โดยก่อนหน้านี้นั้นผมได้ไปทำพิธีลงนะหน้าทองที่หลวงพ่อท่านหนึ่งที่สมุทรสงคราม ท่านทำพิธีเอาทองคำเปลวแท้ๆมาปิดหน้าผากและลงยันต์เฉยๆ ไม่ได้เป่าทอง ซึ่งผมศรัทธาหลวงพ่อองค์นี้เป็นการส่วนตัว ไปลงกับท่านทุกปีครับ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะท่านแค่ปิดทองเปลวบนหน้าผากเราเฉยๆ แล้วก็เขียนยันต์ถูๆไถๆ ตรงหน้าผากเรา ก็ไม่ได้คิดว่าจะพิเศษอะไร ผมทำไปเพราะทำแล้วรู้สึกชีวิตดีครับ

แล้วพอครั้งนี้ผมได้ไปกราบหลวงพ่อจิ๊ พอได้คุยกับท่านเสร็จก่อนจะกลับ ผมได้กราบเรียนของท่านให้ท่านลงนะหน้าทองให้ ซึ่งผมแอบเตรียมทองคำเปลวมาซะหลายแผ่น กะจะให้ท่านลงให้เต็มที่ พอผมเอ่ยปากกราบเรียนให้ท่านลงทอง หลวงพ่อจิ๊ท่านมองหน้าผมสักพัก แล้วก็มองขึ้นหน้าผากผม แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า "โอย ไม่ต้องลงแล้วแบบนี้ ทองเต็มกระโหลกแล้ว ที่เคยไปลงน่ะ เขาลงไว้ดีแล้ว" เล่นเอาผมอึ้งไปเลยครับ เพราะผมไม่เคยบอกท่านมาก่อนเลยว่าเคยไปลงทองที่ไหนมา แล้วผมถามท่านว่า ทองเข้ากระโหลกผมไหมครับ ท่านบอกว่า " เออ เต็มไปหมดเลย ดีแล้ว ไม่ต้องลงแล้ว" ทำให้รู้ว่าสายตาท่านและญาณทัศนะอันแก่กล้า ท่านสามารถมองทะลุเข้าไปในกระโหลกของเราได้เลยครับ

ยุคนี้สมัยนี้จะหาพระที่เก่งด้วยวิชาอาคม และอภิญญาจิตสูงส่ง ดั่งพระเกจินตำนานโบราณ อย่างหลวงพ่อจิ๊ ในยุคสมัยนี้คงยากเย็นเต็มที่แล้วครับ ท่านเป็นพระที่มากไปด้วยวิชาอาคมมากมาย พลังจิตแก่กล้าด้วยท่านสำเร็จอภิญญาจิต วิชาอาคมของท่านสายเดียวกับหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค สายปฏิบัติของท่านสายเดียวกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำแห่งวัดท่าซุง ครูบาอาจารย์ของท่านมากมาย ทั้งครูในโลกและครูเหนือโลก ใครได้มาพบหลวงพ่อจิ๊ ผมถือว่าท่านมีบุญวาสนามากๆครับ

ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าอาจจะยังมีจิตชั่ว ด้วยกิเลสมานะ ยังไม่ศรัทธาท่าน แต่ตอนนี้ผมกลับต้องเอาหัวของผมก้มลงกราบที่เท้าท่านด้วยความเคารพศรัทธาอย่างหมดใจ หลวงพ่อจิ๊ท่านเป็นพระแท้ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นพระสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ ผู้เปี่ยมเมตตากับศิษย์ทุกคน เป็นพระที่ก้มกราบได้สนิทใจครับ

 

สาธุ

 

..มนต์พระกาฬ...

ใครที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อกวย แล้วไม่มีวัตถุมงคลของท่าน ให้เอาของฉันไปใช้ได้เหมือนกัน ใช้แทนกันได้หมด วันงานท่านก็มาลงมนต์พระกาฬให้ สายอยุธยาอีก มาเยอะมากันเป็นร้อยๆ องค์ มานั่งแป๊ปๆ ไป แป๊ปๆ ไป

วัตถุมงคลที่ได้ไป ให้เอาออกมาใช้นะ อย่าเอาไปเก็บ แล้วจะรู้ว่ามันดียังไง

 

#ประสบการณ์ทิพย์จักษุญาณ
วันที่ 24 ได้ ไปกราบ พระอาจารย์ ที่วัด
ส่วนตัวได้พา อาจารย์ของตัวเองที่สอนทำมีดหมอไปกราบด้วย
พระอาจารย์ ได้พูด กับอาจารย์ผมขึ้นมาว่า ..

พอจ.จิ๊ : ครูเค้าแรงนะ แรงครูเค้าเยอะ เค้าทำมีด ลพ.เดิม แรงครูเค้าแรง
ชีวิตเค้าโดนแรงครูดึงไว้ เพราะเค้าไม่เคยไหว้ครูเลย
อาจารย์ผม : ใช่ครับ ตั้งแต่สอนทำมีดหมอมาหลายปี มันไม่เคยไหว้ครูเลย ติดเรื่องนั้นเรื่องนี้ก่อน
เลยไม่ได้ไหว้ครูทัน สักปี
พอจ.จิ๊ : อืม ครูเค้าเยอะ วาดๆเขียนๆ อะไร ด้วยนิ่ เมื่อก่อน
(เมื่อหลายปีก่อนช่วง อายุ16-18 ผมทำงานด้านศิลปะ พวกว่า ฉากโขน ทำหัวโขนมาก่อน และวาดภาพทั่วไป )

พอจ.จิ๊ บอกว่าให้ ไปไหว้ครู ครอบครูนะ ตอนนี้ชีวิตที่ติดๆอยู่ เพราะแรงครูตรงนี้เหละ สิ้นเดือนจะมีอะไรดีๆเข้ามาเอง และปีหน้าชีวิต จะดีขึ้น

 

วัตรของหลวงพ่อทุกวันคือ กลางวันอยู่วัด แต่จำวัดที่ป่าช้าทุกคืน ท่านทิได้นอนกุฏิหรูอยู่สบาย แต่นอนกางกรดอยู่ป่าช้าทุกคืน

ฟีมบอกบุญแล้วหากพี่ท่านใดมีบุญสัมพันธ์กับท่านก็ขอให้ได้มาร่วมบุญกับหลวงพ่อนะครับ ล่วงรู้เหมือนหลวงพ่อจิ๊ มิมีผิดเพี้ยน

ร่วมบุญกับหลวงพ่อที่กลุ่ม หลวงพ่อเจี๊ยบ วัดประชาโฆษิตาราม จ.สมุทรสงคราม

 

ปรารภจากหลวงพ่อ

หลวงพ่อ : รุ่นนี้ให้เก็บไว้นะ รุ่นนี้คือที่สุดแล้ว ปีหน้าหลังเมษาไปท่านจะลงมาช่วยมนุษย์เป็นพิเศษ บูชาท่านจะไม่ตกไปถึงอบายนะ

พระกษิติครรภ์ มหาโพธิสัตว์ คือองค์ที่ลงมาโปรดเวไนยสัตว์ด้วยการขอร้องให้หลวงพ่อจิ๊สร้างพระมหาเจดีย์แห่งนี้ขึ้นมา

หลวงพ่อท่านเคยบอกว่า “ถ้าฉันไม่ต้องออกมาสร้างเจดีย์พวกแกก็ไม่ได้เจอฉันหรอก ทำให้แล้วก็พากันมาปิดอบายซะนะ ทำให้ครบ 5 ครั้งจะปิดอบายได้”

เพราะฉะนั้นพี่ๆ @ทุกคน มีโอกาสแล้วอย่าให้เสียโอกาสนี้ไปนะครับ

 

พระกษิติครรภ์ มหาโพธิสัตว์ เช่าบูชาที่ไหนครับ

 

เรื่องเล่าส่งท้ายปีเก่า #ความเชื่อส่วนบุคคล
สวัสดีค่ะ เราเป็นศิษย์ปลายแถวของพระอาจารย์จิ๊ เข้าไปพบท่าน เพียงร่วมทำบุญ กราบท่าน และรับพรมน้ำพระพุทธมนต์ ไม่เคยสนทนาส่วนตัวกับท่านแต่ประการใดนะคะ
เรามีโรคประจำตัวที่ค่อนข้างรุนแรงที่จะทำให้เสียชีวิตหรือพิการได้หากโรคกำเริบ กลางดึกคืนหนึ่งมีอาการโรคกำเริบจนเราตื่น จึงก็ลุกขึ้นมารับประทานยาและเตรียมไปโรงพยาบาล ขณะเดียวกันก็กำหนดภาวนาเพื่อลดทุกขเวทนา นิมิตเห็นพระอาจารย์จิ๊ ไม่เกิน 5วินาทีค่ะ จากนั้นอาการก็ทุเลาลง ไม่ต้องไปโรงพยาบาลเลยค่ะ ก็คิดเหมาเอาเองว่าท่านเมตตาสงเคราะห์เรา ศิษย์ปลายแถวนะคะ
#ศรัทธาคือพลัง

 

วันนี้ได้มีโอกาส ถวายสังฆทานพร้อมปัจจัยสร้างเจดีย์กับอาจารย์จิ๊ สอบถามพูดคุยเรื่องสุขภาพและเรื่องทั่วๆ ไป ท่านบอกกับเราว่า การสร้างเจดีย์ครั้งนี้จะปิดอบายภูมิ และ ท่านยังบอกอีกว่า หลวงพ่อพัฒน์ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ กำลังสร้างบารมี ดั่งคำทำนายของหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ท่านยังพูดอีกว่าถ้าใกล้ๆนิมนต์เราไปเษก เราก็ไป ถ้าไกลๆ ไปไม่ไหว กราบหลวงพ่อจิ๊ ศิษย์หลวงพ่อเฒ่า วัดคังคาว อีกหนึ่งองค์ที่ ทุกๆคนรู้ดีเรื่องอภิญญาพระดีกราบได้สนิทใจ

 

#เรื่องนี้อยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคคล
เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า น้องในกลุ่มได้เช่าวัตถุมงคล(รูปภาพ)ของหลวงพ่อไป แล้วเอาไปไว้บนหิ้ง วันหนึ่งอยู่ดีๆก็หายไปแบบไร้ร่องรอย น้องจึงเอารูปภาพที่เหลือมาวางไว้ที่เดิมอีก ปรากฏว่าหายไปอีก น้องจึงได้ทำการพลิกบ้านหา สรุปไม่เจอ!!!
น้องจึงได้ทักมาหาผม ผมเลยแนะนำน้องไป น้องได้ทำตามและหาอีกรอบ สรปุเจอ!!!

“เก็บไว้บ้าง วันข้างหน้าแลกบ้านได้เป็นหลัง”
#ขอบารมีหลวงพ่อคุ้มครองทุกๆท่าน

 

ขอเล่าประสบการณ์เล็กๆน้อย จากเหรียญรุ่นนี้ครับ หลังจากคิดมานานว่าจะลงดีหรือไม่

ก่อนที่จะเหรียญนี้มา 1 วันขณะที่เปิดร้านทำงานอยู่ ได้ปรากฏภาพเห็นเป็นลักษณะเงาจางๆเป็นรูปร่างของพระอาจารย์ได้มายืนที่หน้าร้าน ความรับรู้รู้สึกได้ว่ามีพระองค์นึงมายืนอยู่หน้าร้าน
ซึ่งผมยังไม่เคยได้ไปกราบท่าน แต่ท่านก็มาโปรดถึงที่
จึงทำให้เป็นการรับรองด้วยความรู้สึกในใจว่า ท่านของจริง

ส่วนท่านใดได้อ่านขออย่าปรามาสท่าน เดี๊ยวจะกลายเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยไป

การเกิดขึ้นพบเจอ บางอย่างต้องสัมผัสด้วยตนเอง
ส่วนที่เล่านี้เป็นความจริงทุกประการครับ
ขอน้อมกราบท่านพระอาจารย์ สาธุๆๆครับ

 

" เอ้านึกว่ารีบ " ‼️‼️

วันที่19 ได้มีโอกาสเข้าไปกราบ พอจ.จิ๊ที่วัด กับแฟน และนำ พระกรุ สมเด็จหน้าหนูหลังยันต์นะ ปี2509
ของหลวงพ่อกวย ที่ทาง ลพ.กวยได้นำไปบรรจุกรุไว้ที่วัดหนองปลิง จ.นครสวรรค์ ไปถวาย เผื่อ พอจ. จะไว้ใช้ประกอบมวลสารในอนาคต

เดินทางไปถึง พอจ.จิ๊ก็ทักขึ้นมาทันทีว่า

พอจ : จะเปิดแล้ว หรอ
ผม : ครับพระอาจารย์ จะเปิดแล้ว
(แฟนผมตกใจ เพราะเรื่องเปิดร้านไม่เคยพูดบอกกับ พอจ เลย แต่ส่วนตัวผมรู้ดีเพราะ ตอนที่คิดจะเปิดร้าน ได้นึกถึง พอจ อยากไปขอคำปรึกษากับท่าน แต่ช่วงนั้นไม่สะดวกเดินทางไปวัด
พอตก กลางคืนได้นอนหลับแล้ว ฝันเห็น พอจ ในความฝัน ว่าพอจ.จิ๊ ได้มาหา แล้วท่านพูดกับผม ในความฝันว่า จะเปิดร้านหรอ ดีๆเปิดเลย เจ้าที่เค้าดีนะ มีไรขอเค้าเลย )
ผม : ให้เปิดวันไหนดีครับ พอจ
พอจ : วันศุกร์เลยสิ
ผมกับแฟน : วันศุกร์ที่20นี้ หรอครับ ไม่ไวไปหรอครับ พอจ
พอจ: เอ้านึกว่ารีบ เห็นว่างงานมานาน นึกว่าจะรีบ แล้วท่านก็หัวเราะและยิ้มให้ รีบเปิดนะจะได้มีรายได้เข้าเยอะๆ
(ทางผม งานประจำเริ่มเบา มาตั้งแต่ช่วง พย.65 แล้ว )

แล้ว พอจ.จิ๊ เมตตา เจิม ถังใส่เงินกับผ้ายันต์ ให้ และได้กราบลา พอจ กลับ

 

ไม้เท้าพระกษิติครรภโพธิสัตว์ช่วยชีวิต

ในสมัยราชวงศ์ถัง ชายคนหนึ่งซึ่งมีนามสกุลว่าหลิว พบไม้เท้าระหว่างทางไปบ้านของเพื่อนบ้าน ด้านบนของไม้แกะสลักเป็นรูปบุคคลหนึ่ง แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นรูปของใคร เขาเอามันกลับบ้าน แขวนไว้ที่ผนังบ้าน และแทบไม่นึกถึงมันเลยเป็นเวลาหลายปี ต่อมาเขาเสียชีวิตด้วยอาการป่วย แต่หน้าอกของเขายังอุ่นอยู่ ดังนั้นครอบครัวของเขาจึงไม่ฝังศพเขาทันที หลังจากผ่านไปหนึ่งวันสองคืน เขาก็ฟื้นขึ้นมาและเริ่มร้องไห้ เมื่อครอบครัวถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเล่าว่าเขาพบประสบการณ์อะไรขณะอยู่ปรโลก

เขาเล่าว่า หลังจากตายแล้วเขาถูกนำตัวไปหาพญายมผู้ดุร้ายและพร้อมที่จะลงโทษ จากนั้นมีพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งดูเรียบๆ กระทั่งไม่น่าจะอยู่ในสายตาใครได้ แต่เมื่อครั้นเห็นภิกษุนั้นแล้ว พญายมราชก็เสด็จลงจากบัลลังก์หมอบกราบแล้วตรัสถามว่า “พระอาจารย์ อะไรนำท่านมาที่นี่”

พระภิกษุตอบว่า “คนที่ท่านรั้งตัวอยู่นี่คือผู้มีพระคุณของอาตมา อาตมาจึงมาช่วยเขา”

พญายมเจ้าแห่งความตายตรัสกับพระภิกษุว่า “ความตายของบุคคลนี้ถูกกำหนดโดยกรรมของเขาและเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ แล้วพระเป็นเจ้าจะช่วยเขาได้อย่างไร”

พระภิกษุกล่าวว่า “เมื่ออาตมาอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระศากยมุนีพุทธเจ้าได้มอบสรรพสัตว์ทั้งหมดรวมทั้งผู้มีกรรมอันไม่อาจผันแปรได้ให้แก่อาตมา (คอยดูแล) แล้ว อาตมาจะละทิ้งคนแซ่หลิวและปล่อยให้เขาอยุ่เดียวดายได้อย่างไร”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ พญายมก็ตรัสว่า “พระเป็นเจ้า ความมุ่งมั่นของพระเป็นเจ้าไม่สั่นคลอนเหมือนภูเขาวัชระ กระผมจะปล่อยเขาก็แล้วกัน”

จากนั้นพระภิกษุก็แสดงท่าทียินดีและจูงมือหลิว พาเขาไป เมื่อพระภิกษุส่งหลิวกลับไปยังโลกที่แล้วและพร้อมที่จะจากไป หลิวถามว่า “ท่านผู้สูงศักดิ์ ท่านเป็นใครหกัน?”

“อาตมาคือกษิติครรภ โยมนำไม้เท้าที่มีรูปแกะสลักของอาตมากลับบ้านและติดไว้ที่ผนังบ้านของโยม อาตมาจำได้ถึงความเมตตาที่โยมมีต่ออาตมา” พระรูปนั้นตอบแล้วก็หายตัวไปทันที

เมื่อตระหนักว่าเขาได้รับการช่วยชีวิตโดยพระกษิติครรภโพธิสัตว์ และรู้ตัวว่าเขาไม่เคยปฏิบัติต่อรูปของกษิติครรภโพธิสัตว์บนไม้เท้าด้วยความเคารพเลย หลิวรู้สึกสำนึกผิดอย่างสุดซึ้ง ดังนั้นเขาจึงขอให้ประติมากรบูรณะรูปพระกษิติครรภที่อยู่บนยอดไม้และลงสีให้สง่างามและนำไปไว้ในบ้านของเขาซึ่งเขาได้สร้างไว้เป็นที่บูชาสำหรับพระกษิติครรภโดยเฉพาะ

ตามกฎแล้ว กรรมที่ไม่อาจผันแปรได้นั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และเราต้องยอมรับผลของมัน แต่เนื่องจากความสัมพันธ์พิเศษกับพระกษิติครรภ สรรพสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคเสื่อม สามารถหลุดพ้นจากกรรมที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และไม่ต้องแบกรับความทุกข์ที่ตามมา ใน "กษิติครรภมูลปณิธานสูตร" พระพุทธเจ้าศากยมุนีได้ฝากสรรพชีวิตทั้งหลายในชมพูทวีปไว้กับพระกษิติครรภโพธิสัตว์ถึง 3 ครั้งโดยทรงขอให้พระกษิติครรภช่วยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ที่มีกรรมชั่วให้รอดพ้นจากการตกลงสู่อบายภูมิอันตกต่ำ ด้วยเหตุนี้ จึงดูเหมือนว่าพระพุทธเจ้าได้ทรงประทานพลังพิเศษและพระแก่พรกษิติครรภที่ทำให้ท่านสามารถช่วยหลีกเลี่ยงกรรมที่ไม่ไม่อาจผันแปรได้ มนต์ชื่อ "กษิติครรภมนต์เพื่อลบกรรมถาวร" ยังมีพลังมากในการหลีกเลี่ยงกรรมที่ไม่ไม่อาจผันแปรได้

**แปลจาก คำอธิบายกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร (Original Vows of Ksitigarbha Bodhisattva Sutra) ของท่านลามะเคนโป โซดาร์กเย

หมายเหตุ - กษิติครรภมนต์เพื่อลบกรรมถาวร หรือในภาษาจีนว่า 滅定業真言 คือ "โอม ประมรรทะเน สวาหา" (oṃ pramardane svāhā)

 

เรื่องราวอัศจรรย์ใจ

ฟีมมีความคิดว่าจะนิมนต์หลวงตาคูณ ซึ่งเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์แรกๆเลยที่ฟีมเริ่มเข้ามาทำบุญด้วย ฟีมจึงกราบฝากสามเณรบอล Phanthawat Khamkasem กราบเรียนหลวงตาคูณว่า ฟีมจะนิมนต์ท่านมาร่วมพิธีพุทธาภิเษก ที่ชัยนาทด้วย ก่อนที่ฟีมจะไปนิมนต์ด้วยตัวเองวันเสาร์นี้

หลวงตาท่านกล่าวถึงพระอาจารย์จิ๊ โดยที่ท่านไม่เคยรู้จักกันแม้แต่น้อยว่า…..

“พระหนุ่มพระน้อย บารมีหลายเนาะ ทำอะไรก็แป๊บๆเสร็จ กลัวแต่ท่าน จะเป็นโรคเป็นภัย สุขภาพไม่ค่อยดี เลือดไม่ดี”

สามเณรถามว่าหลวงตาพูดถึงใครนิ
หลวงตาบอกว่า ก็พระที่ว่านิมนต์ไปเสกเหรียญนี้แหละ ท่านดี

คิดถึงหลวงตา ไม่ได้ไปหาหลายเดือนแล้ว เสาร์นี้คงได้ไปกราบ ❤️

หลวงตาคูณ โชติโก วัดวังวารีวน ต.ตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

 

ท่านขี่เมฆสีทองไปดูมั้ง ?

ฟีมมีเรื่องราวการทรงอภิญญาของหลวงพ่อให้พี่ๆ @ทุกคน อ่านพอสนุกสนานครับ

วันนี้ 12 มกราคม 2566 มีโอกาสพาเฮียหลง หลง นฤพนธ์ รวยรวยล้านล้าน มากราบหลวงพ่อคุยเรื่องการจัดพิธีพุทธาภิเษกเหรียญ 50 ปี

ก่อนถึงวัดก็มีลูกศิษย์เอก เสี่ยนะ ดอกซิ่ง โทรมาหาอยากจะคุยกับหลวงพ่อสักหน่อย ก็เลยบอก..รอแปปนึงจะถึงวัดแล้ว พอถึงวัดกราบหลวงพ่อเสร็จก็ยื่นมือถือให้หลวงพ่อ…

ฟีม : เสี่ยนะ จะคุยด้วยครับ

หลวงพ่อ : ว่าไงละ นะ?

เสี่ยนะ : ผมอยากจะถามว่า ผมจะซื้อกิจการนึงที่สุรินทร์พอจะซื้อได้ไหมครับ ร้าน…. พอจะไปได้ไหม

หลวงพ่อ : ชื่อร้านอะไรล้ะ?

เสี่ยนะ : ร้าน …. ครับ เป็นผับ

หลวงพ่อ : ซื้อได้ ๆ ตรงสี่แยกใช่ไหม ?

เสี่ยนะ : ใช่ครับ

หลวงพ่อ : ทำเลดี ทำได้หมดเลยตรงนั้น ติดมหาลัยด้วย อีกหน่อยที่แถวนี้จะแพง ทำได้ๆ ก็บริหารให้มันดี จัดการเอา เจ้าของเก่ามันทำไม่ค่อยดี มันเลยเจ๊ง (เรื่องตรงนี้เล่าไม่ได้)

ช่วงค่ำๆ เสี่ยนะโทรกลับมาคุย

เสี่ยนะ : ฮัลโหล พี่ฟีมทำไรครับ

ฟีม : กำลังกลับครับ

เสี่ยนะ : อาจารย์เขารู้ได้ยังไงหื้อ ? แกนั่งทำไรอยู่ตอนผมถาม

ฟีม : นั่งดมยาดม

เสี่ยนะ : แกรู้ได้ยังไง ผมตกใจเลย รู้แม้กระทั่งทางเข้า นั่งอยู่ชัยนาทแท้ๆ เรื่องภายในเจ้าของร้านเก่าท่านก็รู้ เขามาเล่าให้แฟนผมฟังอยู่

ฟีม : นั่งเมฆสีทองไปดูมามั้ง เคยดูไหมดราก้อนบอล 5555

เสี่ยนะ : ว่าไป … ฮ่าๆ แกนี่สุดยอดจริงนะ ยอมกราบงามๆ 3 ครั้งเลย

 

รถยับแต่คนไม่ยับ

เดิมทีฟีมตั้งใจจะเล่าเรื่องนี้อยู่นานแล้วล้ะครับ แต่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับพี่เขาถึงรายละเอียดเลย จนวันนี้ได้ไปหาพี่ชายท่านนี้ที่บ้าน จึงมีโอกาสได้ฟังเรื่องราวจากปากของเจ้าของเรื่องเอง

ประสบการณ์ตรงจากพี่ชายที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เกิดอุบุเหตุรถชนอย่างรุนแรงบริเวณพรานนก ขณะนั้นเป็นเวลาราว 5 ทุ่ม ทางพี่ชายขับรถลงสะพานมาด้วยความเร็ว ขณะนั้นไม่ทันสังเกตุว่ามีรถ 18 ล้ออยู่ด้านหน้า พอเห็นอีกทีก็กำลังจะพุ่งชนท้ายรถเข้าแล้ว

วินาทีนั้นก็คิดว่าถ้าเบรคไม่อยู่ก็ชนท้ายแน่ๆและคงไม่รอดจึงตัดสินใจหักซ้ายเพื่อพาตัวเองออกจากถนนพุ่งเข้าชนข้างถนนอย่างจัง

พี่ชายเล่าต่อไป หลังจากตัวเองพุ่งชนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว มีเพียงอาการมึนนิดหน่อย วันนั้นพี่แขวนพระอยู่องค์เดียว องค์เดียวจริงๆ เลข 1 เนี่ย (รูปหล่อ)

ฟีม : ดีแล้วพี่ ไม่งั้นแย่เลย

นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่พี่ชายท่านนี้ศรัทธาพระอาจารย์เป็นอย่างมาก จึงขอมาสร้างพระ (รุ่นกฐิน) ถวายเป็นพุทธบูชาโดยไม่ขอสิ่งใดตอบแทนแม้แต่อย่างเดียว

เหตุใดหลวงพ่อท่านมักจะย้ำนักย้ำหนาว่า..ของฉันเอาไปแล้ว อย่าเอาไปเก็บให้เอามาใช้ จะได้รู้ว่ามันดียังไง มีของดีแล้วต้องเอามาใช้

 

ผม : กราบนมัสการครับหลวงพ่อ ผมขอเมตตาจารแผ่นทองเหลืองครับ พอดีเพื่อนผมสร้างพระกริ่ง

หลวงพ่อ : กริ่งที่ไหนล่ะ

ผม : หลวงปู่เจ บุญมา กตปุญโญ ครับ

หลวงพ่อ : ท่านยืนปลุกเสกวัตถุมงคล เตโชกสิน

ผม : ใช่ครับหลวงพ่อ

#เรื่องราวสั้นๆแต่ได้ใจความ
#กริ่งมหาสมปรารถนาหลวงปู่เจ

 

ผม: ขอเมตตาหลวงพ่ออธิษฐานจิตพระสีวลีให้ลูกไว้บูชาครับ

หลวงพ่อ: อ่ะ เสร็จแล้วลูก

ผม: ลูกอยากขอเรียนถามปัญหา จากการภาวนาครับผม
คือว่าลูกปฏิบัติไปถึงจุดหนึ่ง มันกลับมืด ไม่สว่างไสวเหมือนแต่ก่อน ลูกชอบการเดินจงกรมมากๆครับ ได้ทีเป็นชั่วโมง

หลวงพ่อ : ลูกชื่ออะไรน่ะ

ผม :นาย…….

หลวงพ่อ: เป็นพุทธภูมินิลูก ภาวนาดีแล้ว การปฏิบัติก้าวหน้าดีมาก สมาบัติที่ได้สูงพอแล้ว แต่อย่าทิ้งกายานุปัสนาสติปัฏฐานน่ะลูก โดยเฉพาะการเอาสติระลึกรู้อานาปานสติ ลาพุทธภูมิ ดีไหมละลูก ที่ผ่านมาเขาบีบคั้น ทดสอบเราทุกด้านทุกทางเลยนิ

ผม: ถ้าหากลาพุทธภูมินี่ ลูกขอตายเสียในขณะปรารถนาดีกว่าครับครับ

หลวงพ่อ : มันก็ได้ แต่ภพชาติยังอีกยาวไกลเลยน่ะลูก ไอ้เรามันภาระอันหนึ่ง เราต้องตัดภาระกังวล เราดันไปรับภาระนั่นมา ต้องใช้อานาปานสติควบคู่นะ ไอ้เราปรารถนาพุทธภูมิทีนี่ ธรรมะมาทดสอบจิตใจเรามันเยอะ แต่ก็ต้องทำใจ ถ้าเราไม่ลา ก็ต้องทน “ทนทุกรกิริยา” แต่ก็ไม่มีอะไรหรอก เราก็ไปได้เยอะแล้ว

ผม : ลูกก็ควรทำข้อปฏิบัติเหมือนเดิม

หลวงพ่อ : แต่เราทำให้เป็นกิจวัตร แบ่งเวลาให้มันถูก
เดี่ยวคนที่บ้านเบื่อเอา ทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องปารถนาอยากเก่ง มันได้มรรคได้เอง เดี่ยวมาเองแหละ ทำให้เป็นนิสัยปัจจัย
ให้ระวังคนมาทดสอบอารมณ์ เรียกมารอารมณ์ให้ดี…

ผม : กระผมขอกราบหลวงพ่อเป็นครูบาอาจารย์ของลูกครับ หากลูกหลงเดินทางผิด จากเส้นทาง ขอหลวงพ่อเมตตาอบรมสั่งสอนด้วยครับ

#โปรดใช้วิจารณญาณ
#ประสบการณ์ทิพยจักขุญาณของครูบาอาจารย์
รู้จักอัธยาศรัย รู้จักกรรมฐานที่ถูกจริต
#หลวงพ่อเมตตาสั่งสอน 31 กค 65

 

พระกษิติครรภ์ท่านละเอียดมาก

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่าในการจัดงานพิธีครั้งนี้ท่านเป็นคนมาสั่งเองเลย “เนี่ยท่านมาสั่งให้จัดนะ ตรงนี้วางตรงนั้น ตรงนั้นว่างแบบนี้ ท่านละเอียดมาก เนี้ยบมาก พร้อมสายหัวเบาๆประมาณว่าเหนื่อยจัดงาน

อันที่จริงฟีมก็ค่อนข้างจะแปลกเหมือนกันว่างานครั้งนี้ดูเป็นระเบียบกว่าปกติที่เคยเป็น จึงคิดว่าก็น่าจะเป็นแบบที่หลวงพ่อจิ๊ท่านปรารภให้ฟัง

พระองค์ท่านเมตตาหาจะประมาณมิได้ เสด็จลงมาสงเคราะห์ให้เวไนยสัตว์แม้เล็กน้อย ทำบุญกับท่านไว้นะครับ เมื่อเราพ้นโลกนี้ไปแล้วก็จะไม่ตกไปยังอบาย ท่านมาบอกให้หลวงพ่อสร้างเจดีย์แห่งนี้ก็เพื่อสงเคราะห์ให้เราได้ปิดอบาย ฉันนั้นแล้วอย่าได้เสียโอกาสนี้ไปนะครับ

 

ผมมีประสบการณ์ทิพยจักขุญาณที่ผมประสบ เลยอยากจะมาเล่าให้พี่ๆฟังครับ

#ประสบการณ์ทิพย์จักษุญาณ

ผมพึ่งรู้จักหลวงพ่อจิ๊จากคุณนฤพนธ์ (พี่หลง) หลง นฤพนธ์ รวยรวยล้านล้าน และได้อ่านเรื่องที่คุณฟีม ศริตวรรธน์ ภาสิริวงศ์ เล่าเรื่องพระอาจารย์ในกลุ่ม ผมจึงถือโอกาสไปกราบพระอาจารย์จิ๊และได้ถวายพระเหนือพรหมของหลวงปู่ดู่จำนวนนึงที่ผมสะสมไว้ไปให้กับพระอาจารย์จิ๊เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญเพื่อสร้างพระมหาเจดีย์ จึงมีโอกาสสอบถามสิ่งที่สงสัยต่างๆกับพระอาจารย์ ทั้งในเรื่องการปฏิบัติธรรมเเละเรื่องการทำสมาธิให้ได้ญาณ 8 หรือ ฌาน 4 พระอาจารย์จิ๊ก็ให้ความเมตตาชี้เเนะแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งพระอาจารย์ยังเมตตาสอนธรรมะเรื่องสติปัฐฐาน 4 ให้ฟังว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรจะต้องปฏิบัติตลอดทุกอิริยาบถ อย่ามัวไปเสียเวลากับอย่างอื่นเลย เรื่องอภิญญามันจะได้ก็จะได้เอง มันเป็นเหมือนเครื่องปรุงเวลาเราทานก๋วยเตี๋ยวให้อร่อยยิ่งขึ้นเท่านั้น เเละเราก็จะรู้วิธิการจัดการมันเอง เเต่เรื่องการเจริญสติปัฐฐาน 4 เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ควรจะสนใจเป็นที่สุดและอย่างน้อยในชาตินี้ควรจะต้องให้ได้โสดาบันเพื่อไม่ให้เสียชาติเกิด และผมก็มีโอกาสได้สอบถามถึงมูลเหตุที่อาจารย์สร้างเจดีย์ อาจารย์จิ๊ก็เมตตาเล่าให้ฟังว่าท่านพระกษิติครรภ์ต้องการให้คนปิดอุบาย อาจารย์จิ๊ยังเมตตาเล่าว่าท่านไม่ต้องให้คนๆเดียวทำบุญจำนวนเงินเยอะๆ ท่านบอกให้หลายๆคนทำร่วมกัน ทีละเล็กๆทีละน้อย นั่นเเหละดีเเล้ว เเละอยู่ดีๆพระอาจารย์จิ๊ก็บอกว่า หลวงปู่เปลี่ยนท่านเก่งเเละดีมากท่านเป็นพระอรหันต์ ตอนผมฟังผมก็รู้สึกฉงนว่า ครูบาอาจารย์ก็มีตั้งเยอะ ทำไมพระอาจารย์ถึงพูดถึงหลวงปู่เปลี่ยน วัดอรัญญวิเวก ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผมก็ไม่ได้ถามพระอาจารย์ต่อ ซักพักผมก็ลากลับ ก็ไม่ได้นึกอะไร
จนวันนี้ผมก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อ 12ปีก่อนผมเคยบวชเเละเคยไปจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวก เท่านี้ผมเลยร้องอ๋อ เเละพอจะเข้าใจว่าทำไมพระอาจารย์จิ๊ถึงพูดถึงหลวงปู่เปลี่ยน

ป.ล. ผมแนบรูปที่ผมเคยบวชเเละไปจำพรรษาที่วัดหลวงปู่เปลี่ยน เมื่อ 12 ปีที่เเล้วด้วยครับ

ขอบพระคุณคุณ หลง นฤพนธ์ รวยรวยล้านล้าน เเละคุณฟีม ศริตวรรธน์ ภาสิริวงศ์ ที่ทำให้ผมรู้จักเเละได้มากราบพระอาจารย์จิ๊ พระสุปะฏิปันโนที่น่าเคารพจริงๆครับ